ตอนที่ 1
อี้เหลียน
15 ปีต่อมา
"ท่านป้าขอรับ"
"หลานอี้ ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าให้เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"
"ข้าลืมตัวไปขอรับข้าต้องเรียกท่านว่าท่านพี่"
"ต่อไปห้ามลืมเด็ดขาด แล้วเจ้ามีเรื่องอะไรถึงได้วิ่งมาเดี๋ยวก็หกล้มได้แผลมาอีกหรอก"
" อ๋อเรื่องที่ข้าอยากจะบอกท่านพี่ก็คือข้าอยากไปเรียนหนังสือกับผู้อื่นบ้างนะขอรับ ข้าอยากมีเพื่อนไปเรียนหนังสือไปทำอะไรหลายๆอย่างกับเพื่อนคนอื่นๆบ้าง ไม่ใช่ว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดเวลา"
" ตัวของเจ้าอยากไปมากหรือไม่"
" ข้าอยากไปที่สุดเลยขอรับ"
" พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปลองสอบดูถ้าสอบติด ข้าก็จะให้เจ้าไปเรียน"
" ก็ดีนะขอรับ"
" เช่นนั้น พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวถ้าเจ้าสอบได้ก็เข้าเรียนถ้าสอบไม่ได้ก็ต้องเรียนที่นี่กับข้า"
" ได้ขอรับข้าจะตั้งใจสอบให้ดีที่สุด"
" เจ้าไปอ่านหนังสือแล้วก็ลองไปสอบดูถ้าติด ก็จะได้เรียนที่นั่น"
" ท่านพี่ใจดีที่สุดเลยขอบคุณมากนะขอรับ"
ร่างบางของเด็กหนุ่มวัยเพียง 15 ปียิ้มหวานใบหน้าที่ขาวผ่องมีน้ำมีนวลส่งยิ้มมายังผู้ที่มีฐานะเป็นฉันป้า หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าท่านลุงก็ได้ ที่นางให้เด็กน้อยผู้นี้เรียกนางว่าท่านพี่เพราะนางมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์เช่นสตรีวัยเพียง 16 ปีเพียงเท่านั้น ถ้านางถูกเรียกว่าท่านป้าก็จะถูกผู้คน สงสัยเอาได้เรื่องอายุที่แท้จริงของนาง
เหตุเพราะนางนั้นได้ฝึกวิชามาร ที่มีชื่อเรียกว่าวิชาหัตถ์เทพโลหิต จึงทำให้ไม่สามารถแก่หรือตายได้และยังมีใบหน้าอ่อนเยาว์ทุกปีตัวของนางก็จะกลายเป็นเด็กน้อย วัย 8 ขวบ หรือที่เรียกกันว่าธาตุไฟเข้าแทรก สำหรับผู้อื่นถ้าถูกธาตุไฟเข้าแทรกก็จะต้องตายหรือสูญเสียพลังไปทั้งหมดแต่นางจะกลายเป็นเพียงเด็กที่ไร้ทางสู้เพียงเท่านั้น ร่างเดิมของนางแต่เดิมตั้งแต่เกิดมาก็คือบุรุษผู้หนึ่งที่ฝึกฝนวิชามารในตอนแรกเขาก็เป็น ผู้ผดุงความยุติธรรมที่ฝึกวิชาเพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นเซียนนั่นเอง
แต่เพราะเหตุการณ์ ใส่ร้ายกันเกิดขึ้นทำให้ตัวของนางได้วิชานี้มาและฝึกฝนจนเก่งกล้า จนไม่มีใครสามารถที่จะเอาชนะนางได้จนถึงกระทั่งถูกขนานนามว่า เป็นปรมาจารย์ การวิชามาร มีฉายาว่านางมารหัตถ์เทพโลหิต ที่สามารถใช้ฝ่ามือโลหิตสามารถ ทำร้ายผู้ต่อสู้ ตายด้วยฝ่ามือเดียวจนเป็นที่เกรงกลัวของผู้คนแต่ก็ยังมีผู้คนมากมายต่างต้องการที่จะสังหารนางเช่นเดียวกัน
ในวันรุ่งขึ้นนางพาหลานชายมายัง ที่สำนักฝึกซ้อมบัณฑิต นางรู้จักกับคนดูแลที่นี่แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแม้ว่าร่างกายของนางจึงยังคงเดิม แต่บุรุษผู้นี้เป็นนางที่ช่วยเหลือเอาไว้ และตัวนางเองก็เป็นผู้สร้างสำนักฝึกบัณฑิตนี้เช่นเดียวกัน กับสหายที่เป็นคนดูแลที่นี่
" ข้าฝากเจ้าให้มาเรียนที่นี่โดยที่เจ้าไม่ต้องสอบเข้ามาแต่อย่างใดเพียงแค่ตัวของเจ้าตั้งใจเรียนแค่นี้ก็พอ"
" ขอบคุณมากครับท่านพี่ท่านพี่ใจดีที่สุดเลยข้ารักท่านพี่นะขอรับ"
" เจ้าเด็กมีพอมีความสุขก็มีความสุขมากๆเชียว"
" ก็ข้ารักท่านพี่นะขอรับขอบคุณท่านพี่ที่ให้ข้าเข้ามาที่นี่"
" ข้าเองก็รักเจ้านำเทียบเชิญนี้เข้าไปเถิดข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า บอกเพียงว่าหลินอู่นำมาให้"
" ขอบคุณขอรับ"
" ข้าต้องไปแล้ว เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี ที่นี่นานๆทีจะได้กลับบ้าน ข้าจะรอเจ้านะถ้าขาดเหลือสิ่งใดก็สามารถบอกข้าได้ ส่งจดหมายมาแล้วข้าจะส่งของทุกอย่างมาให้"
" ขอรับท่านพี่ เดินทางปลอดภัยนะขอรับ ข้าขอน้อมส่งท่านพี่"
" เจ้านี้นะเจ้าเด็กน้อย"
นางก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรอีกเพียงแค่ยิ้มตอบก่อนจะรอให้ร่างบางของเด็กหนุ่มเดินเข้าไปยังสำนักฝึกสอนบัณฑิตจะรับตาก่อนที่จะหมุนกายเดินออกมา
ชายหนุ่มที่ใช้ผ้าปิดตาสีดำเดินมายังตลาดแห่งหนึ่งผู้คนที่พบเห็นเขาเคยเห็นเขารั้วว่าคุณชายผู้นี้มิได้ตาบอดจริงๆเขาคือคุณชายน้อยตระกูลฟาง ตระกูลแม่ทัพผู้เก่งกล้าเขาเป็นผู้ชายคนเล็กที่ชื่นชอบการ เพื่อนๆทุกคน โดยใช้สติปัญญา ของตนเองในการกลั่นแกล้งและสรรหาวิธีการ และสิ่งที่คุณชายน้อย ตระกูลนี้ชอบรังแกก็คือสาวๆที่กำลัง เติบโตทุกวันคุณชายฟางน้อย จะชอบมากลั่นแกล้งผู้คนอยู่เสมอและชอบลวนลามกินเต้าหู้สตรีทุกคน
"ระวัง!"
ร่างบางของหญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนเข้าไปช่วยร่างของชายหนุ่มตาบอดเมื่อกำลังจะเดินชนกับแผงขายของของแม่ค้า
" ขอบคุณแม่นางมากที่ช่วยเหลือข้า"
" ฉันต้องเดินดีๆอย่าได้ไปเดินชนข้าวของของผู้อื่น ข้าจะเดินไปส่งท่านบ้านของท่านอยู่ที่ใด จงบอกทางมา"
" พอดีข้าจะไปตลาดไปซื้อของไปเป็นเพื่อนข้าหน่อยได้หรือไม่"
" ย่อมได้ ข้าจะพาท่านไปเอง"
" แม่นางมีนามว่าอะไรข้านี้จะได้เรียกถูก"
" ท่านไม่ต้องรู้หรอกถึงแล้วข้าขอตัวก่อน"
" แต่ว่า..."
" อีกอย่างตาของท่านก็ไม่ได้บอกจริงเหตุใดต้องเสแสร้งแกล้งว่าตนเองตาบอดด้วยหลอก ลวนลามสตรีเช่นนี้ระวังสามีของสตรีเหล่านั้นจะมาล้างแค้นท่าน เลิกทำตัวเช่นนี้ได้แล้ว เอาเวลาที่ท่าน ชื่นชอบการกลั่นแกล้งผู้อื่นหัดทำตัวให้มีประโยชน์เสียบ้าง"
" แม่นาง"
" ข้าต้องกลับแล้ว หากไม่มีเรื่องอันใดก็ขออย่าได้เจอกันอีกถ้าขอตัว"
ช่างน่าเสียดายนักที่ร่างบางของสตรีนางนั้นหายไปเสียแล้วชายหนุ่ม ถอดผ้าปิดตาออก แต่ก็ไม่อ่านเร็วเท่ากับร่างบางที่เดินจากไปน่าเสียดายยิ่งนักที่ไม่ได้เห็นหน้าตาของสตรีผู้นั้น แม้ว่าจะจำได้เพียงแค่เสียง แต่เขาก็จับใจความได้ว่านางช่าง มีเสียงที่ไพเราะน่าฟังยิ่งนัก หากมีวาสนาอีกครั้งข้าขอได้พบนางอีกสักครั้งและข้าก็อยากจะแต่งงานกับสตรีผู้นี้
.....
.....