ตอนที่ 5 โชคไม่ดี
ตอนที่ 5 โชคไม่ดี
บ้านแม่กับบ้านสวนอยู่ไม่ได้ห่างกันมากนัก ขับรถเพียงแค่ครู่เดียวก็ถึง บรรยากาศโดยรอบมีแต่ต้นไม้ใหญ่ ตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิท มีเพียงแค่แสงไฟจากหลอดนีออนเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง
นารามีอาการตื่นเต้นปนกลัวนิดหน่อยกับที่อยู่ใหม่ของเธอ แต่เมื่อเธอได้เลือกทางเดินนี้แล้ว เหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ต้องยอมรับไม่มีสิทธิ์หันกลับ
ภูผาขับรถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถข้างบ้านหลังใหญ่ ยังไม่ทันได้ดับเครื่องยนต์ เขาก็หันไปถามเธอว่า...
"ทำอะไรเป็นบ้าง" น้ำเสียงของเขายังคงแข็ง เขาไม่ได้เต็มใจพาเธอมาอยู่ที่นี่ ที่ยอมพามาเป็นเพราะสถานการณ์มันบังคับให้ต้องพามา
"หนูทำงานบ้านได้ทุกอย่าง ส่วนงานอย่างอื่นหนูพร้อมที่จะเรียนรู้ค่ะ อ่อ...หนูดูดวงพอได้ด้วยนะคะ มาค่ะหนูดูให้" พูดจบเธอก็คว้ามือของเขาเอาไปดูอย่างถือวิสาสะ ภูผาทำท่าจะชักมือออกจากการจับกุมของเธอ แต่ถูกนารารั้งเอาไว้ เขาจึงยอมปล่อยให้เธอดูไป อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะพูดอะไร
".........." นารามองเส้นลายมืออย่างพินิจพิจารณาอยู่สักครู่ เธอก็เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของเขานิ่งๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้า
"มีอะไร" คิ้วเข้มๆขยับเข้าหากันเล็กน้อย มีเพียงดวงไฟจากด้านในรถเท่านั้นที่ให้ความสว่างแต่ก็สามารถมองเห็นเส้นลายมือชัด
"หนูไม่กล้าพูด" นั่นเป็นเพราะเธอไม่ค่อยมั่นใจ แถมเส้นที่ว่ายังส่งผลไม่ค่อยดีกับเจ้าของลายมือเท่าที่ควร
"ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูด เสียเวลา!" เขาพูดพร้อมกับชักมือออกจากการจับของเธอทันที จากนั้นก็ดับเครื่องยนต์และทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป แต่นาราก็ยอมพูดถึงเส้นเสียนั้นให้เขาได้ฟัง
"ลายมือนี้แน่นอนว่ามีวาสนา หาเงินเก่ง เส้นธุรกิจเด่น มีความรับผิดชอบ แต่มีอยู่หนึ่งเส้นมันบอกว่าเมื่อเร็วๆนี้ ไปทำเรื่องไม่ดีมา อยากให้ทำบุญเยอะๆกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วดวงจะดีขึ้นค่ะ" จบคำพูดของเธอภูผานิ่งไป เขาเพิ่งจะสั่งฆ่าคนไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่คดีถูกปิดไปแล้ว
"ทำบุญอะไร" คิ้วเข้มขยับเข้าหากันเล็กน้อยอีกครั้ง พร้อมกับยอมหันมามองหน้าของคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง
"ถ้าไม่รู้จะทำกับใคร มาทำกับหนูก็ได้ค่ะ" นาราพูดขึ้นยิ้มๆ...ก็ต้องทำกับพระที่วัดสิ
"ต้มตุ๋น ไร้สาระ!" พูดจบเขาก็เปิดประตูรถแล้วพาเธอเดินไปที่ห้องพักคนงานที่อยู่ถัดออกไปจากทางด้านหลังของบ้านหลังนี้ โดยมีนาราแบกกระเป๋าสองใบไปด้วย
"เมื่อกี้หนูพูดเล่นค่ะ ต้องทำบุญกับพระที่วัดอยู่แล้ว แต่หนูยังดูไม่ค่อยเก่งนะคะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ บอกตามตรงหนูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่" นารารีบพูดแก้ตัวให้ตัวเองก่อนที่เขาจะเข้าใจเธอผิด แต่คำพูดของเธอก็ไม่ได้ทำให้เขาสนใจ ขายาวๆก้าวฉับๆเดินนำไปอย่างรวดเร็ว จนนาราต้องวิ่งตามพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบ
"ปั่กๆๆ ไอ้เอก ไอ้โอ ออกมาหาเฮียหน่อย" เมื่อเดินมาถึงห้องพักคนงาน ภูผาก็ยกมือตบไปที่ประตูห้องสองสามทีพร้อมกับเรียกให้ลูกน้องออกมา
เอกกับโอเป็นลูกน้องคนสนิท เป็นเด็กที่ภูผาเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ญาติไม่เอา เขาจึงเอามาทำงานด้วยตั้งแต่อายุสิบห้า ตอนนี้ทั้งสองคนมีอายุยี่สิบกว่าแล้ว เอกคนพี่อายุยี่สิบหก ส่วนโอคนน้องอายุยี่สิบห้า ทั้งสองรักและเคารพนายหัวภูผาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
"อ้าว...นายหัว มีอะไรจะใช้พวกผมเหรอครับ" สายตาของนารามองไปรอบๆ เห็นลูกน้องหลายคน บ้างก็กำลังนั่งกินข้าว บ้างก็กำลังนั่งล้อมวงดื่มเหล้า
มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมองมาที่นาราเป็นตาเดียว เธอส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตรแล้วไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้พี่ชายทั้งสองคนที่ชื่อเอกกับโอด้วย ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อเอก คนไหนชื่อโอ ยิ้มไว้ก่อนได้เปรียบ ดูแล้วอายุของเธอจะน้อยที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ตรงนี้
"เอาห้องที่ว่างให้ยัยนี่อยู่ห้องนึง หาหมอนกับผ้าห่มให้เธอด้วย" สั่งเสร็จก็เตรียมที่จะหันหลังเดินกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ไป แต่!!
"นายหัวครับ คือว่า...วันนี้ผมรับคนงานเข้ามาสองคนผัวเมีย ห้องเต็มหมดแล้วครับ" ประโยคนี้ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มของนาราเศร้าลงไปทันที เธอโชคไม่ดีเลย แล้วทีนี้จะไปนอนที่ไหนล่ะ แค่คิดสีหน้าของเธอจากที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อสักครู่ ก็เปลี่ยนเป็นเศร้าลงทันที
"อ้าว..." นายหัวภูผาหันมามองหน้านาราแล้วทำท่าคิดหนัก ห้องที่จะให้เธอพักก็มีคนเข้ามาอยู่ตัดหน้าไปแล้ว ครั้นจะพาเธอไปส่งให้นอนบ้านแม่เขาก็ยังไม่ไว้ใจ
"นายหัวครับ ห้องชั้นล่างที่บ้านนายหัวไง เก็บของสักหน่อยก็อยู่ได้แล้ว" โอช่วยออกความคิด นอกจากห้องนั้นก็ไม่มีที่อื่นแล้ว
"ดูไม่ดี" ภูผาไม่เคยให้ใครเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของเขามาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิง
"ใครดูไม่ดี นายหัวหรือน้องคนนี้" เอกถามขึ้นยิ้มๆ พลางส่งยิ้มไปให้น้องสาวหน้าตาน่ารัก เอกกับโอไม่รู้หรอกว่านายหัวไปพาเด็กสาวคนนี้มาจากที่ไหน แต่เขาทั้งสองคนก็เคยเป็นเด็กที่นายหัวพาเข้ามาอยู่ในสวนแบบนี้เหมือนกัน
หลายคนที่อยู่ที่นี่บางคนมาจากที่ไกลๆ บางคนไม่มีที่ไป บางคนออกจากคุกมาไม่มีงานทำ นายหัวภูผาชอบเก็บคนดีทำงานอึดมาเลี้ยง ให้เงินเดือน ให้ที่อยู่ ทุกคนทำงานถวายหัวแถมยังรักนายหัวภูผามาก แต่ถ้าใครทำผิดกฎหรือชอบแหกกฎของการอยู่ร่วมกัน เขาก็ไม่ปล่อยไว้เช่นกัน
"เดี๋ยวเถอะ!" การแซวเล่นของลูกพี่กับลูกน้องก็มีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เวลาปกตินายหัวเป็นคนใจดีและอารมณ์ดีคนหนึ่ง แต่อย่าให้อารมณ์เสีย แค่สายตามองมาก็สามารถทำให้คนๆนั้นนอนไม่หลับไปทั้งคืนเลยก็ได้
"หนูชื่อนาราค่ะ" นาราแนะนำตัวกับพี่ชายทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนคนอื่นๆที่กำลังมองมา เธอทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
"อุ๊ย...ชื่อน่ารักจังเลยครับ พี่ชื่อเอก ส่วนไอ้นี่ชื่อโอ เป็นน้องชายของพี่เอง"
"สวัสดีค่ะ"
"นี่! ไอ้เอก มึงพอจะฝากยัยนี่นอนที่ห้องใครได้มั้ย ห้องที่ไม่มีผู้ชายน่ะ" คนงานที่นี่ทุกคนเกรงกลัวนายหัวภูผายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เรื่องไม่ดีไม่มีทางเกิดขึ้นที่นี่อยู่แล้ว
"ไม่มีครับ ส่วนมากก็มีแต่ผัวเมียอยู่ด้วยกันเป็นคู่ครับ"
"ถ้าอย่างนั้นคืนนี้มึงสองคนไปนอนที่อื่นก่อน ไปขอห้องไอ้จอมนอนสักคืนก็ได้ ยืมห้องให้ยัยนี่นอนคืนนึง พรุ่งนี้ค่อยไปกวาดถูห้องชั้นล่างแล้วค่อยเข้าไปอยู่" ห้องคนงานที่ว่ามีผู้ชายล้วนสามารถให้เอกกับโอไปนอนรวมได้ อาจจะอึดอัดไปสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรแค่คืนเดียว
"ก็ได้ครับ" เมื่อเจ้านายออกคำสั่ง ทุกคนก็พร้อมที่จะทำตาม ใบหน้าจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มบางๆแล้วส่งยิ้มไปให้พี่ชายทั้งสองคนเป็นการขอบคุณ
"ส่วนเธอขนของไปไว้ที่บ้าน ไปอาบน้ำที่บ้านหลังโน้นก่อน แล้วค่อยเดินมานอนที่นี่"
"ค่ะ"
"ส่วนมึงสองคนเก็บห้องให้เรียบร้อย เฮียฝากดูแลยัยนี่ด้วย"
"รับทราบครับนายหัว" ลูกน้องรับคำเสร็จคนเป็นเจ้านายก็หมุนตัวเดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่สองชั้น โดยมีนาราเดินแบกกระเป๋าสองใบตามไปด้วยติดๆ
?????