ตอนที่ 9 ปฏิเสธไม่ได้
“มันไม่มีทางอื่นอีกแล้วหรอคะ หนูไม่อยากแต่งงานกับเขาจริงๆนะ”
“ลูกต้องทำ เพราะทางนั้นเขาตอบตกลงแล้ว”
“หนูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแต่งงาน มันมีทางออกอีกตั้งเยอะแยะ แบบนี้ก็เท่ากับว่าคลุมถุงชนชัดๆ!” ทิชากรยังยืนกรานปฏิเสธ จู่ๆเตวิชญ์ก็ตอบตกลงทั้งๆที่วันก่อนยังปฏิเสธเสียงแข็ง
มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่ๆ เพราะเตวิชญ์เกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรแล้วทำไมถึงตอบตกลงอย่างง่ายดาย มันชักจะไม่ชอบมาพากลแล้ว
“เมื่อก่อนแม่กับคุณหญิงเทียมศิริเคยให้สัญญากันว่าถ้ามีลูกสาวกับลูกชายจะให้แต่งงานกัน”
“มันก็แค่สัญญาลมปาก นี่มันสมัยไหนแล้ว แม่ก็เห็นว่าคุณเตวิชญ์เขาไม่ชอบหนู”
“จะรักหรือเกลียดก็ต้องทน เพราะมันคือทางออกเดียวที่จะทำให้โรงพยาบาลของเราไปต่อได้ หรือลูกอยากให้ครอบครัวของเราเป็นบุคคลล้มละลายมีหนี้สินติดตัวหลายพันล้าน แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วลูก...ถือซะว่าทำเพื่อครอบครัวของเรานะ”
“แม่คิดหรอว่าการที่คุณเตวิชญ์ตอบตกลงทั้งๆที่เขาเกลียดหนูจะเป็นจะตายแล้วเขาจะหวังดีกับเรา อีกอย่าง...เขาก็มีคนที่ชอบแล้วด้วย วันนั้นแม่ก็ได้ยินไม่ใช่หรอ”
“แต่คุณหญิงเทียมศิริเธออยากอุ้มหลาน”
“มะ...หมายความว่าหนูต้องมีลูกด้วยหรอคะ! ไม่นะ! หนูยังไม่พร้อม อีกอย่างคุณเตวิชญ์เขาก็เกลียดหนูซะขนาดนี้คงไม่อยากแตะต้องตัวหนูหรอก”
จะบ้าตายรายวัน! แค่แต่งงานก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดแล้ว ยังต้องมีลูกกับเตวิชญ์อีก ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ แค่นี้เขาก็เกลียดเธอจนแทบไม่อยากจะมองหน้าแล้ว!
“ทำไมต้องเป็นหนู! คนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ อยากอุ้มหลานทำไมไม่ไปจ้างแม่อุ้มบุญล่ะ”
“ตอนนี้แม่คิดว่ามันก็ถึงเวลาสมควรแล้ว ลูกเองก็ยังไม่มีใคร ส่วนเตวิชญ์ก็ยังไม่มีใครเหมือนกัน บางทีแต่งงานกันแล้วอาจจะรักกันก็ได้” คนเป็นแม่คว้ามือลูกสาวเข้ามากุม ทิชากรหันหน้าเศร้ามา เธอยังชอบเตวิชญ์อยู่ก็จริงแต่มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยเพราะมันเป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก คงไม่ต่างอะไรจากตกนรกทั้งเป็น “อดทนหน่อยนะ แม่เองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก...แต่ลูกคือความหวังเดียวของครอบครัวจริงๆ”
“หนูเลือกอะไรได้บ้าง ชีวิตหนูไม่เคยทำอะไรให้แม่ภูมิใจเลย...ไม่เหมือนพี่พีท”
“ลูกก็กำลังจะทำให้แม่ภูมิใจนี่ไง ถึงมันจะเป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักก็เถอะ แม่กับพ่อเองก็แต่งงานเพราะความต้องการของผู้ใหญ่เหมือนกัน ทุกวันนี้ยังรักกันได้เลย”
“แต่ผู้ชายคนนั้นเขาไม่เหมือนคุณพ่อนะคะ”
“แม่ถึงบอกไงว่าให้ลูกอดทน จะทุกข์หรือสุขก็เก็บไว้ในใจ ถือซะว่าทำเพื่อครอบครัวของเรานะ”
บางครั้งโชคชะตาอาจจะกำลังเล่นตลกกับเธออยู่ก็ได้ จู่ๆฟ้าก็ส่งผู้ชายคนนั้นกลับมาแถมยังเป็นว่าที่สามีของเธออีก เธอต้องดีใจใช่ไหมที่จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่แอบชอบ
เขาจำไม่ได้เลยหรอว่าเคยช่วยชีวิตของเธอไว้ หลังจากเห็นนามสกุลที่หน้าอกข้างซ้ายก็ตามสืบจนรู้ว่าเขาคือใคร บางครั้งก็อยากคิดเหมือนกันว่าผู้ชายที่เคยช่วยเธอไว้ไม่ใช่เตวิชญ์ เพราะเขาปฏิเสธตลอดว่าไม่เคยช่วยเธอ
ภาระหนี้สินอันแสนหนักอึ้งของโรงพยาบาลตกมาอยู่ที่คนไม่มีประโยชน์อย่างเธอ ถึงเวลาที่ต้องทำเพื่อครอบครัวแล้วสินะ จะสุขหรือทุกข์ก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้ แต่เธอคิดว่าคนอย่างเตวิชญ์ไม่มีทางมาดีแน่ๆ ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังจำฝังใจกับสิ่งที่เธอเคยทำกับรมิดา
เตวิชญ์กับพี่ชายของเธอชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เธอเกลียดที่รมิดามาแย่งความรักจากพี่ชายไปแถมยังทำให้คนในครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งกันอีก เธอ...ผู้เป็นน้องสาวต้องปกป้องครอบครัวอยู่แล้ว ยิ่งมารู้ทีหลังว่าเตวิชญ์เองก็ชอบผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน มันก็ยิ่งทำให้เธอเกลียด พยายามทำทุกวิถีทางให้พี่ชายเลิกกับผู้หญิงคนนั้น
แต่การที่เธอทำร้ายผู้หญิงที่เตวิชญ์ชอบ มันทำให้เขาพลอยเกลียดเธอไปด้วย
...บางทีชีวิตหลังแต่งงานอาจจะเหมือนตกนรกทั้งเป็นก็ได้!
.