บทที่ 9 รูปงามอย่างท่านอ๋องก็นับว่าไม่เลวเพคะ
บทที่ 9
รูปงามอย่างท่านอ๋องก็นับว่าไม่เลวเพคะ
ตำหนักหมิงเย่
โจวเยว่เทียนหลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้ตัวเขานอนอยู่ภายในตำหนักหมิงเย่ที่คุ้นเคย เรื่องราวที่สตรีนามว่าซือเล่อช่วยรักษาเขาถูกเล่าผ่านเสี่ยวอี้องครักษ์คนสนิท
“ตรวจสอบยาของหมอหลวงหรือยัง”
“ตรวจสอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เป็นดั่งที่แม่นางผู้นั้นพูดตัวยามีปัญหาจริง ๆ ส่วนหมอหลวงที่เขียนเทียบยาพบว่าเขาฆ่าตัวตายหนีความผิดเมื่อคืนขอรับ”
“ฆ่าตัวตายหรือ...บังเอิญเสียจริง”
ชายหนุ่มยิ้มเย็นแค่นหัวเราะสมเพชในลำคอ เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดมีผู้อยู่เบื้องหลัง ในยามนี้เขากลายเป็นบุรุษพิการไร้อำนาจมีหรือพวกมันจะไม่คิดฉวยโอกาสนี้กำจัดเขา
“ฝ่าบาทส่งหมอหลวงมาตรวจอาการท่านอ๋องเมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ ส่วนพวกขุนนางยังคงยื่นถวายฎีกาให้ลงโทษท่านอ๋องเรื่องที่สังหารรองแม่ทัพในสนามรบพ่ะย่ะค่ะ”
“คนทรยศเช่นนั้นจะให้ข้าเก็บไว้ทำไม”
น้อยคนนักที่จะได้รู้ว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องถูกพิษจนขาพิการในสนามรบแท้จริงไม่ได้เกิดจากฝ่ายศัตรูแต่เกิดจากคนในแคว้นต่างหาก ส่วนสาเหตุคงกลัวว่าข้าที่มีอำนาจทหารในมือจะคิดก่อกบฏ
โง่เสียจริง บัลลังก์หากข้าอยากได้ไม่จำเป็นต้องช่วงชิงมาด้วยซ้ำ
เดิมทีบัลลังก์มังกรเสด็จพ่อเอ่ยปากยกให้เขาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ แต่เขาชื่นชอบฆ่าฟันศัตรูในสนามรบมากกว่ามาปะทะคารมกับเหล่าขุนนางแก่เลยตัดสินใจสละบัลลังก์ให้พี่ชาย
แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเพียงคนในราชวงศ์เท่านั้นที่รับรู้
“เสี่ยวอี้เจ้าว่าข้าจะทำเช่นไรกับพวกมันดี จะทุบขาของมันให้พิการเช่นข้าตอนนี้หรือควรโยนลงไปในบ่ออสรพิษดี”
“ท่านอ๋อง...อย่าลืมว่าทรงรับปากฝ่าบาทแล้วว่าจะละเว้นฮองเฮา”
“ข้ารับปากว่าจะละเว้นชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยนางไปเสียหน่อย” โจวเยว่เทียนพูดออกมาเสียงเย็น รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขาตอนนี้แฝงเจตนาร้ายอย่างชัดเจน
เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายคือใคร แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นฮองเฮาของแคว้นทั้งยังตั้งครรภ์อยู่เลยทำให้พี่ชายของเขาร้องขอให้ละเว้นชีวิตนาง
น่าขำที่สตรีเลวเช่นนั้นกลายเป็นแม่ของแผ่นดิน
“หลังจากที่นางคลอดหลานข้าออกมาแล้ว ข้าจะใช้ทุกวิธีทรมานนางให้รู้สึกราวกับอยู่ไม่สู้ตาย นางและสกุลจางของนางจะต้องทุกทรมานเหมือนกับข้า”
“หากทำเช่นนั้นฝ่าบาทจะไม่ทรง.....”
“สำหรับเสด็จพี่ต่อให้ข้าสังหารนางพระองค์ก็คงไม่แม้แต่จะเอ่ยปากตำหนิข้าด้วยซ้ำ ที่เสด็จพี่ทรงร้องขอให้ข้าละเว้นนั่นก็เพราะหลานของข้าที่อยู่ในท้องของนางต่างหาก”
“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
โจวเยว่เทียนปรายตามองชามยาว่างเปล่าที่เขาพึ่งดื่มไปเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน น่าแปลกหลังจากที่เขาดื่มยาของสตรีผู้นั้นไปแล้วร่างกายที่เคยเจ็บปวดทรมานเพราะพิษในกายกำเริบกลับหายเป็นปกติ เขาไม่แม้แต่จะไอหรือแน่นหน้าอกเช่นในอดีตเลยสักครั้ง
“เจ้าบอกว่าสตรีผู้นั้นคือฮูหยินของแม่ทัพหวังใช่หรือไหม”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“หากจำไม่ผิดนางคือบุตรสาวของหัวหน้าหมอหลวงสกุลฮวาที่ล่วงลับไปใช่ไหม”
“พ่ะย่ะค่ะ นางอาจจะได้รับความรู้ความสามารถมาจากบิดา”
“ข้าได้ยินมาว่านางรักสามีจนถึงขนาดให้บิดามาขอสมรสพระราชทานจากเสด็จพี่ ไม่แน่ว่าคำขอของนางอาจจะให้ข้าส่งเสริมหน้าที่การงานของสามี เดิมทีหวังเพ่ยอิงก็นับว่าเป็นคนมีความสามารถเพียงแต่เขามักมองข้ามสิ่งสำคัญและตัดสินใจไม่รอบคอบ”
พูดง่าย ๆ คือเขาเก่งเรื่องการใช้กำลังแต่ไม่ฉลาดนั่นเอง…
แต่หากนางรักษาเขาให้กลับมาเดินได้จริง ๆ เขาจะยอมหลับตาสักครั้งหนุนหลังหวังเพ่ยอิงให้มีอนาคตในหน้าที่การงานตามคำขอของนาง
โจวเยว่เทียนไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนคาดเดานั้นผิดทั้งหมด จนเวลาล่วงเลยผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เขาก็ได้พบหน้าฮวาซือเล่ออีกครั้ง
และคำขอของนางก็ทำให้เขาแปลกใจจนต้องเอ่ยถามซ้ำ
“เจ้าต้องการจะหย่ากับสามี?”
“เพคะ หลังจากที่หม่อมฉันรักษาท่านอ๋องจนสามารถกลับมาเดินได้แล้ว สิ่งที่หม่อมฉันต้องการคือราชโองการหย่าร้างของหม่อมฉันกับหวังเพ่ยอิงเพคะ”
นี่ข้ากำลังฟังสิ่งใดอยู่กัน
เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้นางกลับเอามาต่อรองกับข้า เคยได้ยินมาว่านางลุ่มหลงในตัวสามีมากไม่ใช่หรือแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดนางถึงเอ่ยปากขอร้องข้าให้ช่วยหย่าแบบนี้
“ข้าคิดว่าเจ้าจะให้ข้าช่วยหนุนหลังสามีของเจ้าให้ได้ดีในหน้าที่การงานเสียอีก”
“ทำไมหม่อมฉันต้องขออะไรแบบนั้นด้วยเพคะ”
“ก็ข้าได้ยินว่าเจ้ารักสามีมากไม่ใช่หรือ”
“ข่าวลือเพคะ ถ้ารักมากหม่อมฉันจะมาขอหย่าทำไม”
“หากไม่รักแล้วเหตุใดจึงขอสมรสพระราชทานเล่า”
แล้วจะมาอยากรู้เรื่องของข้าทำไมนักหนามิทราบ!
แม้อยากจะตะโกนแบบนั้นออกไปแต่เพราะผลประโยชน์ฮวาซือเล่อจึงทำเพียงฝืนใจคลี่ยิ้มออกมา
“ว่าอย่างไรเล่า ซือเล่อข้ารอฟังอยู่”
“หม่อมฉันมารู้ภายหลังว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่หม่อมฉันชอบเพคะ”
“เช่นนั้นบุรุษที่เจ้าชอบเป็นเช่นไร” โจวเยว่เทียนเอ่ยถามสตรีตรงหน้าออกไป เพราะอยากรู้ว่าสตรีตรงหน้าจะตอบเช่นไรออกมา
“หม่อมฉันชอบบุรุษหน้าตาดี รูปงามอย่างท่านอ๋องก็นับว่าไม่เลวเพคะ”
สิ้นประโยคของหญิงสาวความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มทั้งสองนิ่งชะงักไม่คิดว่าสตรีตรงหน้าจะเอ่ยคำตอบเช่นนี้ออกมา
“ถ้าท่านอ๋องเข้าใจแล้วลงนามในสัญญาเถอะเพคะ หม่อมฉันมีที่ต้องไปอีก”
“เจ้าเป็นสตรีที่มีสามีแล้วไม่ควรพูดเกี้ยวบุรุษที่ไม่ใช่สามีเช่นนี้”
“เพคะ?”
อะไรของหมอนี่นางแค่พูดไปตามความจริงว่าหน้าตาของเขาตรงสเปกนางเท่านั้น แต่ก็ตรงสเปกแค่หน้าตานั่นแหละนิสัยธงแดงแบบนี้ข้าขอผ่านดีกว่า
“สัญญามีสองฉบับ จะอยู่กับข้าและเจ้าคนละฉบับรับไปสิ”
“ขอบพระทัยเพคะ” ฮวาซือเล่อเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มมือบางยื่นออกไปรับหนังสือสัญญามาเก็บไว้ในมือ
“มือของเจ้าบาดเจ็บหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยถามหลังจากที่สังเกตเห็นผ้าพันแผลที่พันอยู่บนฝ่ามือของอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่เปลี่ยนความสงสัยก็เกิดขึ้นในใจของเขา
ข้าถามในสิ่งที่ไม่ควรหรือ?
“ก็แค่แผลที่ทะเลาะกับอนุเล็กน้อยเพคะ จริงสิหม่อมฉันนำขนมมาให้ท่านอ๋องในขนมผสมสมุนไพรที่เป็นยาอยู่ด้วยท่านอ๋องต้องกินให้หมดนะเพคะ”
หญิงสาววางกล่องไม้ที่บรรจุขนมอยู่ด้านในลงบนโต๊ะตรงหน้าของชายหนุ่มจากนั้นก็รีบย่างกายเดินออกจากห้องไป เหตุที่เร่งรีบเช่นนี้นั่นก็เพราะนางไม่อยากตอบคำถามของเขาอีก
มันน่าอายจะตายที่ถูกสามีทิ้งให้รักษาแผลเอง ส่วนอนุได้รับการดูแลจากท่านหมออย่างดี
ฮวาซือเล่อไม่รู้เลยว่าการกระทำของนางทำให้ชายหนุ่มทั้งสองเกิดความเข้าใจผิด โจวเยว่เทียนและเสี่ยวอี้มองไปที่กล่องขนมตรงหน้าก่อนจะหันไปมองหน้ากัน
“ท่านอ๋องไม่ใช่ว่านางกำลังเกี้ยวท่านจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“นี่คงไม่ใช่ขนมแทนใจที่นางตั้งใจทำมาให้ข้าหรอกกระมัง?”
มือหนาเปิดกล่องขนมทำให้กลิ่นหอมของสมุนไพรโชยเข้ากระทบจมูกของชายหนุ่มทั้งสองในทันที น่าแปลกที่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นเขียวชวนอ้วกแต่กลับเป็นกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกสดชื่น
ขนมชิ้นแรกหยิบยื่นให้เสี่ยวอี้เพื่อใช้เข็มเงินทดสอบพิษ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยโจวเยว่เทียนก็ตัดสินใจหยิบขนมขึ้นมากัดหนึ่งคำ
แม้จะมีส่วนผสมของสมุนไพรแต่กลับไม่มีรสชาติขมเลยสักนิด ขนมชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกส่งเข้าไปในปากของชายหนุ่มรู้ตัวอีกทีขนมที่หญิงสาวนำมาให้ก็หมดจากเสียแล้ว
“นับว่านางมีฝีมืออยู่ไม่น้อย เสี่ยวอี้ให้คนของเราแฝงตัวเข้าไปอยู่ในจวนสกุลหวังข้าต้องการรู้ว่าฮวาซือเล่อยามอยู่ภายในจวนสกุลหวังมีสถานะเป็นเช่นไร จริงสิจับตาดูความสัมพันธ์ของนางและสามีด้วย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ฮวาซือเล่อข้าอยากรู้เสียจริงสตรีที่ยึดมั่นในรักจนดูโง่งมเช่นเจ้าเหตุใดจึงมาเอ่ยปากขอร้องให้ข้าช่วยหย่า หวังเพ่ยอิงผู้นั้นทำอะไรกับเจ้ากันแน่
บาดแผลบนมือของเจ้าเป็นอนุหรือสามีของเจ้ากันแน่ที่ทำร้ายเจ้า...
