ตอนที่ 2 (1)
ที่บ้านไร่ใจอสูร พ่อเลี้ยงพิพัฒน์และไม้เมืองกำลังนั่งคุยงานกันอยู่ในห้องทำงาน แต่ดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงพิพัฒน์จะไม่มีสมาธิในการคุยเรื่องงานเลย ก็ใจเขาเอาแต่คิดถึงอลินชาที่อีกไม่นานก็จะเดินทางมาถึงไร่ จนทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจที่จะคุยงานกับไม้เมืองเลยในเวลานี้ จนทำให้ไม้เมืองอดแซวไม่ได้
“พ่อเลี้ยงจะไปรอรับคุณอลินชาไหมครับ” ไม้เมืองเอ่ยแซวเจ้านายที่เป็นทั้งเพื่อนของเขาด้วยความหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหนให้เขาไปทำความสะอาดเรือนพิกุลโดยไม่บอกว่าให้ไปทำไม แต่มาเช้าวันนี้กลับมาบอกว่าให้คนไปรับลูกเลี้ยงคุณนายสายหยุดมาที่ไร่และให้พาเธอไปพักที่เรือนพิกุล
“หยุดเลยไม้ ฉันจะไปรับทำไม เธอแค่จะมาเป็นพนักงานในไร่ เธอก็แค่จะมาเป็นคนงานคนหนึ่งในไร่เท่านั้น ทำไมคนอย่างพ่อเลี้ยงพิพัฒน์จะต้องลดตัวลงไปต้อนรับเด็กกะโปโลแบบนั้นด้วย” ปฏิเสธออกไปข้าง ๆ คู ๆ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วอยากไปแทบตาย ชายหนุ่มก็รู้ด้วยว่าอลินชาไม่ได้เป็นเด็กกะโปโลอย่างที่เขาบอกเพื่อนไปแน่ ก็เขาเคยเห็นหญิงสาวมาแล้วครั้งหนึ่งและมันก็ตราตรึงอยู่ในสมองเขาตลอดเวลา แล้วเรื่องอะไรเขาจะยอมรับให้โดนล้อล่ะ
“เหรอ! ถ้างั้นถ้าเธอมาแล้วเธอสวยโดนใจฉัน ฉันจีบนะไอ้พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ผู้สูงส่ง” ไม้เมืองวางระเบิดลูกใหญ่ลงไปจนแทบทำให้พ่อเลี้ยงนั่งไม่ติดเลยทีนี่
“นาย...วะ...ว่า...อะไรนะไม้?” พ่อเลี้ยงถามเลขาฯ ตัวแสบของตัวเองตะกุกตะกักด้วยความไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเท่าไรนัก
“จะจีบเธอ พ่อเลี้ยงได้ยินไม่ผิดหรอกครับ” ไม้เมืองเอ่ยย้ำเสียงหนักแน่นชัด ๆ อีกครั้งให้เขาฟัง
“นายเลิกคิดได้เลยไม้เมือง ถ้านายยังอยากเป็นเพื่อนฉัน ยังอยากมีงานทำนายก็หยุดความคิดนี้ซะ...”
เอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปยังไม้เมือง กระชากคอเสื้อของไม้เมืองให้เข้ามาประจันหน้ากับตัวเอง ซึ่งการกระทำของชายหนุ่มนั้นมันทำให้ไม้เมืองแอบยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง แต่ถ้าเขามีสติสักนิดก็จะรู้ว่าโดนไม้เมืองแกล้งเพื่อที่จะพิสูจน์อะไรเท่านั้นเอง ซึ่งไม้เมืองก็รู้แล้วว่าลูกเลี้ยงของคุณนายสายหยุดไม่ได้แค่มาทำงานใช้หนี้อย่างเดียวแน่ สงสัยบ้านไร่ใจอสูรที่มีชื่อที่สุดในโคราชจะมีนายหญิงก็คราวนี้แหละ
“ไม่คิดก็ไม่คิด แล้วเมื่อไรจะเอามือออกจากคอเสื้อฉันสักทีเนี่ย! เดี๋ยวเสื้อฉันก็ยับกันพอดี” เมื่อได้รู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้แล้ว ไม้เมืองก็บอกให้เพื่อนที่เป็นทั้งเจ้านายของตัวเองเอามือออกจากคอเสื้อของตัวเอง
หึหึ สงสัยไอ้พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เพื่อนยากของฉันคงตกหลุมรักเด็กก็คราวนี้แหละว่ะ!
...ดูจากสายตาตอนที่เขาถูกกระชากคอเสื้อเขาเข้าไปใกล้เขาได้สังเกตเห็นความนัยบางอย่างในสายตาสีนิลคู่นั้น มันดูผิดแปลกไปจากทุกครั้งที่เขาเคยเห็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ที่ใคร ๆ ต่างกลัวเกรงคนนี้มีอะไรจะแสดงออกทางสายตาถ้าไม่รู้จักและสนิทกันจริง ๆ ก็จะไม่มีวันรู้จุดอ่อนของเพื่อนเขาคนนี้ ขนาดแค่เขาพูดเล่นแค่นี้ยังโดนขู่ว่าจะไล่ออกจากงานและยังจะเลิกเป็นเพื่อนกับเขาอีก สงสัยอลินชาคนนี้คงจะโดนใจมันจริง ๆ
“ฉันขอโทษด้วยไม้” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เอามือออกจากคอเสื้อของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยขอโทษ และกว่าที่เขาจะคิดได้ว่าโดนเพื่อนแกล้งให้เขาก็พลาดไปซะแล้ว
“พ่อเลี้ยงมีเรื่องจะบอกเลขาฯ และเพื่อนคนนี้ไหม?” ไม้เมืองถามลองดูเผื่อเพื่อนพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ปากแข็งจะเล่าอะไรให้เขาฟังบ้าง
“ไม่มีอะไรนี่ ไปนายจะไปไหนก็ไป ฉันจะทำงานแล้วส่วนนายอย่าคิดว่าเป็นเพื่อนฉันแล้วจะมาถามฉันแบบนี้ได้นะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน นายเข้าใจใช่ไหมไม้” พ่อเลี้ยงตีสีหน้าขรึมตอบไม้เมืองในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน เขารู้อย่างไร ๆ ไม้เมืองต้องสืบหาจนรู้ความแน่ แต่รู้ช้าหน่อยจะเป็นไร ถ้าหากรู้ในตอนที่อลินชาเป็นของเขาแล้ว
“ได้ ๆ ฉันไม่ถามนายก็ได้ ถ้างั้นฉันไปรอต้อนรับพนักงานใหม่ก่อนนะ คงอีกไม่นานก็จะเดินทางมาถึงแล้วมั้ง” ไม้เมืองรู้ว่าเพื่อนปากแข็งของเขาตีสีหน้าขรึมไปงั้น ๆ แหละ แต่เขาก็ไม่อยากจะซักมากไป ยังมีเวลาอีกเยอะที่เขาจะซักเพื่อนปากแข็งคนนี้
“อืม...ถ้าเธอมาถึงแล้วนายก็โทร.มาหาฉันด้วยล่ะ” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ตะโกนไล่หลังไม้เมืองไปเมื่อเห็นว่าเพื่อนนั้นเดินออกไปแล้ว
“ได้ครับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ผู้สูงส่ง” ไม้เมืองตะโกนกลับมาด้วยท่าทางขี้เล่น
เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับมาแล้ว เขาก็เดินไปยืนชมวิวที่ระเบียงของห้องทำงานด้วยความสับสนในใจที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้ มันเกิดอะไรขึ้น เขาถึงรู้สึกโกรธไม้เมืองที่พูดว่าจะจีบอลินชา แถมยังขู่จะไล่ออกจากงานและเลิกเป็นเพื่อนกันกับไม้เมือ งหรือว่า...
“ไม่! ไม่จริงฉันไม่ได้รักอลินชา” เมื่อคิดว่าตัวเองรักอลินชา ชายหนุ่มก็รีบร้องปฏิเสธออกมาทันที พร้อมกับต่อว่าตัวเองอยู่คนเดียว มันจะเป็นไปได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาเพิ่งเคยเห็นเธอแค่ครั้งเดียว แล้วจะมารักเธอได้อย่างไรมันเป็นไปไม่ได้แน่
ขณะนี้รถของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ที่ส่งไปรับอลินชามาที่ไร่มันก็ผ่านมา 1 ชั่วโมงแล้วที่หญิงสาวนั่งมา ตอนนี้รถก็พาเธอวิ่งเข้ามาในเขตบ้านไร่ใจอสูรแล้ว หญิงสาวยอมรับว่าไร่นี้เป็นไร่ที่ใหญ่และสวยงามตามคำร่ำลือของคนที่เคยมาแต่ถึงจะสวยอย่างไร เธอก็ไม่ชอบบ้านไร่ใจอสูรอยู่ดี ก็ชื่อไร่ฟังดูแล้วน่ากลัวชะมัด หญิงสาวก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าทำไมต้องชื่อบ้านไร่ใจอสูรเพราะมันเป็นนามสกุลของเจ้าของไร่ที่สืบทอดกันมานานนับ 10 ปีแล้ว และยิ่งมาตอนนี้ยิ่งมีชื่อเสียงทั่วโคราชเลยโดยเฉพาะเจ้าของไร่อย่างพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูรที่ใคร ๆ ต่างอยากจะอยู่ใกล้ชิดด้วย แต่หญิงสาวก็ไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์คนนี้สักครั้ง แต่วันนี้แล้วที่หญิงสาวจะได้เจอพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ที่ใคร ๆ ว่าหล่อร้ายที่สุดในโคราช เมื่อคิดได้ดังนั้นหัวใจของหญิงสาวก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะขึ้นมาทันทีด้วยความตื่นเต้น
“คุณลุงคะ ใกล้ถึงที่พักของอลินยังคะ?” อลินชาถามลุงขับรถ ในขณะที่รถวิ่งอยู่
“ใกล้ถึงแล้วครับ อีกไม่นานก็จะถึงเรือนพิกุลที่อยู่ท้ายไร่แล้วครับ” ลุงขับรถเอ่ยตอบมา
“อ้าว! ที่นี่ไม่มีที่พักของคนงานเหรอคะถึงได้พาอลินไปพักที่ท้ายไร่?” อลินชาถามลุงขับรถด้วยความงุนงง ไร่ออกจะใหญ่ทำไมถึงให้เธอไปพักที่ท้ายไร่และยังชื่อเรือนอะไรก็ไม่รู้หญิงสาวได้ยินไม่ชัดเท่าไรที่ลุงขับรถพูด
“มีครับแต่พ่อเลี้ยงบอกลุงให้พาคุณไปพักที่ท้ายไร่ครับ” อย่าว่าแต่หนูคนนี้เลยที่งง ขนาดตอนที่เขาถูกเรียกไปพบและให้ไปรับหนูคนนี้มาทำงานในไร่เขายังงงเลยที่พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ลงทุนส่งรถไปรับพนักงานเอง แถมยังให้พักที่เรือนพิกุลที่อยู่ท้ายไร่อีกต่างหาก ซึ่งเรือนพิกุลเป็นเรือนที่พ่อเลี้ยงพิพัฒน์รักและหวงมาก แต่ทำไมมาวันนี้ถึงได้ให้หนูคนนี้เข้าไปอยู่ก็ไม่รู้
“ค่ะ อลินเข้าใจแล้วค่ะ” อลินชาไม่ได้คิดอะไรมากที่ได้ไปพักท้ายไร่ อย่างไรเธอก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่งของเขาที่มาทำงานใช้หนี้ และเวลาผ่านมาไม่เกิน 10 นาทีรถที่หญิงสาวนั่งมาก็จอดที่น้าเรือนที่ว่า
“คุณครับ ถึงเรือนพิกุลที่คุณจะมาอยู่แล้วครับ” ลุงชมร้องเรียกให้อลินชาลงมาจากรถเมื่อรถจอดสนิทแล้ว
“ค่ะคุณลุง” แล้วหญิงสาวก็เปิดประตูลงจากรถพอลงมาแล้วก็มีผู้ชายหน้าตาดีแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ายี่ห้อดังเดินส่งยิ้มมาทางเธอ จากสภาพการแต่งตัวแล้วหญิงสาวจึงคิดว่าผู้ชายที่แต่งตัวดีคนนั้นเป็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูร ก็มีเขาคนเดียวที่แต่งตัวดีที่สุดในบรรดาที่ยืนอยู่หน้าเรือนอะไรก็ไม่รู้ที่คุณลุงคนนี้บอกเธอก่อนหน้านี้แต่หญิงสาวก็จำไม่ได้
“สวัสดีครับคุณอลินชา พาซื่อ และยินดีต้อนรับสู่บ้านไร่ใจอสูร และนี่คือเรือนพิกุลที่พักของคุณครับ” เมื่อเห็นอลินชาเดินลงมาจากรถไม้เมืองก็รีบเดินเข้ามาทักทายหญิงสาว พร้อมกับกล่าวสวัสดีและเอ่ยต้อนรับหญิงสาวพร้อมกับแนะนำที่พักของเธอด้วยความเป็นมิตร และเขาก็ได้รู้แล้วว่าเพื่อนพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ปากแข็งของเขาทำไมถึงหวงนัก ก็สวยน่ารักแบบนี้เอง พอคิดถึงเพื่อนเขาก็ลืมเลยว่าเพื่อนสั่งให้โทร.ไปบอกถ้าอลินชามาถึง แต่พอคิดไปคิดมาไม่โทร.ดีกว่า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างพ่อเลี้ยงพิพัฒน์จะทำอย่างไรถ้าเขาไม่โทร.ไปบอกว่าอลินชามาถึง
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูร” อลินชาเอ่ยสวัสดีกลับพร้อมกับยกมือไหว้งาม ๆ แบบไทยหนึ่งครั้งด้วยความเป็นมิตรเช่นกัน
“ฮ่า ๆ ๆ ผมไม่ใช่พ่อเลี้ยงพิพัฒน์หรอกครับแต่ผมเป็นเลขาฯ ของพ่อเลี้ยงชื่อ ไม้เมือง ใจนักสู้ ครับ” ไม้เมืองทั้งขำทั้งอธิบายให้อลินชาฟังและมันทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้ก็คือ อลินชาคนนี้ไม่รู้จักพ่อเลี้ยงพิพัฒน์เสือผู้หญิงที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักกันในโคราช หญิงสาวตรงหน้าไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้นะ...
อลินชาหน้าแดงทันทีเมื่อตัวเองปล่อยไก่ออกไปตัวเป้ง ๆ ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เธอไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์นิและแถมผู้ชายคนนี้ก็แต่งตัวดูดีแถมยังหล่อด้วย จะไม่ให้คิดว่าเป็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ได้อย่างไร หญิงสาวลืมคิดไปว่าคนอย่างพ่อเลี้ยงจะมายืนต้อนรับคนงานอย่างเธอทำไมก็ในเมื่อเธอเป็นแค่พนักงานนี่
“อลินขอโทษคุณไม้เมืองด้วยนะคะที่เข้าใจผิดแถมยังปล่อยไก่อีก แหะ ๆ ๆ” อลินชาทั้งพูดทั้งเขินที่ตัวเองปล่อยไก่ตัวใหญ่แบบนี้ออกไป
“ไม่เป็นอะไรครับคุณอลิน เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปในเรือนพิกุลนะครับส่วนของผมจะให้ป้านวลกับลุงชมขนตามเข้าไปนะครับ”
“จะดีเหรอคะคุณไม้เมือง อลินเป็นแค่คนงานธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นนะคะ” อลินเอ่ยค้านที่จะให้คนขนของให้
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับคุณอลินชา”
“คุณไม้เมืองอย่าเรียกอลินว่าคุณเลยค่ะ อลินเป็นแค่คนงาน แถมยังอายุน้อยกว่าคุณอีก เรียกอลินว่าน้องอลินเถอะค่ะ” อลินชาฟังไม้เมืองเรียกว่าคุณแล้วมันฟังดูขัดหูอย่างไรไม่รู้ หญิงสาวเลยขอให้เขาเรียกเธอว่าน้องแทน
“ได้ครับน้องอลิน ถ้างั้นน้องอลินก็เรียกพี่ว่าพี่ไม้นะ เพราะเราสองคนก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย” ไม้เมืองก็ไม่อยากเอาเปรียบอลินชา เขาเลยขอให้หญิงสาวเรียกเขาว่าพี่บ้าง
“ค่ะพี่ไม้” อลินชารับคำง่ายดาย หญิงสาวรู้สึกถูกชะตากับชายตรงหน้าตั้งแต่ที่ได้คุยกันแล้ว
“ถ้างั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวพี่จะพาไปดูห้องนอนและก็ห้องต่าง ๆ ในบ้าน”
“ค่ะ” อลินชารับคำแล้วก็เดินตามไม้เมืองเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ได้ถือของของตัวเองเข้าไปเลย ก็ตอนนี้ป้านวลกับลุงชมที่ไม้เมืองสั่งนั้นขนเข้าก่อนไปแล้ว
“แล้วงานที่อลินต้องทำล่ะคะพี่ไม้?” เธอถามในขณะที่เดินชมบ้าน
“งานของน้องอลินพ่อเลี้ยงจะเป็นคนมาสั่งเองครับ” ไม้เมืองตอบไปตามจริง ก็เพื่อนเขาบอกว่าจะเป็นคนสั่งงานอลินชาและสอนงานเองกับมือโดยไม่ให้คนอื่นมายุ่ง เขาก็เลยจะคอยเป็นผู้ชมที่ดีอยู่ห่าง ๆ
“ค่ะ แล้วอลินจะเริ่มทำงานได้วันไหนคะ?” อลินชาถามไม้เมืองด้วยความอยากรู้ถ้าเธอเริ่มทำงานเร็วเท่าไรเธอก็จะใช้หนี้หมดเร็วเท่านั้น พอใช้หนี้หมด หญิงสาวก็จะได้กลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่มันจะหมดง่ายได้อย่างไร เงินไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าหมื่นสองหมื่นยังพอว่า แต่นี่อะไร เงินเป็นสิบ ๆ ล้านเลย ชาตินี้ไม่รู้จะใช้หมดไหม
“พรุ่งนี้!” เสียงที่ดังอยู่นั้นเป็นเสียงของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ที่ตอบเธอ เขานั่งรอรับโทรศัพท์จากเลขาฯ จอมจุ้นของเขาตั้งนานแต่ก็ไม่โทร.ไปสักที เขาเลยต้องลงมาดูที่เรือนเองว่าหญิงสาวมาถึงหรือยัง แต่พอมาถึงเขาก็เห็นเพื่อนที่เป็นทั้งเลขาฯ กำลังเดินคุยกับเธอหน้าตายิ้มแย้มอย่างมีความสุข มันเลยทำให้เขาทนดูไม่ได้จนต้องเดินเข้ามาหา และทันได้ยินคำถามเข้าพอดี เขาเลยตอบแทนไม้เมืองเลขาฯ จอมจุ้นของเขาเสียเลย
อลินชาหันไปทางต้นเสียงทันทีเมื่อเสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังเธอนั้นฟังดูมีอำนาจอย่างไรไม่รู้ พอหันไปเห็นเจ้าของเสียงแล้วอลินชาถึงกับอึ้งกับรูปร่างหน้าตาของผู้ชายตรงหน้า หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะหล่อขนาดนี้ ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งเป็นสันของเขานั้นมันน่าสัมผัสยิ่งนัก โดยเฉพาะดวงตาสีนิลดวงนั้นของเขามันช่างสะกดทุกสายตาของคนที่มองจริง ๆ และตอนนี้เธอก็อยากรู้ว่าผู้ชายที่เสียมารยาทคนนี้เป็นใครกัน แต่หญิงสาวก็ไม่ถือเขา ก็ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นผู้ชายที่หล่อมีเสน่ห์ดึงดูดเธอได้แบบนี้เลย
“คุณเป็นใครคะถึงได้เสียมารยาทตอบแทนคนอื่นแบบนี้?” อลินชาถามกลับทันทีเมื่อสติกลับมา
“ไม่เห็นจะเสียมารยาทตรงไหนเลยอลินชา” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เอ่ยกลับด้วยความเจ้าเล่ห์และยังไม่แคร์คำพูดของหญิงสาวที่หาว่าเขาเสียมารยาท
“ทำไมจะไม่เสีย ก็ในเมื่อฉันถามพี่ไม้ไม่ได้ถามคุณ” หญิงสาวว่าคนตรงหน้าพร้อมกับสะบัดหน้าใส่พร้อมขยับไปยืนชิดไม้เมือง
คำพูดของเธอมันก็ฟังแล้วสนุกดีอยู่หรอกนะก่อนหน้านี้ แต่ไอ้คำว่า 'พี่ไม้' นี้เขารับไม่ได้ที่หญิงสาวให้ความสนิทสนมชายอื่นมากกว่าเขาผู้ซึ่งจะได้เป็นเจ้าของร่างกายเธอแต่เพียงผู้เดียว
“เมื่อกี้เธอเรียกไม้ว่าอะไรนะ?”
เขาถามเธอพร้อมกับขบกรามแน่นจนทำให้ไม้เมืองที่ยืนอยู่ข้างอลินชาแทบกลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียวในตอนนี้
“ก็เรียกพี่ไม้ไง แล้วคุณจะมาถามฉันทำไม ก็ในเมื่อมันเรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ” ดูเหมือนว่าอลินชาจะเก่งเรื่องราดน้ำมันลงบนกองไฟจริง ๆ
“อลินชา!” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ตวาดออกมาด้วยความโกรธ เขาไม่ชอบเลยเวลาหญิงสาวเรียกไม้เมืองสนิทสนมแบบนี้
“อย่ามาเรียกชื่อฉันนะ เราไม่ได้รู้จักสนิทกันมากถึงขั้นเรียกชื่อกันเฉย ๆ อีกอย่าง คุณรู้จักชื่อฉันได้ไง?” หญิงสาวเอ่ยว่าเขาหน้าตาเฉย ตอนแรกหญิงสาวรู้สึกดีไม่น้อยที่เห็นหน้าเขา แต่พอมาตอนนี้เธอบอกได้คำเดียวเลยว่า 'เกลียด' ผู้ชายอะไรนิสัยเสียชะมัด
“ทำไมฉันจะไม่รู้จักชื่อลูกจ้างของตัวเอง” ถึงจะโกรธเธอแค่ไหนแต่เขาก็ยังพอจะระงับอารมณ์ได้บ้าง ชายหนุ่มอยากจะกระชากร่างน้อย ๆ ของเธอให้ติดตามมือมากอดรัดให้ขาดอากาศหายใจคาอ้อมกอดนัก แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
อลินชาคนที่เก่งต่อปากต่อคำคนเมื่อกี้นี้หายไปแล้วเมื่อได้ยินคำว่าลูกจ้างจากปากชายหนุ่มตรงหน้า อย่างนั้นก็แสดงว่าเขาคือพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูรนะสิ หญิงสาวส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นเขา แต่พอหันไปมองหน้าไม้เมืองก็พยักหน้าให้เธอเหมือนจะรู้ความหมายของเธอ
“น้องอลิน นี่พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูรเจ้านายของเราครับ” ไม้เมืองเอ่ยแนะนำพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ให้กับอลินชาที่ตอนนี้กำลังหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยก็ว่าได้
“สะ...หวัด...ดี...คะ...ค่ะ...พะ...พ่อ...เลี้ยง” กว่าอลินชาจะเอ่ยสวัสดีพ่อเลี้ยงได้ก็เล่นเอาเธอแทบลืมหายใจไปเลยก็ว่าได้
พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวตรงหน้า จู่ ๆ สาวน้อยปากเก่งที่ต่อว่าเขาเมื่อกี้นี้แปรเปลี่ยนมาเป็นไก่ต้มแบบปัจจุบันทันด่วน ก็ดูจากสีหน้าสาวเจ้าเข้าก็ไม่รู้จะโกรธให้ได้อะไรขึ้นมา
“สวัสดีอลินชา” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับอลินชาจนทำให้หญิงสาวไม่กล้าสบตา
“ค่ะพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ และยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” อลินชาสลัดความกลัวที่มีอยู่ให้หมดไป เมื่อคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะกลัวเขา กว่าเธอจะใช้หนี้เขาหมดก็คงจะได้อยู่เจอหน้าเขาอีกนาน หญิงสาวจึงไม่จำเป็นต้องกลัวชายหนุ่มตรงหน้าเลย
พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ยิ่งอยากขำเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นสาวเจ้าพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อปกปิดความกลัวไว้ข้างใน แต่เขาก็ยอมรับว่าเธอสวยจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวปากอวบอิ่มของเธอมันช่างน่าค้นหายิ่งนักและยังจะรูปร่างเพรียวระหง ทรวงอกที่ซ่อนอยู่ข้างในเสื้อนั้นอีก ยังจะใบหน้ารูปหัวใจที่ชวนหลงใหลอีก โอ๊ย! เขาอยากจะบ้าตายไปกับความคิดของเขาในตอนนี้นัก
“ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะอลิน ผมไปก่อนนะพ่อเลี้ยง” ไม้เมืองรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินไปเสียแล้วเลยเอ่ยขอตัวขึ้นมาบ้าง เมื่อเหลือบมองป้านวลและลุงชมที่กำลังจะเดินออกไป
พ่อเลี้ยงได้ยินไม้เมืองขอตัวออกไป เขาก็หันมาพยักหน้าเพื่อเป็นการอนุญาตให้ไปได้แต่พอไม้เมืองจะเดินออกไป อลินชาก็ทำท่าจะเดินตามไม้เมืองไปด้วย เขาเลยถือโอกาสคว้าแขนหญิงสาวไว้ตอนที่จะเดินผ่านหน้า
“จะไปไหนอลินชา?” รู้ว่าหญิงสาวจะตามไม้เมืองไปแต่ก็อยากจะถามกวนเธอไปอย่างนั้นเอง
“ฉันจะออกไปข้างนอก เห็น ๆ อยู่ยังจะมาถามอีก” อลินตอบเสียงห้วนกลับพร้อมกับสะบัดแขนของตัวเองให้เป็นอิสระแต่ดูเหมือนยิ่งสะบัดเขายิ่งจับแน่นขึ้นจนต้องยอมให้เขาจับอยู่แบบนี้
“เห็นแต่อยากถาม มีอะไรไหม และก็ตามฉันมานี่อลินชา” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลากเธอนั่งโซฟาใกล้ ๆ แถวนั้น
“ปล่อยแขนฉันได้แล้วพ่อเลี้ยงและก็ไม่ต้องลากฉัน ฉันเดินเองได้” หญิงสาวเอ่ยด้วยความไม่พอใจที่เขามาจับมือถือแขนเธอแบบนี้ และมันก็ได้ผลเมื่อเธอพูดจบเขาก็ยอมปล่อยมือเธอ
“อลินชา เธอเรียนจบหรือยัง?” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว พ่อเลี้ยงพิพัฒน์ก็ถามอลินชาที่นั่งฝั่งตรงข้ามทันที
“ยังค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่ปีสาม” สาวเจ้าพูดไปตามความจริง หญิงสาวอยากรู้นักว่าเขาจะถามเธอเรื่องนี้ทำไม ทั้ง ๆ ที่เขาน่าจะรู้ประวัติของลูกจ้างก่อนที่จะมาทำงานอยู่แล้ว
“แล้วเธอเรียนอะไร?” ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าเธอเรียนอะไร แต่ก็อยากหาเรื่องมาคุยกับหญิงสาวเท่านั้นเอง
“เรียนบัญชีค่ะ”