บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ขอแค่ฮูหยินคลายโทสะอนุก็พร้อมรับโทษ

บทที่ 12

ขอแค่ฮูหยินคลายโทสะอนุก็พร้อมรับโทษ

ภายในห้องครัวของจวนสกุลหวังยามนี้มีกลิ่นหอมของน้ำแกงคละคลุ้งไปทั่ว ฮวาซือเล่อที่ตื่นตั้งแต่รุ่งสางกำลังนั่งเคี่ยวน้ำแกงสมุนไพรเพื่อนำไปมอบให้ท่านอ๋องสาม

“เอาล่ะน้ำแกงได้ที่แล้ว หนิงอันเจ้าจัดเตรียมใส่เสี่ยหนาแล้วนำไปรอข้าที่รถม้า เดี๋ยวข้าจะไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์สักครู่”

“ให้บ่าวไปช่วยฮูหยินผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ดีไหมเจ้าคะ”

“ไม่ต้องหรอก เมื่อครู่ข้าสั่งให้บ่าวคนอื่นเตรียมน้ำไว้แล้ว”

“เจ้าค่ะ”

หนิงอันรับคำสั่งก่อนจะตักน้ำแกงที่อยู่ในหม้อเทลงชามจัดเตรียมใส่เสี่ยหนา ในจังหวะที่หญิงสาวหมุนตัวตั้งใจจะเดินไปรอฮูหยินที่รถม้าก็ต้องชะงักเมื่อพบกับสตรีที่นางไม่อยากพบเจอหน้า

“คารวะอนุหลิวเจ้าค่ะ”

“นั่นอะไร”

“น้ำแกงบำรุงที่ฮูหยินทำเจ้าค่ะ บ่าวขอตัวนะเจ้าคะ”

หลิวหรูเหม่ยปรายตามองหนิงอันที่กำลังเดินออกไปจากห้องครัว ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรงในหัวนึกสมเพชฮวาซือเล่อที่คิดทำน้ำแกงเอาใจสามี

“ฮวาซือเล่อเจ้าช่างโง่เขลานักคิดหรือว่าท่านพี่จะสนใจเจ้าเพียงเพราะน้ำแกงชามเดียว”

ต่อหน้าข้าทำเป็นไม่สนใจ แต่ลับหลังกลับวางแผนแย่งชิงความรักของท่านพี่จากข้า ก็ดีในเมื่อเจ้าคิดจะแย่งชิงเช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าต่อให้เจ้าทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา ในสายตาของท่านพี่ก็มีเพียงข้าเท่านั้น

ด้านฮวาซือเล่อรีบอาบน้ำชำระร่างกายผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เพราะก่อนที่นางจะไปพบกับท่านอ๋อง นางคิดจะแวะไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านค้าก่อนเพราะถึงอย่างไรก็เป็นทางผ่านพอดี

อีกอย่างเวลานัดหมายกับท่านอ๋องก็คือยามบ่าย นางยังพอมีเวลา

“อนุหลิวเหตุใดทำเช่นนี้ เจ้าตั้งครรภ์อยู่นะ”

เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นด้านหน้าทำให้ฮวาซือเล่อที่กำลังย่างกายออกไปจากห้องชะงักฝีเท้าครู่หนึ่ง นางจำได้ว่านั่นเป็นเสียงแม่นมหลินไม่ใช่หรือ

เดี๋ยวสิเมื่อครู่นางพูดว่าอนุหลิว?

อย่าบอกนะว่ามาสร้างเรื่องอะไรให้ข้าปวดหัวอีก!

“เกิดอะไรขึ้นแม่นมหลิน”

ร่างบางย่างกายเดินตรงไปที่ประตูนัยน์ตาแฝงไปด้วยความสงสัย คิ้วทั้งสองของนางก็ขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าคุ้นเคยกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นหน้าห้องนอนของนาง

“ฮูหยินอนุหลิวนาง.....”

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่” ฮวาซือเล่อเอ่ยถามหลิวหรูเหม่ยที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าน้ำเสียงแฝงไปด้วยความแปลกใจ

“อนุทำผิดต่อฮูหยินจึงมารับโทษเจ้าค่ะ”

“รับโทษ?”

“อนุจะคุกเข่าอยู่บนพื้นเช่นนี้จนกว่าฮูหยินจะคลายโทสะลงเจ้าค่ะ”

อ่า..นึกออกแล้ว..

ในนิยายก็มีฉากเช่นนี้อยู่จำได้ว่านางเอกถูกนางร้ายให้คุกเข่าสำนึกผิดหน้าเรือนนอน เพราะความโกรธที่มีอยู่ทุนเดิมจึงคิดระบายโทสะในใจสั่งคนกลั่นแกล้งนางเอกจนพระเอกมาเห็นและเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือ

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกรักกันมากขึ้น ต่างจากนางร้ายที่พระเอกนั้นรู้สึกเกลียดชังนางยิ่งกว่าเดิม

“ฮูหยิน ทำเช่นไรดีเจ้าคะ”

“ช่างเถอะ ในเมื่อนางอยากคุกเข่าก็ให้นางทำไป ข้ามีสิ่งที่ต้องทำมากมายไม่มีเวลามาสนใจเรื่องไร้ประโยชน์เช่นนี้หรอก”

“แต่ว่า....หากนายท่านมาเห็นคงเข้าใจฮูหยินผิดเป็นแน่” แม่นมหลิวเอ่ยออกมาน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล แค่นี้ความสัมพันธ์ของฮูหยินและนายท่านก็แย่พอแล้ว อนุหลิวผู้นี้ยังคิดจะสร้างปัญหาอีก

ฮวาซือเล่อปรายตามองหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า แม้หลิวหรูเหม่ยจะบอกว่าสำนึกผิดแต่แววตาของนางนั้นไม่แสดงถึงความรู้สึกผิดเลยสักนิด

ทั้งหมดเป็นแผนสินะ

“ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าต้องการอะไรจึงทำเช่นนี้ แต่ข้าจะพูดให้ชัดเจนอีกครั้งว่าข้าไม่คิดแย่งชิงบุรุษโง่นั่นกับเจ้า”

“ฮูหยินอนุไม่ได้คิดวางแผนร้าย อนุบังอาจตั้งครรภ์ก่อนฮูหยินจึงทำให้ฮูหยินเกิดโทสะ อนุรู้ความผิดตนเองจึงมาเพื่อรับโทษ”

“ข้าสั่งหรือ?”

“อนุแค่....”

“อย่าได้คิดใช้แผนสกปรกเพื่อมาใส่ความข้า จะทำอะไรก็ควรนึกถึงเด็กในท้องของเจ้าด้วย”

ฮวาซือเล่อตัดสินใจที่จะไม่สนใจหลิวหรูเหม่ยอีก ในเมื่อนางอยากคุกเข่าก็ตามใจนางข้าไม่ได้สั่งให้นางทำเสียหน่อย

อีกอย่างหากนางยังมีความเป็นแม่ก็น่าจะรู้ดีว่าทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องตนเอง ในเมื่อยั่วโมโหข้าไม่ได้อีกเดี๋ยวก็คงลุกขึ้นเอง

เมื่อหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วรถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากด้านหน้าจวน ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางคือร้านขายเครื่องประดับของสกุลหวัง

“ฮูหยินข้าน้อยจัดเตรียมสมุดบัญชีไว้ให้ท่านตรวจสอบที่ด้านหลังร้านแล้วขอรับ”

เพราะยังมีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง ทำให้หญิงสาวทำทุกอย่างเช่นปกติไม่มีข้อบกพร่อง ฮวาซือเล่อใช้เวลาตรวจสอบบัญชีหลายเล่มที่อยู่ตรงหน้าอยู่ประมาณหนึ่งชั่วยามก่อนจะปิดสมุดบัญชีเล่มสุดท้ายลง

“ข้าตรวจสอบแล้วบัญชีไม่มีปัญหาอะไร ท่านทำงานได้ดี”

ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่ดูแลร้านคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้รับคำชม เขารู้ว่าฮูหยินเป็นคนละเอียดรอบคอบเพียงใดการที่จะยักยอกหรือทำบัญชีปลอมนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

เพราะแบบนี้เขาจึงซื่อสัตย์ไม่คิดยักยอกเพื่อรักษางานนี้ไว้

“นายท่านก็กลับมาเมืองหลวงหลายเดือนแล้ว อีกไม่นานคงเป็นนายท่านที่มาตรวจบัญชีร้านใช่ไหมขอรับ”

“ถามเช่นนี้เจ้าไม่อยากให้ข้าเป็นคนมาตรวจบัญชีหรือ”

“ไม่ ไม่ขอรับ ข้าเพียงไม่ได้พบนายท่านนานแล้วเท่านั้น”

ฮวาซือเล่อคลี่ยิ้มออกมาสายตาจับจ้องไปที่ชายตรงหน้าแววตานั้นยากจะคาดเดา ในความทรงจำคนผู้นี้แม้จะไม่ใช่คนละโมบแต่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร ในอดีตฮวาซือเล่อที่เข้ามาตรวจสอบบัญชีเป็นครั้งแรกจับได้ว่าเขาแอบยักยอกเงินในร้าน

แต่ที่ยังให้เขาดูแลร้านนั่นก็เพราะคำสั่งของหวังเพ่ยอิง เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายทำงานมานานเขาจึงเลือกที่จะไว้ใจไม่ฟังคำคัดค้านของฮวาซือเล่อด้วยซ้ำ

แบบนี้หากนางหย่าไปเขาคงถูกโกงจนหมดตัวเป็นแน่

“หนิงอัน พวกเราไปกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

ร่างบางยันกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าร้าน ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พบลูกค้าหลายคนที่กำลังเลือกซื้อเครื่องประดับในร้าน

“แม่นาง”

เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังทำให้หญิงสาวทั้งสองหันไปสนใจ ฮวาซือเล่อคลี่ยิ้มออกมาเมื่อพบบุรุษที่นางคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

“เสี่ยวอะ.....”

“ข้ามีสมุนไพรหายากที่แม่นางตามหาอยู่ขอรับ แม่นางตามข้าไปดูสักครู่ได้หรือไม่ขอรับ”

เสี่ยวอี้เอ่ยตัดบทเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายพูดถึงชื่อของตน การแต่งตัวของชายหนุ่มยามนี้หาใช่องครักษ์หนุ่มแต่อย่างใดกลับคล้ายคนหาสมุนไพรยากจนเสียมากกว่า

“ไปที่ใดหรือเจ้าคะ”

“บ้านของข้าขอรับ”

ชายหนุ่มเอ่ยตอบหญิงสาวตรงหน้าใบหน้าแฝงไปด้วยความกังวล เพราะอาการของท่านอ๋องตอนนี้แม้แต่หมอหลวงก็รักษาไม่ได้ ความหวังเดียวของเขาคือสตรีตรงหน้าเท่านั้น

หญิงสาวเริ่มอ่านสถานการณ์ออกเข้าใจว่าเสี่ยวอี้ต้องการให้นางตามไปแต่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนต่อหน้าผู้อื่น จากที่เห็นท่าทางกังวลของเขาคาดว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีกับท่านอ๋อง

“หนิงอันเจ้าไปรอข้าที่หอซูเมิ่งก่อน”

“แต่ว่า....”

“ข้าจะต้องรีบไปพบคนผู้นั้น หนิงอันเจ้ารอข้าอยู่ที่หอซูเมิ่งได้ใช่ไหม”

“เจ้าค่ะ บ่าวเข้าใจแล้ว”

หนิงอันรับคำนัยน์ตาคู่สวยมองแผ่นหลังของผู้เป็นนายที่กำลังเดินตามบุรุษแปลกหน้าออกไปด้านนอกร้าน ไม่รู้ทำไมนางถึงรู้สึกคุ้นหน้าของบุรุษผู้นั้นนัก

ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel