ตอนที่ 7 ผมขอปฏิเสธ
“มาแล้วครับ ไหนล่ะ...ว่าที่คุณเมียของผม!”
เสียงนี้มัน...ทำไมถึงได้คุ้นหูแบบนี้ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ทำให้เธอนึกถึงชายคนหนึ่งที่มีน้ำเสียงโทนเดียวกัน
พรึ่บ!
“ฮ้ะ!! นะ..นี่เธอ!!/นี่คุณ!!” ทั้งสองคนชี้หน้ากันเหมือนจะเอานิ้วจิ้มให้ตาบอดกันไปคนละข้าง
“อ่าว นี่ลูกสองคนรู้จักกันแล้วหรอ”
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!” เตวิชญ์เปิดฉากถาม “อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือเธอ!”
“อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นก็คือคุณ!”
“นี่เธออยากได้ฉันเป็นผัวขนาดนั้นเลยใช่มั้ย!” เตวิชญ์แทบอยากบีบคอคนตัวเล็กให้ตายคามือ เขาเกลียดเธอ เกลียดจนเข้ากระดูกดำ อีกทั้งยังรู้สึกขยะแขยงผู้หญิงจิตใจสกปรกคนนี้ที่สุด ใครได้ไปเป็นภรรยาคงไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็น!
“นั่งลงก่อนสิเต้ นี่คุณอมรรัตน์เพื่อนสนิทของแม่เอง และนี่ก็คือหนูแพม...ว่าที่ภรรยาของเต้ไง”
“ที่ผมมาไม่ใช่เพราะตกลง แต่ผมมาเพราะไม่อยากให้แม่เสียหน้าต่างหาก!”
“แต่เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอ”
“นั่นมันก่อนที่ผมจะรู้ว่าผู้หญิงที่แม่หาให้เป็นใคร”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก แม่ว่านั่งลงก่อนดีกว่านะ”
เตวิชญ์ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางหงุดหงิดแล้วทิ้งสะโพกลงนั่งอย่างไม่เต็มใจ ทำให้สองแม่ลูกนั่งมองตาไม่กระพริบ ส่วนชายหนุ่มก็ไม่หันหน้าไปสบตากับแขกเลย
ทิชากรบีบมือเข้าหากัน ไม่คิดว่าหวยจะไปลงที่ผู้ชายคนนี้ หากต้องแต่งงานกันจริงๆ เธอต้องแย่แน่ๆ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีลูกชายของอิฉันแกเป็นคนค่อนข้างขี้หงุดหงิดค่ะ สงสัยตอนเด็กๆ ถูกตามใจเกินไป”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ลูกสาวของอิฉันเองก็ไม่ต่างกัน ดีซะอีก คนนึงเป็นไฟอีกคนเป็นน้ำมัน...อลังการจะตาย”
แม่ของทั้งสองฝ่ายหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกขบขัน ในขณะที่เตวิชญ์นั่งกำหมัดแน่น สายตาจ้องไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เธอเอาแต่ก้มหน้างุด คงอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่นล่ะสิท่า แต่เสียใจนะ! ผู้ชายอย่างเตวิชญ์ไม่มีทางเอาผู้หญิงแบบนี้มาทำพันธุ์หรอกเพราะเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว
“ถ้าลูกทั้งสองรู้จักกันแล้วแม่ก็คงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก”
“ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้ดี....รู้ดีกว่าใคร”
“แหม...ถ้าเป็นเรื่องราวในอดีตแม่ว่าอย่ายกมาเป็นประเด็นเลยนะ เมื่อก่อนลูกเองก็เคยมีเรื่องตีรันฟันแทงเหมือนกัน อดีตมันก็คืออดีต ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย”
“เหมือนแม่อยากให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้จังเลยนะครับ”
“แม่อยากเห็นเต้มีครอบครัว ก็ลูกเปลี่ยนผู้หญิงทุกเดือนจนแม่กลัวว่าจะเป็นโรคตายเสียก่อน”
“ผมป้องกันดีครับไม่ต้องห่วง แต่เรื่องที่คุณแม่ขอ...ผมคงทำให้ไม่ได้แล้วล่ะครับ” ดวงตาคมตวัดมองหน้างาม ทิชากรหลบสายตาแทบไม่ทัน “เพราะผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ทิชากรหน้าชาจนอยากลุกหนีออกไปให้พ้นๆ
“ไหนล่ะคนที่ลูกชอบ แม่เห็นลูกพูดแบบนี้มาหลายปีแล้วนะ”
“อย่างน้อยผู้หญิงนั้น...ก็ยังดีกว่าผู้หญิงจิตใจหยาบกระด้างแบบนี้ก็แล้วกัน”
“โอ้ยตายแล้ว! ให้เกียรติคนอื่นบ้างลูก ดูสิ หนูแพมหน้าซีดหมดแล้ว”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ” ทิชากรฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ใจแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี ไม่เคยอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้มาก่อน เธอรู้ดีว่าผู้หญิงที่เขาพูดถึงเป็นใคร
อย่างน้อยก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง
“ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณอมรรัตน์ ลูกชายของอิฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบพูดอะไรตรงๆ อย่าถือโทษโกรธเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหญิง ตอนเด็กๆ ทั้งสองอาจจะเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน ตรงตามตำราเลยนะคะ...เกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น”
ทิชากรสังเกตเห็นอีกฝ่ายเบ้ปากแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังเบื่อหน่าย ในเมื่อไม่ใช่คนที่เขาต้องการ เธอจะเป็นฝ่ายยกเลิกข้อตกลงเอง
“ลูกทำให้แม่อับอายขายขี้หน้ามากรู้ไหม!”
“อายตรงไหนครับ ผมก็แค่ปฏิเสธการแต่งงานเฉยๆ” เตวิชญ์ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่มสบายใจเฉย ส่วนคนเป็นแม่ก็นั่งหน้านิ้วคิ้วขมวดอยู่บนโซฟา “ถ้าให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น...ขอยอมตายดีกว่า”
“แม่ก็แค่อยากให้ลูกแต่งงานมีครอบครัว แม่อยากอุ้มหลานแล้วนะเต้”
“แค่หลานผมผลิตให้แม่ได้ แต่ถ้าจะให้ผมเอาผู้หญิงคนนั้นเป็นเมีย....ผมขอบายครับ”
“แล้วลูกจะทำตัวเสเพลไปถึงเมื่อไหร่ แม่อยากให้ลูกมาช่วยธุรกิจในครอบครัว แต่ลูกกลับไปทำอะไรก็ไม่รู้!”
“แต่สิ่งที่ทำ...มันก็ทำให้ผมเลี้ยงตัวเองได้นะครับ”
“ที่บ้านเราก็มีธุรกิจ ไม่เห็นต้องไปทำงานอย่างว่าเลย รู้ไหมว่าแม่อายที่ลูกชายคนเดียวของแม่หากินกับผู้หญิง!”
“ผมบอกแม่หลายครั้งแล้วนะครับว่าที่ผับไม่มีเรื่องอย่างว่าแน่นอน อีกอย่างที่นั่นก็ถูกต้องตามกฎหมาย ใครจะว่าอะไรผมก็ไม่สนทั้งนั้น”
เตวิชญ์มั่นใจว่าที่ผับของเขาไม่มีเรื่องอย่างว่าแน่นอน ขนาดไอ้หมีควายแอบฉุดทิชากรออกมาเขายังตามออกมาช่วยเลย การทำงานกลางคืนมันอาจจะไม่ใช่อาชีพที่น่ายกย่อง แต่มันก็เป็นอาชีพสุจริตช่วยให้พวกเขาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้โดยไม่เดือดร้อนคนอื่น
อีกอย่างผู้ชายที่ยังรักสนุกอย่างเขา ไม่ชอบการผูกมัดกับใครและไม่ชอบมีพันธะในชีวิต
“ก็ได้ ถ้าลูกยังไม่เลิกทำงานพวกนั้น แม่ยกจะมรดกทุกอย่างให้คีย์ แล้วหลังจากนี้เราก็ไม่ต้องเจอกันอีก!!”