ตอนที่ 2 (2)
“ดี ๆ ฉันจะได้ให้เธอทำบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่ และก็ผู้ช่วยส่วนตัวของฉัน” เขารีบบอกงานเธอทันทีและคำว่าผู้ช่วยที่เขาบอกนั้นในความหมายลึก ๆ ของเขาแล้วมันไม่ได้มีแค่นั้นแต่เขาจะทำให้ไก่ตื่นไม่ได้
“ค่ะพ่อเลี้ยง แต่ฉันมีเรื่องที่จะขอร้องคุณหนึ่งอย่างคือฉันอยากจะขอทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้ไหมคะ?” หญิงสาวรีบเอ่ยขอเขาทันทีเมื่อสบโอกาส
“ได้ ฉันกะจะบอกอยู่แล้วแต่เธอชิ่งพูดก่อน แต่ฉันจะให้ย้ายมาเรียนที่มหา'ลัยเปิดนะ เธอจะได้ทำงานได้เต็มที ส่วนเรื่องเรียน เธอก็หาเวลาอ่านเอานะอลินชา” ถ้าหากให้หญิงสาวเรียนมหาวิทยาลัยปิดอย่างเดิมมีหวังเขาได้มีคู่แข่งแน่ อีกอย่าง ถ้าเรียนมหาวิทยาลัยปิด หญิงสาวจะมีเวลามาทำงานให้เขาได้อย่างไร
“ได้ค่ะพ่อเลี้ยง” หญิงสาวยอมทำตามแต่โดยดี ถ้าทำตามที่เขาว่า เธอก็จะได้ทำงานใช้หนี้หมดเร็วขึ้น ถึงจะไม่รู้ก็ตามว่าเมื่อไรจะหมด อีกอย่างเรื่องเรียนเธอก็เหลืออีกไม่กี่ตัวก็จะเรียนจบจึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยเปิด
“ว่าง่าย ๆ แบบนี้ฉันชอบอลินชา ว่าแต่เธอพร้อมจะเริ่มงานวันไหนล่ะ?”
“เริ่มพรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะพ่อเลี้ยง” อลินชาไม่อยากให้เวลาเลยผ่านไปเฉย ๆ จริงในใจเธออยากเริ่มวันนี้เลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ก็ไอ้สายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวคู่นี้ของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ทำให้รู้สึกหนาว ๆ อย่างไรไม่รู้ในตอนนี้
“Ok! ตกลงตามนี้นะ แล้วเธอรู้หรือยังว่าเธอต้องไปทำงานที่ไหน?”
“ยังเลยค่ะ เพราะตั้งแต่มาถึงฉันก็เดินดูแค่เรือนพิกุลค่ะ” จะไปรู้ได้อย่างไรก็ตั้งแต่มาไม่ได้ไปไหนเลย
“ถ้างั้นก็เดินตามฉันมาอลินชา”
พอเอ่ยจบพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากเรือนพิกุลทันที เพื่อจะพาหญิงสาวไปดูที่ทำงาน ซึ่งที่ทำงานที่เขาจะพาไปนั้นมันเป็นห้องทำงานส่วนตัวเขาที่บ้านหลังใหญ่ และเขาก็สั่งคนเอาโต๊ะทำงานของอลินชาเข้าไปเตรียมไว้แล้วส่วนโต๊ะทำงานของเลขาฯ จอมจุ้นอย่างไม้เมืองนั้นเขาให้คนงานย้ายไปอยู่อีกห้องหนึ่งข้าง ๆ ห้องทำงานของเขาถ้ายังให้ไม้เมืองนั่งทำงานร่วมห้องด้วยมีหวังทำอะไร ๆ ไม่สะดวกแน่ ชายหนุ่มจึงย้ายโต๊ะทำงานของเลขาฯ ไปไว้อีกห้องหนึ่งเสียเลย
เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงพิพัฒน์เดินออกไป หญิงสาวก็รีบลุกขึ้นสาวเท้าเดินตามทันที
“ทำไมเดินช้านักอลินชา?” ทั้ง ๆ ที่หญิงสาวเดินตามมาติด ๆ ด้วยความอยากแกล้งเขาจึงหาเรื่องเธอขึ้นมาเสียเลย
“เปล่าค่ะพ่อเลี้ยง อลินแค่เดินคิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยทำให้เดินตามมาช้าค่ะ”
ผู้ชายบ้าอะไร เห็นเดินตามมาติด ๆ ยังมาว่าอีก อย่าให้ถึงทีฉันก็แล้วกันจะแกล้งคืนให้สมใจเลย หญิงสาวบ่นในใจด้วยความหมั่นไส้พ่อเลี้ยง
“ถ้างั้นก็เดินตามฉันไปที่บ้านใหญ่เลย เธอจะต้องไปทำงานที่นั่น”
บ้านที่เขาว่านั้นอยู่ห่างจากเรือนพิกุลแค่ 20 เมตรเอง จึงใช้เวลาไม่นานนักในการเดิน และระหว่างทางที่เดินนั้นทั้งสองก็ไม่ได้ปริปากพูดกันเลยแม้แต่คำเดียวจนกระทั่งเดินมาถึงบ้าน
เมื่อเข้าไปข้างใน เขาก็พาหญิงสาวเดินไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ชั้นสองของบ้าน เมื่อเข้ามาในห้องทำงานแล้วเขาก็แนะนำงานให้เธอพร้อมกับชี้ให้หญิงสาวดูโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานเขา
“อลินชา นี่คือบัญชีที่เธอจะต้องตรวจทุกสัปดาห์ ซึ่งแต่ละสัปดาห์เธอจะได้ตรวจแค่ครั้งเดียวคือวันศุกร์ ส่วนวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เธอก็คอยเป็นผู้ช่วยส่วนตัวฉัน ซึ่งผู้ช่วยของฉันที่ฉันหมายถึง ต้องทำงานทุกอย่างที่ฉันสั่งไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามที่ฉันต้องการ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์คือวันหยุดของเธอเพื่อที่จะได้อ่านหนังสือเรียนและพักผ่อน”
เมื่ออธิบายงานและหน้าที่ให้หญิงสาวฟังหมดทุกอย่างแล้วชายหนุ่มก็เอ่ยถามความเห็นจากเธอ
“อลินชาเธอจะตกลงไหม หรือว่าอยากแก้ไขอะไรก็เสนอฉันมาได้เลยนะ ฉันจะพิจารณาตามความเหมาะสมว่ามันสมควรที่จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ แต่ถ้าเธอไม่ขัดข้องอะไรก็เอาตามที่ฉันพูดเลยไหมอลินชา?”
“ค่ะพ่อเลี้ยง เอาตามที่พ่อเลี้ยงว่าเลยค่ะ” หญิงสาวเห็นว่างานที่เขามอบหมายให้ทำนั้นมันไม่ได้ยากอะไร แต่ถ้าหญิงสาวจะสังเกตแววตาเจ้าเล่ห์ของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์สักนิดก็จะรู้ว่างานที่เขาจะให้ทำนอกจากผู้ช่วยส่วนตัวแล้วมันยังมีอะไรแอบแฝงอยู่ในสายตาเจ้าเล่ห์คู่นั้น แต่ความไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกของเธอจึงตกเป็นเยื่อของเสือผู้หญิงอย่างพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ไปโดยปริยาย
“ว่าแต่เธอมีชื่อเล่นไหมอลินชา อลินชามันยาวไปฉันเลยอยากจะถามชื่อเล่นเธอเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเรียกชื่อเต็ม ๆ ของเธอ?” เขารู้ว่าหญิงสาวมีชื่อเล่นว่าอะไร แต่ก็อยากรู้จากปากเธออีกที
“มีค่ะพ่อเลี้ยง ชื่อเล่นของฉันคืออลินค่ะ” ถึงจะแปลกใจอยู่นิดว่าทำไมพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ถึงต้องการรู้จักชื่อเล่นเธอทั้ง ๆ ที่เหตุผลเขามันฟังไม่ขึ้น แต่อลินชาก็เลือกที่จะบอกพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ให้จบ ๆ ไป
“ถ้างั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะอลิน เธอกลับไปพักผ่อนที่เรือนพิกุลเถอะ”
“ค่ะพ่อเลี้ยง งั้นอลินขอตัวก่อนนะคะ” อลินชาไม่รอให้เขาบอกเป็นครั้งที่สอง พอเอ่ยจบเธอก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที โดยไม่กล้าเหลียวหลังกลับมาข้างในห้องเลย
“หึหึ อลิน เธอช่างดื้อรั้นจริง ๆ นะท่าทางดูไร้เดียงสามันช่างทำให้ฉันเจ็บปวดตรงความเป็นชายของฉันทุกครั้งที่เจอกัน ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอ จนมาถึงวันนี้ที่เราได้เจอกันอีกครั้ง ความต้องการเธอของลูกชายฉันยังร้อนแรงเหมือนเดิม”
เมื่ออลินชาออกไปแล้วพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ก็พึมพำกับตัวเองคนเดียวอยู่ในห้องด้วยความอดกลั้น และคงจะอีกไม่นานความอดกลั้นในครั้งนี้ก็จะสิ้นสุดลง เมื่อตอนนี้อลินชาอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือถึง
อลินชาเมื่อกลับมาเรือนพิกุล หญิงสาวก็รีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าถือขึ้นมาโทร.กลับบ้านไปหาพ่อทันทีเมื่อคิดได้ และรอไม่นานปลายสายก็รับ
“สวัสดีค่ะ” ปลายสายยังพูดไม่ทันจบคำดีเลยอลินชาก็พูดตัดขึ้นก่อน
“ฮัลโหล ป้าทิพย์ใช่ไหมคะ?” อลินชาจำเสียงของปลายสายได้ว่าเป็นใคร
“ค่ะป้าทิพย์เอง ว่าแต่ว่าคุณเป็นใครคะถึงได้รู้จักชื่อดิฉัน?” ป้าทิพย์จำเสียงของอลินชาไม่ได้ ด้วยความที่เป็นคนแก่เลยอาจมีหลง ๆ ลืม ๆ ไปบ้าง
“ป้าทิพย์คะ นี่อลินเองนะคะป้า” อลินชารู้ว่าป้าทิพย์แก่แล้วเลยอาจจะจำเสียงของเธอไม่ได้
“คุณหนูเองเหรอคะ ป้าขอโทษทีนะที่จำเสียงของคุณหนูไม่ได้จ้ะ”
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะป้าทิพย์ คืออลินอยากจะคุยกับคุณพ่อค่ะ ป้าทิพย์ช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้คุณพ่อหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้จ้ะ เดี๋ยวป้าจะเอาไปให้คุณอรัณ คุณหนูถือสายรอก่อนนะ”
และรอไม่นานป้าทิพย์ก็เอาโทรศัพท์เข้าไปให้พ่อของเธอในห้องทำงาน
“คุณอรัณคะ คุณหนูโทร.มาค่ะและอยากคุยกับคุณค่ะ” เมื่อขออนุญาตเข้ามาในห้องทำงานแล้วป้าทิพย์ก็รีบบอกผู้เป็นนายทันที
“เอามาเลยป้าทิพย์ ผมกำลังคิดถึงอลินอยู่พอดี” อรัณรีบบอกให้ป้าทิพย์เอาโทรศัพท์มาให้เขา ทั้ง ๆ ที่อลินชาเพิ่งจะออกจากบ้านไปยังไม่ข้ามวันเลยเขาก็คิดถึงซะแล้ว กว่าจะใช่หนี้หมดเขาไม่คิดถึงลูกจนกินอะไรไม่ลงจนล้มป่วยไปเลยหรือไรหนอ...
“อลินนี่พ่อเองนะ” เมื่อได้โทรศัพท์จากป้าทิพย์แล้วอรัณก็รีบพูดกรอกไปตามสายทันที
“ค่ะคุณพ่อ” อลินชาไม่รู้จะคุยกับใครเธอเลยเลือกโทร.มาหาอรัณ หญิงสาวเพิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกก็วันนี้แหละ
“อลินมีอะไรให้พ่อช่วยเหรอ?” อรัณกลัวว่าลูกสาวจะมีเรื่องเลยถามออกไปแบบนั้น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณพ่อ อลินแค่อยากได้ยินเสียงคุณพ่อเฉย ๆ” อลินชาเอ่ยโกหกออกไป จะว่าไม่มีอะไรก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วตอนนี้หญิงสาวสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเหลือเกิน ไม่เข้าใจเลยว่าเวลาอยู่กับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ทำไมหัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีอะไร ความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรกัน อลินชาอยากถามผู้เป็นพ่อนักแต่ก็กลัวพ่อจะสงสัยเอาเธอเลยเลือกไม่พูดดีกว่า
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วลูก ถ้ามีอะไรก็บอกพ่อได้เลยนะลูก” อรัณไม่อยากเซ้าซี้อลินชาด้วยความรู้จักนิสัยของลูกตัวเองเขาจึงไม่อยากซักมาก “แล้วงานเป็นยังไงลูก เขาให้ทำอะไรบ้าง?”
“พ่อเลี้ยงให้อลินทำบัญชีรายรับรายจ่ายในไร่ของพ่อเลี้ยงค่ะ เริ่มงานพรุ่งนี้ค่ะคุณพ่อ” อลินชาบอกแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าบอกหมดมีหวังพ่อเธอมารับกลับบ้านแน่
“อืม...อลินก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก ตั้งใจทำงานนะ” อรัณเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะคุณพ่อ คุณพ่อก็เช่นกันนะคะ” หญิงสาวก็ห่วงผู้เป็นพ่อเช่นกัน กลัวว่าระหว่างที่เธอทำงานอยู่ที่นี่ พ่อของเธอจะคิดมากไม่ยอมกินข้าวกินปลา
“คุณพ่อคะแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวอลินโทร.หาใหม่นะคะ”
“จ้ะ...ลูก”
“ค่ะคุณพ่ออลินรักคุณพ่อนะคะ คุณแม่สายหยุดด้วยค่ะ” รู้ทั้งรู้ว่าแม่เลี้ยงเกลียดแต่หญิงสาวก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
ทางด้านอรัณหลังจากที่วางสายจากลูกสาวแล้วก็รู้สึกสงสารลูกสาวของตัวเองที่ต้องมาคอยใช้หนี้ให้ภรรยาของเขาทั้ง ๆ ที่จริงแล้วอลินชาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย แต่ก็อย่างว่าแหละอลินชาเป็นคนใจอ่อนขี้สงสารและยอมลำบากเองดีกว่าที่จะให้ทุกคนในบ้านไปลำบาก เมื่อไรนะ ภรรยาของเขาจะเห็นความดีของอลินชาสักที ทั้ง ๆ ที่ลูกเขาลงทุนทำเพื่อคุณนายสายหยุดขนาดนี้ แต่ภรรยาของเขาก็ยังไม่ยอมลดทิฐิในใจลงสักที วันไหนครอบครัวเขาจะได้มีความสุขเหมือนอย่างครอบครัวชาวบ้านเขาสักที