บทที่ 11 ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามนิยาย
บทที่ 11
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามนิยาย
“พรุ่งนี้ฮูหยินจะตื่นมาทำอาหารด้วยตัวเองอีกแล้วหรือเจ้าคะ”
หนิงอันเอ่ยถามผู้เป็นนายที่กำลังเลือกซื้อสมุนไพรราคาแพงเพื่อนำมาใช้ในการปรุงอาหาร น่าแปลกที่ช่วงนี้ในทุกหนึ่งอาทิตย์จะมีหนึ่งวันที่ฮูหยินของนางตื่นขึ้นมาตั้งแต่รุ่งสางเพื่อที่จะเข้าครัวทำอาหารโดยใช้สมุนไพรที่ซื้อมาปรุงลงไปในอาหาร
“ไม่ใช่อาหาร แต่ข้ากำลังปรุงยาต่างหาก”
ฮวาซือเล่อพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม นับว่าผ่านมาได้เดือนครึ่งแล้วที่นางรักษาโจวเยว่เทียน ข่าวดีคืออาการของเขาดีขึ้นมากพิษในร่างกายก็ไม่ได้กระจายไปทั่วทั้งร่าง ตอนนี้เหลือเพียงแค่รอเวลาให้พิษถูกขับออกมาเท่านั้น
“ท่านผู้นั้นมีอำนาจมากพอจะช่วยฮูหยินให้หย่ากับนายท่านได้จริง ๆ หรือเจ้าคะ”
“ได้สิ หากเขาช่วยไม่ได้ก็ไม่มีผู้ใดช่วยข้าได้แล้ว”
แม้อยากจะถามว่าคนที่ฮูหยินเชื่อใจถึงเพียงนี้แท้จริงเป็นใครกันแน่แต่หนิงอันก็เลือกที่จะสงบคำไม่ถามออกไป นางรู้เพียงว่าในทุกอาทิตย์ฮูหยินจะนำอาหารไปมอบให้คนผู้นั้นที่หอซูเมิ่ง ทั้งยังใช้วิชาแพทย์ที่ศึกษามาจากนายท่านฮวารักษาเขา
ข้าไม่สนว่าคนผู้นั้นคือใคร ขอแค่ช่วยฮูหยินของข้าได้ก็พอแล้ว
“จริงสิเรื่องซ่อมแซมจวนสกุลฮวาไปถึงไหนแล้ว”
“ตอนนี้ทุกอย่างเกือบจะเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เหลือเพียงแค่เรือนด้านหลังที่จะต้องซ่อมแซมอีกหน่อย”
“เช่นนั้นสามารถให้คนของเราเข้าไปอยู่ได้เมื่อไหร่”
“หากต้องการให้คนเข้าไปอยู่สามารถเข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ เพราะส่วนอื่นซ่อมแซมเสร็จหมดแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี หนิงอันเมื่อกลับถึงจวนแล้วให้เจ้าไปแจ้งแก่บ่าวของจวนสกุลฮวาว่าให้เตรียมย้ายกลับไปอยู่ที่จวนสกุลฮวา แต่หากผู้ใดอยากอยู่ที่นี่ต่อเจ้าก็ห้ามไปบังคับพวกเขาให้ติดตามข้ากลับไปเข้าใจหรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
ในเมื่อย้ายได้เช่นนั้นก็รีบย้ายเถอะ เหลือเวลาเพียงเดือนครึ่งเท่านั้นการหย่าของนางก็จะเกิดขึ้น หากมัวแต่ขนย้ายทั้งคนทั้งของพร้อมกันตอนนั้นคงจะวุ่นวายมากเป็นแน่
หลังจากได้ซื้อสมุนไพรที่นางต้องการจนครบทุกตัวแล้วฮวาซือเล่อก็นั่งรถม้ากลับจวนสกุลหวัง นัยน์ตาคู่สวยมองห่อสมุนไพรที่ตั้งอยู่พลางคิดถึงเมนูที่จะทำออกมาในวันพรุ่งนี้
“ฮูหยินกลับมาแล้วหรือขอรับ”
เกิดอะไรขึ้นอีก!
ฮวาซือเล่อร้องตะโกนออกมาภายในใจหลังจากที่เห็นว่าพ่อบ้านซุนและแม่นมหลินยืนดักรอนางอยู่ด้านหน้าจวน หญิงสาวถอนหายใจออกมาแสดงสีหน้าเอือมระอาเพราะรู้ว่าอีกไม่นานความสงบสุขของนางในวันนี้กำลังจะหายไป
“ฮูหยินเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ อนุหลิวนาง...นางตั้งครรภ์แล้วเจ้าค่ะ”
“ตั้งครรภ์?”
“เจ้าค่ะ พวกเราจะทำเช่นไรดีเจ้าคะ”
ทำอะไรล่ะ ก็ปล่อยให้พวกเขาสร้างครอบครัวไปสิเกี่ยวอะไรกับข้ากัน
นัยน์ตาคู่สวยมองหญิงชราที่กำลังแสดงสีหน้ากังวลมากกว่านางที่เป็นฮูหยินเสียอีก จากที่ดูบุตรที่เกิดจากอนุคงไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่สินะ
“ฮูหยินไม่ต้องกังวลนะเจ้าค่ะ บ่าวจะช่วยท่านเอง”
“พวกท่านไม่ต้องลำบากหรอกข้าไม่เป็นอะไร อีกอย่างนายท่านมีทายาทนั่นนับว่าเป็นความโชคดีของสกุลหวังไม่ใช่หรือ”
“แต่ทายาทคนแรกก็ควรเกิดจากฮูหยินสิเจ้าคะ”
“วางใจเถอะขอรับอีกไม่นานนายท่านต้องเห็นความของฮูหยิน บุตรที่เกิดจากฮูหยินจะต้องได้เป็นผู้นำสกุลคนต่อไปแน่นอนขอรับ”
ใครจะไปท้องกับไอ้สวะนั่นกัน!
ฮวาซือเล่อแสร้งฝืนยิ้มออกมาไม่คิดเอ่ยอะไรออกไปอีก นางคิดว่าถึงต่อให้นางพูดอะไรออกไปพ่อบ้านซุนและแม่นมหลินคงไม่คิดเปลี่ยนความคิดอยู่ดี
ตอนนี้หลิวหรูเหม่ยก็ตั้งครรภ์แล้ว หากอ้างอิงตามนิยายอีกไม่นานฮวาซือเล่อก็จะถูกหวังเพ่ยอิงบังคับดื่มสุราพิษจนสิ้นใจเพราะนางคิดทำร้ายหลิวหรูเหม่ยกับลูกในท้อง
แต่ข้าในตอนนี้ไม่ได้คิดร้ายกับพวกเขาคงไม่ต้องกังวลอะไร
เอาเถอะรีบ ๆ หย่าแล้วไปจากความสัมพันธ์เฮงซวยนี่สักที!
บรรยากาศยามค่ำคืนทั่วทั้งเมืองหลวงเงียบสงัดผู้คนต่างนอนหลับเข้าสู่ห้วงนิทรา ทว่ามีเพียงตำหนักหมิงเย่เท่านั้นที่กำลังเกิดความวุ่นวาย เพราะเจ้าของตำหนักอย่างโจวเยว่เทียนกำลังเจ็บปวดทรมานราวกับถูกเลาะกระดูกที่ขาทั้งสองข้างทั้งยังมีอาการไอออกมาเป็นโลหิตสีดำจำนวนมาก
หมอหลวงนับสิบชีวิตถูกพาตัวมาที่ตำหนักหมิงเย่เพื่อทำการรักษา แต่พวกเขาต่างลงความเห็นว่านี่เป็นอาการพิษที่อยู่ในกายกำเริบออกมาเกรงว่าท่านอ๋องสามอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามวัน
“ไสหัวไป!”
เสียงแข็งกร้าวแฝงไปด้วยความทุกข์ทรมานของโจวเยว่เทียนดังขึ้น เขาตวาดสายตามองหมอหลวงนับสิบชีวิตที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า
เมื่อถูกเจ้าของตำหนักออกปากไล่แล้วมีหรือว่าท่านหมอจะยังยินดีอยู่ต่อ เหล่าชายชรานับสิบชีวิตรีบกรูออกจากห้องบรรทมในทันที พวกเขาล้วนรักชีวิตตนเอง ท่านอ๋องสามในยามนี้เต็มไปด้วยโทสะหากพวกเรารั้งอยู่ต่อก็มีแต่จะเอาชีวิตตนเองไปทิ้ง
ได้ยินว่าท่านอ๋องพบหมอเทวดาที่สามารถรักษาพิษของเขาได้ เห็นทีคงเป็นหมอลวงโลกเสียมากกว่าเพราะหากรักษาได้จริง ๆ พิษในกายจะกำเริบออกมาเช่นนี้ได้อย่างไร
หมอเทวดาผู้นั้นคงถึงคราวตายแล้ว ช่างใจกล้าเสียจริงที่มาหลอกลวงท่านอ๋องสามเช่นนี้
