บทที่ 7 พ่อตัวร้ายธงแดงได้โปรดฟังข้าก่อน! [1/2]
บทที่ 7
พ่อตัวร้ายธงแดงได้โปรดฟังข้าก่อน! [1/2]
“ท่านอ๋องนางมาแล้วขอรับ”
“ให้นางเข้ามา”
เหตุใดตอนนี้นางถึงรู้สึกว่าด้านหลังของประตูคือขุมนรกที่มีมัจจุราชรอสังหารนางอยู่กัน!
นางคิดถูกจริง ๆ ใช่ไหมที่เลือกวิธีแบบนี้!
“แม่นางเชิญ”
“ท่านผู้เฒ่าไม่เข้าไปด้วยกันหรือ”
“ข้ายังรักชีวิตขอรับ” ชายชราพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนกายเดินออกไปด้านหน้าร้านไม่คิดหันกลับมาสนใจหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตูห้องอีกเลย
“ยังไม่รีบเข้ามา คิดจะให้ข้ารอเจ้าอีกหรือไง”
อ่า...นางเลือกผิดจริง ๆ สินะที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนแบบนี้
แต่ถึงจะคิดได้ตอนนี้นางก็ต้องเดินหน้าตามแผนไม่อาจหันกลับไปแก้ไขการตัดสินใจในอดีตได้แล้ว
ฮวาซือเล่อคิดได้ดังนั้นก็สูดหายใจเข้าไปในปอดเรียกความกล้าของตัวเองก่อนจะเปิดประตูเข้าไป นันย์ตาคู่สวยจับจ้องบุรุษรูปร่างผอมแห้งใบหน้าซีดเซียวที่นั่งเอนกายอยู่บนพนักพิงของเก้าอี้ไม้ เขานับว่ามีรูปโฉมไม่ธรรมดาคิดว่าหากร่างกายล่ำสันมีน้ำมีนวลกว่านี้คงเป็นบุรุษที่สตรีทั่วทั้งเมืองหมายตา เพียงแต่ว่าสายตาที่เขามองมาที่นางยามนี้ดูเย็นชาและแฝงเจือปนไปด้วยจิตสังหาร
เขาคือโจวเยว่เทียนหรือท่านอ๋องสามตัวร้ายของนิยายเรื่องนี้ไม่ผิดแน่!
“ซือเล่อคารวะท่านอ๋องสามเพคะ”
“ปล่อยให้ข้ารอเจ้ามาหลายชั่วยาม ซือเล่อนับว่าเจ้าไม่กลัวตายเลยสินะ”
กลัวสิยะ กลัวจนจะร้องไห้อยู่แล้วพ่อคุณ!
หญิงสาวได้แต่ร้องตะโกนตอบชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าในใจ หากไม่ใช่เพราะเขาคือทางเลือกเดียวของนางมีหรือนางจะมายุ่งกับคนที่เหี้ยมโหดอย่างเขา
หน้าตาก็หล่อตรงสเปกอยู่หรอก แต่มาแนวธงแดงแบบนี้ขอผ่านจ้า..
“หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ ครั้งหน้าหม่อมฉันจะไม่ให้ท่านอ๋องต้องเป็นฝ่ายรออีกเพคะ”
“เช่นนั้นครั้งนี้เจ้าไถ่โทษด้วยการมอบลิ้นของเจ้าให้ข้าดีหรือไม่”
โจวเยว่เทียนเอ่ยออกมาน้ำเสียงเหยียบเย็นดุจน้ำค้างแข็ง รอบกายของเขาตอนนี้อบอวลไปด้วยจิตสังหารมือหนาหยิบมีดสั้นขึ้นมาก่อนจะโยนไปให้สตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ตุบ!
“เจ้าอยากตัดเองหรือให้องครักษ์ของข้าช่วยก็เลือกได้เลย”
อ๊ากกก จะธงแดงอะไรนักหนาพ่อคุณ!
บรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยความตึงเครียด ฮวาซือเล่อยามนี้กำลังคิดหาทางออกให้ตนเองจนหัวแทบระเบิด นางได้แต่ก่นด่าตนเองว่าโง่ที่เลือกวิธีนี้
ตัวร้ายถึงอย่างไรก็คือตัวร้าย นางไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย!
“หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าชะ....แค่ก แค่ก”
เสียงของชายหนุ่มหายไปในลำคอคิ้วทั้งสองของเขาขมวดเข้าหากัน มือหนายกขึ้นปิดริมฝีปากของตนเองพลางไอออกมาเสียงดัง นัยน์ตาคมมองลิ่มเลือดที่อยู่บนฝ่ามือของเขาก่อนจะกำมือแน่น
เสี่ยวอี้ที่รับใช้โจวเยว่เทียนมานานรับรู้ได้ทันทีว่าเจ้านายของตนพิษในกายกำเริบ ร่างสูงรีบเร่งเดินออกไปก่อนจะกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับยาหนึ่งชาม ทุกครั้งที่พิษกำเริบเมื่อดื่มยาแล้วความเจ็บปวดในกายของโจวเยว่เทียนจะทุเลาลง
“ท่านอ๋องดื่มยาก่อนขอรับ”
“ดื่มไม่ได้!”
เหตุการณ์ทุกอย่างภายในห้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาคมมองหญิงสาวที่วิ่งเขามาแย่งชามยาออกไปจากมือของเขาอย่างไม่กลัวความตาย
“เสี่ยวอี้สังหารนาง” ชายหนุ่มเอ่ยสั่งออกไปเสียงเย็นสายตาที่จับจ้องสตรีตรงหน้าเต็มไปด้วยโทสะ
“พ่ะย่ะค่ะ” เสี่ยวอี้โค้งตัวตอบรับคำสั่งพลางชักกระบี่ออกจากฝัก สายตาที่จับจ้องสตรีตรงหน้านั้นไร้ซึ่งความปรานี
“เดี๋ยวก่อน! ฟังข้าก่อน! ยาชามนี้เป็นยาพิษหากท่านดื่มลงไปแม้เหมือนอาการจะทุเลาแต่แท้จริงมันจะไปเพิ่มพิษในร่างกายท่าน ที่ข้าแย่งชามยาแบบนี้ก็เพราะไม่อยากเห็นท่านตาย!”
ฮวาซือเล่อตะโกนออกมาสุดเสียง ในตอนที่เสี่ยวอี้ถือชามยาผ่านหน้านางไปกลิ่นของมันก็โชยเข้ามากระทบจมูกของนางโดยบังเอิญ ชาติก่อนนางใช้ชีวิตอยู่กับยามาทุกวันย่อมแยกกลิ่นส่วนผสมได้
ยาที่เขากำลังจะดื่มมันมีปัญหา หากดื่มไปมากกว่านี้เขาอาจจะตายก็ได้
ถ้าเขาตายแล้วใครจะช่วยนางเรื่องหย่าเล่า!
“เจ้าพูดบ้าอะไร นี่เป็นยาที่หมอหลวงจัดให้ข้าจะมียาพิษได้ยังไง อีกอย่างข้าก็ตรวจสอบแล้วส่วนผสมเป็นเพียงสมุนไพรธรรมดาไม่มีพิษ แค่ก แค่ก”
“สมุนไพรบางชนิดแม้จะไม่มีพิษแต่หากหากกินร่วมกันจะเกิดพิษได้ ยานี่ท่านดื่มไม่ได้”
“แค่ก แค่ก เจ้า!”
นัยน์ตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่กำลังทุกทรมานจากอาการของพิษกำเริบ นางสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เขาไอออกมาจะมีลิ่มเลือดออกมาด้วย
“เป็นพิษก็ไม่เป็นไร เอามาให้ข้า ข้าทรมาน เสี่ยวอี้ไปแย่งยามา”
เวรเอ้ย!
หญิงสาวสบถในใจหลังจากที่เห็นองครักษ์หนุ่มถือกระบี่เดินเข้ามาหานาง แววตาของเขานั้นไม่มีความรู้สึกผิดหรือเห็นใจเลยสักนิด ทำตัวราวกับหุ่นยนต์ที่รับคำสั่งไร้ความคิด
เพล้ง!
ชามยาตกลงบนพื้นจนเศษกระเบื้องแตกกระจายไปทั่วพื้น องครักษ์หนุ่มหยุดชะงักฝีเท้าสายตาที่เขามองสตรีตรงหน้ายามนี้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ
“พวกเจ้าฟังข้าหน่อยได้ไหม ข้าบอกแล้วไงว่ายานี่มันเป็นพิษ!”
“แค่ก แค่ก สังหารนาง”
แม่ง..รู้ว่าธงแดงแต่ฟังก่อนได้ไหม!
