บทที่ 2
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์หทัยรัตน์ก็ได้เดินทางไปเที่ยวกับเสี่ยของเธอที่จังหวัดกระบี่
“คุณกรคะ หวานขอนอนนะคะเหนื่อย” พอมาถึงห้องพักจัดของเสร็จเธอก็ทิ้งตัวลงนอน เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง สาเหตุที่ทำให้เหนื่อยก็เป็นเพราะเมื่อคืนคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเสี่ยรังแกเธอกว่าจะปล่อยให้นอนก็ดึกดื่น
“เหนื่อยขนาดนั้นเลย” หญิงสาวไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ พร้อมกับตาที่หลับลงเรื่อยๆ
“หึ” กรวิทย์หรือคุณกร ตามคำเรียกของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง เดินเข้าไปอาบน้ำให้ตัวเองสดชื่นแล้วขึ้นไปนั่งบนเตียงมองสาวเจ้า
เขาเป็นคนค่อนข้างไม่ใส่ใจใครเพราะเคยอยู่คนเดียวมาตลอด แต่ช่วงหลังๆ เริ่มเบื่อ เลยอยากมีอะไรไว้เล่นแก้เบื่อ ซึ่งเขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เอาไม่เลือก เลยเลือกที่จะหาหญิงสาวคนเดียวมาคอยปรนนิบัติ แต่ก็ไม่อยากได้คนที่สะอาดผุดผ่องเพราะไม่อยากจะรับผิดชอบใคร
จนมาเจอหทัยรัตน์ซึ่งเพื่อนของเขาแนะนำให้ว่าคนนี้ของดี เธอไม่รับงานพร่ำเพรื่อเธอเลือกแต่คนที่ไม่มีลูกเมีย ซึ่งเขาก็ให้ลูกน้องไปสืบประวัติเธอทันที ตรวจสอบว่าหญิงสาวเคยมีคนรับเลี้ยงแค่สองคนระหว่างนั้นไม่เคยยุ่งกับชายอื่น ซื่อสัตย์กับคนที่เลี้ยงเธอและเธอเป็นคนที่ไม่เรื่องมาก ไม่จู้จี้จุกจิกเหมือนผู้หญิงทั่วไป เขาเลยติดต่อไปที่เจ้หนิงที่เพื่อนแนะนำซึ่งเป็นคนดูแลเธออยู่และก็ได้เธอมาอยู่ด้วยกัน
ซึ่งก็ทำให้เขาพอใจในตัวเธออยู่มาก เธอถึงอยู่กับเขาได้นานขนาดนี้
กริ๊งๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นชื่อหน้าจอทำให้คนที่มองคนตัวเล็กอยู่ต้องรีบรับ เพราะไม่อยากให้คนที่โทรมารอนาน
“ครับ” เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ท่านมาถึงแล้วครับ”
“ครับ ผมจัดห้องรับรองไว้ให้แล้วครับ อีกสักครู่ผมจะลงไปต้อนรับด้วยตัวเอง” กรวิทย์พูดจบแล้ววางสายเขาลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทเนื้อดีขึ้นมาสวม ก่อนออกจากห้องไม่ลืมที่จะเขียนบอกหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงไว้
ที่เขามาครั้งนี้ไม่ได้มาเที่ยวเฉยๆ แต่มาเรื่องงานด้วย เป็นงานสำคัญมากด้วย ที่ให้หทัยรัตน์มาด้วยเพราะอยากมีเธอไว้ผ่อนคลายเท่านั้น
โรงแรมนี้ก็เป็นโรงแรมของเขา ซึ่งเรื่องนี้เขาไม่ได้บอกให้หทัยรัตน์รู้และคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอก
ร่างสูงใหญ่หน้าตาชายไทยแท้เดินลงมาที่ด้านล่างห้องโถงกลางโรงแรมก็พบกับกลุ่มคนชุดดำนับสิบยืนกระจายอยู่เต็มบริเวณดังกล่าว ซึ่งเขาไม่แปลกใจเลยสักนิดเพราะคนที่นั่งรอเขาอยู่นั้น เป็นคนที่ไม่ธรรมดา
“สวัสดีครับ ขอโทษที่มาช้า” กรวิทย์ก้มหน้าทักทายและเอ่ยคำขอโทษทันที
“ไม่เป็นไร” แขกผู้มาเยือนรับคำสั้นๆ สีหน้าราบเรียบไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ถ้าอย่างนั้น เชิญท่านที่ห้องพักครับผมจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ต้องทำท่านอบน้อมขนาดนั้นก็ได้กร” ในที่สุดเจ้าของร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหล่าที่ตั้งแต่เดินเข้ามาก็มีแต่คนชายตามองก็เอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรกยาวๆ
“มิได้หรอกครับ”
“ทำไมจะไม่ได้ นายก็เป็นเหมือนเพื่อนฉันคนหนึ่ง บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องเรียกว่าท่าน อีกอย่างนายก็ไม่ได้ทำงานกับฉันแล้ว”
“แต่..”
“ไม่มีแต่ นำทางไปห้องพักได้แล้ว” คนที่ตัวโตกว่าขัดขึ้น
“ครับ” กรวิทย์นำทางมาถึงห้องพักที่เขาได้จัดเตรียมไว้ เป็นห้องที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุด
“ขอบใจนายมาก”
“มีอะไรเรียกใช่ผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะกลับ” เมื่อไม่ให้เรียกท่านก็หันมาเรียกคุณแทน เพราะเขาเองก็ไม่กล้าอาจเอื้อมที่จะเป็นเพื่อนกับคนตรงหน้าได้ ถึงจะได้รับอนุญาตแล้วก็เถอะ
เพราะเขารู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นแค่ลูกน้องที่เคยทำงานร่วมกันมาเท่านั้น ถึงจะได้รับเกียรติมากมายแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าอาจเอื้อมจริงๆ
ถึงแม้ว่าชายตรงหน้าจะไม่ใช่เจ้าชายหรือคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นหม่อมเป็นเจ้า แต่ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อเขา และไม่ใช่ใครจะเล่นๆ ด้วยได้ เพราะอำนาจในมือก็มีมากล้นจนคนใหญ่คนโตต้องเกรงใจเหมือนกัน
“อืม ไปพักเถอะ ฉันก็จะพักเหมือนกัน”
กรวิทย์เดินออกจากห้องพักของคนที่เขามาต้อนรับ นั้นก็คือ แกริค ซีคีเลียโน นักธุรกิจชื่อดังระดับโลกเพราะมีธุรกิจอยู่ทั่วทุกมุมโลก ที่ท่านเดินทางมาที่ประเทศไทยก็มาติดต่อธุรกิจที่นี่ และจะมีการเจรจากับคู่ค้าในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นก็จะพักผ่อนต่ออีกสักอาทิตย์
“นายสบายดีไหม” กรวิทย์ก็เจอกับแซคเพื่อนที่เคยร่วมงาน
“ก็ดี นายละ”
“เหมือนเดิม แล้วนี่ไปไหนต่อ”
“กลับห้อง ห้องนายก็ไปติดต่อทางโรงแรมได้เลยนะฉันให้คนจัดการให้แล้วร่วมถึงทุกคนด้วย” ทุกคนที่หมายถึงคือลูกน้องของแกริค
“ขอบคุณมาก ไว้เจอกัน”
กรวิทย์ก็แยกตัวเดินกลับห้องตัวเอง
“เสร็จธุระแล้วเหรอคะ” พอเดินเข้ามาในห้องก็เจอกับหทัยรัตน์ที่ตื่นแล้วนั่งรอเขาอยู่
“อืม หิวรึยัง”
“หิวแล้วค่ะ”
“งั้นไปแต่งตัวจะพาไปกินข้าว” หทัยรัตน์ทำตามที่เขาบอก รีบเดินไปแต่งตัว แต่งตัวเสร็จทั้งสองก็พากันเดินลงมาข้างล่าง อีกเรื่องที่กรวิทย์อยู่กับหทัยรัตน์ได้นานคือเธอไม่เรื่องมาก เป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย
ทั้งสองคนมากินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม ในระหว่างที่กินข้าวอยู่นั้นกรวิทย์ก็นึกอะไรออกพอดีและเขาก็คิดว่า ผู้หญิงตรงหน้าอาจช่วยเขาได้
“หวาน ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยนิดหน่อย”
“อะไรเหรอคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถามเขา
“พอมีเพื่อนที่ทำงานแบบเดียวกันกับเธอไหม เอาแบบไม่เรื่องมาก ไม่พูดเยอะ และสะอาดๆ หน่อย” กรวิทย์เลือกที่จะพูดกับเธอตรงๆ ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หทัยรัตน์ขมวดคิ้วมองเขา ที่เขาถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือว่าเขาเบื่อเธอแล้วจะหาคนใหม่
สีหน้าของหญิงสาวทำให้กรวิทย์พอจะเดาออกว่าเธอคิดอะไรอยู่