ตอนที่ 2 เมืองเจียงหยาง
“เถ้าแก่ กำไลนี่ ได้สักเท่าไหร่ อย่าโก่งราคานะ ไม่งั้นข้าจะตัดนิ้วเจ้า”
“ขอรับๆ แหม คุณหนูอย่าใจร้อน ขอข้าดูหน่อยสิ”
เถ้าแก่รับกำไลหยกขาวเนื้อดีนั้นไปดูก่อนจะตีราคามาให้
“ห้าร้อยตำลึง”
“อะไรกัน นี่มันหยกขาว หายากราคาแพงเถ้าแก่ อย่างน้อยๆ หากข้าเอาไปให้เถ้าแก่เถาที่ร้านตรอกข้าหน้า อย่างน้อยๆ เขาน่าจะให้ข้าสัก สองพันตำลึง เอาแบบนี้ หากท่านไม่เอา ข้าไปขายให้เขาสักพันห้าก็แล้วกัน”
“แม่นางๆๆ เดี่ยวๆ แหะๆๆ อย่าพึ่งใจร้อนซี่ นะๆ ใจเย็นๆ ใจร่มๆ เมื่อครู่ข้าอาจจะตรวจดูไม่ถี่ถ้วน เอาแบบนี้ ในฐานะที่เราค้าขายกันมานาน ข้าให้เจ้า พันสามร้อยตำลึง เต็มที่แล้ว ห้ามต่อรอง”
“เฮ้อ เถ้าแก่ เห็นว่าเป็นท่านหรอกนะ ข้าก็ไม่อยากไปผูกมิตรกับร้านอื่น ของดีๆ ข้าก็เอามาให้ท่านก่อน ก็ได้ๆ พันสามร้อย จ่ายสดเท่านั้นนะ”
“รู้แล้วๆ เอานี่เงินของแม่นาง แล้ววันหลังอย่าลืมนะ มีของดีมาแวะหาข้าก่อน”
“ได้ๆ ข้าไปล่ะ”
“หยกขาว หึหึ อย่างน้อยต้องขายต่อได้สักสองหรือสามพันล่ะ เนื้องามจริงๆ”
ไป๋ซินเหยาเดินออกมาจากร้านรับซื้อและจำนำสินค้า ก่อนจะหอบเงินเดินไปตามทาง นางมิได้ต้องการเงินมากมายขนาดนั้น และนางก็รู้ว่าสินค้าแต่ละอย่างมีค่าเท่าใดก่อนเอามาขาย เพียงแต่เถ้าแก่มักจะเอาไปหลอกขายให้บรรดาเศรษฐีใหม่และผู้มั่งมีที่ดูของไม่เป็น จนได้กำไรเพิ่มมากขึ้นก็เท่านั้น
“เถ้าแก่เจียง ยาที่ข้าสั่งเอาไว้ได้หรือยังเจ้าคะ”
“อ้าว อาไป๋ ได้แล้วๆ เอานี่ ข้าฝากนี่ไปให้ท่านแม่เจ้าด้วยนะ ให้นางดื่มบำรุง อย่าดื่มมากไป ค่อยๆ จิบ จะเอาผสมในน้ำชาก็ได้ ช่วงนี้ใกล้หน้าฝนแล้ว ช่วยบรรเทาอาการไอของนางได้ด้วย”
“ขอบคุณเถ้าแก่เจ้าค่ะ นี่ค่ายา”
“อาไป๋ ทำไมมันมากขนาดนี้เล่า ยาแค่ สองร้อยตำลึงเอาคืนไปๆ”
“แต่ยาหอบพวกนี้อีกล่ะเจ้าคะ”
“เอาไปให้พวกเขาเถิด พวกคนอพยพยังต้องใช้ ถือว่าข้าช่วยทำบุญนะ”
“เถ้าแก่ ข้าขอบคุณท่านแทนพวกเขาด้วยเจ้าค่ะ”
“เจ้ารีบกลับบ้านเถอะ ป่านนี้แม่เจ้าเป็นห่วงแย่แล้ว”
“เจ้าค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่เจียง”
ทางกลับบ้าน นางต้องเดินผ่านจวนสกุลหลิว ที่นั่นคือจวนท่านอ๋องหลิว ซึ่งก็คือบิดาของนาง ก่อนที่นางจะเดินผ่าน นางเห็นมีรถม้าที่คุ้นตาจอดอยู่หน้าจวน
“นั่นมัน เจ้าหน้าขาวที่ช่องเขามิใช่หรือ มาทำอะไรที่นี่”
เขาเดินลงจากรถม้า ไป๋ซินเหยาเดินสวนกับเขาที่ปากทางเข้าจวนอ๋องหลิว และคนของจวนอ๋องก็ได้เปิดประตูต้อนรับคณะเดินทางจากเมืองหลวงเข้าไปด้านใน
“คุณชายลู่ เชิญขอรับ ท่านอ๋องรออยู่ด้านในขอรับ”
“ขอบคุณพ่อบ้าน”
หลิวอ๋องนั่งรออยู่ที่ห้องโถง เขาเห็นว่าแขกเดินเข้ามาแล้วเขาจึงลุกไปต้อนรับ และผู้ที่เดินเข้ามารีบกล่าวทักทาย
“ข้าน้อยลู่จื่อหยางคารวะท่านอ๋อง”
ผู้ที่ถูกคารวะถึงกับรีบชักมือกลับ ก่อนจะตอบกลับไป
“เอ่อ คุณชายลู่ ตามสบาย เชิญนั่งก่อน”
“ขอบคุณท่านอ๋อง”
เขานั่งจิบชาไปสักพักจึงได้แจ้งเรื่องสำคัญที่มาถึงเจียงหยาง
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยมิทราบว่า ท่านอ๋องพอจะทราบแล้วหรือไม่ว่าที่องค์ไท่จื่อส่งข้ามาเพราะเรื่องใด”
“ข้าพอทราบแล้ว คุณชายลู่ ต้องการให้ข้าจัดการธุระเรื่องใดก็เชิญแจ้งได้เลย”
“องค์ไทจื่อจะเสด็จมาที่นี่ในอีกสิบห้าวันข้างหน้า เพื่อมาประจำการที่เจียงหยาง ดังนั้น เรื่องสำคัญอีกเรื่องก็คือ การเลือกคู่สมรส ฝ่าบาทมีรับสั่งให้องค์ไท่จื่อรับพระสนม หากถูกใจจะตั้งเป็นพระชายาองค์รัชทายาทเลยก็ย่อมได้”
“ข้าทราบแล้ว เพียงแต่ว่า เรื่องนี้ องค์ไท่จื่อมิใช่ว่าต้องการเลือกด้วยตัวเองหรอกหรือ”
“ใช่ขอรับ พระองค์เลยให้ข้ามาก่อน เพื่อคัดเลือกหญิงงาม ท่านจงเร่งจัดเตรียมงานเลี้ยงเพื่อให้บรรดาหญิงงามมารวมตัวกัน ก่อนที่องค์ไท่จื่อจะเสด็จมาถึงเถิด”
“ข้าทราบแล้ว อีกสามวัน ข้าจะจัดงานงานเลี้ยงขึ้น เชิญหญิงงามในเจียงหยางมาร่วมงานเพื่อให้ท่านคัดเลือก”
“ดี เรื่องนี้ ข้าคงต้องรบกวนท่านอ๋องแล้ว” …