บทที่ 2
“ค่ะ ไปกันหมดนี่แหละค่ะ” นภาพรตอบกลับ “แกก็ไปด้วยนะปราง ถ้าแกไม่ไปความลับแกถูกเปิดโปงแน่”
มะปรางมองหน้านภาพร ก่อนหันไปมองหน้าก้องเกียรติที่ยืนยิ้มให้ มะปรางไม่อยากไปด้วยแต่ก็กลัวว่าก้องเกียรติเปิดเผยความลับ หล่อนจึงต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไปก็ได้”
“ไปกันเลยดีกว่าค่ะพี่ก้อง ฟ้าหิ๊วหิว”
นภาพรควงแขนก้องเกียรติก้าวเดินไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีมะปรางกับมานพเดินตามไป
แม้ว่าร้านอาหารที่ก้องเกียรติพามากินมื้อเย็นจะเป็นร้านอาหารเปิดใหม่ ทว่ารสชาติอาหารไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะอาหารพิเศษประจำร้านอร่อยจนลืมความอ้วน ตักข้าวเพิ่มไม่ต่ำกว่าสองจาน
ก้องเกียรติ นภาพรและมานพกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พูดคุยอย่างสนุกสนาน จะมีเพียงคนเดียวที่นั่งหน้าง้ำหน้างอ กินอาหารด้วยท่าทางซังกะตาย ลอบมองก้องเกียรติเอาใจนภาพรด้วยความหมั่นไส้ อยากลุกหนีไปให้พ้นๆ ช่างขัดหูขัดตาเหลือเกิน
“กินเยอะๆ นะฟ้า อาหารร้านนี้อร่อยมาก” ก้องเกียรติตักกับข้าวใส่จานนภาพร
“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง แต่ถ้ากินมากกว่านี้ ฟ้ากลัวอ้วนค่ะ”
“จะกลัวทำไมครับ ถึงฟ้าจะอ้วนตัวเท่าตุ่มพี่ก็ชอบฟ้า”
นภาพรอายม้วน มะปรางถึงกับเบ้ปาก นึกอยากคายของที่กินเข้าไปออกมาทางปาก
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะปราง เป็นอะไรอาหารไม่อร่อยเหรอ” คนถามคือมานพที่หันมาเห็นใบหน้ามะปรางพอดี
“อาหารอร่อย แต่แกงนี้มันเลี่ยนไปหน่อยเลยอยากจะอ้วก” มะปรางตอบ
“นึกว่าที่อยากอ้วกเพราะท้องซะอีก” ก้องเกียรติพูดมองมะปรางแล้วยิ้มกริ่ม มะปรางอยากลุกขึ้นเอาส้อมทิ่มหน้าเขาเหลือเกิน คนอะไรพูดกวนโมโหได้ทุกเวลา พูดแต่ละประโยคชวนให้คนอื่นคิดไปไกล
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ” มะปรางไม่อยากพูดมาก ไม่อยากเถียงก้องเกียรติ เพราะกลัวว่าจะเข้าตัวเองอีก ทางเดียวคือ หนีไปจากตรงนี้ดีที่สุด
“เธอต้องไปเอาของที่พ่อกับแม่ฝากฉันมาให้เธอนะ เพราะฉะนั้นเธอยังกลับไม่ได้” ก้องเกียรติบอกมะปราง
“แล้วทำไมคุณไม่เอามาเลยล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา”
“ตอนแรกก็กะว่าจะเอามาให้ แต่ดันลืมไง อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันต้องไปเชียงราย ไม่กลับมาเชียงใหม่แล้วจะลงใต้เลย ฉันคงเอามาให้เธอไม่ได้ เธอต้องไปเอาเอง” มะปรางไม่อยากไปคอนโดผู้พูดสักเท่าไหร่ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง เกรงว่าเขาจะหักหาญน้ำใจตนอีก แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้
“ฟ้า แกไปเอาของเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” มะปรางหาตัวช่วย
“โอ๊ย! อยู่ๆ ก็ปวดหัวตุ้บๆ เลย ฉันคงไปกับแกไม่ได้”
นภาพรนำมือมาจับตรงขมับ แสร้งทำเป็นปวดศีรษะขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน
“นพล่ะ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” มะปรางหาตัวช่วยที่สอง มานพกำลังอ้าปากตอบ แต่มีบางอย่างมากระแทกขาเขา มานพมองหน้าคนที่เอาเท้ามาเตะขาตนเหมือนกับจะบอกอะไรสักอย่าง แต่เขายังไม่ทันจะพูดอะไร นภาพรก็พูดออกมากลางปล้อง
“นพ นายไปส่งฉันนะ ฉันปวดหัวมากๆ เลย ปวดจนลุกเดินไม่ไหว พี่ก้องกับปรางเป็นเจ้านายลูกจ้างกัน ไปด้วยกันไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ฉันนี่สิตัวคนเดียว นายไปส่งฉันดีที่สุด” นภาพรลุกขึ้นยืน เดินไปฉุดมานพที่ทำหน้างง “ไปเร็ว ฉันปวดหัว อยากกลับบ้านไปกินยา”
มานพลุกขึ้นยืนแบบงงๆ มะปรางถึงกับมึน เพราะหากสองคนนี้ไปจากที่นี่ หล่อนก็จะไม่มีตัวช่วย ต้องไปกับก้องเกียรติตามลำพัง
“ลานะคะพี่ก้อง ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวค่ะ” นภาพรพนมมือไหว้ก้องเกียรติ มานพทำตามอีกคน ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจากร้านอาหาร
“เราไปกันเลยนะ เธอจะได้ไม่กลับหอดึก”
ก้องเกียรติเรียกพนักงานมาเก็บเงิน หลังจากจัดการเรื่องค่าอาหารเสร็จ ก้องเกียรติกับมะปรางได้เดินออกจากร้านอาหาร ไปยังรถยนต์ของเจ้ามือ ไม่นานนักรถยนต์หรูถูกขับออกจากลานจอดรถ มุ่งตรงไปยังคอนโดของก้องเกียรติ ระหว่างทางมะปรางใช้ความคิดอย่างหนัก หาทางเอาตัวรอดจากเฒ่าหัวงู