บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 เที่ยวตลาดเจียงหยาง

“คุณชายลู่ นี่มันจะไม่..”

“นางพึ่งมีเรื่องที่จวนอ๋องมา ข้าพอเข้าใจนางได้ขอรับ ฮูหยินไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนมารับนางเองขอรับ เพื่อป้องกันมิให้นางถูกรังแกอีก และป้องกันตัวนางมิให้ถูกลงโทษเรื่องขัดราชโองการด้วย หวังว่าฮูหยินคงเข้าใจ โปรดให้ความร่วมมือกับข้าด้วยขอรับ”

“คุณชายลู่มิต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะให้นางไปงานนี้เอง ข้าจะอธิบายให้นางเข้าใจเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณฮูหยิน เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน”

“ท่านแม่ ลูกได้ยาตัวใหม่มาเจ้าค่ะ เจ้าแก่เจียงบอกว่า…นี่ท่านมาทำอะไรที่นี่”

นางมองเขาอย่างตกใจ นางไม่ทันเจอพ่อบ้าน จึงไม่มีใครแจ้งนางว่าท่านแม่มีแขก

“เหยาเหยา อย่าเสียมารยาทกับคุณชายลู่”

“เหตุใดไปไหนก็เจอแต่เจ้าหน้าขาวนี่กันนะ”

“คุณหนูใหญ่ เจ้าว่าอย่างไรนะขอรับ”

“เปล่าเจ้าค่ะ เห็นว่าท่านจะกลับแล้วนี่เจ้าคะ เชิญเจ้าค่ะ”

“เหยาเหยา!!”

สายตานางหม่นลงเล็กน้อยเมื่อถูกมารดาดุ ลู่จื่อหยางที่พึ่งเห็นว่านางเจออะไรมาที่จวนอ๋อง และยังกลับบ้านมาเจอท่านแม่ดุอีก เขาจึงรีบบอก

“ฮูหยิน ถ้าอย่างไร ให้คุณหนูใหญ่เป็นผู้ไปส่งข้าได้หรือไม่ขอรับ ข้าจะได้พูดกับนางเกี่ยวกับเรื่องวันพรุ่งนี้ด้วย”

“ขอบคุณคุณชายลู่ รบกวนท่านแล้วเจ้าค่ะ เหยาเหยา ไปส่งคุณชายลู่ด้วย แล้วอย่าเสียมารยาทเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่”

“เจ้าค่ะท่านแม่”

แม้นางจะอยากขัดใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งมารดา ก่อนจะหันมามองหน้าผู้ที่ยืนยิ้มรอนางไปส่งอยู่

“คุณชายลู่ เชิญเจ้าค่ะ”

เขาเดินออกไป นางจึงเดินตามออกไป เขาโบกพัดเป็นสัญญาณให้ผู้ติดตามหลีกทางไป และหันมาบอกนาง

“แม่นางไป๋ ข้ามาถึงนี่หลายวันแล้ว ถ้าอย่างไร เจ้าพาข้าเดินชมเจียงหยางหน่อยได้หรือไม่”

“คุณชายลู่ ข้ารับปากท่านแม่เพียงแค่มาส่งท่านนะเจ้าคะ เรื่องอื่น มิได้บอกเอาไว้”

นางกำลังเดินหันหลังก่อนที่เขาจะบอกนางพร้อมกับโบกพัดในมือเบาๆ

“ถ้าหากว่าฮูหยินไป๋ทราบว่าเจ้าแอบลอบเข้าหอนางโลมและ...”

นางรีบหันมาเอามือบางปิดปากเขาไว้ เขานึกตกใจ หัวใจเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว กลิ่นกายนางที่ต้องจมูกเขาทำเอาเขาใจสั่นอย่างประหลาดใจ ก่อนที่นางจะปล่อยมือและจับแขนเขาลากออกไปจากจวน

“ท่านตามข้ามานี่ เร็วๆ เข้า”

เขามองตามมือที่นางจับอย่างรู้สึกอบอุ่นใจแปลกๆ เขาปล่อยให้นางจับมือเขาเดินออกจากจวนไป จนถึงหน้าจวนก่อนจะรีบสะบัดมือเขาออก และมองเข้าไปว่ามีผู้ใดตามมาหรือไม่

“ท่านห้ามบอกใครเรื่องที่เจอข้าที่หอนางโลมเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่”

“แม่นางไป๋ ข้าเกรงว่าเรื่องนี้ เจ้าคงต้องมีค่าปิดปากนะ”

“นี่ท่าน..!!…ฮึ่มมม….โอ๊ยย!!”

นางสะบัดหน้าด้วยความโมโห ก่อนที่เขาจะหลุดขำกับท่าทีที่น่ารักนั้นของคนตรงหน้า

“ท่านว่ามา อยากให้ข้าทำสิ่งใดให้”

“พาข้าเดินเที่ยวอย่างไรล่ะ แล้วก็งานในวันพรุ่งนี้...”

“ข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่ไป ท่านก็ได้ยินแล้ว ในห้องโถงนั่น”

“ข้าแจ้งเรื่องนี้ไปกับฮูหยินแล้ว สตรีทุกคนต้องเข้าร่วม เลี่ยงไม่ได้ เป็นราชโองการ ยิ่งเจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของหลิวอ๋อง เรื่องนี้ยิ่งต้องไป”

“ข้ามิได้เกี่ยวข้องอะไรกับจวนหลิวอ๋อง”

“ชื่อเจ้ามีอยู่ในเทียบเชิญ หากมิไปนั่นเท่ากับขัดราชโองการ เจ้าอยากให้ท่านแม่เจ้าเดือดร้อนเพราะเจ้างั้นหรือ”

“ท่านขู่ข้า”

“เปล่า ข้ามิได้ขู่เจ้า มิกล้าทำแบบนั้นด้วย เพียงแค่เป็นห่วง ไม่อยากให้พวกเจ้าต้องโทษโดยไม่จำเป็น เชื่อข้าเถอะ ข้าบอกฮูหยินแล้วว่าจะส่งคนมารับเจ้า และอารักขาเจ้าตลอดงาน”

“ข้าไปเองได้ ท่านไม่ต้องส่งใครมาหรอก ข้าไม่สะดวก”

“เจ้าแน่ใจหรือ แต่ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่กล้าไปเสียมากกว่าน่ะสิ เจ้าอาจจะกลัวพบกับคุณหนูรอง หรือชายารอง…”

“ใครว่าข้ากลัวพวกนาง เชอะ อย่างข้า ไปที่ใดไม่เคยกลัวใคร พรุ่งนี้ข้าจะไปเอง ท่านไม่ต้องส่งคนมา เอาตามนี้”

“หากว่าเจ้าไม่ไป...”

“มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ไป เพ้อเจ้อ ข้าไปแน่ ท่านปู่บอกแล้วว่าถ้าเบื่อก็แค่ไปนั่งกับท่านปู่”

เขายิ้มออกมาได้ ทำเอานางที่ยืนท้าทายเขาอยู่ รู้สึกใจสั่นอย่างประหลาด ก่อนที่นางจะเบือนหน้าหนีเขา ไม่ให้เขาจับอาการนางได้

“เขาจะหน้าตาดีแค่ไหนก็อย่าได้หวั่นไหวสิ ใจเย็นๆ ซินเหยา”

“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

“เปล่าๆ เอาล่ะ คุณชายลู่ เอาเป็นว่า ข้าจะพาท่านเดินเที่ยวตลาด ที่นี่มีสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องประทินโฉม นั่น ของโปรดข้า ถังหูลู่ เดี๋ยวข้ามา”

“เดี๋ยว รอข้าด้วยสิ”

“ท่านเดินช้า มาเร็วเดี๋ยวเขาจะเดินไปอีกตรอก เดี๋ยวไม่ทัน”

นางจับมือเขาก่อนจะพาเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่พ่อค้าขนมหวาน และก็ทันพอดีก่อนที่พ่อค้าจะเลี้ยวไป นางซื้อมาสองไม้ เขาเป็นผู้จ่ายเงินให้นาง

“ค่านำเที่ยว”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านลองชิมดูสิ”

“คือข้าไม่ค่อยชอบของหวาน เชิญเจ้าตามสบายเลย”

“งั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว ไปกันเจ้าค่ะ ข้างหน้านั้น ร้านขายของเล่น”

นางพาเขาเดินจนทั่วตลาด จนตอนนี้เริ่มคอแห้งแล้ว ก่อนที่นางจะพาเขาแวะที่โรงน้ำชาเฟิงหยวน

“เจ้าเหนื่อยหรือไม่ แม่นางไป๋ เอ่อ ข้าเรียกเจ้าว่าซินเหยาได้หรือไม่”

“ได้ทั้งนั้นแหละ เป็นสหายกันแล้วนี่เจ้าคะ ท่านชื่ออะไรนะคุณชายลู่”

“เรียกข้าว่า พี่จื่อหยางก็ได้”

“พี่จื่อหยาง ได้ พี่จื่อหยางท่านอยากไปที่ใดอีกหรือไม่”

“ข้าอยากนั่งพักก่อน เจ้าไม่ได้รีบไปไหนใช่หรือไม่”

“ไม่เจ้าค่ะ”

“ข้าอยากถามเจ้าหน่อย วันนั้น ที่ข้าเจอเจ้าที่หอ...”

นางรีบเอามือปิดปากเขาพร้อมกับยกมือให้สัญญาณบอกว่าหยุดพูด

“ท่านอย่าพูดไปสิ ท่านนี่อย่างไรกัน เอะอะก็พูดถึงแต่เรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่วันนั้นท่าน…”

นางพูด พร้อมกับมองหน้าเขา เหมือนเขาเองก็เริ่มนึกออก ทั้งคู่จึงเบือนหน้าไปคนละทางก่อนที่จื่อหยางจะยกชาขึ้นมาดื่มเพื่อเบี่ยงความสนใจ นางเริ่มขยับชุดพัดเพราะร้อน

“เจ้าร้อนหรือ ใช้พัดข้าดีหรือไม่”

“มะ ไม่เจ้าค่ะ ไม่รบกวน”

“ตกลงว่าเจ้า วันนั้น ไปที่นั่นทำไม”

“วันนั้นข้ารับงานมา ให้ไปขโมย..”

“หา นี่เจ้าเป็นขโมย”

“ชู่ววว ท่านนี่ยังไงกัน เงียบๆ สิ อยากให้ข้าถูกจับหรืออย่างไร”

“ก็เจ้าพึ่งจะบอกว่า...”

“ฟังให้จบสิเจ้าทึ่ม”

“เจ้าว่าใครทึ่ม...”

“ท่านจะฟังหรือไม่”

“ขอโทษข้าเดี๋ยวนี้”

“ขอโทษ คือว่า ข้ารับงานมา ให้ไปขโมยปิ่นทองกลับคืน เพราะสามีชั่วของนาง ขโมยเอาไปให้นางรำที่หอหงอี้เจ้าค่ะ”

“เจ้าไปคนเดียวงั้นหรือ”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้าทำเรื่องแบบนี้บ่อย แต่ขโมยของให้เจ้าของนะ มิใช่ไปขโมยผิดกฎหมาย”

“แล้วไป แล้ววันนั้น เจ้าออกมาจากหอนั่นได้อย่างไร”

“ข้าสวมชุดท่านออกมาอย่างไรล่ะ พวกนางก็คงคิดว่าข้าพึ่งไปหานางโลมมา เลยไม่ได้สงสัย ข้าก็แค่เดินออกมาเฉยๆ”

“แล้วหากวันนั้นมิใช่ข้าที่อยู่ในห้องนั้น เจ้าจะ…”

“ศิษย์น้องซินเหยา”

เสียงเรียกของบุรุษ ทำให้นางหันไปมองทันที

“ศิษย์พี่จินเย่”

เว่ยจื่อหยางขมวดคิ้วทันทีเมื่อมีบุรุษมาทักทายนางต่อหน้าเขา ก่อนที่พวกเขาจะลุกขึ้นมองผู้มาใหม่

“ดีใจจริง ๆ ที่เจอเจ้าที่นี่ พวกข้าพึ่งลงมาจากสำนักเพื่อร่วมงานที่จวนอ๋องในวันพรุ่งนี้น่ะ”

“โถ่ก็นึกว่าใคร ที่แท้ ศิษย์นอกคอกที่ถูกขับออกมาจากสำนักนี่เอง”

“ฟางหรู เจ้าอย่าพูดเพ้อเจ้อ”

“ข้าพูดผิดหรือศิษย์พี่ ท่านเองก็รักษากิริยาหน่อย เจ้าด้วย อยู่ห่างๆ พวกเราไว้”

“พวกเจ้านี่อย่างไรกันนะ ทั้ง ๆ ที่ข้าอยู่ที่ร้านนี้ก่อนเจ้า เข้ามาก่อนพวกเจ้า และคนที่ทักข้าก็เป็นศิษย์พี่ของพวกเจ้า มิใช่ข้า เจ้าเดือดร้อนอันใด ความอิจฉาน่ะ เก็บเอาไว้ในใจบ้าง มันเด่นหราบนใบหน้าเจ้าเลยฟางหรู นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลย อายพวกศิษย์น้องเจ้าบ้าง”

“นี่เจ้า หุบปากนะ นังคนทรยศ ลักลอบฝึกวิชานอกรีตแล้วยังมีหน้า…”

“ฟางหรู ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก”

ซินเหยากำหมัดแน่น มองไปที่ฟางหรูอย่างไม่พอใจและเดือดดาลเต็มที ก่อนที่ลู่จื่อหยางจะเป็นผู้ที่ออกมาช่วยนางไว้ และจับมือนางในใจเย็นๆ ซินเหยามองเขาแวบหนึ่ง จึงยอมคลายมือ เขาจับมือนางที่ชุ่มเหงื่อเอาไว้

“ขออภัยทุกท่าน พวกท่านคือ…”

“คุณชายท่านนี้คือ...”

“ข้าลู่จื่อหยาง ตัวแทนองค์ไท่จื่อจากราชสำนัก รับคำสั่งมาจัดการเรื่องงานเลี้ยงพรุ่งนี้ พวกท่านคือ...”

เจินฟางหรูมองเว่ยจื่อหยางอย่างที่ไม่เคยพบเห็นผู้ใดที่รูปงามเช่นนี้มาก่อน ก่อนที่ซ่งจินเย่จะเป็นผู้แนะนำตัวเอง

“ข้าน้อยซ่งจินเย่ และศิษย์ในสำนักเพ่ยเฉิง รับคำสั่งอาจารย์มาร่วมในงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ขอรับ”

“อ้อ เช่นนั้นก็เชิญพวกท่านตามสบาย ข้ากับซินเหยาหมดธุระที่นี่แล้ว ขอตัวก่อน”

“ขอบคุณคุณชายลู่”

เขาจับมือนางเดินออกจากร้านไป โดยไม่ได้หันมามองพวกเขาอีก ฟางหรูซึ่งแต่เดิมเกลียดซินหยางอยู่แล้ว ยิ่งนึกเกลียดเพิ่มมากขึ้นไปอีกที่เห็นว่าชายที่นางต้องตาถึงกับจับมือนางออกจากร้านไป……
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel