บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

หลังจากที่ศิลาออกจากห้องไป ตัวจิ๋วก็ยกมือจับไปที่หัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นเร็วระรัว

“นะ..นี่เราเป็นอะไรไปเนี้ย ทำไมหัวใจเต้นแรงขนาดนี้ละ” ตัวจิ๋วถามตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ

“ว่าแต่..กลิ่นตัวของนายหัวก็หอมเหมือนกันนะ” ตัวจิ๋วอมยิ้มนิดๆเมื่อนึกถึง

“เฮ้อออตัวจิ๋ว นั่นเจ้านายใหม่ของเรานะ คิดแบบนี้ได้ยังไงเนี้ย”

“แล้วอีกอย่าง..เขาก็คงไม่สนใจอะไรเราหรอก เขาอาจจะไม่ชอบหน้าเราด้วยซ้ำ” ตัวจิ๋วหลับตาลงแล้วพยายามเรียกสติของตัวเองให้รีบกลับมาโดยเร็วที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยคบผู้หญิงหรือผู้ชายมาก่อน แต่เขาก็พอจะรู้รสนิยมของตัวเองพอสมควรว่าเขาชอบเพศไหน ซึ่งสเปคของตัวจิ๋วจริงๆแล้ว..ก็มีความคล้ายกับศิลาเหมือนกัน

“รีบทำอะไรให้เสร็จดีกว่า ไม่งั้นโดนกินหัวแน่ๆ” ตัวจิ๋วพูดจบก็รีบใส่กางเกงทันที เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ตัวจิ๋วก็เดินลงไปข้างล่าง

แววตาของตัวจิ๋วต้องมองแผ่นหลังกว้างของศิลาที่กำลังนั่งอยู่

“…นายหัวครับ” ตัวจิ๋วเรียกศิลาอย่างกล้าๆกลัวๆ ศิลาลุกขึ้นแล้วหันไปมอง

“เสร็จแล้วก็ไปสักที” พูดจบศิลาก็เดินนำออกไปข้างนอกทันที ทำให้ตัวจิ๋วจำต้องรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามศิลาไปเพราะกลัวหลงทาง

ศิลายกยิ้มมุมปากเมื่อรับรู้ได้ว่าร่างบางกำลังวิ่งตามหลังมา เขาจึงแกล้งหยุดเดินกะทันหัน ทำให้ตัวจิ๋วชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างแรงจนเซไปทางด้านหลัง ดีที่ศิลาหันมาคว้าเอวบางของตัวจิ๋วเอาไว้ได้ทัน

หมับ!

ทั้งสองประสานสายตามองกันนิ่ง หัวใจของตัวจิ๋วเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เมื่ออ้อมกอดที่อบอุ่นของศิลามันทำให้เขาใจสั่น

“เดินดีดีได้มั้ย เดี๋ยวก็ชนนู้นชนนี่อีกหรอก” เสียงทุ้มแหบของศิลาพูดดุ แต่ไม่ได้จริงจังอะไร แขนแกร่งค่อยๆปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ เมื่อตัวจิ๋วยืนเองได้แล้วก็ก้มหน้าเพื่อซ่อนความเขินอายเอาไว้ ซึ่งท่าทางของร่างบางนั้นศิลาเห็นและมองออกทั้งหมด แต่เขาก็แกล้งทำสีหน้านิ่งๆเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร

“ขะ..ขอโทษครับ” ตัวจิ๋วพูดเสียงอ้อมแอ้ม ศิลาแกล้งถอนหายใจออกมาหนักๆ

“วันหลังก็ดูด้วยแล้วกัน” พูดจบศิลาก็ดึงเอวบางเข้ามาโอบ นั่นทำให้ตัวจิ๋วรู้สึกงุนงงไม่น้อย

“ผมเดินเองได้ครับนายหัว” ตัวจิ๋วพูดเสียงสั่น

“เดี๋ยวก็เดินชนนู้นชนนี่อีก กูไม่ได้อยากแตะตัวมึงนักหรอกนะ แต่ถ้าข้าวของกูเสียหายขึ้นมา มึงจะรับผิดชอบยังไง” ศิลาจ้องหน้าตัวจิ๋วนิ่ง ตัวจิ๋วได้แต่หลบสายตาที่ร่างสูงมองมาโดยไม่พูดอะไรอีก

ศิลาพาร่างบางเดินมาที่สวนทางด้านหลังของบ้านเขา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านของศิลาไม่มากเท่าไหร่ ผู้คนมากมายต่างก็มารอสิลาอยู่ก่อนแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะทั่วทั้งเกาะเลยก็ว่าได้

“นะ..นี่มันอะไรกันเหรอครับ ทำไมมีคนอยู่เยอะจัง” ตัวจิ๋วถามศิลาด้วยน้ำเสียงตื่นๆ ศิลาไม่ได้พูดตอบอะไร แต่โอบเอวร่างบางพาเดินไปทางตรงหน้า

“นายหัวครับ ทุกคนมาพร้อมแล้วนะครับ” สิงค์เดินเข้ามาบอกกับศิลา

เมื่อทุกคนเห็นศิลาเดินโอบเอวมากับตัวจิ๋ว เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น ทุกคนต่างพากันสงสัยเด็กหนุ่มตัวเล็กตรงหน้าว่าเป็นใคร ทำไมศิลาถึงได้เดินโอบเอวมาแบบนั้น

“นายหัวพาใครมาวะนั่น”

“หรือว่าจะเป็นเมียนายหัว!!”

“บ้าหน่า นายหัวของเราจะไปมีเมียตอนไหน วันๆแกอยู่กับรังนกกับผักปลาแบบนี้”

“ถ้าไม่ใช่เมีย..แล้วทำไมนายหัวต้องเรียกประชุมใหญ่ขนาดนี้ด้วยละวะ ทั้งๆที่นายหัวไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนะเว้ย”

“แต่กูว่าอาจจะเป็นไอ้เด็กที่นายหัวซื้อมาจากลูกหนี้ของนายหัวก็ได้นะเว้ย กูได้ยินมาอยู่”

“แล้วต้องเดินโอบเอวโอบไหล่กันมาขนาดนี้เลยเหรอวะ”

“กูว่าไอ้เด็กนั่นอาจจะจ้องจับนายหัวอยู่ก็ได้นะเว้ย”

“พวกมึงจะพูดเหี้ยอะไรก็ให้ระวังปากเอาไว้ด้วย เดี๋ยวก็โดนด้ามปืนหรอก” เสียงเข้มของพร้าวที่ยืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้น นั่นทำให้ทุกคนต่างพากันสะดุ้งด้วยความตกใจ

“โธ่ๆไอ้พร้าว มึงก็ลองดูสิวะว่าที่พวกกูพูดมันจริงหรือเปล่า” ผาน ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพร้าวพูดบอก

“งั้นมึงก็จะได้รู้ไอ้ผาน ว่าที่กูบอกมึงไป..มันจะจริงหรือไม่จริง” พร้าวจ้องหน้าผานด้วยแววตาดุดัน จนมิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆต้องแตะไหล่แกร่งเพื่อให้พร้าวใจเย็นลง และหันไปมองศิลากับตัวจิ๋วที่ยืนอยู่ด้านหน้า

“นายจะเริ่มบอกทุกคนเลยมั้ยครับ” สิงค์ถามขึ้น

“อืม” ศิลาพยักหน้าแล้วดันให้ตัวจิ๋วมายืนตรงกลาง ตัวจิ๋วเองก็ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด จนศิลาต้องหันมองหน้าตัวจิ๋วอีกครั้ง

“มึงไม่ต้องพูดอะไร กูแค่จะบอกกับคนอื่นๆเฉยๆว่ามึงจะเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ ไม่ต้องตื่นเต้น” เสียงนิ่งๆของศิลาพูดบอก แต่คำพูดของศลานั้นทำให้ตัวจิ๋วรู้สึกอบอุ่นแบบแปลกๆ ตัวจิ๋วพยักหน้าให้ศิลาเพื่อบอกว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่าพูดมา ศิลาเมื่อเห็นแบบนั้นก็มองไปยังทางทุกคนที่ยืนอยู่

“วันนี้ที่เรียกทุกคนมาประชุมกันก็เพราะฉันมีเรื่องสำคัญที่จะแจ้งให้ทุกคนทราบ” ศิลามองไปที่ทุกคนด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง นั่นทำให้บริเวณนั้นมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุม ทุกคนต่างตั้งใจฟังในสิ่งที่ศิลาบอกเป็นอย่างดี

“คนที่ทุกคนเห็นตรงหน้า คือลูกน้องคนใหม่ของที่นี่ เขาจะอยู่แผนกเตรียมอาหารและทำความสะอาด หวังว่าทุกคน..คงจะช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี หากใครมีปัญหาอะไร..” ศิลาจ้องมองไปรอบๆด้วยแววตาที่ดุดันไม่น้อย

“ให้เข้ามาคุยกับฉันโดยตรง และถ้าฉันรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติที่นี่..อีกครั้งละก็..คงรู้ใช่มั้ยว่าจะต้องโดนอะไร” ศิลาหันไปมองทางกลุ่มของสนิมนิ่งๆ ซึ่งทุกคนต่างก็พากันหลบสายตาที่ศิลามองมาทันที ตัวจิ๋วเองก็หันไปมองตามแววตาของศิลา และพบกับกลุ่มที่เคยพูดจาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นั่นทำให้ตัวจิ๋วขยับเข้าหาศิลาโดยอัตโนมัติ ซึ่งศิลาเองก็รับรู้การกระทำของตัวจิ๋วได้ เขาจึงยืนบังร่างบางจนมิด

ซึ่งการกระทำของศิลา สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนไม่น้อย เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นศิลาเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ยกเว้น..

“จบการประชุมเพียงเท่านี้ ส่วนลุงศรีกับป้านวล ผมขอคุยเป็นการส่วนตัว เชิญที่ห้อง” ศิลาพูดกับชายหญิงชราคู่นึงที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ค่ะนายหัว/ครับนายหัว” ทั้งคู่ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ศิลาพยักหน้าแล้วหันไปมองทางตัวจิ๋วอีกครั้ง

“มึงไปอยู่กับพวกไอ้สิงค์ก่อน ถ้ากูคุยธุระเสร็จจะมาเรียกอีกที” ศิลาพูดเพียงแค่นั้นก็เดินนำลุงกับป้าไปที่บ้านพักของตัวเอง

“มานี่ไอ้จิ๋ว” สิงค์พยักหน้าเรียกตัวจิ๋วให้เข้ามาหาตน ตัวจิ๋วเองก็รีบเดินเข้าไปทันที

“กูจะแนะนำให้มึงรู้จักพวกมันอีกที เมื่อกี้มันอาจจะดูเป็นทางการไปหน่อย” สิงค์พูดบอก และพาตัวจิ๋วเดินไปยังกลุ่มชายชายฉกรรจ์ที่นั่งรวมกันอยู่

“หน้าตาน่ารักดีนี่หว่าพี่สิงค์” เสียงของนนท์พูดขึ้นยิ้มๆ สิงค์ยกยิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยและหันหน้ากลับไปมองตัวจิ๋วที่ยืนเกร็งอยู่ตรงหน้า

“มันชื่อตัวจิ๋ว เด็กใหม่ของนายหัว”

ทุกคนต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่สิงค์พูดมา

“เด็กนายหัวเหรอพี่!!” ปืนถามสิงค์เสียงตื่นๆ

“หึหึ มึงก็ลองดูเอาสิวะ” มิ่งยักคิ้วใส่ปืนยิ้มๆ

“มะ..ไม่ใช่หรอกครับ” ตัวจิ๋วที่เห็นว่าทุกคนต่างพากันตกใจ ก็รีบพูดปฎิเสธทันที ถึงเขาจะไม่ค่อยแน่ใจว่าความหมายคำว่าเด็กนายหัวที่ทุกคนพูดอยู่มันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่การแสดงออกของทุกคนมันทำให้เขารู้ได้ว่า มันคงไม่ใช่คำพูดที่ดีเท่าไหร่นัก

“หึ ทำมาเป็นปฎิเสธ มึงอย่ามาแสดงละครที่นี่หน่อยเลย” เสียงของจักรพูดขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามากลางวงที่ทุกคนกำลังพูดคุยอยู่

“ปากอย่างมึงนี่คงไม่อยากอยู่ดูลูกหลานมึงโตสินะไอ้จักร” มิ่งตอบกลับไปด้วยความไม่พอใจ

“อย่าเสือกไอ้มิ่ง กูไม่ได้คุยกับมึง” จักรชี้หน้ามิ่งแล้วจ้องหน้าเขม็ง มิ่งเองก็จ้องกลับไปอย่างไม่กลัวเช่นกัน

“ผมไม่ได้แสดงนะครับ แต่ผมไม่ใช่เด็กของนายหัวจริงๆ ผมก็แค่ลูกน้องที่มาใหม่เท่านั้นเองครับ” ตัวจิ๋วพยายามอธิบาย

“เหอะ อย่ามาสตอ กูเห็นแววตาที่มึงมองนายหัว ทำไมกูจะมองไม่ออกว่ามึงคิดอะไรอยู่” จักรกอดอกแล้วเดินเข้าไปใกล้ตัวจิ๋ว

“ถ้ามึงจะหาเรื่องมัน กูคงต้องรายงานนายหัว” สิงค์พูดขึ้น จักรหันไปมองทางสิงค์ แล้วถอนหายใจออกมา

“ผมก็แค่มาทักทายเท่านั้นเอง ไม่ได้มาหาเรื่องมันสักหน่อยพี่ อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ไปเลยหน่า” จักรพูดบอกแล้วหันกลับไปจ้องหน้าตัวจิ๋วนิ่งๆ

“กูชื่อจักร ยินดีที่ได้รู้จักนะ” จักรยื่นมือมาตรงหน้าตัวจิ๋ว ตัวจิ๋วมองมือตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่นนิดๆ การกระทำของคนที่ชื่อจักรมันทำให้ตัวจิ๋วรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดไม่ดีกับเขาแน่ๆ แต่เขาก็ต้องยื่นมือเพื่อไปจับอีกฝ่าย

“ยินดีทีได้รู้จักครับ” ตัวจิ๋วฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แต่ก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บถึงแรงบีบที่มือของอีกฝ่าย

“หวังว่ากูกับมึง..จะได้เจอกันอีก”

แววตาของจักรที่มองตัวจิ๋วนั้นมันทั้งดุดันและน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก แรงที่บีบก็แรงขึ้นจนตัวจิ๋วน้ำตาคลอ

“กูว่ามึงปล่อยมือได้แล้วมั้ง ไม่งั้น..มึงจะได้เจอกับกูไอ้เหี้ยจักร” มิ่งเดินเข้าไปหาจักรแล้วมองมือของตัวจิ๋วที่ถูกบีบอยู่ จักรใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองนิดๆแล้วปล่อยมือออกอย่างแรง

“อย่าคิดว่าที่กูปล่อยมือมันเพราะกูกลัวมึงนะไอ้มิ่ง กูแค่ทักทายไอ้เด็กนั่นเสร็จแล้วตางหาก”

“เสร็จแล้วก็ออกไปสักทีดิวะ จะมายืนขวางมือขวางตีนกูทำไม” มิ่งเดินเข้าไปยืนตรงกลางระหว่างตัวจิ๋วและจักร จักรถอยห่างออกมานิดๆ

“กูไปก็ได้ หึ แต่ดูแลไอ้เด็กนั่นดีดีแล้วกัน เพราะพวกไอ้สนิมมันยิ่งชอบของขาวๆอยู่ด้วย” จักรยิ้มเหยียดแล้วหันหลังเดินออกไปทันที ตัวจิ๋วที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเครียดลงทันที เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมันหมายความว่าเขาจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว

“ไอ้สัสนี่! ไม่โดนส้นตีนสักทีนี่แม่งไม่จบจริงๆนะ” มิ่งกัดฟันพูดด้วยความโกรธ

“มึงอย่าคิดมาก มันไม่มีอะไรหรอก” นนท์แตะบ่าของตัวจิ๋วพร้อมกับตบเบาๆเพื่อปลอบ ตัวจิ๋วหันไปมองทางนนท์นิดๆแล้วพยักหน้าเบาๆ

“กูชื่อนนท์นะ ทำอยู่ประมง” นนท์แนะนำตัวเอง

“ผมชื่อตัวจิ๋วครับ หรือ..จะเรียกว่าจิ๋วก็ได้”

“ส่วนกูกับไอ้พร้าวทำอยู่สวนผลไม้ ใกล้ๆกับมึงนั่นแหละ ไม่ต้องห่วง” มิ่งพูดบอก ตัวจิ่วพยักหน้านิดๆ

“ไอ้เหี้ยนั่นมันพวกเดียวกับไอ้สนิม ทางที่ดีมึงอยู่ห่างพวกมันเอาไว้ดีกว่า ไม่ต้องเจอหน้าพวกมันเลยได้ยิ่งดี” มิ่งเอ่ยเตือน

“ครับ” ตัวจิ๋วพยักหน้ารับ

“พวกมึงพามันไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวกูมา” สิงค์พูดบอก

“พี่จะไปไหน” นนท์ถามขึ้น

“กูจะไปหานายหัว”

“ไปด้วยดิ” นนท์พูดบอก

“มึงอยู่นี่แหละ จะไปทำไม” สิงค์ขมวดคิ้วพูดเสียงดุ

“จะไป” นนท์หน้าบึ้งเมื่อโดนขัดใจ

“เฮ้ออออ อยากไปก็ตามมา” สิงค์ถอนหายใจแล้วเดินนำนนท์ไป นนท์รีบวิ่งไปเกาะแขนของสิงค์ทันที ตัวจิ๋วมองภาพของทั้งสองด้วยความอยากรู้

“นั่นไอ้นนท์ ผัวพี่สิงค์มัน” มิ่งพูดไขความกระจ่างให้กับตัวจิ๋วได้รู้ ตัวจิ๋วเบิกตากว้างด้วยความตกใจและหันไปมองมิ่ง

“จริงเหรอครับ!”

“ก็เออสิวะ กูจะโกหกมึงทำห่าอะไรเนี้ย คนทั้งเกาะแม่งรู้กันทั้งนั้นอ่ะ” มิ่งพูดยิ้มๆแล้วยักคิ้วใส่ตัวจิ๋วอย่างกวนๆ

“หึหึหึ ยังมีอะไรที่มึงต้องตกใจอีกเยอะ” พร้าวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

“ปะ ไปหาอะไรกินกัน” มิ่งกอดคอตัวจิ๋วแล้วพาเดินตรงไปที่ครัว โดยมีพร้าวเดินตามหลังทั้งสองไป

++++++++++++++

#ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จะพยายามอัพเรื่องนี้ให้อ่านกันเรื่อยๆเน้อออ

**เวลาที่อัพอาจจะไม่แน่นอนนะคะ ยังไงก็อย่าพึ่งหนีกันไปไหนน้าาา

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel