บทที่ 5 มารผจญ
เช้าวันถัดมาสโรชาก็มาทำงานด้วยชุดเดรสแขนกุดสีชมพู ตามที่รามีนต้องการแต่ก็ไม่ทิ้งความแซ่บ เพราะเธอก็ใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่ามาแทน และก็เอาเสื้อสูทสีชมพูมาทับเสื้อแขนกุดข้างในของตัวเอง
“ว้าว น้องเอยวันนี้มาเช้าเชียวนะครับ” ชานนเอ่ยแซวขณะเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วเจอสโรชานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานก่อนแล้ว
“ก็กลัวคุณรามีนเขาจะว่าให้นี่คะเมื่อวานเจอเรื่องชุดไปไม่รู้วันนี้จะโดนอะไรอีก” สโรชาเอ่ยบอกออกไปแล้วลุกขึ้นเอาเอกสารไปให้กับชานนเพื่อเตรียมเอาไปให้รามีนในห้อง
“วันนี้เอยก็แต่งตัวเรียบร้อยดีออก คงไม่โดนแล้วล่ะครับ” ชานนเอ่ยบอก ก็มิวายเอ่ยแซวออกไปอย่างขำๆ
“หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป
“อ่าวนั่น พูดถึงก็มาพอดี” ชานนเอ่ยบอกสโรชา แล้วลุกขึ้นไปยืนข้างๆสโรชา แล้วรอเจ้านายที่เดินเข้ามา
รามีนที่เดินออกมาจากลิฟต์ก็เดินตรงมาที่ห้องทำงานของตัวเอง แล้วเห็นชานนกับสโรชายืนอยู่ด้วยกันก่อนจะสำรวจมองการแต่งตัวของสโรชาที่ใส่เสื้อสูทสีชมพูมาอย่างเรียบร้อย แต่กระโปรงของเธอก็สั้นไปนิดในสายตาของเขา
“เป็นไงครับคุณราม เมื่อคืนถูกใจใช่ไหมครับ” พอรามีนเดินมาถึงชานนก็เอ่ยแซวเจ้านายของตัวเองออกไป
“อืม” รามีนเอ่ยตอบออกไปหน้านิ่ง แล้วใช้สายตาแลไปมองสโรชา
“ชานนเดี๋ยวเอากาแฟไปให้ผมด้วย” รามีนพูดกับชานนทั้งที่สายตายังแลมองสโรชาอยู่ ก่อนจะละสายตาแล้วเดินเข้าห้องไปทันที เพราะไม่อยากจะพูดคุยอะไรกับสโรชายิ่งเมื่อคืนเขาครางชื่อเธอออกมาตอนมีเซ็กส์กับเทย่า เขาก็ยังนึกถึงเธอ เขาจะต้องอยู่ห่างจาก สโรชามากกว่านี้
สโรชาก็มองตามร่างของรามีน แล้วหันมาถามชานนกับเรื่องที่เขาแซวรามีนเมื่อกี้ เพราะเธอสกัดยัยนานาไปแล้ว แล้วใครไปสนุกกับเขาอีก
“เมื่อคืนคุณรามีนเขาไปสนุกกับสาวๆมาหรอคะพี่นน”สโรชาถามออกไปอย่างอยากรู้
“ใช่ เมื่อคืนถ้าพี่ติดต่อคุณเทย่าไม่ได้ พี่ต้องโดนคุณรามโวยแน่เพราะคนที่พี่ไปติดต่อไว้ดันมาติดงาน” ชานนเอ่ยบอกออกไปอย่างไม่คิดอะไร
“อ่อๆ พยายามดีนะคะ ขนาดอีกคนไม่ว่างก็หาอีกคนให้พี่นนนี่ก็เป็นลูกน้องที่ดีจริงๆเลยนะคะ” สโรชาพูดออกไปแล้วแอบแขวะชานนไป
“นี่เราชมพี่หรือว่าพี่เนี่ย ฮ่าๆ” ชานนเอ่ยบอกออกไป แล้วก็นั่งจัดเตรียมเอกสารที่ต้องเอาให้รามีนเซ็น
“เอยช่วยชงกาแฟให้คุณรามีนแทนพี่ที จำได้ใช่ไหมว่าใส่อะไร” ชานนเอ่ยบอกออกไป ขณะจัดเรียงเอกสารอยู่ เพราะเมื่อวานเขาสอนงานกับสโรชาเกือบจะหมดแล้ว
“จำได้ค่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วเดินเข้าไปชงกาแฟให้กับรามีนในห้องครัวที่อยู่ข้างๆโต๊ะของเธอ
“อยากมากเลยรึไง ทีฉันอ่อยทำไมคุณไม่สนห๊ะ” สโรชาพูดไปก็ใส่น้ำตาลลงในถ้วยกาแฟหลายช้อนอย่างลืมตัว
“คนบ้า ไอ้หื่น ไอ้เย็นชา ไอ้หน้านิ่ง” สโรชาพูดไปก็ตักเกลือใส่ลงไปด้วย
“ว้าย ลืมจนได้” สโรชาพูดออกไป เมื่อคิดได้ว่าชงกาแฟผิดจึงรีบทำใหม่แล้วก็เอากาแฟไปให้กับรามีนในห้องทำงาน
“นี่กาแฟค่ะคุณรามีน” พอเข้ามาถึงในห้อง สโรชาก็เอากาแฟวางลงบนโต๊ะทำงานของรามีน แล้วมองดูรามีนที่ไม่พูดอะไรกับเธอเลยสักคำ
“อยากจะทานอะไรไหมคะ เอยจะได้หามาให้” สโรชาเอ่ยถามออกไปเมื่อเขาไม่พูดกับเธอ เธอก็พูดกับเขาเองก็ได้
“ผมดูหิวมากเลยรึไง” รามีนพูดออกไป แล้วจ้องมองหน้าของสโรชา
“อ่อ เปล่าค่ะ” สโรชาพูดออกไป ก็เดินออกไปทันที จนรามีนอึ้งที่สโรชากล้าสะบัดตัวหนีออกไป ทั้งๆที่เขากำลังคุยกับเธออยู่ รามีนพยายามสงบอารมณ์ไม่ให้ตัวเองโมโห จากนั้นก็กลับมาอ่านเอกสารต่อ จนกระทั่งชานนเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับเอกสารกองโต
“ชานน วันนี้นอกจากเซ็นเอกสารพวกนี้แล้วฉันไม่มีอะไรต่อแล้วใช่ไหม” รามีนเอ่ยถามออกไป
“ครับคุณราม คุณรามมีอะไรไหมครับ” ชานนเอ่ยถามออกไป เมื่อเห็นรามีนเอ่ยถามตารางงานจากเขา
“นายช่วยหาแม่บ้านไปแทนป้าแววสักสองสามวันนะ พอดีป้าแววเขาขอลากลับต่างจังหวัด เริ่มเย็นนี้เลยละกัน” รามีนเอ่ยบอกออกไป เพราะเขาต้องมีแม่บ้านคอยดูแลเรื่องเสื้อผ้าและอาหารเช้าให้กับเขาทุกๆวัน
“ได้ครับคุณราม เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะหาแม่บ้านให้นะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชานนเอ่ยบอกออกไปแล้วเดินออกจากห้องไป
จากนั้นรามีนก็จัดการเซ็นเอกสารต่อ แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อมองไปที่แก้วกาแฟของสโรชา
“เมื่อไหร่เธอจะออกไปจากหัวของฉันสักทีสโรชา” รามีนพูดไป ก็ขยี้ผมของตัวเองอย่างรำคาญ ต่อไปเขาต้องอยู่ให้ห่างยัยนี่ซะแล้วไม่งั้นเขาได้วุ่นวายแน่ รามีนคิดในใจก่อนจะกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทของเขา
“ฮัลโหล ไอ้คุณชายเย็นชา วันนี้มีอะไรถึงโทรหาฉันได้วะ” พีรพลเจ้าของคลับและโรงแรมชื่อดังเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มออกไปอย่างแซวๆ
“เย็นนี้ฉันจะไปคลับแกบอกไอ้ชาร์ลด้วย” รามีนพูดออกไปเพราะเขาอยากจะไประบายอารมณ์ดื่มให้เมาจนลืมเรื่องบ้าๆนี่
“เออๆ เดี๋ยวฉันบอกมันให้ เย็นนี้เจอกันไอ้เพื่อนยาก” พีรพลเอ่ยบอกออกไป
“เออ เย็นนี้เจอกัน” รามีนบอกออกไป ก็กดวางสายไป
“น้องเอยครับ พอจะรู้จักแม่บ้านที่ไหนบ้างไหม พอดีคุณรามเขาจะจ้างสักสองสามวันน่ะ” ชานนเอ่ยถามสโรชา เพราะเขาลองหาดูแล้วแต่ก็ไม่มีใครว่าง
“แม่บ้านหรอคะ ไม่รู้จักหรอกค่ะ ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวเอยไปทำแทนก็ได้นะคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไปเพราะเธออยากจะไปเห็นบ้านของรามีนเต็มแก่
“จริงนะ น้องเอยทำได้แน่นะครับงานแม่บ้านมันหนักนะ” ชานนเอ่ยถามย้ำ
“ได้สิคะ เห็นแบบนี้เอยก็ทำงานบ้านเป็นทุกอย่างนะคะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป
“โอเค งั้นเริ่มเย็นนี้เลย น้องเอยทำตามตารางนี้นะพี่จัดไว้แล้ว” ชานนเอ่ยออกไปอย่างโล่งใจ เมื่อสโรชาเอ่ยว่าจะไปเป็นแม่บ้านให้ พร้อมกับเอากระดาษและกุญแจบ้านส่งให้กับสโรชา
“ค่ะ เดี๋ยวเอยจัดการเองค่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไปแล้วยิ้มๆ
พอพักเที่ยงสโรชาก็มาทานข้าวกับโตมรที่ร้านอาหารของปัทมา เพื่อจะปรึกษาเรื่องที่เธอตกลงจะไปเป็นแม่บ้านให้กับรามีน
“เจ้ตั้ม ยัยปัท เย็นนี้ฉันจะไปทำงานเป็นแม่บ้านให้คุณรามีนอ่ะ ฉันจะอ่อยเขายังไงดีอ่ะ” สโรชาเอ่ยถามออกไปก็ตักอาหารทานต่อหน้าตาเฉย แต่โตมรกับปัทมาถึงกับอึ้งไปเมื่อได้ยินที่สโรชาบอก
“จริงอะยัยเอย แกเนี่ยนะจะไปเป็นแม่บ้าน” ปัทมาถามออกไปอย่างไม่เชื่อ เพราะสโรชาขนาดจะซักผ้ายังส่งซักเลยยิ่งเป็นทำอาหารนี่ไม่ต้องพูดถึงแค่ทอดไข่ก็ไหม้แล้ว
“ใช่ ตอนนี้ฉันต้องรุกให้หนักแล้วล่ะ คุณรามีนเขาไม่มีทีท่าชอบฉันเลยอะแก” สโรชาเอ่ยออกไป
“เจ้ว่าแค่แกได้เข้าไปที่บ้านคุณรามีนเขาอะนะก็เริ่ดแล้วย่ะ เรื่องอ่อยแกก็คิดเองได้น่าแต่แกคิดเรื่องที่ต้องทำที่บ้านเขาก่อนเถอะย่ะ แกทำอาหารเป็นรึไงยัยเอย” โตมรเอ่ยบอกไปตามความคิดตัวเอง
“ไม่อ่ะ แต่เดี๋ยวซื้อเอาก็ได้นี่เจ้ ไม่เห็นจะยากเลย” สโรชาพูดบอกออกไป
“อ่าวพี่เต มาได้ไงเนี่ย” ปัทมาเอ่ยถาม เมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองเดินเข้ามาในร้านอาหาร
“พอดีพี่มาแถวนี้น่ะ น้องเอยล่ะครับยังไม่กลับเชียงใหม่หรอ” เตวิชบอกน้องสาวออกไป ก็รีบหันมาถามสโรชาทันที เพราะเขาแอบชอบเธอมานาน
“อ่อยังค่ะ เอยขอทำงานเล่นๆสักพักก่อนน่ะค่ะ” สโรชาเอ่ยออกไป แล้วยิ้มแห้งๆเพราะเตวิชนั้นตามจีบตามรุกเธอมาหลายปีจนเธอไม่กล้าสู้หน้าเขาแล้ว
“ทำที่ไหนหรอครับ พี่จะได้มาหาบ่อยๆ ยัยปัทก็ไม่บอกพี่สักคำเลยนะว่าน้องเอยมาทำงานแถวนี้” เตวิชเอ่ยบอกก็เข้าไปนั่งข้างๆสโรชาทันที
“ไม่ต้องมาหาบ่อยก็ได้ค่ะ พอดีเจ้านายเอยเขาดุน่ะค่ะ” สโรชาปฏิเสธออกไป แล้วเขยิบตัวหนีเบาๆ
“งั้นหรอ งั้นต่อไปพี่คงต้องมาฝากท้องที่ร้านยัยปัทรอน้องเอยซะแล้ว” เตวิชบอกออกไป แล้วเอามือโอบไหล่ของสโรชาอย่างเนียนๆ
ทั้งสามคนก็ได้แต่ทำหน้าอึ้งๆ เพราะไม่รู้จะบอกเตวิชยังไง เพราะเขาก็เป็นพี่ชายของปัทมา
“เจ้ว่าป่านนี้คุณรามีนคงรอทานข้าวแล้ว เรากลับกันดีกว่าเนอะ” โตมรตัดสินใจพูดโกหกออกไป แล้วขยิบตาให้กับสโรชา
“อ่อๆ ใช่ค่ะลืมเลยอ่ะมัวแต่เม้าท์ ขอตัวก่อนนะคะพี่เตพอดีเอยต้องไปซื้อข้าวให้เจ้านายอ่ะค่ะ” สโรชาเอ่ยบอกก็รีบลุกเก็บของทันที
“แล้วเจอกันครับน้องเอย” เตวิชบอกออกไปแล้วยิ้มให้กับสาวที่เขาแอบชอบ จากนั้นสโรชาและโตมรก็พากันออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
“จะมาทำไมไม่บอกปัทก่อนคะพี่เต” พอเพื่อนทั้งสองออกไป ปัทมาก็เอ่ยถามพี่ชาย
“ถ้าบอกพี่จะได้เจอน้องเอยหรอ” เตวิชบอกออกไป เพราะเขารู้ว่าน้องสาวแอบกีดกันเขาไม่ให้จีบสโรชา
“ปัทว่าพี่ไปจีบคนอื่นเถอะค่ะ ถ้ายัยเอยมันชอบพี่มันก็เป็นแฟนพี่นานแล้วล่ะค่ะ” ปัทมาเอ่ยบอกออกไปเป็นครั้งที่ร้อย เพราะพูดยังไงพี่ชายก็ยังคงตื้อเพื่อนสาวของเธอ
“ไม่ พี่ชอบน้องเอย ถ้าแกไม่ช่วยพี่ก็อย่ามาขวางยัยปัท” เตวิชเอ่ยบอกและหยิบซองสีน้ำตาลของ สโรชาที่ลืมไว้เมื่อกี้เดินออกไป คอยดูนะเขาจะมาทุกวันเลย ยังไงสโรชาต้องใจอ่อนสักวัน
“เฮ้อ เสียใจก็อย่ามาว่าน้องละกัน” ปัทมาบอกออกไปอย่างปลงๆ
“ยัยเอย ฉันว่างานนี้แกวุ่นแน่ ไอ้พี่เตรู้แล้วว่าแกทำงานที่นี่เขาต้องตามตื้อแกแน่ๆ” โตมรเอ่ยขณะเดินเข้าบริษัทมาด้วยกัน
“ทำไงดีอะเจ้ คุณรามีนก็ยังไม่คืบหน้า ต้องมาเจอตัวป่วนอีก แล้วชาตินี้เอยจะได้สามีกับเขาไหมเนี่ย” สโรชาเอ่ยพูดออกไป แล้วทำหน้าเซ็งๆ
“งั้นแกก็เลือกพี่เตสิยะ เขาเต็มใจเป็นสามีแกออกยัยเอย แกจะได้เป็นคุณนายสารวัตรเลยนะ ฮ่าๆ” โตมรเอ่ยแซวเมื่อเดินมาหยุดหน้าลิฟต์ โดยไม่ได้สังเกตว่าประตูลิฟต์ที่เปิดออกมีร่างของรามีนและชานนอยู่ข้างใน
รามีนที่ลงลิฟต์มาพร้อมกันชานนก็ได้ยินประโยคที่โตมรพูดออกมาทั้งหมดแต่ก็แกล้งทำหน้านิ่ง
สโรชาจะตอบแต่สายตาก็เห็นรามีนและชานนซะก่อนจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
“คุณนายสารวัตรอะไรกันหรอครับ น้องเอยมีแฟนแล้วหรอเนี่ยแบบนี้พี่ก๊อกหักสิครับ” ชานนเอ่ยถามขณะเดินออกจากลิฟต์
“อ่อเปล่าค่ะ คือเอยแค่พูดแซวกันเล่นๆน่ะค่ะ ใช่ไหมคะเจ้” สโรชาเอ่ยแก้ตัวออกไป แล้วหันไปหาโตมรแล้วขยิบตาให้
“อ่อๆ ใช่ค่ะ แซวกันเล่นๆน่ะค่ะ” โตมรเอ่ยบอกออกไปแล้วยิ้มแห้งๆ เมื่อเจอสีหน้าของรามีนที่มึนตึงอยู่
“จะคุยกันอีกนานไหม” รามีนพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนไม่พอใจ
จนทั้งสามยิ้มให้กันแห้งๆ
“น้องเอยครับ พี่เอานี่มาให้เห็นน้องเอยรีบออกมา พี่ก็เลยเอามาให้” เตวิชวิ่งเข้ามาหาแล้วยื่นซองกระดาษให้กับสโรชาด้วยแววตาหวานซึ้ง
“อ่อ ขอบคุณนะคะพี่เต” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วมองที่รามีนที่ทำหน้าเฉยชาอยู่
“ไม่เป็นไรครับ พี่เต็มใจเอามาให้น้องเอย” เตวิชพูดออกไปแล้วยิ้มไปด้วย
รามีนที่แลมองตำรวจที่เข้ามาหาสโรชา แล้วเขาก็รู้สึกไม่พอใจจนเริ่มกัดฟันเพื่อไม่ให้แสดงสีหน้าออกไป ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรกับใคร เพราะตอนนี้เขารู้สึกไม่พอใจเมื่อมีผู้ชายมาจีบผู้หญิงที่เขาหมายตาเอาไว้
“อ่าวคุณราม รอผมด้วยสิครับ คุณราม” ชานนที่มัวแต่มองตำรวจที่มาหาสโรชา จึงไม่เห็นรามีนเดินออกไป เขาจึงรีบวิ่งตามพร้อมกับเรียกให้เจ้านายรอเขา
“งั้นเอยขอตัวก่อนนะคะพี่เต” สโรชาเอ่ยบอกแต่ก็มองรามีนที่เดินออกไป โดยไม่สนใจเธอ
“ครับน้องเอย” เตวิชพูดออกไปก็ยิ้มๆ
“ลิฟต์มาแล้วไปกันเถอะ ยัยเอย” โตมรเอ่ยบอกพร้อมกับจูงมือสโรชาเข้าไปในลิฟต์ เมื่อสโรชามัวแต่มองตามรามีนที่เดินออกไป
“ยัยเอย ฉันว่าแกต้องรีบสะบัดพี่เตออกไปแล้วล่ะ ไม่งั้นแกไม่ได้กินคุณรามีนแน่” โตมรเอ่ยบอกออกไป เพราะแค่นี้เตวิชก็มารุกถึงบริษัท
“แล้วฉันจะทำยังไงล่ะเจ้ พี่เตเขาตามจีบฉันมาตั้งนานฉันยังไม่กล้าปฏิเสธเลย” สโรชาเอ่ยบอกออกไป เพราะเธอก็ไม่รู้จะเอาข้ออ้างไหนไปบอกกับเตวิช
“เฮ้อ คนที่ชอบก็ไม่เอา คนที่จะเอาก็ไม่ชอบ แกนี่ทำเจ้ปวดหัวจริงๆนะยัยเอย” โตมรพูดบอกออกไปแล้วคิดต่อว่าจะช่วยสโรชายังไง
“โอ้ย ก็เอยชอบคนนี้อะเจ้” สโรชาเอ่ยบอกออกไปแล้วคิดว่าจะทำยังไงต่อดี
ด้านรามีนก็เดินออกมาหน้าบริษัท แล้วหันไปบอกกับชานนที่วิ่งตามมา
“ฉันจะขับเอง วันนี้ฉันจะไม่เข้าบริษัทแล้วนายไม่ต้องตาม” รามีนเอ่ยบอกด้วยเสียงเข้มจนชานนรู้สึกได้ว่ารามีนแปลกไป
“อ่อครับคุณราม” ชานนเอ่ยบอกแล้วส่งกุญแจรถสปอร์ตให้กับรามีน ส่วนรามีนพอได้กุญแจก็ขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“โมโหมาจากไหน เมื่อกี้ก็ยังดีๆอยู่” ชานนพูดออกไป แล้วมองเจ้านายที่ขับรถออกไปอย่างกับพายุ