นางซินเริงรัก

191.0K · จบแล้ว
รินธารา
60
บท
25.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"สโรชา" สาวสวยสุดมั่นแสนมโนที่ใกล้จะขึ้นคาน ถูกเพื่อนร่วมรุ่นท้าให้แต่งงานก่อน จนเธอต้องรีบปฏิบัติการตามหาเทพบุตรในฝันมาเป็นพ่อของลูก และเธอก็เลือกผู้ชายคนเดียวกับยัยนานาที่มาท้าเธอ งานนี้เธอวางแผนงัดมารยาหญิง ความแรด ความร่านในตัวที่มีมาใช้ เพราะงานนี้เธอต้องได้เท่านั้น เธอจะไม่ยอมขึ้นคานแล้วปล่อยให้ยัยนานาหรือผู้หญิงคนอื่นได้เขาไปแน่นอน เพราะเธอชักจะหลงไอ้หนวดหน้านิ่งจอมหื่นนี่ซะแล้ว "รามีน" หนุ่มหล่อหน้าโหดสุดเนี๊ยบ นักธุรกิจผลิตเครื่องดื่มอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่ถูกแฟนสาวทิ้งไปแต่งงาน จนกลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไม่จริงจังกับผู้หญิงมาหลายปี ต้องมาหวั่นไหวกับเลขาคนใหม่ ที่มาพร้อมกับหุ่นสะบึ้มยั่วยวนใจเขาตั้งแต่วันแรก จนเขาตระบะแตกเป็นสมภารกินไก่วัด แล้วเก็บเลขาสาวไว้บำเรอสวาทให้กับเขาทั้งที่บ้านและที่ทำงานอย่างลับๆ ตัวอย่างเนื้อเรื่อง "สโรชา นี่มันห้องทำงานคุณอย่าทำให้ผมต้องเสียคนที่นี่ " รามีนเอ่ยออกไปแล้วทำหน้านิ่ง ที่สโรชาเดินมาหาเขาพร้อมกับสายตายั่วยวน แล้วปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ดช้าๆอย่างยั่วยวน "เสียคนที่ไหนคะก็แค่เสียตัวให้เอย จะที่ไหนสำคัญด้วยหรอคะ" สโรชาพูดไปก็เดินเข้าไปหาร่างหนา แล้วนั่งบนโต๊ะทำงานของเขาพร้อมกับโชว์เต้างามที่ถูกปลดปล่อยออกมา จะดูสิจะเย็นชาใส่เธออยู่รึเปล่า สโรชาคิดในใจ "หยุด ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนกับคุณ" รามีนพูดไปพร้อมกับสะกดเสียงตัวเองให้เป็นปกติ แต่ก็มิวายเอามือหนาไปขย้ำหน้าอกตูมๆไม่ได้ "อ้ะ ไหนบอกนี่ห้องทำงานไงคะ " ร่างบางครางบอกออกไป เมื่อถูกมือหนาเคล้าคลึงหน้าอกงาม “ตอนนี้จะที่ไหน ถ้าเธอยั่ว ฉันก็พร้อมรบสโรชา” รามีนพูดไปก็ละเลงลิ้นร้อนๆกับยอดถันสีชมพูอย่างหลงใหล สโรชาทำให้เขาเสียศูนย์จนได้สิน่า แบบนี้มันต้องลงโทษให้เข็ด รามีนคิดในใจแล้วกระตุกยิ้ม "คุณรามอย่ากัด อ้ะ คุณราม อย่า เดี๋ยวมันเป็นรอย" สโรชาครางบอกเมื่อถูกเขากัดเบาๆที่ซอกคอไปจนถึงยอดถัน “ดี ผู้ชายคนอื่นเห็นมันจะได้รู้ว่า เธอมีผัวแล้ว” รามีนพูดไป ก็ขบเม้มซอกคอและหน้าอกของสโรชา จนเป็นรอยแดงอย่างลงโทษที่มายั่วเขาถึงห้องทำงาน

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานเลขาฟินๆเศรษฐีโรแมนติก18+พลิกชีวิต

บทที่ 1 ฉันชอบเขา

ณ ร้านอาหารหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่กลายเป็นที่จัดงานรวมรุ่นของโรงเรียนสตรีนานาชาติโนแสตมป์ ซิสเซอร์เวียรุ่น32 ที่นัดรวมตัวกันในทุกๆปี ทุกคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ไม่ใช่กับสโรชา เพราะปีนี้มันทำให้เธอต้องอายเพราะไม่มีแฟนแบบชาวบ้านเขามาควงโชว์เพื่อนๆ ทั้งๆที่เธอเป็นถึงดาวโรงเรียน แต่ทำไมเธอถึงไม่มีแฟน

“นี่ยัยเอย แกจะทำหน้าเซ็งอีกนานไหมยะ พวกฉันเห็นแล้วเบื่อ ถ้ามาแล้วเป็นแบบนี้กลับไปเชียงใหม่เลยไป” เจ้ตั้ม หรือโตมรกระเทยสาวประจำกลุ่มเอ่ยพูดออกไป เมื่อเห็นสาวรุ่นน้องนั่งทำท่าเบื่อโลกอยู่

“เอยไม่กลับ เจ้ตั้มเอยอยากมีแฟนอะ เจ้ตั้มดูสิ เพื่อนแก๊งเราแต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว ทำไมเอยเป็นคนเดียวที่ไม่มีกะเขาอะ” สโรชาพูดบอกรุ่นพี่ที่เรียนมาพร้อมกันออกไป

แล้วชี้ไปที่ปัทมาและกานดาที่แต่งงานพร้อมกับมีลูกน้อยให้เชยชม

“ก็แกเลือกเยอะเองนี่ยะ คนนั้นก็ไม่ดีคนนี้ก็ไม่ใช่ แล้วเมื่อไหร่แกจะหาผัวกับเขาได้ล่ะยัยเอย” โตมรเอ่ยออกไปเพราะสโรชาสวยที่สุดในกลุ่มและมีหนุ่มๆมาจีบเยอะที่สุดตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว แต่นางก็เลือกเยอะจนอายุจะแตะเลขสามแล้ว นางก็ยังไม่ลงเอยกับใครสักคน

“ถ้าแกไม่เลือกเยอะนะ เดี๋ยวฉันจะหาหนุ่มหล่อๆให้แกเองยัยเอย เพื่อนๆสามีฉันก็มีนะหรือจะพี่ชายฉันดีล่ะ ฮ่าๆ” ปัทมาพูดบอกเพื่อนออกไป เพราะพี่ชายเธอที่เป็นตำรวจก็แอบชอบเพื่อนของเธออยู่

“ไม่เอาอ่ะ ให้แกหาให้มีหวังได้อะไรมาก็ไม่รู้ ไม่เอาหรอก ฉันชอบแบบยากๆมันเร้าใจดี” สโรชาเอ่ยออกไปอย่างขำๆ

“เอ้ะ นั่นมันนาตาชากับยัยนานานี่ มางานด้วยกันได้ไงล่ะน่ะ นึกว่าเป็นนางแบบดังแล้วจะไม่มาซะอีก” โตมรพูดขึ้นแล้วมองไปที่สองสาวที่เดินเฉิดฉายเข้ามาในร้าน

“สองคนนั่นก็รุ่นเดียวกับเรา เขาก็ต้องมาอยู่แล้วสิเจ้ ขนาดดายังมาเลย” กานดาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอก็เป็นถึงนางเอกดังเช่นกันถึงแม้จะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว

“แกดังแล้วแกยังเหมือนเดิมนี่ยัยดา แต่ยัยนานานั่นไม่ย่ะ นางเรื่องเยอะจะตาย นั่นก็แพ้ นี่ก็แพ้ แล้วนี่รู้อะไรไหม นางคิดจะจับเจ้านายเจ้ไปทำผัวด้วยแหละ ดีนะที่เจ้านายเจ้เขาขยาดผู้หญิง ไม่งั้นเสร็จนางแน่ๆ” โตมรเล่าออกไป เมื่อเคยทำงานกับนานาแล้วเจอพิษสงของเธอเข้าไป

“เจ้านายเจ้แซ่บมากเลยหรอ ยัยนานาถึงคิดจะจับอ่ะ” สโรชาเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย

“ถ้าหน้าตารูปร่างก็แซ่บอยู่หรอก แต่นิสัยเย็นชาเจ้าอารมณ์ไปนิดนึงอะ คือแบบทุกอย่างต้องเป๊ะต้องตรงใจนางอะไรแบบนี้ เจ้คุยกับเขาแต่ละทีต้องลุ้นฉี่จะราดอ่ะ แล้วผู้หญิงที่ขึ้นเตียงกับนางส่วนใหญ่ก็นางแบบดาราอะไรงี้ ลูกน้องสาวๆนี่อย่าหวังเพราะนางไม่กินค่ะ” โตมรเอ่ยเล่าให้ทุกคนในกลุ่มฟังอย่างเมามันส์

“เว่อร์ไปป่ะเจ้ คนอะไรจะโอเว่อร์ขนาดนั้น” สโรชาพูดออกไปอย่างไม่เชื่อ

“ก็เจ้านายเจ้ไง แกเจอแล้วแกจะหนาวยัยเอยเอ้ย” โตมรพูดไปก็ทำเสียงแหลมอย่างตลก จนนาตาชาและนานาเดินเข้ามาหากลุ่มของเขาที่นั่งกันอยู่

“สวัสดีจ้ะ ไม่เจอกันนานเลยนะทุกคน” นาตาชาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร

“นั่งด้วยกันไหมนาตาชา” ปัทมาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอก็ถือว่าเจอนาตาชาบ่อยๆ

“เชิญแค่ชาคนเดียวหรอปัท นานาก็มาด้วยทั้งคนไม่เห็นชวน” นานาเอ่ยแล้วมองสโรชาคนที่เป็นศัตรู ที่แข่งชิงดีชิงเด่นกันมาตลอดตั้งแต่เรียนจนถึงตอนนี้

“เขาไม่อยากให้นั่งด้วยไง น่าจะรู้ตัว” สโรชาพูดออกไปแล้วมองหน้านานาอย่างเอาเรื่อง เพราะนานาถือเป็นศัตรูมากกว่าเพื่อนสำหรับเธอ เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรนานาก็มักจะทำตามเสมอ ไม่เว้นแม้แต่แย่งแฟนของเธอไปนอนกก แถมยังเคยใส่ร้ายจนเธอเคยโดนพักการเรียนไปหลายอาทิตย์ จนทำให้ไม่ถูกกันจนถึงทุกวันนี้

“เราก็ชวนทั้งสองคนแหละ” ปัทมาเอ่ยยิ้มๆ เพราะนาตาชานิสัยน่าคบกว่านานา เธอจึงพูดกับนาตาชาแทน และเธอก็ไม่อยากให้ทั้งสองมาทะเลาะกันที่นี่

“พอดีชากำลังจะแต่งงานน่ะ ชาเลยเอาบัตรเชิญมาให้ทุกคน ไปกันให้ได้นะเราอยากให้ทุกคนไป” นาตาชาเอ่ยบอกออกไป เมื่อกำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจ แล้วส่งการ์ดงานแต่งให้กับทุกคนในโต๊ะ

“ว้าว เจ้ดีใจด้วยนะจ้ะนาตาชา เจ้ไปแน่นอนจ้ะ” โตมรเอ่ยออกไปแล้วรับซองมา แล้วเปิดดูว่านาตาชากำลังจะแต่งงานกับใคร เพราะไม่เคยเห็นข่าวของนาตาชาเลย

“อุ้ย แต่งงานกับทายาทร้านเพชรเลยนะ เรานี่เก็บเงียบเชียวนะนาตาชา เห็นแล้วเจ้อิจฉาอยากแต่งบ้างจัง” โตมรพูดออกไปอย่างอิจฉา

“แล้วนี่เอยแต่งงานรึยังจ้ะ ไม่ได้เจอกันนาน เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย เห็นแต่ปัทกับดาสองคนเองที่แต่งงานไปแล้ว” นาตาชาถามออกไปตามปกติ เพราะเหลือแค่สโรชาคนเดียวที่เธอไม่ได้ไปงานแต่ง

“ชาถามทำไมแบบนั้นล่ะ ถามว่าเอยเขามีแฟนรึยังถึงจะถูก ฮ่าๆ” นานาเอ่ยออกไปก่อนที่สโรชาจะตอบอย่างจิกกัด จนทุกคนเริ่มรู้สึกถึงสงครามที่เกิดขึ้นเบาๆ

“เหมือนเธอจะรู้เรื่องของฉันดีจังเลยนะนานา รู้ดีกว่าตัวฉันซะอีก” สโรชาเอ่ยตอกกลับแล้วแสยะยิ้มใส่

“เห็นอายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่แต่งงานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆเขาอีก ฉันก็เลยเดาๆดูน่ะ” นานาเอ่ยออกไป ทั้งที่เจ็บแค้นในใจ

“พอดีฉันเลือกคบน่ะ สวยๆแบบฉันมีมาจีบเยอะแยะไป เธอก็ยังไม่ได้แต่งนี่นานาหรือว่าไม่มีใครเอา” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วถามกลับอย่างไม่ยอม

“อุ๊ปส์” โตมรเอ่ยเบาๆแล้วเอามือปิดปาก อย่างชอบใจ

“งั้นเรามาดูกันว่าระหว่างฉันกับเธอใครจะแต่งงานก่อนกัน” นานาพูดกลับไปอย่างท้าทาย พร้อมกับจ้องมองหน้าของสโรชาอย่างจริงจัง

“กลัวที่ไหน ได้ ฉันรับคำท้าเธอนานา” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วมองหน้านานาอย่างจริงจังอย่างไม่มีใครยอมใคร

“เธอเตรียมตัดชุดมางานแต่งฉันได้เลยยัยเอย เพราะเจ้าบ่าวของฉันทั้งหล่อ ทั้งรวยแน่ๆ หาให้ได้ดีกว่าฉันล่ะ ไปก่อนนะจ้ะ พอดีมีนัดทานข้าวกับคุณรามีนน่ะ” นานาเอ่ยอย่างมาดมั่น แล้วยิ้มใส่อย่างสะใจก่อนจะเดินออกไปโดยไม่บอกนาตาชา เพราะเธอตั้งใจมาเยาะเย้ยสโรชาเท่านั้น

“เราขอโทษแทนนานาด้วยนะ เขาแค่อยากเอาชนะเอยเท่านั้นเองไม่มีอะไรหรอก” นาตาชาเอ่ยบอกออกไป

“เธอคบไปได้ยังไงกับยัยนี่ ฉันล่ะยอมเธอเลยนาตาชา คนอะไรคิดว่าตัวเองเริดนักรึไง เดี๋ยวจะสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” สโรชาเอ่ยอย่างไม่พอใจ

“ยังไงก็เพื่อนกันน่า เขาก็เป็นแบบนั้นแหละ” นาตาชาบอกออกไปแล้วทำหน้ายิ้มๆ เพราะก็ไม่ได้สนิทกับนานามากเท่าไหร่

“นาตาชา ดามีถ่ายละครที่จีนหลายเดือนคงไปไม่ได้ ยังไงดาขอแสดงความยินดีด้วยนะ” กานดาเอ่ยบอกออกไป เพราะต้องไปถ่ายละครที่จีนสามสี่เดือนเลยทีเดียว

“จ๊ะไม่เป็นไร แต่สามคนที่เหลือต้องไปนะไม่งั้นงอนแน่ๆ งั้นเดียวชาขอไปแจกการ์ดให้เพื่อนๆคนอื่นๆก่อนนะ แล้วเจอกันนะจ้ะ” นาตาชาเอ่ยบอกแล้วยิ้มให้ก่อนจะขอตัวไปยังโต๊ะอื่นๆ

ทุกคนในโต๊ะก็พากันพยักหน้าและยิ้มตอบจนนาตาชาเดินออกไป

“แล้วแกจะไปหาผู้ชายจากที่ไหนยะ ยิ่งหล่อๆรวยๆกว่าคุณรามจะไปหาที่ไหนยะ ฉันจะบ้าตาย” โตมรพูดออกไปแล้วทำหน้าคิดแทนสโรชา

“แกไม่น่าไปรับคำท้านานามันเลยยัยเอย อยู่โสดๆดีๆไม่เอา” กานดาเอ่ยว่าเพื่อนสาว

“เจ้ตั้มเจ้านายเจ้ ใช่คนเดียวกับที่ยัยนานามันบอกจะไปทานข้าวด้วยใช่ปะ” สโรชาถามออกไปเพื่อความแน่ใจ

“ใช่ แกอย่าบอกนะว่าจะจีบแข่งกับยัยนานา ฉันว่าเปลี่ยนคนเถอะ คุณรามไม่เหมาะกับแกหรอก”โตมรเอ่ยบอกออกไปก่อน เพราะดูแล้วทั้งสองคงจะเข้ากันไม่ได้

“ทำไมอะเจ้ ทียัยนานายังจีบเขาได้เลย ทำไมเอยจะจีบไม่ได้” สโรชาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“เฮ้อ ฉันจะบอกแกให้นะยัยเอย คุณรามเขาไม่เอายัยนานาหรอก นางก็เป็นแค่คู่นอนหรือนางบำเรอไปวันๆเท่านั้นแหละ อีกอย่างเขาเฉยชากับผู้หญิงจะตาย คนแบบแกจะไหวหรอยะ ฉันว่าแกหาใหม่เถอะ” โตมรเอ่ยบอกออกไปเท่าที่ได้รู้จักรามีนมา

“ใช่ ฉันก็เคยได้ยินคนที่บริษัทของเจ้มาเม้าท์ที่ร้านเรื่องเขาบ่อยๆเหมือนกัน เห็นเขาว่าใครทำอะไรให้คุณรามีนไม่พอใจก็ถูกไล่ออกเลยนะแก” ปัทมาเอ่ยเสริมเพื่อน

“ไม่ เอยจะเอาคนนี้ในเมื่อยัยนานามันท้าเอย เอยก็จะจับผู้ชายที่มันหมายตาไว้ สะใจดีจะตาย เจ้ตั้มขอฉันดูรูปเขาหน่อยสิเจ้ มีปะ” สโรชาเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้

“มีย่ะ แปปนึงนะ” โตมรพูดแล้วกดโทรศัพท์หารูปของเจ้านายหนุ่ม แล้วส่งให้สโรชาดู

“โอ้ยเจ้ ทำไมหล่อเกาหลีแบบนี้อ่ะ ไปอยู่ไหนมาเนี่ยพ่อของลูกฉันชัดๆ” สโรชาพูดแล้วยิ้มใส่โทรศัพท์

“อีบ้า หล่อแต่เย็นชาไร้หัวใจเจ้ขอบายค่ะ” โตมรเอ่ยบอกแล้วทำท่าขนลุก

“คนนี้ของเอย คนอื่นห้าม” สโรชาเอ่ยอย่างมาดมั่น

“จ๊ะๆ แกเข้าถึงเขาให้ได้ก่อนเถอะย่ะยัยเอย” โตมรเอ่ยบอกสาวรุ่นน้องออกไป

“ถ้าฉันกลับมาแกคงไม่อกหักนะเพื่อน ฮ่าๆ” กานดาพูดไปแล้วหัวเราะ

“ไม่มีทาง เพราะเจ้ตั้มกับยัยปัทต้องช่วยฉัน” สโรชาพูดแล้วหันไปหาทั้งสองคน

“ใครจะช่วยแกยะไม่มีทาง ฉันไม่อยากโดนไล่ออก” โตมรพูดออกไปแล้วส่ายหัว

“ใช่ ฉันก็ไม่เอาหรอกเดี๋ยวร้านฉันเจ๊ง” ปัทมาก็ปฏิเสธเช่นกัน

“ช่วยเอยหน่อยไม่ได้เหรอ เอยจะได้ผู้ชายดีๆมาเป็นสามี แล้วมีหลานน่ารักๆไง” สโรชาพูดแล้วทำหน้าอ้อนใส่ทั้งสองคน

“แกนี่หาเรื่องให้ฉันจริงๆยัยเอย ถ้าฉันโดนไล่ออกแกต้องเลี้ยงฉันนะยะ แล้วแกก็เตรียมใจไว้ด้วยล่ะ เพราะศัตรูของแกไม่ได้มีแค่ยัยนานานะยะ จะบอกให้ แต่ยังไงฉันจะเป็นกำลังเสริมให้แกเองยัยเอย” โตมรพูดไปอย่างยอมแพ้ แล้วเอ่ยบอกสโรชาให้รับรู้ว่ารามีนมีผู้หญิงมาติดพันหลายคน

“น่ารักที่สุดเลยเจ้” สโรชาพูดแล้วก็ยิ้มอย่างดีใจ

พอเช้าของอีกวันโตมรก็รีบมาดักรอชานนเลขาคนสนิทของรามีนตั้งแต่เช้า เพราะกลัวจะพลาดกัน

“คุณนนคะ คือตั้มอยากจะถามว่าหาเลขาให้คุณรามีนได้รึยังคะ พอดีตั้มมีคนมาเสนอค่ะ” โตมรเอ่ยบอกออกไป เพราะตอนนี้รามีนกำลังหาเลขามาช่วยงานของชานน

“ยังเลยครับ คุณรามจะเลือกเองในวันพรุ่งนี้นะครับ” ชานนเอ่ยบอกเลขาของมาริสาออกไป

“งั้นขอฝากสักคนได้ไหมคะ” โตมรพูดไปแล้วยื่นใบสมัครของสโรชาให้กับชานน

“อ่อได้ครับ ยังไงบอกให้เธอมาสัมภาษณ์พรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงนะครับ” ชานนเอ่ยบอกอย่างเป็นมิตร แล้วรับใบสมัครมาสอดไว้หลังสุด

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณนนสุดหล่อของเจ้” โตมรพูดแล้วส่งสายตาใส่ชานนเล่นๆ

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับเจ้ พอดีคุณรามเรียกพบ” ชานนกลัวจึงอ้างชื่อเจ้านายแล้วเดินเลี่ยงไป

“ยัยเอยเอ้ย แกนี่หาเรื่องอกหักจริงๆ ฉันช่วยแกได้แค่นี้แหละ” โตมรพูดออกไปเบาๆ เพราะเตือนแล้วไม่ฟัง ก็ช่วยๆไปให้ได้รู้ด้วยตัวเองแล้วกัน

ด้านสโรชาก็มารอดูหน้าว่าที่สามี ว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไร

“ไหนเจ้ตั้มบอกว่าเขาจะมากินข้าวร้านนี้ไง ทำไมยังไม่มาสักทีอ่ะ” สโรชาพูดออกไปแล้วทำท่าชะเง้อมองหา

“นี่ยัยเอย ถ้าเขามาเดี๋ยวแกก็เห็นเองแหละน่า” ปัทมาที่มาเป็นเพื่อนเอ่ยบอกขณะนั่งอยู่ในรถด้วยกัน

“โอ้ยตื่นเต้น เดี๋ยวฉันแต่งหน้าแป๊ปนะ แกดูไปก่อนถ้าเขามาแล้วบอกฉันด้วยล่ะ” สโรชาพูดแล้วแต่งหน้าให้ดูไม่จัดเกินไป เพราะวันนี้เธอมาในลุคสาวสวยสุดเซ็กซี่

“เห้ยแกมาแล้วๆ เขาเข้าไปในร้านแล้ว” ปัทมาเอ่ยบอกแล้วชี้อย่างตื่นเต้น

“เห้ยหล่ออะ หุ่นดี๊ดี นี่แหละพ่อของลูก” สโรชาพูดแล้วยิ้มเพ้อฝัน

“ทำตามแผนเลยนะ เดี๋ยวจะให้ส่งสัญญาณให้” ปัทมาเอ่ยบอกก็ลงรถไป แล้วเดินเข้าไปยังร้านอาหาร เพื่อหามุมที่เพื่อนสาวจะมองเป้าหมายของตัวเองได้ชัดๆ จนได้ที่นั่งตามต้องการก็จัดการสั่งอาหารแล้วส่งข้อความแชทไปหาเพื่อนสาวทันที

ชานนที่กำลังตักอาหารเข้าปากถึงกับตาค้าง เมื่อเห็นสาวที่เดินเข้ามาสวยเซ็กซี่ถูกสเปคเขาจังๆ

“ชานน อย่าลืมเรื่องสัญญาเลขาของฉันพรุ่งนี้ล่ะ”รามีนพูดไปขณะรับประทานอาหาร แต่ชานนไม่ตอบเขาจึงเงยหน้ามองชานน

“ชานน นายได้ยินฉันพูดรึเปล่า” รามีนถามออกไปเสียงเรียบเมื่อเห็นชานนมองข้างหลังเขาแล้วอึ้งไป จนเขาสงสัยว่าชานนมองอะไรอยู่

“ขาว สวย หมวย อึ๋ม” เสียงผู้ชายโต๊ะข้างๆเอ่ยพูดออกไปจนรามีนต้องหันไปมองบ้าง

สโรชาเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่เรียกว่าโปรยเสน่ห์ระดับเทพของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะเธอไม่ได้ยิ้มอ่อยใครแต่ใช้การมองโทรศัพท์มือถือ แล้วเอามือเสยผมยาวๆขึ้น เมื่อรู้สึกว่าเป้าหมายกำลังหันมามองที่เธอ เหมือนกับที่ผู้ชายในร้านกำลังมองมายังเธอ เพราะเธอใส่ชุดเดรสสั้นเหนือเข่าที่เว้าหน้าอกเป็นทรงหยดน้ำให้เห็นร่องอกเล็กน้อยเพื่อความเซ็กซี่หน่อยๆ จะได้ดูไม่โป๊เกิน เธอแกล้งไม่มองชายหนุ่มที่เธอหมายตาแล้วเดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว

รามีนก็มองอย่างอึ้งๆเช่นกัน เพราะผู้หญิงที่เดินเข้ามาสวยแบบธรรมชาติ ทั้งรอยยิ้มที่มีความสุขและหุ่นทรงนาฬิกาทรายน่ามอง ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์จนเขารู้สึกหลงไปชั่วขณะเลยทีเดียว รามีนคิดในใจก็หันมองตามร่างของเธอ ที่ผ่านหน้าเขาไปไม่ต่างจากชานน แต่เขาก็ตั้งสติได้ก่อนจะตีหน้านิ่งดังเดิม

“ชานน แกจะมองอีกนานไหม” รามีนเอ่ยถามลูกน้องหนุ่ม

“ครับคุณราม ผมแค่เพลินไปหน่อยขอโทษครับ” ชานนบอกไปแล้วเกาหัวพร้อมกับยิ้มแห้งๆให้เจ้านายหนุ่ม

“คุณรามสนใจไหมครับ สวยซ่อนเปรี้ยวน่าค้นหานะครับ เดี๋ยวผมติดต่อให้” ชานนเอ่ยพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ก่อนจะมองสาวสวยที่นั่งถัดจากโต๊ะของเขา อีกแถวหนึ่ง

“ไม่ล่ะ ฉันชอบผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อย แบบนี้ไม่ใช่ทาง” รามีนพูดออกไปเบาๆ แต่มันก็ทำให้สโรชาได้ยิน จนต้องเงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มที่เธอหมายปองจนสบตาใส่กันโดยบังเอิญ จนรามีนต้องละสายตาหนีมองไปทางอื่น

“ปากร้ายจริงนะนายหนวด ดูซิถ้าเจอยั่วเข้าไปจะทำยังไง” สโรชาคิดในใจแล้วนั่งสับขาอย่างตั้งใจ ให้เขาเห็นเรียวขางาม

“แก ฉันว่าเขาตายด้านแน่ๆอ่ะ ไม่เห็นเขามองฉันเลยอ่ะ” สโรชาพิมพ์แชทไปหาปัทมาที่นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะเธออุตส่าห์สับขาไปมา แต่สายตาเขากลับไม่มองมายังเธอเลยสักนิด คนอะไรจะตายด้านขนาดนี้นะ สโรชาคิดในใจ

“รอดูไปก่อนสิแก” ปัทมาพิมพ์ออกไป แล้ววางโทรศัพท์ลง ก็ชวนเพื่อนสาวกินตามปกติ

สโรชาเห็นรามีนไม่สนใจเธอจึงกลับมานั่งมิดชิดเหมือนเดิม แล้วทานข้าวต่อก่อนจะนึกหาวิธีที่จะทำให้รามีนชอบไปด้วย รามีนที่พยายามไม่มองสิ่งยั่วยุตรงหน้า เพราะมันเป็นการเสียมารยาท เขาจึงเอาแต่ก้มหน้ากินจนทนไม่ไหว

“ชานนฉันอิ่มแล้ว นายเช็คบิลแล้วตามฉันไปที่รถละกัน” รามีนพูดออกไป ก็เดินออกไปจากร้านอาหารทันที

“ยัยปัท เขาไปแล้วอ่ะแก ฉันเชื่อแล้วว่าเขาเย็นชามากจริงๆ คนอะไรจะไม่มองไม่สนฉันขนาดนี้ หรือว่าฉันไม่ใช่สเปคเขาอะแก” สโรชาพูดกับเพื่อนอย่างสงสัย

“โอ๊ย แกน่ะสวยแล้วแต่เขาน่ะสิแปลก ฉันว่าแกเปลี่ยนคนเถอะ”ปัทมาเอ่ยบอกเพื่อนสาวอย่างปลงๆ

สโรชาไม่ตอบแล้วมองไปที่ด้านนอกเห็นลุงแก่ๆ กำลังนับเงินเหมือนกำลังจะเอาไปซื้ออะไร เธอก็เห็นรามีนเข้าไปหาลุงคนนั้น และข้ามถนนไปซื้ออะไรสักอย่าง เขาก็วิ่งข้ามถนนกลับมาพร้อมกับถุงใหญ่แล้วส่งให้กับลุงคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่บาดใจ

“แก ฉันว่าฉันชอบเขาแล้วอ่ะ ฉันจะต้องจับเขาทำสามีให้ได้ คอยดูเถอะ” สโรชาพูดออกไปแล้วมองรามีนที่ขึ้นรถไปพร้อมกับยิ้มอย่างมาดมั่น