บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ระหว่างทางไปริมแม่น้ำนางพบต้นตั๊กแตนผึ้งจีน ฝักของมันใช้ซักผ้าได้ นางรู้มาจากการไปถ่ายรายการหนึ่งในชนบท นางเด็กฝักแห้งติดมือมาหลายฝัก ชาวบ้านมาซักผ้าริมแม่น้ำกันหลายคน นางเพียงแค่ยิ้มตอบเมื่อคนเหล่านั้นมองมาที่นาง

ซูหนี่นำฝักจ้าวเจียวมาทุบแล้วลอกออกให้เหลือแต่ด้านในสีขาว นำมาขยี้กับผ้า นางซักอยู่หลายรอบเมื่อดมจนหมดกลิ่นก็ยิ้มอย่างพอใจ ชาวบ้านมองนางแล้วกระซิบกระซาบกัน ซูหนี่ไม่มีเวลาที่จะสนใจ หากนางมาอยู่ในร่างของซูหนี่นางร้ายจริงก็คงไม่แปลกหากพวกเขาจะเห็นนางยิ้มแล้วตกใจ

ซูหนี่กลับมาถึงนางก็จากผ้าจนเสร็จแล้วเริ่มทำความสะอาดในบ้าน เจ้าของร่างเดิมคงไม่เคยทำอะไรเลยในบ้านจึงสกปรกและรกไปหมด ในครัวนางก็ล้างและขัดหม้อใหม่ทั้งหมด นางอยากต้มน้ำเพื่อล้างจานแต่นางจุดไฟไม่เป็น เด็กทั้งสองมองการกระทำของนางอยู่ตลอด ถึงจะอายุแค่สามขวบพวกเขาก็รู้เรื่องมากนัก

"จุดไฟเป็นหรือไม่" อาจจะดูแปลกที่ถามเด็กสามขวบว่าจุดไฟเป็นหรือไม่ แต่เพราะนางทำไม่เป็นไง นางจึงต้องถามไปก่อน คนพี่เดินมาส่งตะบันไฟให้นาง

"ใช้เช่นไร" นางเกาจมูกอย่างเขินอาย แต่ก่อนที่เด็กชายจะตอบนางก็มีเสียงบุรุษดังขึ้น

"เจ้าจะทำอันใด" เขาดึงเด็กทั้งสองคนไปไว้ด้านหลัง นางขมวดคิ้วมอง เพราะนางยังไม่ได้ทำอะไรเลย

"ข้าจะจุดไฟต้มน้ำ เพียงถามเด็กน้อยเท่านั้นว่าใช้ยังไง" เขาไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ เพียงจูงมือเด็กทั้งสองออกไป

นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากเริ่มศึกษาสิ่งที่อยู่ในมือว่าใช้เช่นไร นางจ้องมองอย่างสงสัยหรือจะใช้ขูดกับพื้น เมื่อนางลองก็ไม่ใช่ นางหมดหนทางจึงเป่าลมออกทางปาก

"ตะ ติดแล้ว ฮ่า ฮ่า ติดแล้ว" นางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นนางก็นำฟางข้าวใกล้ๆมาก่อไฟใส่ฟืนลงไป ทุกอย่างดูทุลักทุเลเป็นอย่างมาก

ซูหนี่ต้มน้ำลวกจานชามช้อนเสร็จ นางก็เริ่มทำอาหาร ในครัวมีเพียงปลายข้าว ข้าวสาร แป้ง ไข่อยู่สองฟอง เกลือ น้ำมัน ของทั้งหมดมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางถอนหายใจ ต่อไปคงต้องออกไปหาของป่าขายแล้วจริงๆ

นางเดินออกไปด้านนอกเพื่อเก็บผักที่จ้าวหนิงหลงได้ปลูกไว้มาทำอาหารไปก่อน หัวมันข้างประตูในครัวมีอยู่หลายหัว นางจึงนำมาล้างแล้วหั่นต้มรวมกับปลายข้าว ไข่ทั้งสองใบ นางนำไปตุ๋นให้เด็กน้อยทั้งสองกิน แล้วนางก็ผัดผักเพิ่มอีกหนึ่งจาน แม้เครื่องปรุงจะน้อยแต่ก็กินได้

จ้าวหนิงหลงแอบมองทุกการกระทำของนาง ตั้งแต่ที่นางตื่นขึ้นมาเขาก็รู้แล้วว่านางไม่เหมือนเดิม หลังจากวันนั้นที่นางวางยาเพื่อจับเขา เมื่อนางรู้ว่าเขามิได้เต็มใจที่จะแต่งนาง นิสัยของนางก็เริ่มร้ายกาจขึ้น หากไม่ใช่ว่านางตั้งท้องอยู่เขาคงจะทิ้งนางไปนานแล้ว

คิดว่าหากมีลูกนางจะดีขึ้น แต่เปล่าเลยนางยิ่งร้ายกาจขึ้นตบตีกับสตรีไปทั่วเพียงแค่สตรีพวกนั้นส่งสายตาให้เขากับลี่อินยิ่งแย่ไปใหญ่ ด้วยลี่อินเป็นสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วย หากนางพบเจอก็จะด่าทออย่างรุนแรง แม้เขาจะพูดกับนางนับครั้งไม่ถ้วนว่าเขากับลี่อินมิได้เป็นอะไรกันแล้วแต่นางก็ไม่เคยยอมเชื่อ

กับลูกทั้งสองนางก็ไม่สนใจทั้งลงมือทุบตีทุกครั้งที่เขาออกไปข้างนอก ตอนที่เขาเป็นบัณฑิตซิ่วไฉนางลงมือวางยาเขา แต่ตอนนี้ที่เขาไม่ได้ร่ำเรียนต่อแล้ว นางจึงคิดที่จะเป็นดอกซิ่งยื่นออกนอกกำแพง(นอกใจ) ให้กับ เผยเทียน บัณฑิตในเมืองอนาคตไกล

ครั้งนี้ที่นางนอนซมเป็นเพราะนางกระโดดลงไปในน้ำหวังให้เผยเทียนช่วยเหลือ แต่เผยเทียนมิได้สนใจนาง จนชาวบ้านแถวนั้นต้องนำตัวนางมาส่งที่บ้านแทน

จ้าวหนิงหลงที่ต้องหยุดเรียนไปเพราะต้องแต่งงานกับซูหนี่ เงินที่เก็บไว้สำหรับเดินทางไปสอบต้องยกให้เป็นเงินค่าสินสอดของนาง ในปีนี้จะมีการสอบจวี่เหรินในอีกหกเดือนข้างหน้า เขาต้องออกจากบ้านไปรับจ้างเขียนจดหมาย คัดตำราเก็บเงินไว้เพื่อเดินทางไปสอบ แต่นางเป็นเช่นนี้เขาจะตัดใจทิ้งบุตรชายทั้งสองไว้กับนางได้อย่างไร

เกาซูหนี่เป็นหญิงสาวที่มาจากหมู่บ้านถงสือ นางตามพี่ชายมาพบสหายจึงได้มาเจอกับจ้าวหนิงหลง จ้าวหนิงหลงเป็นเด็กกำพร้าเสียบิดามารดาจากโรคระบาด อยู่กับท่านย่าเพียงสองคน

จนเมื่อห้าปีที่แล้วท่านตาก็ป่วยตายจากไปเขาจึงใช้ชีวิตตามลำพัง แต่เงินทองที่มีก็หมดไปกับการรักษาท่านย่าเป็นส่วนใหญ่ ที่ดินมีเพียงสิบหมู่เขาก็ปล่อยเช่าได้เงินมาเล็กน้อยต่อปีเท่านั้น

ครอบครัวของซูหนี่ที่หมู่บ้านถงสือมีพี่ชายกับมารดาของนางอยู่กันสองคน ถึงนางจะเป็นสาวงามของหมู่บ้านแต่ด้วยนิสัยของนางที่ร้ายกาจทำให้บุรุษในหมู่บ้านไม่กล้าสู่ขอนาง พี่ชายของนางขยันทำงาน นิสัยแสนซื่อจึงไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกันจริงๆ มารดาของนางก็นิสัยเช่นเดียวกับพี่ชายมีเพียงนางเท่านั้นที่แตกต่างจากตนในครอบครัว

หากไม่เห็นด้วยตาตนเองว่านางเป็นคนซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร ต่อให้ใครว่าพูดเขาคงมิกล้าจะเชื่อ

ซูหนี่ยกอาหารออกไปให้ทุกคนได้กิน แต่ดูเหมือนทั้งสามจะไม่กล้ากินสิ่งที่นางนำมาให้ นางตักข้าวให้ทุกคน เมื่อเสร็จแล้ว นางกำลังจะนั่งกินในส่วนของตน แต่ไม่มีใครขยับตะเกียบสักคนเดียว นางถอนหายใจหากนางยังนั่งอยู่ตรงนี้พวกเขาคงไม่ยอมกินแน่ นางจึงยกชามของตนไปนั่งกินในห้องครัว

เมื่อซูหนี่ออกไปแล้ว จ้าวหนิงอันก็ลูบท้องของตนเอง กลิ่นอาหารข้างหน้าช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก

"ท่านพ่อ ข้ากินได้หรือไม่" หนิงอันเอ่ยถาม แม้แต่หนิงเฉิงก็ตั้งแต่คอยอย่างคาดหวัง

"กินกันเถอะ" จ้าวหนิงหลงขยับตะเกียบ จากนั้นทุกคนก็เริ่มกิน

"อร่อยมาก" หนิงอันพูดทั้ง ๆ ที่ข้าวเต็มปาก

แม้หนิงหลงกับหนิงเฉิงจะไม่ได้พูดออกมาแต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่าอาหารตรงหน้าอร่อยมากจริงๆ แต่นางที่ไม่เคยแม้แต่จะเข้าครัวจะทำอาหารอร่อยเช่นนี้ได้จริงๆหรือ

ซูหนี่เมื่อกินเรียบร้อยนางก็ล้างจานชามเก็บ นางยังคงนั่งอยู่ในครัวเพื่อรอให้จ้าวหนิงหลงกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนนางจะขอคุยกับเขา เมื่อเห็นฟ้าใกล้มืดแล้วนางจึงต้มน้ำเพื่ออาบแล้วยังต้มเพื่อให้ทุกคนด้วย ฝักจ้าวเจียวยังเหลืออยู่ระหว่างที่รอทุกคนกินข้าวเสร็จนางจึงไปอาบน้ำก่อน

นางทนไม่ได้หากจะไม่ได้อาบน้ำในคืนนี้ หลังจากที่ได้อาบน้ำสระผมเรียบร้อยแล้วก็เหมือนได้ชีวิตใหม่

จ้าวหนิงหลงนำชามมาล้างเก็บแล้ว นางแต่งตัวเสร็จแล้วออกมาจากห้อง ผมที่ยังไม่แห้งดีนางก็ปล่อยให้สยาย เห็นเด็กน้อยสองคนยังนั่งที่ห้องโถงนางจึงบอกให้เขาไปอาบน้ำ แต่ทั้งคู่เหมือนจะไม่เข้าใจ

"ข้าอาบน้ำให้ดีหรือไม่" ทั้งคู่ขยับตัวหนีทันที เพราะทั้งคู่ยังฝังใจที่ร่างเดิมอาบน้ำไปตีไปนั้นเอง

"งั้นไปอาบกันเองได้หรือไม่" นางยังคงพูดให้ทั้งคู่ไปอาบน้ำอยู่ เพราะเล่นมาทั้งวันจะไม่อาบน้ำก่อนนอนได้อย่างไร

"เจ้าไม่ต้องยุ่ง" จ้าวหนิงหลงเดินมาจูงบุตรชายทั้งสองไปอาบน้ำ นางยังคงนั่งรอที่ห้องโถงเพื่อพูดคุยกับเขา

กว่าทั้งสามจะอาบน้ำเสร็จนางที่เหนื่อยทำความสะอาดบ้านมาทั้งวันตาก็จะปิดเสียแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเขาพาบุตรชายเข้านอนนางจึงเรียกเขาไว้

"เอ่ออ ท่าน ข้าขอคุยด้วยได้หรือไม่" เขาไม่ได้พูดอันใดนอกจากเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับนาง

"เอ่อออ ข้า ข้า จะขออาศัยอยู่ก่อนได้หรือไม่ หากข้าหาเงินได้มากพอก็จะย้ายออกไป" เขามองนางอย่างพิจารณา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel