๑.๓ พระเอกเจ้าเสน่ห์
“ผมว่าคุณกำลังประหม่านะ นี่เหรอเจ้าของบทประพันธ์ที่เขียนฉากรักซะหวือหวาที่แท้ก็...‘อ่อนหัด’...” เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างขบขัน
หญิงสาวเชิดหน้าตั้งตรงขึ้นอย่างโมโหและเสียหน้าที่เขาพูดคล้ายกับเย้ยหยันว่าหล่อนเป็นไก่อ่อนสอนขัน
“คุณตัดสินคนเพียงแค่ได้พูดคุยไม่กี่ประโยคเลยเหรอคะ”
เมื่ออยู่ในอารมณ์โกรธกรุ่นปริญชยากลับพูดได้อย่างคล่องแคล่วทำเอาพระเอกหนุ่มเลิกคิ้วเข้มขึ้นเมื่อเห็นอีกบุคลิกหนึ่งของหล่อน
“เอาล่ะคุณนักเขียน ผมจะรอพิสูจน์ฝีมือคุณว่าจะเจ๋งอย่างที่เขียนหรือเปล่า”
“ค่ะ ฉันรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง” หญิงสาวถือทิฐิตอบเขาอย่างท้าทาย
“ผมต้องการให้คุณย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดของผมในช่วงที่ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์บท” รามิลพูดออกมาเรียบๆ แต่ทำเอาร่างอรชรเกือบจะหัวคะมำ
“นี่คุณคิดจะ... จะรวบหัวรวบหางฉันเหรอ?!?” หล่อนโวยวายใส่เขาทันที
“คิดอะไรบ้าๆ อย่างคุณน่ะเหรอ?” เขาไม่พูดอย่างเดียวแต่มองหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกรอบ “ไม่มีส่วนไหนที่จะเว้า จะโค้ง จะนูน จะแน่น เจออยู่อย่างเดียวความแบนราบราวกับไม้กระดาน”
ปริญชยาแทบจะกรี๊ดกับวาจาแสนร้ายกาจขั้นเทพของเขา มือเล็กๆ ชี้หน้าเขาสั่นระริก หน้าแดงปลั่งอย่างอับอาย อ้าปากจะผรุสวาทใส่เขาแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะตอบโต้อย่างไรให้เจ็บแสบพอๆ กัน
“ก็ได้ฉันจะทำตามความต้องการของคุณ”
“ก็แค่นั้น”
“แต่ฉันจะเอาเพื่อนไปอยู่ด้วย”
ร่างสูงไหวไหล่ “ตามใจสิ”
เขารับปากอย่างง่ายดายจนปริญชยาคาดไม่ถึง ตอนแรกหล่อนคิดว่าเขาจะมีปัญหาแล้วยกเลิกข้อตกลงซะอีก หญิงสาวหันรีหันขวางเพราะในที่สุดก็จนแต้มแต่ก็ยังไม่วายต่อรอง
“เพื่อนฉันเป็นแต๋ว คุณคงไม่ถือใช่ไหม”
“แล้วแต่คุณเถอะ” เขายอมง่ายๆ ก่อนจะเอ่ยเหมือนสั่งอีกครั้ง “เอาโทรศัพท์คุณมานี่ซิ”
“คุณจะเอาไปทำไม?” หล่อนไม่ยอมส่งให้ง่ายๆ
“ผมคงไม่โทรไปเซ็กส์โฟนกับคุณหรอกน่ะ” รามิลตอบเหมือนรำคาญ
ปริญชยามองเขาอย่างหวาดๆ พลางแอบแดกดันเขาในใจ ‘คนอะไรเอาแต่ใจ และอารมณ์เสียง่ายที่สุด’ มือเล็กๆ ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแล้วส่งให้เขา ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะกดตัวเลขซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ของตนเองแล้วโทรออก เมื่อมีเสียงดังขึ้นเขาจึงกดวางแล้วส่งคืนให้หล่อน
“นั่นเป็นเบอร์ผม บันทึกเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน อ้อ... เบอร์นี้เป็นเบอร์ส่วนตัว ถ้ามีโทรศัพท์ที่ไม่พึงประสงค์โทรมา คุณคงรู้นะว่าใครจะต้องรับผิดชอบ”
พระเอกหนุ่มซุปเปอร์สตาร์พูดเหมือนข่มขู่แล้วจบการสนทนาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ร่างสูงสมาร์ตเดินดุ่มหนีเอาดื้อๆ โดยไม่คิดจะเอ่ยลาใดๆ ใบหน้าสวยได้แต่หวานงอง้ำ ย่นจมูกใส่และบ่นอุบอิบตามหลัง
“ถ้าหวงนักจะเอามาให้เราทำไม”
คล้อยหลังรามิลไปไม่นาน ร่างอวบอัดของวีวี่ก็ปรี่เข้ามาหาปริญชยาอย่างไม่รีรอ
“เล่ามาเลยยัยแป้งว่าสุดหล่อของฉันพูดอะไรกับหล่อนบ้าง” วีวี่จีบปากจีบคอถามอย่างอยากรู้
“เขาขอให้ฉันย้ายไปอยู่คอนโดของเขา”
“อุ้ยตาย! ว้าย! กรี๊ด! ตาเถรตกส้วม แบนๆ ราบๆ อย่างหล่อนเขาคิดจะกระเดือกด้วยเหรอยะ” วีวี่จิกตามองปริญชยาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“หยาบคาย” ปริญชยาค้อนเพื่อนแต๋วพลางหน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงคำพูดในทำนองเดียวกันของรามิลที่ตอกใส่จนหล่อนหน้าหงายมาเมื่อสักครู่
“แกไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม” วีวี่ถามย้ำ
“ไม่ได้ล้อเล่น แต่ฉันจะเอาแกไปอยู่ด้วย”
วีวี่อ้าปากหวอแล้วเอามือปิดปาก ม่านตาเบิกกว้างเป็นประกายไหวระริกด้วยความดีใจระคนตื่นเต้น
“จริงๆ เหรอยัยนางฟ้าแสนสวย”
“ทีอย่างนี้มาทำเป็นเรียกนางฟ้า”
“แต่ฉันว่าเขาคงเอาแกเป็นไม้กันหมามากว่า เพราะเป้าหมายจริงๆ ของเขาอยู่ที่ฉัน” วีวี่ทำท่าสวยเริดเชิดหยิ่ง พลางไล้มือไปตามเส้นผมแล้วสะบัดเพริดจนปริญชยาที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่อดปล่อยคิกๆ ออกมาไม่ได้
“เขาให้เบอร์โทรฉันด้วย” หญิงสาวแกล้งอวด
“อะไรนะแก?!? ว้าย... ไม่ธรรมดาซะแล้ว”
ปริญชยาบุ้ยปากก่อนจะตีหน้ามุ่ยอีกครั้ง “ใช่ ไม่ธรรมดา เพราะเขาจะเอาไว้โทรจิกฉันโดยเฉพาะ”
“แล้วแกจะย้ายไปเมื่อไหร่”
“เขาบอกว่าต้องไป ก่อนละครจะเปิดกล้อง”
“งั้นก็ต้องเป็นวันสองวันนี่สิ เพราะอาทิตย์หน้าเขาก็เปิดกล้องกันแล้ว”
คำบอกเล่าของวีวี่ทำเอาปริญชยาต้องกุมขมับด้วยความกลัดกลุ่ม การย้ายเข้าไปย้ายเข้าไปอยู่ที่คอนโดของรามิลก็เท่ากับกำลังก้าวขึ้นเข้าไปในดงราชสีห์ คุ้มดีคุ้มร้ายเขาอาจจะตะครุบหล่อนแล้วขย้ำกินเป็นอาหารก็ได้ แล้วไหนจะต้องไปสอนบทเลิฟซีนให้เขาอีก
“กลุ้มโว้ย!” หญิงสาวบ่นเสียงดัง
“ไม่ต้องกลุ้มไปหรอกย่ะ มีวีวี่อยู่ด้วยทั้งคน” วีวี่ขยับมือมาโอบไหล่ปริญชยาอย่างให้กำลังใจ
แล้วทั้งสองคนก็ชวนกันกลับไปที่บ้านเช่าเพื่อเตรียมตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่จะถึงนี้แล้ว