บทที่ 1
รถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ล่าสุดสีน้ำเงินป้ายแดงแล่นมาจอดหน้าคณะบัญชี ในมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองเชียงใหม่ เจ้าของรถก้าวลงมาจากรถ ก่อนเดินอ้อมมายังประตูฝั่งคนขับ เขาเปิดประตูหยิบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ออกมา จากนั้นไปนั่งรอสตรีที่เขาตั้งใจมาหาหน้าคณะ
มะปรางชะงักเท้าที่กำลังเดินออกจากคณะเมื่อเห็นชายหน้าตาดีแต่นิสัยเลวนั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหิน หล่อนอยากเบี่ยงเท้าเดินหนีไปที่อื่น เพราะไม่อยากเห็นหน้าตาเฒ่าหัวงูสักเท่าไหร่ ทว่าคงหนีไม่ทันเพราะเขาดันเห็นหล่อนเสียก่อน
ทว่าหญิงสาวอีกคนที่เดินมาพร้อมกับมะปรางยิ้มกว้างเมื่อเห็นก้องเกียรติ เนื้อเต้นทันทีที่เห็นเขาเดินมาหาพร้อมช่อดอกไม้
“ดอกไม้สำหรับคนสวยครับ” ก้องเกียรติยื่นช่อดอกไม้ให้นภาพร เพื่อนร่วมคณะของมะปราง ทว่านัยน์ตาเขากลับมองมะปรางที่เบือนหน้าหนี
“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง” นภาพรรับดอกไม้และกล่าวคำขอบคุณ “พี่ก้องน่ารักจังเลยค่ะ”
“น่ารักแล้วรักหรือเปล่าครับ พี่อยากให้ฟ้ารักพี่จังเลย”
ก้องเกียรติหยอดคำหวาน นภาพรหน้าแดงระเรื่อ บิดตัวไปมาด้วยกิริยาเขินอาย มะปรางเห็นแล้วรู้สึกเลี่ยนจนอยากจะอาเจียน
“ไปกินข้าวด้วยกันนะฟ้า ร้านอาหารเพื่อนพี่เพิ่งเปิด พี่ว่าจะไปอุดหนุนมันซะหน่อย” ก้องเกียรติกล่าวชวนนภาพร ก่อนหันไปพูดกับมะปราง “เธอไปด้วยนะ เพราะเธอต้องไปเอาของที่คอนโดฉัน พ่อกับแม่เธอฝากมาให้”
“ไม่ไป” มะปรางตอบกลับทันที “ไม่ว่าง มีนัดแล้ว”
“มีนัดกับใคร” เสียงถามของก้องเกียรติค่อนข้างเข้ม
“โน่นไง เดินมาโน่นแล้ว” มะปรางชี้ไปทางชายหนุ่มหน้าตาน่ารักที่กำลังเดินมาทางคณะ มะปรางรีบเดินไปหามานพ เพื่อนต่างคณะ “นพวันนี้เรามีนัดไปกินข้าวด้วยกัน ลืมหรือเปล่า”
มานพที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวทำหน้างง แต่พอมะปรางแอบหยิกแขนตนเบาๆ มานพถึงเข้าใจ
“อ๋อๆ ใช่ๆ ลืมเลย” มานพไหลไปตามน้ำ ก้องเกียรติกระตุกยิ้มขยับสายตามองผู้พูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ฉันเลี้ยงเอง”
“ไม่ไป ฉันจะไปกินข้าวแกงข้างทาง ฉันไม่ชอบกินของหรู”
มะปรางพูด หล่อนไม่อยากอยู่ใกล้ก้องเกียรติ ไม่แม้แต่อยากเห็นหน้า นึกดีใจที่มหาวิทยาลัยเปิด หล่อนจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเขา ที่ไหนได้ ก้องเกียรติกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ มิหนำซ้ำเขายังตามจีบนภาพร เพื่อนร่วมคณะ มาให้มะปรางเห็นหน้าทุกวัน แรกๆ มะปรางไม่รู้สึกอะไร เพราะเกลียดก้องเกียรติเป็นทุนเดิม แล้วยิ่งเขาข่มเหงตนความเกลียดก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอเห็นภาพหวานบ่อยๆ มะปรางก็เริ่มรู้สึกตงิดๆ ในใจขึ้นมา
“เธอไม่ไปก็ได้” ก้องเกียรติไม่เซ้าซี้ เขามีไม้เด็ดกว่านั้น “แต่ฉันจะบอกความลับของเธอให้พ่อกับแม่รู้”
มะปรางตกใจไม่คิดว่าก้องเกียรติจะขู่ตนต่อหน้านภาพรกับมานพ แน่นอนว่าอีกสองคนหูผึ่ง อยากรู้ขึ้นมาทันใดว่าความลับนั้นคืออะไร
“ความลับอะไรเหรอคะพี่ก้อง” นภาพรรีบถาม มะปรางทำหน้าตามีพิรุธ กลัวเหลือเกินว่าก้องเกียรติจะปากเสีย
“ไม่มี...” มะปรางชิงพูดก่อน ทว่าเสียงของก้องเกียรติที่ดังกว่ากลบ
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ปรางทำของที่ไร่พังน่ะ แล้วไม่ได้บอกพ่อกับแม่ พี่เป็นคนจิตใจดีเห็นว่ากำลังเรียนหนังสือ พ่อกับแม่ปรางก็เป็นคนงานเก่าแก่ในไร่พี่ด้วย พี่เลยไม่หักจากเงินเดือน เอาเรื่องนี้ไว้ขู่ปรางเวลาดื้อ ฟ้าก็รู้นี่ว่า ปรางดื้อแค่ไหน ถ้าไม่มีอะไรขู่ ไม่มีใครเอาอยู่จริงไหม” ก้องเกียรติปด มะปรางโล่งใจ
“จริง” นภาพรกับมานพประสานเสียงพูดพร้อมกัน มะปรางมองเพื่อนตาขวาง แทนที่จะพูดแก้ต่าง กลับเห็นด้วยซะงั้น
“แกสองคนนี่นะ” มะปรางกระเง้ากระงอดเพื่อน
“ก็มันจริง แกดื้อมาก ดื้อสุดๆ ดื้อที่สุดในสามโลกเลย” นภาพรรู้ดี
“เรื่องนี้ฉันก็เห็นด้วย” มานพเสริม มะปรางงอนใส่เพื่อนทั้งสอง และไม่ลืมสะบัดหน้าใส่ก้องเกียรติ
“สรุปว่าไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนะ รีบไปเถอะ พี่หิวแล้ว” ก้องเกียรติพูด