บทที่ 2 วันวาน 2
“พี่เมฆ” สิ้นเสียงติดสั่นของณัฐรวี เสียงหวีดร้องตกใจดังขึ้น “ว้าย!”
เมฆาโถมตัวคร่อมร่างเล็ก ตรึงมือทั้งสองข้างของณัฐรวีไว้เหนือศีรษะ สาวใต้ร่างในวัยสิบเก้าปีหน้าตาตื่นตระหนก หวาดกลัวกับท่าทีของเขา หล่อนดิ้นรนเพื่อให้ตนเองพ้นจากเงื้อมมือเขา แต่ดูเหมือนว่า หนทางนั้นริบหรี่เหลือเกิน
“แม่เธอทำให้พ่อของฉันตาย” เมฆาเสียงเข้มใส่หน้าณัฐรวีที่ไม่อาจโต้ตอบคำพูดเขาได้ เพราะมันคือเรื่องจริง “แม่เธอเป็นนังแพศยา ทำร้าย ทำลายครอบครัวของฉัน”
ความโกรธในจิตใจเมฆามากมายนัก มากจนมันจวนเจียนระเบิดเต็มที สาเหตุการเสียชีวิตของเชษฐามาจากรุ่งวดี มารดาของณัฐรวีที่หนีตามชายชู้ไป ซึ่งชายชู้ไม่ใช่ใคร เป็นคนขับรถของเชษฐา ไม่หนีเปล่ายังหอบสมบัติหลายชิ้นไปด้วย แต่ละชิ้นราคาสูงเป็นหลักล้าน รวมมูลค่าแล้วมากกว่าสิบล้านบาท การหนีไปของ
รุ่งวดี นางไม่ได้พาณัฐรวีไปด้วย ราวกับว่าปล่อยทิ้งไว้ที่ไร่ดุจตะวัน ไม่สนใจไยดี
หลังจากเชษฐารู้ว่า เมียสุดสวาทหนีไปกับคนขับรถ ความที่รักมากย่อมเสียใจมาก ผิดหวังมากตามไปด้วย เมื่อเสียใจเกินสุดทนเชษฐาจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ โดยไม่รู้ตัวว่า กำลังผลักอีกคนให้ตกลงไปในขุมอเวจี
ณัฐรวีไม่อาจโต้เถียงคำพูดเมฆาได้ เพราะมันคือเรื่องจริง การที่รุ่งวดีก้าวเข้ามาในครอบครัวเมฆา มีแต่สร้างความทุกข์ ความเสียใจให้กับทุกคน ทว่าหล่อนเป็นเพียงลูกสาว อายุย่างเข้ายี่สิบปี ไม่มีสิทธิ์พูดหรือตักเตือนคนเป็นแม่ได้ คนที่มีความสุขมีเพียงคนเดียวคือ รุ่งวดี
“รวีขอโทษ” คงเป็นประโยคเดียวที่พูดได้ น้ำตาณัฐรวีไหลริน แต่น้ำตาไม่อาจช่วยให้เมฆาใจอ่อนลง ตรงกันข้ามแรงโทสะยิ่งโหมกระพือ
“คำขอโทษของเธอมันน้อยไป แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันมากนัก มากจนฉันอยากฆ่าเธอกับแม่ให้ตายตามพ่อของฉัน”
ข้อนี้ณัฐรวีรู้แก่ใจเช่นกัน หล่อนเองก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และแก้ไขอะไรไม่ได้
“พี่เมฆ รวีขอโทษ” ณัฐรวีกล่าวคำขอโทษซ้ำๆ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลริน ไม่ใช่ว่าหล่อนจะไม่เสียใจกับการจากไปของเชษฐา ณัฐรวีเสียใจมาก ในบ้านหลังนี้จะมีเพียงเชษฐาคนเดียวที่ให้ความเมตตา ให้ความเอ็นดูและรักตนไม่ต่างกับลูก ณัฐรวีมีชีวิตสุขสบายในบ้านหลังนี้ ใครว่าหรือดุด่า เชษฐาจะออกรับแทน ข้าวของเครื่องใช้ไม่ต้องพูดถึง เชษฐาซื้อเสื้อผ้าและของใช้อื่นๆ ให้แทบทุกวัน จนเสื้อผ้าล้นตู้
เรื่องการศึกษาเชษฐาก็ให้ณัฐรวีเรียนที่เดียวกับแก้วตา หญิงสาวในอุปการะ ความที่เชษฐารักและเอ็นดูณัฐรวีไม่ต่างกับลูกในไส้ ทำให้คนในบ้านไม่ชอบหน้าณัฐรวีไปโดยปริยาย โดยเฉพาะเมฆาที่มักหาเรื่องกลั่นแกล้งณัฐรวีเนืองๆ แถมยังขู่ไม่ให้อีกฝ่ายคาบเรื่องนี้ไปบอกเชษฐา เวลานี้ไม่มีเชษฐา ณัฐรวีก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร
“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่ ฉันสะอิดสะเอียนกับคำนี้มานานแล้ว ได้ยินแล้วอยากอ้วก อีกอย่างฉันไม่มีน้องสาวที่มีแม่เป็นนังแพศยา” เสียงเขาเข้มห้วน หน้าตาถมึงทึง “ถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้เรื่องที่แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันแล้ว พ่อฉันตายเพราะแม่เธอ เธอก็ต้องตายทั้งเป็นด้วยมือของฉัน แควก...แควก”
เมฆากระชากสาบชุดนอนลายโดราเอมอนสุดแรง กระดุมชุดนอนกระเด็นละทิศละทาง ทันทีที่สาบเสื้อแยกออกจากกัน ดอกอุบลสองดอกไร้สิ่งห่อหุ้มก็เปิดเผยต่อสายตาเมฆา ที่ไม่ได้มองเห็นว่า ภาพตรงหน้าสวยงาม ความโกรธ แรงโทสะบดบังสติและความผิดชอบชั่วดี
“พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ รวีขอโทษแทนแม่ด้วย”
ณัฐรวีตื่นตระหนกตกใจเต็มที่ ด้วยวัยสิบเก้าปีทำไมจะไม่รู้ว่า เมฆาหมายทำสิ่งใด หล่อนจึงดิ้นไม่หยุด มือทั้งสองข้างทุบไปตามลำตัวเขา แต่ดูเหมือนว่าร่างกายเขาประดุจหิน ทุบเท่าไหร่ไม่รู้สึกเจ็บ มิหนำซ้ำยังมีความโกรธเพิ่มขึ้นด้วย
“แม่เธอชอบเป็นเมียน้อย เธอเองก็คงได้เลือดแม่มาเยอะ เป็นนางบำเรอฉันหน่อยเป็นไง ครบสูตรเลย แม่ได้พ่อ ส่วนฉันก็ได้เธอ” เสียงเขาดูน่ากลัว หล่อนกลัวและตกใจมากขึ้นกับตำแหน่งที่เขากำลังมอบให้ “เธอต้องชดใช้กรรมแทนแม่เธอ”
ณัฐรวีไม่อาจดิ้นรนต่อสู้ร่างหนาได้ แม้แต่เสียงยังไม่ลอดผ่านปากหล่อน เป็นเพราะเขานำเศษเสื้อผ้ายัดเข้าไปในปากหล่อน ไม่ให้มีเสียงใดรบกวนใจ
เมฆาไม่ได้กักเสียงณัฐรวีเพียงอย่างเดียว เขายังใช้เข็มขัดรัดข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้กันไม่ให้ทุบตีร่างตน เพราะหากเขาเจ็บตัวมากๆ อาจทนไม่ไหว ตอบกลับไปด้วยการตบหรือทำร้ายร่างกายหล่อน แค่ที่เขากำลังจะทำมันก็มากพอแล้ว
“เธอต้องเจ็บปวดมากกว่าแม่ของฉัน มากกว่าฉัน เจ็บแทนแม่เธอ” เมฆาตะคอกใส่หน้าณัฐรวีที่ตอนนี้น้ำตาไหลพราก พยายามเปล่งเสียงทว่าเสื้อที่อุดปากไว้ไม่อาจทำให้เสียงลอดผ่าน ไม่เพียงแค่คำพูด เขายังขยำทรวงอกสล้างที่ไร้ชายใดแตะต้องอย่างแรง เนื้อดอกบัวปลิ้นตามร่องนิ้ว ปรากฏรอยฝ่ามือหนาไปทั่ว “เธอต้องเจ็บมากกว่านี้”
เมฆาเห็นก้อนเนื้อสองก้อนตรงหน้าเป็นผลชมพู่ เขากัดยอดถันไม่แรงมาก แต่ดูดดึงเข้าปากแรงๆ จนปานสีอ่อนหายเข้าไปในปากได้รูป เมฆาทำซ้ำๆ สลับกันทั้งซ้ายขวา มอบความเจ็บปวดให้สาวน้อยวัยละอ่อนไร้ประสบการณ์
เขาทำสำเร็จ ณัฐรวีเจ็บทรวงอกมาก ความรู้สึกที่ได้รับระบายเป็นน้ำตา ส่วนเสียงยังคงถูกสะกดไว้ในลำคอ เสียงที่ดังคือเสียงอือๆ อาๆ ไม่เป็นภาษา เป็นเสียงแห่งความร้าวระบม หากเสียงนี้ถูกเปล่งออกมาได้ เมฆาจะได้ยินเสียงขอร้องอ้อนวอนจากณัฐรวีที่ร้องขอความเห็นใจ มือทั้งสองข้างก็ไร้อิสระเกินกว่าจะปกป้องตัวเอง ท่อนล่างถูกร่างใหญ่คร่อมไว้ หล่อนสูญสิ้นอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง
ชายหนุ่มที่ตกอยู่ในอารมณ์โกรธ ไม่สนใจการดิ้นรน ไม่สนใจเสียงที่อื้ออึงในลำคอณัฐรวี เขาสนใจเพียงให้หล่อนเจ็บปวด ณัฐรวีต้องปวดร้าวทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งปากและมือของเมฆากระทำต่อร่างบอบบางด้วยความรุนแรง เนื้อตัวหล่อนชอกช้ำทั้งกาย ณัฐรวีพยายามดิ้นรนหนี ดิ้นจนเหนื่อยแต่ก็ยังไม่ได้รับอิสระ
น้ำหนักในการอ้าอมเม็ดเชอรี่ลดลง เมฆาไล้เลียช้าๆ ตวัดลิ้นไปมา ก่อนดูดกลืนเข้าไปในปากเบาๆ มือใหญ่ผ่อนแรงขยำทรวงอกสาวเป็นคลึงเคล้น ทักทายยอดถันสีหวานด้วยปลายนิ้วหมุนไปมา ไม่ใช่ว่าเมฆาจะใจอ่อน แต่เขาต้องการให้ณัฐรวีพร้อมสำหรับการลงทัณฑ์ หากนำตัวตนของเขาเข้าไปในร่างกายหล่อนในสภาวะยังไม่พร้อม เขาก็จะเจ็บปวดไปด้วย อีกทั้งเมฆายังต้องการให้ตนพร้อมมากกว่านี้ ให้เมฆาน้อยลุกโชนให้เต็มที่ เพื่อปฏิบัติการแก้แค้นเอาคืนจะได้สนุกตามต้องการ
เมฆาไม่ได้อ่อนโยนเพียงแค่ส่วนบน ส่วนล่างเขาก็กำลังทำให้หล่อนรู้สึกบ้าคลั่งในพายุอารมณ์ ชายหนุ่มขยับตัวที่คร่อมร่างเล็กมาตะแคงกายข้างหล่อน ทันทีที่ณัฐรวีรู้ว่า เขาขยับตัวออกจากร่างตน หล่อนใช้ความพยายามอีกครั้งที่จะให้ต้นได้รับอิสระ
“อย่าดิ้น อย่าขัดขืน เธอต้องยอมฉัน ไม่งั้นฉันจะตามล่าแม่เธอ พอได้ตัวฉันจะฆ่าแม่เธอ แล้วเอาศพไปทิ้งในป่า ให้เป็นอาหารสัตว์เดรัจฉาน พวกเดียวกันคงกินกันอร่อย”
เมฆาเริ่มรำคาญอาการดิ้นรนของณัฐรวี เขาจึงข่มขู่เพื่อให้หล่อนสมยอม แล้วดูเหมือนได้ผล ร่างกึ่งเปลือยสงบลง หยุดดิ้น หลุบตามองเมฆา น้ำตาไหลเป็นทาง เขาขู่อย่างนี้มีหรือณัฐรวีจะไม่ยอม แม้ว่ามารดาตนเป็นคนไม่ดี ถูกตราหน้าว่าหญิงแพศยา ทว่ารุ่งรดีก็เป็นแม่ แม่ที่ตนต้องกตัญญู
“พูดง่ายๆ อย่างนี้จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” สิ้นเสียงใหญ่กางเกงนอนลายการ์ตูนก็ถูกดึงให้พ้นเอวคอดกิ่ว ก่อนที่เขาใช้ปลายเท้าดึงมันให้หลุดออกจากเรียวขาสวย ท่อนล่างหล่อนไร้อาภรณ์ เขาจึงเริ่มทำตามอำเภอใจ
เมฆาวางนิ้วลงบนเกสรเม็ดน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ในกลีบดอกไม้ เขากระตุ้นอารมณ์หล่อนด้วยการสะกิดจุดกระสันเบาๆ ก่อนเพิ่มน้ำหนักเป็นบดบี้ ในขณะที่ปากหนายังคงเชยชมดอกอุบลสองดอกอย่างเพลิดเพลิน ในห้วงความคิดส่วนดี หากสาวใต้ร่างไม่ใช่ลูกสาวคนที่เขาเกลียดชังและทำให้บิดาเสียชีวิต เขาคงอ่อนโยนและหลงใหลเรือนร่างสาวสวยงามไม่น้อย เมฆารีบปัดความคิดส่วนดีออกไปจากสมอง แทนที่ด้วยแรงโทสะโหมไหม้ใจ
ความเจ็บปวดเริ่มทุเลา ณัฐรวีรู้สึกถึงกระแสสวาทไหลเวียนในกาย ช่องท้องเสมือนมีพายุก่อตัว เป็นพายุความร้อนวูบวาบแผ่กระจายไปทั้งกาย ภายในกล้ามเนื้อสาวเต้นระริก ราวกับกำลังตื่นเต้นกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่กำลังบังเกิด
ณัฐรวีไม่รู้เลยว่า เมฆาต้องการให้ตนผ่อนคลายความเจ็บปวด เขากำลังให้หล่อนตายใจ ให้คิดว่า เขาไม่ทำรุนแรง หล่อนคิดผิด ความเจ็บปวดหลายเท่ากำลังเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมฆาสัมผัสน้ำเสน่หาที่ไหลออกจากพวงกุหลาบ นั่นหมายความว่า หล่อนมีความพร้อมขึ้นมาระดับหนึ่ง ทว่าเขากลับยังไม่พร้อมเท่าไหร่นัก ความเป็นเอกบุรุษตื่นตัวเพียงครึ่งหนึ่ง เขาจึงต้องหาตัวช่วยให้มันลุกเต็มที่
เมฆาก้าวลงมายืนข้างเตียง จัดการถอดเสื้อผ้าของตนออกหมดทุกชิ้น ก้าวขึ้นไปบนเตียงคร่อมช่วงทรวงอกณัฐวดี มือใหญ่ดึงเศษผ้าที่ยัดในปากหล่อนออก ขยับตัวไปใกล้อีกนิด จดจ่อแก่นกายชายตรงริมฝีปากบาง
“อ้าปาก ทำให้มันลุก” ณัฐวดีตัวสั่น หัวใจเต้นถี่แรง มองความเป็นตัวตนชายที่แม้ว่ายังไม่เติบใหญ่เต็มที่ แต่ก็พอคาดเดาได้ว่า หากโตเต็มวัยขนาดของมันจะใหญ่เท่ากับข้อมือของตน สาวน้อยไร้เดียงสาเรื่องเกมกามลอบกลืนน้ำลายลงคอ ความกลัวแน่นจิตใจ “อ้าปาก”
เมฆาสั่งอีกรอบ น้ำเสียงที่ตะเบ็งออกมาทำให้สาวสวยหวาดกลัว และทำตามคำสั่ง ค่อยๆ อ้าปากทีละน้อย ราวกับว่าเขาไม่ได้ดังใจที่เห็นความเชื่องช้าของณัฐวดี เมฆาดันกายแกร่งที่ผงาดเพียงครึ่งหนึ่งเข้าไปในโพรงปากสาวพรวดเดียว ดันไปจนถึงคอหอยสาวก็ว่าได้ ณัฐรวีสำลักจนหน้าดำหน้าแดง ทำท่าจะอาเจียนออกมา
“เสือกอ้าปากช้าเอง ช่วยไม่ได้” เมฆากล่าวคำไม่สุภาพ ยิ้มเยาะสะใจ “อ้าปากค้างไว้ อย่าหุบปาก แล้วก็อย่ากัดของฉันด้วย”
เป็นคำสั่งที่ณัฐวดีต้องปฏิบัติตาม เพราะเกรงว่าหากขัดคำสั่ง เขาจะทำตามคำขู่ เมฆาได้ทีขยับแก่นกายใหญ่เข้าออกปากนุ่มนิ่มที่มีความอุ่นร้อน ความเชื่องช้าในนาทีแรก เพิ่มความเร็วและแรงในเวลาต่อมา ณัฐวดีเป็นฝ่ายตั้งรับ หน้ายิ่งแดงมากขึ้น อาการสำลักจากการกระแทกความเป็นชายมาควบคู่ ทว่าหล่อนก็ต้องทน ทนทุกอย่าง ทุกการกระทำของเมฆา
เมฆารู้สึกร้อนไปทั่วตัว ความกระสันที่มาพร้อมกับอารมณ์เสน่หาไหลเวียนทั่วกาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็นหน้าตาทรมานของสาวใต้ร่าง เขารู้สึกพอใจด้วยซ้ำไป
“เลียมันสิ” เขาดึงท่อนเอ็นใหญ่ที่เวลานี้ผองขยายเต็มอัตราศึกออกมาจากปากสาว นำมาตีปากหล่อนเบาๆ หลายครั้ง ประหนึ่งย้ำบอกให้ทำตาม “ฉันบอกให้เลียไง”
ลิ้นเล็กค่อยๆ ยื่นออกมาจากปากณัฐรวี เพราะรู้ดีว่า ไม่อาจขัดคำสั่งเขาได้ ทว่าความไม่เป็นงาน ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ส่งผลให้ณัฐรวีเกิดความประหม่า ไม่กล้าทำเท่าไหร่นัก
“ใช้ลิ้นเลียมันสิ มันรออยู่ตรงปากเธอแล้วไง เลียไปรอบๆ เหมือนเธอดูดไอติมไงล่ะ แล้วอมๆ ดูดๆ” เมฆาสั่ง หล่อนทำตาม ลิ้นเล็กไล้วนไปรอบๆ ส่วนโคน ทำตามที่เมฆาบอกทุกอย่าง เริ่มต้นไล้เลีย ก่อนจะดูดเม้มส่วนปลาย อ้าอมเข้าปาก ขยับเข้าออกโดยมีเขาคอยช่วยเรื่องจังหวะ “อย่างนั้นแหละ...ดี”
เขาเคยเจอแต่ผู้หญิงมากประสบการณ์ ไม่ต้องสอน ไม่ต้องสั่งก็ปรนนิบัติเขาอย่างดีทั้งปากและลิ้น รวมถึงมือที่เข้ามาช่วยร่วมด้วย พอมาเจอณัฐรวีที่ไม่เป็นงาน ทำอะไรไม่ได้ดังใจ เขาอาจรำคาญในตอนแรก ทว่าตอนนี้เขาเสียวไปทั้งท่อนลำ อยากจะฝังกายผสานเป็นหนึ่งเดียวกับณัฐรวีเสียตอนนี้ ซึ่งเขาก็ทำตามความคิด ดึงเอ็นใหญ่ออกจากปากสาว ขยับตัวมานั่งกลางร่างเล็ก จับเรียวขาสวยแยกไปด้านข้าง ก้มมองดอกไม้งามสีชมพูแรกแย้มที่เห็นแล้วใจเต้นรัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจเขาลดลง
“เธอเตรียมตัวได้รับบทเรียนจากฉันได้เลย”
ไม่มีความปรานีในน้ำเสียง ใบหน้าเขาดูเรียบทว่ากลับแฝงไว้ซึ่งความร้ายกาจ โหดเหี้ยม ณัฐรวีที่ไม่ทันตั้งตัวส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวด เมื่อเขานำท่อนเนื้อใหญ่แทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบงาม แม้ว่าจะมีน้ำหวานอาบอยู่ทั่ว ความที่ไม่เคยผ่านมือชาย แล้วยังถูกกระทำรุนแรง ดันความเป็นเอกบุรุษเข้าไปทีเดียวจนสุดทาง อัดกระแทกจนหล่อนรู้สึกร้าวระบม ราวกับว่าของสงวนสาวฉีกขาด
“กรี๊ด!” เสียงของหล่อนดังเข้าหูเมฆา ทว่าเขาเมินเฉยกับเสียงร้องเจ็บปวด เมฆาขยับเคลื่อนกายหนักหน่วง แรงทุกจังหวะการเข้าออก ไม่สนใจว่าดอกไม้ช่อนี้ไร้ราคี สมควรทะนุถนอมมากกว่าย่ำยี ไม่เลย ไม่มีคำว่าปรานีสักนิดเดียว เขากระแทกใส่หนักๆ ดึงออกมาจนเกือบหลุดแล้วสวนกลับเข้าไปใหม่ ณัฐรวีทั้งเจ็บและจุก “ฮือ...ฮือ”
เสียงสะอื้นดังไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะดังมากแค่ไหนก็ไม่อาจหยุดการกระทำของเมฆาได้ มือใหญ่กอบกุมทรวงอกสาว ทั้งบีบและเคล้นลงน้ำหนักมือแรงๆ ดึงแล้วขยำ เวลานี้ณัฐรวดีเจ็บทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทว่าเขายังไม่หนำใจ ความเจ็บแค่นี้น้อยนิด หล่อนต้องเจ็บและทรมาน
ปากเขาจึงทำหน้าที่นั้น สร้างความเจ็บปวดด้วยการกัดและดูดไปทั่วเนินอกสาว เกิดรอยจ้ำแดงหลายจุด รอยฟันก็มีให้เห็น เป็นการกัดให้เกิดรอยประทับ
“พี่เมฆ...ฮือ...พอค่ะ...รวีเจ็บ” ณัฐรวีร้องบอก เวลานี้หล่อนเจ็บไปทั่วสรรพางค์กาย ร้อนฉ่ามากตรงบริเวณใจกลางร่างสาวที่ยังถูกท่อนเอ็นใหญ่สาดความโกรธอย่างบ้าคลั่ง บดเบียด ถาโถมใส่ดุดัน
“เจ็บสิดี...ฉันชอบเสียงเธอตอนนี้...สะใจชะมัด” เมฆาพูดตามความรู้สึกตัวเอง ช่องทางเล็กที่เขาพร่าพรหมจรรย์ ไม่ได้ทำให้เมฆาอิ่มใจ แต่กลับสะใจที่ได้ความบริสุทธิ์ของลูกสาวอดีตเมียน้อยบิดา ที่นับต่อจากนี้ ณัฐรวีคือนางบำเรอของตน นางบำเรอที่จะต้องแบกรับความหื่นกระหาย ความรุนแรง เป็นที่ระบายความรู้สึกต่างๆ ลงบนเรือนร่างหล่อน “มันดีสุดยอด”
ในเมื่อไม่สนใจสิ่งใด เมฆาทะยานตัวตนชายชุดใหญ่ ระรัวเร็ว ถี่แรง อัดกระแทกแต่ละครั้งหญิงสาวจุกเข้าไปในท้อง เส้นทางสวาทเริ่มบวมจากการถูกกระทำรุนแรง ณัฐรวีทนรับความกักขฬะด้วยความร้าวระบมร่างกายและหัวใจ
ความเจ็บปวดของณัฐรวียังคงดำเนินต่อไป เมฆาก็เช่นกัน ไม่ผ่อนความเบาลงเลยสักนิดเดียว ความสะใจที่ได้เห็นหล่อนเสียใจ เสียน้ำตาและเจ็บปวด ยิ่งทำให้หัวใจเขาฮึกเหิม อยากให้หล่อนเจ็บมากกว่า ทรมานกับบทรักที่ไร้ซึ่งความสุขมากกว่านี้ เมฆาดึงแก่นกายใหญ่ออกจากรวงผึ้งบอบช้ำ จับร่างสาวนอนคว่ำ ก่อนดึงสะโพกกลมกลึงขึ้นสูง ใช้เข่าทั้งสองข้างของตนแยกโคนขาหล่อนให้เปิดกว้าง จากนั้นก็สอดใส่ความใหญ่โตเข้าไปในคูหารัก สะบั้นเอวใส่ชนิดที่ว่า ร่างงามขยับไปด้านหน้าตามแรงกระแทก
“โอ้...ดีชะมัด...สุดยอด...อา” คงมีเพียงเสียงครางแห่งความสุขของเขาที่ดังออกมา ส่วนเสียงของณัฐรวีคือเสียงแห่งความเจ็บปวด
“พี่มะ...เมฆ...จะ...เจ็บค่ะ...เจ็บ...ฮือ”
ณัฐรวีร้องเจ็บไม่หยุด เขาเองก็ไม่หยุดสาดใส่ความคลั่ง ตบแก้มก้นของหล่อนจนเกิดเสียงเผียะ บีบเคล้นหนักๆ เกิดรอยฝ่ามือขึ้นประทับทับซ้อน มือเล็กทั้งสองข้างที่ถูกรัดด้วยเข็มขัด ทำให้หล่อนไม่อาจยันตัวขึ้นมาได้ ใบหน้าสาวแนบลงบนที่นอน เสียดสีกับที่นอนตามจังหวะขับเคลื่อนจนรู้สึกร้อนไปทั้งแถบ
เมฆ่าคงคิดว่า ตนเองเป็นคนขี่ม้า เขาเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือหล่อนออก ใช้มือดึงข้อมือของหล่อนด้วยมือทั้งสองข้างของตน ทำให้ร่างกายส่วนหน้าของสาวเจ้าลอยเหนือที่นอน จากนั้นก็ส่งแรงสวาทชุดใหญ่ใส่สาวร่างเล็ก เหมือนไม่หนำใจ เขาปล่อยข้อมือหล่อนเป็นอิสระข้างหนึ่ง ใช้มือของตัวเองจิกลงกลางหัวณัฐรวี เขาทำราวกับว่าตนเองกำลังบังคับม้า โยกเอวใส่ ดังข้อมือเล็ก พร้อมกับดึงศีรษะหล่อน บังคับทิศทางตามแต่ใจ
“อา...โคตรดีเลย...อูว์” เสียงเขาบ่งบอกถึงความสุข ความหฤหรรษ์กับเพลิงเสน่หาที่กำลังเสพสม เป็นครั้งแรกที่เขากระทำรุนแรงต่อสตรี ไม่มีความอ่อนโยน อ่อนนุ่มสักนิดเดียว
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนณัฐรวีไม่รู้ รู้เพียงว่า ทุกวินาทีที่เมฆาอยู่เหนือร่างตน มันคือความทรมานอย่างสุดแสน เป็นความเจ็บปวดที่หล่อนเริ่มทนไม่ไหว อยากให้ทุกอย่างจบลงในวินาทีนี้ จบลงเสียที
สวรรค์เหมือนเมตตา เมฆากำลังเดินวิ่งเข้าเส้นชัย เขาขยับเอวรัวเร็ว ดึงหนอนใหญ่อ่อนนุ่มออกจากพุ่มดอกไม้ จับร่างสาวให้นอนหงาย ขยับตัวคร่อมช่วงอกของณัฐรวี มือใหญ่จับสิ่งนั้นรูดขึ้นรูดลงตรงหน้าหล่อน
“อ้าปาก” เขาสั่งขณะชักความเป็นชาย ณัฐรวีทำตามอย่างว่าง่ายและอ่อนแรงทั้งกายใจ ไม่รู้ด้วยว่าเขาสั่งทำไม แล้วในที่สุดหล่อนก็รู้ว่า เขาต้องการอะไร
เมฆาพ่นความสุขใส่ปากเล็กที่แทบจะหุบปากทันทีที่น้ำข้นๆ กระเด็นใส่ปากตน แต่ช้ากว่ามือใหญ่อีกข้างที่บีบแก้มหล่อนไว้ ให้ปากจิ้มลิ้มอ้ารับน้ำสวาทที่ระเบิดเข้าไปในลำคอ ณัฐรวีพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนกับกลิ่นและรสชาติของน้ำเสน่หานั้น แต่ก็ไม่อาจคายมันออก ปล่อยให้มันไหลลงไปในท้อง เนื่องจากเมฆาเหมือนรู้ทัน นำความแข็งแรงของเรือนกายสอดเข้าไปในโพรงปากสาว
ความทรงจำในวันเสียสาวไม่ประทับใจเอาเสียเลย ตรงกันข้ามมันคือความทรงจำเลวร้ายที่สุดของณัฐรวี เป็นบทเรียนที่หล่อนจำฝังใจ
“นี่แค่เริ่มต้น เธอต้องเจออีกเยอะ”
เมฆาทำตามที่เอ่ยไว้ เขากระทำต่อหล่อนเสมือนสิ่งไม่มีชีวิต ไม่รู้สึกรู้สา ไม่รู้จักความเจ็บปวดและเสียใจ เขากระทำย่ำยีณัฐรวียิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย เป็นทาสอารมณ์ที่ไม่รู้ว่า ชาตินี้จะมีวันหลุดพ้นหรือไม่