ตอนที่ 4
“เอ่อ ขอโทษครับ ถ้าเมื่อครู่ มันเป็นการรบกวนคุณ” เขายอมรับว่าแอบถ่ายภาพเธอ
“ใช่ค่ะ มันไม่ใช่แค่รบกวน แต่มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีใครเคยสอนมารยาทให้คุณบ้างหรือเปล่า ว่าสิ่งที่คุณทำ คือการก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคนอื่น” เธอว่า
“ขอโทษครับ” เขาหลุบตา ทำสีหน้าเหมือนเด็กๆเมื่อถูกครูตำหนิ ทว่าสิ่งที่เธอไม่เชื่อว่าเขาสำนึกอย่างแท้จริง ก็คือประกายตาที่แลเห็นอาการล้อเลียนวูบไหวอยู่เบื้องหลังดวงตาคมกริบของเขา แต่คำขอโทษที่เขากล่าวออกมา ก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดเริ่มคลายลง
“คุณถ่ายรูปฉันไปทำไม” มินตราลดน้ำเสียง ทว่าสีหน้ายังเครียดขรึม เอาจริง
“ก็...เอ่อ เห็นว่าคุณสวยดี” เขาตอบยิ้มๆ
มินตราส่ายหน้า นอกจากจะไม่รู้สึกปลาบปลื้มในคำชม กลับคิดว่าเขาแกล้งตีสำนวนยวนยีเสียมากกว่า ปกติมินตราไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครก่อน เลี่ยงได้เธอจะเลี่ยง หากครั้งนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำให้เธอทนไม่ได้ ถ้าจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านเลยโดยไม่ตำหนิเขา
“อย่ามาทำทะลึ่ง…แล้วก็ไม่ต้องมาชมฉัน” เธอว่า
“ชมก็ไม่ได้” เขาเถียงเบาๆ
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันว่าถ่ายรูปฉันไปทำไม”
“ตอบแล้วนี่ครับ…ก็บอกว่าคุณสวยดี”
“เก็บคำชมเอาไว้ใช้กับผู้หญิงคนอื่นเถอะค่ะ…อย่าหวังว่าฉันจะตัวลอยไปกับคำเยินยอของคุณ แล้วอย่ามาแกล้งชมเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัว”
“ที่ถ่ายรูปคุณ สาบานได้ว่าผมไม่มีเจตนาที่จะเอาไปใช้ในทางที่เสียหาย”
“แต่มันก็ไม่สมควรอยู่ดี” เธอกอดอก ไม่หลบสายตาเขา แปลกที่ชายหนุ่มตรงหน้าก็จงใจสู้สายตาเธอเช่นกัน
“ว่าแต่คุณไม่ใช่พวกโรคจิตใช่ไหม” หญิงสาวหรี่ตามองเขา
“โธ่คุณ…หน้าตาผมเหมือนคนโรคจิตตรงไหนเนี่ย” เขาเบะปาก ยักไหล่
“ไม่รู้แหละ…คนสมัยนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจ”
“แต่ผม…ใจกับหน้าตรงกันนะครับ” เขาทำน้ำเสียงทะเล้น
“กรุณาลบภาพฉันออกให้หมด...เดี๋ยวนี้”
“จะให้ลบจริงๆหรอ...” เขามองหน้าเธอ ทำน้ำเสียงต่อรอง แววตาบ่งบอกว่าเสียดายภาพเหล่านั้น
“เอามานี่” มินตรารีบคว้ากล้องมาจากมือเขา เมื่อเห็นท่าทางอิดออดของชายหนุ่ม
“เดี๋ยวสิคุณ…ใจเย็นๆ เดี๋ยวผมลบให้ก็ได้” เขาเสียงอ่อน
“ไม่ต้อง…ฉันจะลบเอง”
เธอเลื่อนดูภาพทีละรูปๆ
“ระวังจะเจอภาพลับเฉพาะของผมนะ…เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” เขาหลิ่วตา ทำสีหน้าทะเล้น
มินตราหยุดกึก เมื่อนึกถึงคำว่าภาพลับเฉพาะของเขา
“ฉันชักจะไม่เชื่อซะแล้ว ที่คุณปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโรคจิต” เธอหรี่ตามองเขา
“อ้าว…ทำไมคิดยังงั้นล่ะคุณ” เขาเบ้ปาก มีอารมณ์กระเซ้าปนอยู่ในน้ำเสียง
“คนปกติคงไม่ถ่ายรูปลับเฉพาะของตัวเองหรอกค่ะ” เธอว่า
“แหม…มันก็ต้องมีบ้างแหละ คุณเองก็เถอะ ถามจริงๆ…ไม่เคยเลยหรอ อย่างน้อยก็ถ่ายแล้วลบ” เขากล่าวยิ้มๆ
“บ้า…อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนคุณ” เธอนึกตำหนิในใจว่าเขาช่างหน้าไม่อาย จริงไม่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาพูด
ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้เธอ แกล้งเอียงตัวมองดูหญิงสาวค่อยๆกดลบรูปจากกล้องของเขาทีละภาพ จนแน่ใจว่าในส่วนที่เป็นภาพของเธอ ได้ถูกลบจนหมด จากนั้นจึงยื่นกล้องคืนเจ้าของ
“แล้วจำเอาไว้ว่าทีหน้าทีหลัง อย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก” เธอฝากให้เขาคิด ก่อนจะหมุนตัวกลับ แล้วก้าวเดินจากมา
“เดี๋ยวสิคุณ...มาถึงก็ว่าฉอดๆ เสร็จแล้วก็จะไปง่ายๆ” เขาท้วงคนที่กำลังจะเดินหนี
มิตราหยุดกึก เธอค่อยๆหันกลับมาส่งสายตาค้อนให้เขา
“แล้วเรามีอะไรต้องคุยกันด้วยหรือคะ”
“เอ่อ…ผมชื่อกันย์นะครับ” เขารีบแนะนำตัวออกไป ชายหนุ่มเผลอจ้องดวงหน้าสวย ขณะที่แสงแดดอาบไล้พวงแก้มสะอาดสะอ้าน ไล่สายตาลงมาตลอดลำคอกลมกลึง ลาดเรื่อยลงมาถึงรอยพับของต้นแขนอ้อนแอ้น น่าทะนุถนอม
“ไม่ได้ถามสักหน่อย” เธอยักไหล่เล็กน้อย “เอาเป็นว่าผมอยากบอก” เขาทำหน้าเจื่อน หากยังไม่ละความพยายามที่จะทำความรู้จักกับเธอ