ลักพาตัว
บุรุษผู้สูงศักดิ์ผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้ามาในจวนของคหบดีตระกูลหาน ร่างสูงโปร่งกำยำในอาภรณ์ชั้นดีสีนำเงินเข้มเดินสำรวจจวนใหญ่โดยมีคนผู้หนึ่งซึ่งดูแล้วคล้ายจะเป็นผู้ติดตามเดินรั้งท้ายตลอดการสำรวจ
จนถึงห้องๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยภาพวาดสวยงาม แต่ทว่าคนที่เป็นเจ้าของห้องนั้นกลับหายตัวไปจากจวน ไม่อยู่รวมกลุ่มกับผู้ที่ถูกจับกุม
“ท่านอ๋อง หรือว่าจะเป็นนาง” เฟิงอี้เอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยความสงสัยงอี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาเฝ้าสังเกตผู้เป็นนายที่ดูร้อนใจผิดปกติ แม้ภารกิจครั้งนี้จะเป็นการตามจับกบฏตามราชโองการ แต่ความเร่งร้อนในท่าทางของท่านอ๋องกลับแฝงความไม่ปกติ
“มิผิด เป็นนางอย่างไม่ต้องสงสัย”
บุรุษผู้สูงศักดิ์ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ แววตาสีทองทอประกายบางอย่างที่ยากจะอ่านออก ก่อนจะหมุนตัวและเดินออกจากห้อง ทั้งยังกำชับเฟิงอี้ให้นำภาพวาดทั้งหมดกลับไปไว้ที่จวนของเขา ราวกับว่าภาพวาดนี้มีความสำคัญกับชีวิตของเขามากจนไม่อยากจะมอบมันไม่กับผู้ใด
หานหยางนั่งวาดภาพอยู่ในศาลาไม้ที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำกลางเมือง สำหรับหญิงสาวแล้วดอกโม่ลี่ฮวาบานสะพรั่งรับกับแสงแดดและลมโชยเป็นทิวทัศน์ที่เหมาะกับการวาดภาพในวันนี้เป็นอย่างมาก
“ข้าได้ข่าวมาว่าเป่ยอ๋องนำทหารหลวงบุกมายังจวนของคหบดีหาน เห็นว่าคนในตระกูลถูกจับในข้อหาสมคบคิดกับกบฏ ตอนนี้ทุกคนถูกจับเข้าคุกหลวงหมดแล้ว”
พู่กันด้ามใหม่ตกกระทบพื้นจนเกิดเสียงดังกังวาน แต่ก็ยังเรียกสติของหญิงสาวกลับมาไม่ได้ มือเรียวบางสั่นไหวหลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของชาวเมือง
เป็นไปไม่ได้… นี่มันเรื่องอะไรกัน?
บัดนี้หานหยางละทิ้งซึ่งทุกอย่างและรีบวิ่งกลับจวนอย่างไม่คิดชีวิต
ข้าต้องกลับไป… ต้องกลับไปให้ถึงจวน!
ข้าต้องช่วยทุกคน… ท่านแม่… รอข้า…
ในที่สุดหานหยางก็นำร่างที่วิ่งจนหอบมาหยุดอยู่ ณ ประตูของจวนใหญ่ของตนเอง แต่ทว่าภายในจวนกลับทหารหลวงมากมายและคนของสำนักตรวจการนำสิ่งของทั้งหมดออกจากจวน
ความคิดของหานหยางในตอนนี้คือจะต้องเข้าไปในจวนเพื่อตามหาและปกป้องคนในครอบครัวแม้ว่าจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเหตุการณ์ก็ตามที แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปด้านในก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มนางขึ้นรถม้าและพาออกไปจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็วราวกับว่ากลัวใครจะเห็นเข้าอย่างไรอย่างนั้น
ภายในห้องทำงาน หลี่เจ๋อกำลังอ่านโองการเกี่ยวกับปราบปรามกบฏตระกูลฉู่ที่เสด็จพ่อหรือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนั้นได้ทำการปราบปรามไปเมื่อหลายปีก่อน ในสมัยที่เขายังเป็นเพียงองค์ชายลำดับที่สาม
ในราชโองการของเสด็จพ่อได้บอกกล่าวไว้ว่าเหล่ากบฏนั้นได้ถูกราชสำนักกวาดล้างไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังเล็ดลอดหนีไปได้ ว่ากันว่าพวกมันหลบอยู่ตามแนวป่าเขาแถวเป่ยโจว เขาที่ได้รับตำแหน่งอ๋องนั่งเมืองคนปัจจุบันจึงต้องการรับราชโองการกวาดล้างต่อเพื่อไม่เหลือขวากหนามในการครองบัลลังก์ขององค์ไท่จื่อคนต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นพระอนุชาสักพระองค์ของเขา
ภาพวาดของเขาไป๋หูอันเลื่องชื่อวางอยู่บนโต๊ะทำงานของหลี่เจ๋อ ลายเส้นและการลงสีที่ประณีตชวนให้รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ภายในใจของเขากลับร่ำร้องว่าไม่อยากให้เป็นฝีมือของนางเลย เพราะภาพหุบเขานี้มันไม่ใช่ภาพวาดที่ธรรมดา แต่มันเพิ่งได้รับการยืนยันจากราชสำนักว่าเป็นหนึ่งในอาณาเขตที่พวกกบฏตระกูลฉู่นั้นใช้กบดานอยู่นั่นเอง ความจริงนี้อาจจะทำให้อ๋องหนุ่มต้องเจอเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต
หากว่าตัวเจ้านั้นมีความผิดในฐานกบฏจริง เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะทำเช่นไร จะลงมือทำร้ายเจ้าได้เช่นไรกัน หยางเอ๋อร์
ข้านั้นชื่นชมในฝีมือการวาดภาพของเจ้ามาตลอดตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยได้พานพบกัน แต่ใยเจ้าถึงต้องวาดภาพต้องสาปนี้ด้วย เจ้าเคยหวั่นเกรงบ้างไหมว่ามันจะนำภัยมาให้กับเจ้าในท้ายที่สุด และข้าที่เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ปราบปรามเหล่ากบฏนั้นจะทำเช่นไรเพื่อกางปีกปกป้องเจ้า หรือว่าข้าจะต้องขังเจ้าไว้ในกรงทองแห่งนี้หรืออย่างไร