บทที่ 4
หม่อมหลวงนิรินรดารู้ว่าชนนต้องการอะไร จึงเอ่ยปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล “ผิงก็มาให้กำลังใจคุณชนนทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”
‘โง่หรือแกล้งโง่กันแน่ว่ะ’
“โธ่...ที่รักครับ คุณก็รู้นี่ครับว่าผมกำลังหมายถึงอะไร”
ในใจนั้นชนนก่นด่าหญิงคนรักเพราะความโกรธจัด แต่พอพ่นถ้อยวาจาออกมา กลับหวานหยดซะยิ่งกว่าน้ำตาลเชื่อม
และหม่อมหลวงนิรินรดาก็หลงคารมของคนรักเช่นเคย แต่กระนั้นก็ยังทำใจแข็ง ไม่ยอมให้อีกฝ่ายแตะเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ
“เอาไว้รอวันแต่งงานของเราก่อนดีไหมคะ ถ้าถึงวันนั้นเมื่อไร ผิงจะยอมตามใจคุณชนนทุกอย่างเลยค่ะ”
‘หัวโบราณ สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายเขาอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมียกันก่อนทั้งนั้น’
ชนนด่าด้วยความขัดใจ แต่เมื่อคนรักไม่ยอม ก็ต้องแสดงละครบทเศร้าต่อไป
“ผมรู้ครับที่รัก ว่าเราต้องรอให้ถึงวันแต่งงานของเราก่อน แต่ผมขอกำลังใจนิดๆ หน่อยๆ จากคุณผิงไม่ได้หรือครับ หยอดน้ำใส่ต้นไม้วันละนิดก็ยังดีนะครับ ต้นไม้มันจะได้ชุ่มชื่น เจริญเติบโตต่อไป”
“แหม! ช่างเปรียบเทียบจังเลยนะคะคุณชนน” หม่อมหลวงนิรินรดาต่อว่าคนรักยิ้มๆ
“ก็มันจริงนี่ครับ ชีวิตของผมตอนนี้เหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉารอเวลาตาย หากได้หยดน้ำมาหล่อเลี้ยง มันก็จะมีแรงสู้ มีพลังขึ้นมาอีกหน”
ไม่ได้เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เท่านั้น แต่นักเล่นละครอย่างชนนได้ตีสีหน้าเศร้าๆ ดวงตาที่ทอดมองหญิงคนรักผู้สูงศักดิ์ ก็เผยให้เห็นแววหม่นหมอง จนหม่อมหลวงนิรินรดาต้องใจอ่อนในที่สุด
“อืม...ผิงเริ่มกลัวว่าต้นไม้ต้นนี้จะเหี่ยวเฉาตายซะแล้ว เห็นทีต้องหยอดน้ำให้ต้นไม้บ้างแล้ว”
คำพูดของหม่อมหลวงนิรินรดา ทำเอาชนนลอบยิ้มอยู่ในใจ แต่ก็ยังคงแสดงละครต่อไป
“ถ้าผมทำให้คุณผิงลำบากใจ ก็ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมจะทนรอให้ถึงวันนั้นของเรา เพราะผมรักคุณผิง ผมอยากให้เกียรติคนที่ผมรักด้วยครับ”
ถ้อยคำที่เอ่ยหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า เป็นใครก็ใจละลายไปกับคำพูดเหล่านี้ หม่อมหลวงนิรินรดายอมขยับกายเข้าไปใกล้ร่างใหญ่โต แล้วกระซิบบอกคนรักอย่างเอียงอาย
“คุณชนน ขยับมาอีกนิดสิคะ ผิงจะช่วยรดน้ำให้ต้มไม้ชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง”
ไม่รอช้าให้เสียเวลา ชนนขยับกายเข้าไปนั่งชิดกับร่างบางหอมละมุน แล้วแสร้งยิ้มเศร้าๆ ขณะเอ่ยถามหม่อมหลวงผู้สูงศักดิ์
“ผมไม่ได้บังคับคุณใช่ไหมครับที่รัก”
“ไม่ค่ะ คุณชนนไม่ได้บังคับผิงหรอกค่ะ ผิงเต็มใจค่ะ”
ว่าแล้วหม่อมหลวงหญิงที่ใจละลายเพราะหลงคารมของคนรัก ก็กดเรียวปากอิ่มสีกุหลาบลงไปบนแก้มสากของชนนพอให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวว่าถูกจุมพิต จากนั้นก็รีบผละออกอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบถามอีกฝ่ายต่อด้วยความเขินอายหน้าแดงซ่านไปหมด
“ได้รับกำลังใจจากผิงหรือยังคะ”
‘กำลังใจกะผีนะสิ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าให้กำลังใจกันหรอกคุณผิง เขาเรียกว่าเอาจมูกมาชนแก้มซะมากกว่า’
“อืม...ได้กำลังมาครึ่งหัวใจแล้วครับ ขอจูบหวานๆ อีกสักครั้งได้ไหมครับทูนหัว”
ขณะอ้อนวอนขอเสียงหวาน ชนนแทบระงับอารมณ์ไม่ไหว อยากตะโกนพูด ตะโกนด่าหญิงคนรักตามที่นึกคิดอยู่ในใจ
“ได้คืบจะเอาศอกนะคะ” หม่อมหลวงนิรินรดาต่อว่ายิ้มๆ พลางเอ่ยปฏิเสธเสียงหวาน “พอแล้วค่ะคุณชนน เก็บไว้วันหลังบ้างสิคะ ขืนจูบบ่อยๆ เดี๋ยวคุณชนนก็เบื่อผิงแย่”
“โธ่...ใครเบื่อคุณผิงก็บ้าแล้วครับ คุณผิงทั้งหอมหวาน ทั้งน่ารักสมกับชื่อ ถ้าผมเบื่อ ผมคงต้องเรียกควายเป็นพี่แล้วครับ”
“ไม่เอาค่ะ อย่าว่าตัวเองสิคะ ผิงไม่อยากให้คุณชนนคิดแบบนี้” หม่อมหลวงนิรินรดาค้านออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือปิดปากคนรักไม่ให้พูดต่อว่าตัวเองอีก
ชนนจับมือเล็กนุ่มนิ่มของคนรักมาจรดริมฝีปาก แล้วเริ่มหยอดคำหวานต่อ “ก็มันจริงนี่ครับ คุณผิงทั้งสวย ทั้งเก่งและก็รวยมาก อีกทั้งยังสูงศักดิ์ด้วยฐานันดรศักดิ์ แค่คุณผิงยอมมอบหัวใจให้กับคนต่ำต้อยอย่างผม...ผมก็ดีใจมากแล้วครับ เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางเบื่อคุณผิง คนที่สำคัญยิ่งกว่าลมหายใจของผมแน่นอนครับ”
“คุณชนนปากหวานที่สุดเลยนะคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าสาวๆ ถึงติดใจคุณชนนนัก”
คำพูดแสร้งหยอกเอินของหม่อมหลวงนิรินรดา ทำเอาวัวสันหลังหวะอย่างชนนถึงกับสะดุ้งโหยง หน้าถอดสี รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน
“สาบานเลยครับคุณผิง ผมไม่เคยมีใครนอกจากคุณผิงเลยครับ สาวๆ พวกนั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลยครับ”
ถ้อยวาจาหวานหยดถูกพ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งหม่อมหลวงนิรินรดาไม่เคยล่วงรู้เลยว่าจริงๆ แล้วชนนรักเธอไม่ถึงครึ่งที่เขารักตัวเอง และที่เขายอมคบกับสาวทึนทึกหัวโบราณอย่างเธอ เพราะเธอมีคำว่า หม่อมหลวง นำหน้าชื่อ ซึ่งนั่นมันช่วยให้เขามีหน้ามีตาในวงสังคมไฮโซไปด้วย และที่สำคัญ ชื่อของหม่อมหลวงจิตริน ผู้ที่เป็นบิดาของเธอ เป็นยันต์ชั้นดี ทำให้ตำรวจไม่กล้าเข้ามายุ่งกับธุรกิจลับๆ ของเขา
“ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยค่ะ”
หม่อมหลวงนิรินรดาสัพยอกคนรัก ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “ผิงรู้ค่ะว่าคุณชนนซื่อสัตย์กับผิง และก็ไม่เคยมีใครนอกจากผิง”
“ครับ สาบานได้เลยครับ ผมไม่เคยมีใครเลยครับ”
มันเป็นคำสาบานแค่เพียงลมปากเท่านั้น เพราะคล้อยหลังจากหม่อมหลวงนิรินรดากลับบ้านไปแล้ว หรือวันใดที่หญิงสาวไม่ได้มายังไนท์คลับ ชนนก็มีเด็กสาวๆ คอยบำเรอความสุขให้แบบไม่ซ้ำหน้ากัน
หม่อมหลวงนิรินรดาคลี่ยิ้มหวานให้คนรัก จับมืออีกฝ่ายมากุมไว้แน่น “ไม่ต้องสาบานหรอกค่ะ ผิงเชื่อคุณชนนค่ะ”
“ขอบคุณมากครับที่เชื่อใจผม ถ้าหากคุณผิงไม่เชื่อ ผมจะนั่งสาบานอยู่ตรงนี้จนกว่าจะทำให้คุณผิงเชื่อผมครับ”
“อย่าทำถึงเพียงนั้นเลยค่ะ ผิงเชื่อใจคุณค่ะ เพราะผิงรักคุณ และรู้ว่าคุณชนนก็รักผิงเช่นเดียวกัน ผิงรู้ว่าคุณชนนไม่กล้าทรยศผิงหรอกค่ะ”
อีกครั้งที่วัวสันหลังหวะ ต้องแอบสะดุ้งโหยงกับถ้อยคำบางคำ ซึ่งหม่อมหลวงนิรินรดาเน้นหนักอย่างต้องการเป็นการย้ำเตือนให้เขาหวาดกลัว
“ไม่ทรยศแน่นอนครับ นายชนนยอมถวายหัว ภักดีกับคุณผิงแค่เพียงคนเดียวครับ”