ตอนที่2 ดวงใจของนางร้าย
ประตูห้องพักของนักแสดงสาวถูกเปิดออก กลับมีช่อดอกไม้ช่อใหญ่บังใบหน้าของคนผู้หนึ่งเอาไว้ “ไป๋หนิง” น้ำเสียงทุ้มยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู แล้วค่อย ๆ เลื่อนช่อดอกไม้ที่บังใบหน้าสุดแสนจะหล่อเหลาออกอย่างช้า ๆ “เป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง ผมเป็นห่วง”
คนป่วยสีหน้าตระหนกไม่น้อย ที่จู่ ๆ พ่อพระเอกดาวรุ่งก็มาหาถึงที่โรงพยาบาล ส่วนคุณพยาบาลเก็บอาการตื่นเต้นแทบไม่ไหว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่ได้พบกับพระเอกขวัญใจของเธอ “คิดไม่ถึงว่าข่าวลือจะเป็นจริง”
“ข่าวลืออะไรคะ” ลู่ชิงซึ่งอยู่ในร่างของดาวร้าย ถามความอย่างสงสัยเหลือเกิน พลางจ้องมองไปยังหลัวจิ่นที่เดินยิ้มแป้นเข้ามา ราวกับว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันมาเนิ่นนาน
ชายหนุ่มวางดอกไม้ลงบนโต๊ะ ดอกไม้ช่อนี้ ผมพยายามที่สุดเพื่อทำให้คุณพอใจนะ” ชายหนุ่มหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ ข้างเตียงนอนพร้อมกุมมือหญิงสาวขึ้นมาอย่างห่วงใย น้ำเสียงอบอุ่น พร้อมกับดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังนางร้ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก “ไป๋หนิง ทำไมไม่พูดอะไรเลย ผมขอโทษที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”
หากวันนั้นเขาไม่ดื่มจนเมามาย แล้วโทรคุยกับเธอ เธอก็คงไม่ร้อนใจจนต้องขับรถไปพบเขาที่บาร์นั่น สุดท้ายก็เป็นเขาที่นั่งคลอเคลียอยู่กับสาวอื่น คาดว่าเธอคงหุนหันพลันแล่นขับรถออกไปอย่างฉุนเฉียวคงจะขับอย่างรวดเร็ว จนประสบอุบัติเหตุ
“พวกคุณคุยกันตามสบายนะคะ ฉันจะอยู่ด้านนอกค่ะ” พยาบาลคนนี้ ได้รับค่าว่าจ้างให้ดูแลนางร้ายคนสวยของโรงพยาบาลแห่งนี้ ตลอดระยะเวลาที่พักฟื้นตัว ก็จะมีพยาบาลสาวคนนี้คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
หลัวจิ่นถูกสาวงามชักสีหน้า พร้อมกับดึงมือกลับ เธอมองเขาเหมือนตัวประหลาด ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดมหันต์ “ที่รัก ผมขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำตัวเกเรอีกแล้ว ให้อภัยผมเธอนะ”
“ใครเป็นที่รักของคุณคะ ฉันไม่ใช่” ลู่ชิงยืนกรานหนักแน่นเสียงแข็ง สีหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาเธอกลับแฝงไปด้วยความหวาดกลัว หวั่นเกรงว่าภายภาคหน้าเธอจะทำเช่นไร
หากออกจากที่นี่ไปแล้ว จะกลับบ้านได้อีกหรือ ในเมื่อบ้านหลังนั้น...ไม่สิ ห้องที่เช่าเอาไว้ป่านนี้ก็คงถูกเจ้าของปล่อยให้คนอื่นเช่าไปแล้ว ส่วนเธอจะพักที่ไหนกันเล่า บ้านของไป๋หนิงนางร้ายคนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ เธอก็หารับรู้ไม่
“หนิงหนิง ผมขอโทษจะให้ผมคุกเข่าอยู่ตรงนี้ก็ได้ คุณยกโทษให้ผมสักครั้งนะ คืนนั้นผมเองที่ขาดสติ ถูกยั่วยวนจนห้ามใจไม่ได้ เลยทำให้คุณโมโหจนเกิดเรื่องขึ้น” เขายังคงอ้อนวอนขอร้องให้ไป๋หนิงสงสารและเห็นใจ ไม่ง่ายเลยที่จะจีบเธอติด เขาใช้เวลาหลายปีกว่าจะให้นางร้ายคนนี้ตกลงปลงใจคบหาในฐานะคนรัก
“ขอโทษนะคะ ฉันรู้สึกไม่สบายอยากพักผ่อน” เธอจะตอบเขาไปว่าอย่างไร ในเมื่อเธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าของร่างนี้แม้แต่น้อยนิด รู้เพียงแค่ว่าชื่อไป๋หนิง เป็นนางร้ายของซีรีส์ย้อนยุค เจ้าของรางวัลมากมายเท่านั้น
แต่เรื่องอื่น ๆ ลู่ชิงหรือจะรู้ เพราะชีวิตของเธอล้วนมอบให้ลูกสาวสุดที่รักทุ่มเทเพื่อลู่อ้าย แต่สุดท้ายคนเป็นแม่ก็ทำให้ลูกสาวร้องไห้ ในวันที่เธอตัดสินใจนำแก้วตาดวงใจไปมอบให้จ้าวหยาง
“อยากหลบหน้าผมสินะ ไม่เป็นไร ผมจะบอกให้พี่อี้เหอมาดูแลคุณก็แล้วกัน ป่านนี้คงกำลังเก็บของใช้มาให้คุณแน่ ๆ” ชายหนุ่มมาดเท่ลุกพรวดขึ้นทันที กระชับเสื้อสูทราคาแสนแพง เหลือบตามองคนรักด้วยสายตาไม่พอใจนัก
วันนี้เธอไม่สบอารมณ์ เขาก็คร้านจะพูดจายั่วยุให้เธอโมโห เดี๋ยวจะพาลกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีข่าวเสียหายขึ้นมา ชื่อเสียงนักแสดงที่สั่งสมมานาน ก็คงได้จบเห่ลงแน่ ๆ
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย ในใจวุ่นวายสับสน ด้วยเพราะการลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง กลับมาอยู่ในร่างของนักแสดงหญิงนางร้ายที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ พ่อพระเอกคนนี้ ที่กำลังหงุดหงิดเดินออกไป
ปัง...หลัวจิ้นปิดประตูอย่างไม่พอใจนัก จนคนป่วยที่นอนบนเตียงถึงกับสะดุ้งเฮือก ไม่ทันไรก็มีพยาบาลเดินหน้าละห้อยเข้ามา นั่งบนเก้าอี้ในห้อง เธอกำลังลงมือแกะผลส้มอยู่ในจานบนโต๊ะสีขาว ด้านซ้ายของเตียงคนป่วย
“คุณฉีคะ” ลู่ชิงเหลือบเห็นชื่อของพยาบาลคนนี้ จึงเอ่ยเรียกขึ้น “ฉันของยืมโทรศัพท์ได้ไหมคะ” สิ่งที่เธอกังวลใจมากก็คือลู่อ้าย ไม่รู้ป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง คนบ้านนั้นต้อนรับดูแลดีหรือไม่ เธอเป็นห่วงทั้งร้อนใจอยากพูดคุยกับลูกสาวให้เร็วที่สุด
“คุณไป๋คะ เดี๋ยวฉันหยิบให้ค่ะ โทรศัพท์ของคุณอยู่ในตู้ค่ะ อยากได้อะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ เมื่อกี้คุณหลัวบอกว่า ผู้จัดการอี้จะมาถึงอีกสิบนาทีค่ะ” คุณพยาบาลกล่าวบอกตามที่ได้รับฟังมาจากพระเอกหนุ่ม
หลังจากที่เดินออกไป เขาก็บอกเรื่องการมาของผู้จัดการอี้ ของนักแสดงสาวที่นอนรักษาอาการบาดเจ็บอยู่บนเตียงมาหลายวัน ก่อนหน้านั้น อาการย่ำแย่ ชีพจรรวยริน คล้ายจะสิ้นใจได้ทุกเมื่อ แต่จู่ ๆ ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สร้างความดีใจให้แก่เหล่าพยาบาล รวมถึงคณะแพทย์ที่ทำการรักษาในครั้งนี้
ฉีหลิน เลื่อนลิ้นชักออกมา หยิบโทรศัพท์ราคาแพงให้แก่คนป่วย คาดว่าคงมีเรื่องสำคัญ ถึงได้ถามหาเช่นนี้ พอส่งมอบให้เจ้าของแล้ว พยาบาลคนนี้ระบายยิ้มอ่อน กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างนอบน้อม “เชิญคุณไป๋ตามสบายนะคะ ฉันจะอยู่ด้านนอกค่ะ”
“ค่ะ” พอได้โทรศัพท์ ก็คาดหวังว่าจะเปิดเครื่องได้ แต่พอปัดหน้าจอขึ้น กลายเป็นต้องใส่รหัสผ่าน สีหน้าของหญิงสาวกลัดกลุ้มเม้มริมฝีปากทันที “จะทำยังไงดีเนี่ย”
เธอค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เอนแผ่นหลังพิงที่หัวเตียงนอน สีหน้าครุ่นคิดมากมาย ลองสแกนลายนิ้วมือข้างหลังพลันยิ้มออก พอปลดล๊อคหน้าจอได้แล้ว สิ่งแรกก็คือการโทรหาลูกสาวสุดที่รัก เสียงดังกริ๊ง....อยู่ครู่ใหญ่ ก็ได้ยินน้ำเสียงปลายสาย
ลู่ชิงรีบเรียกลูกสาว “เสี่ยวอ้าย สบายดีไหม” สีหน้ายิ้มแย้มนั่นเพราะในที่สุดการรอคอยก็มาถึงเสียที
ปลายสายเป็นหญิงสาวหน้าตาดุดัน ขึ้นเสียงใส่ “เธอเป็นใคร โทรมาทำไมกัน...เงียบนะ ไม่งั้นฉันจะตีเธออีกนังเด็กเหลือขอ”
ลู่ชิงได้ยินเช่นนี้ หัวใจของคนเป็นแม่ย่อมต้องปวดร้าว รู้สึกเจ็บแปลบเสียเหลือเกิน ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นดังเล็ดลอดให้ได้ยิน น้ำเสียงของลูกสาว คำพูดจานั่นทำให้ลู่ชิงขึ้นเสียงตะคอกมอบให้ปลายสายทันที “นี่เธอทำอะไรเสี่ยวอ้าย” จากรอยยิ้มที่ปรากฏพลันเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงยิ่งนัก
“แล้วเธอเป็นใครไม่ทราบ” หลี่เหมยย้อนถาม ไม่สบอารมณ์มากโข ก็เพราะนางเด็กไร้หัวนอนปลายเท้า เข้ามาขัดขวางความสุขของเธอกับคู่หมั้น
“...” ลู่ชิงจะบอกว่าเป็นแม่ของเสี่ยวอ้ายได้อย่างไร ในเมื่อวันนั้นเธอได้ตายจากไปแล้ว เธอจึงเลือกใช้ร่างของนักแสดงสาวคนนี้ให้เป็นประโยชน์ “ฉันคือไป๋หนิง เป็นเพื่อนของลู่ชิง เธอทำอะไรเสี่ยวอ้าย ถึงได้ร้องไห้”
หลี่เหมยได้ยินคำพูดโอ้อวดของอีกฝ่าย ก็คิดว่าเป็นเหล่าสาว ๆ ที่หวังจะเข้ามาตีสนิทเด็กคนนี้ นั่นเธอย่อมไม่มีทางให้มันเป็นไปได้เด็ดขาด เธอจึงแค่นเสียงหัวเราะหยันหญิงสาวที่โทรมา “เหอะ พูดแล้วก็น่าขันเสียจริง คนอย่างลู่ชิงจะมีเพื่อนเป็นถึงนักแสดงดาราดังได้ยังไง คิดจะตีสนิทนังเด็กไม่มีแม่อย่างนั้นรึ
เธอคิดว่าฉันโง่เสียจนมองไม่ออกหรือไงว่าคิดอยากจะมาเป็นแม่เลี้ยงของมัน ในเมื่อฉันเป็นคู่หมั้นของพี่จ้าว เธออย่างได้ฝันเฟื่องว่าจะเฉียดเข้าใกล้พวกเขาได้” หลี่เหมยวางสาย เหลือบมองไปยังเสี่ยวอ้ายที่ยืนกอดตุ๊กตากระต่าย ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำที่หลั่งไหลลงมาสองแก้มไม่หยุดหย่อน
ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ว่าที่นายหญิงคนนี้ใจอ่อนที่เห็นน้ำตาของแม่หนูน้อย แต่กลับเพิ่มพูนความหงุดหงิดขึ้นอีกเป็นทวีคูณ จึงเอ่ยเสียงเข้มว่า “ป้าฮัวคะ เอาของแม่นี่ไปทิ้งให้หมด อย่าให้ใครติดต่อมาอีกเข้าใจไหมคะ”
“คุณหนูหลี่คะ ฉันว่าคงไม่ดี หากคุณชายใหญ่กลับมา” หญิงสูงวัยสงสารคุณหนูน้อยเหลือเกิน ทว่าเธอก็เป็นเพียงแค่แม่บ้านคนหนึ่ง มีหน้าที่รับใช้เจ้านาย
แม้ว่าเจ้านายคนใหม่นี้จะดูโหดร้ายไปมาก สุดท้ายแล้ว ย่อมต้องการเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายอีกในไม่ช้า ในเวลานี้หลี่เหมยจึงเข้ามาจัดการวางระเบียบในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้เสียใหม่
โดยมีนายหญิงใหญ่เป็นคนสนับสนุน ไหนเลยแม่บ้านคนจน ๆ หาเช้ากินค่ำจะกล้าสอดปากกับเจ้านาย ก็ได้แต่ก้มหน้า ก้มตายามที่ถูกสายตาเพ่งเล็งก็ตามที
แม่บ้านสูงวัยจะเหลียวมองไปยังคุณหนูน้อยที่ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจอยู่รอมร่อ สงสารจับจิตจับใจ ว่าทำไมกัน อดีตนายหญิงถึงได้ทอดทิ้งคุณหนูน้อยเอาไว้ที่นี่ ให้เผชิญหน้ากับว่าที่แม่เลี้ยงที่มีจิตใจอันหยาบกระด้างนี้กัน
หลี่เหมย กอดอกจ้องเขม็งไปยังแม่บ้าน ที่ยืนก้มหน้าก้มตาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว “จะดีหรือไม่ ฉันเป็นคนตัดสินใจ ในเมื่ออีกไม่กี่เดือน ฉันจะเป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้ ป้าฮัวคิดดูให้ดีว่าจะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับฉันอย่างนั้นรึ”