บทที่ 2 ฉันชอบเขา
พอเช้าของอีกวันรามีนก็เข้าประชุมด่วน เนื่องจากงานมีปัญหา
“นี่มันอะไรกัน ผมบอกให้พวกคุณแก้งานประชาสัมพันธ์ง่ายๆ แล้วทำไมมันไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่างห๊ะ”รามีนเอ่ยอย่างไม่พอใจ เมื่องานออกมาไม่ได้ตามที่เขาสั่ง
“ใจเย็นๆนะคะคุณราม เรากำลังเร่งคิดเร่งสร้างรับรองไม่เกินพรุ่งนี้ค่ะ” ดาหลันหัวหน้าแผนกดีไซน์เอ่ยขอออกไปอย่างขอร้อง
“ผมให้คุณไม่เกินพรุ่งนี้เช้า ส่วนคุณประสานผมสั่งเครื่องบ่มไวน์มาเพิ่ม หากมีปัญหาก็ให้แจ้งผมหรือไม่ก็ริสาให้จัดการแทน ถ้าผมไม่ว่าง ส่วนคุณบัวชม ผมอยากให้คุณตรวจไฟล์งานของไร่ในเชียงใหม่มาให้ผมใหม่ แล้วใส่อัตราการผลิตมาด้วย เข้าใจนะครับ” รามีนเอ่ยออกไปพร้อมกับมองทุกคนรอบๆโต๊ะประชุม
“ค่ะๆ บัวเข้าใจค่ะคุณรามีน” บัวชมเอ่ยบอกออกไป
“อ่อ พี่รามคะแล้วงานการกุศลที่เขาให้เราไปร่วม เขาให้เราส่งนางแบบไปสามคนนะคะ พี่รามจะส่งใครไป” มาริสาถามพี่ชายออกไป
“เราจัดการเลยละกัน จะส่งคนของเราหรือนางแบบที่มีก็ได้ เอาที่เราเห็นสมควร” รามีนเอ่ยบอกอย่างไม่คิดอะไร เพราะงานเหลืออีกตั้งอาทิตย์กว่า
“มีใครมีอะไรอีกไหม ผมจะได้จบการประชุม” รามีนเอ่ยพูดแล้วมอง เมื่อไม่มีใครพูดอะไรเขาก็ปิดการประชุมแล้วเดินไปยังห้องสัมภาษณ์งานต่อ
“เดี๋ยวครับคุณราม สายด่วนจากคุณสตีฟครับ ท่านบอกว่าต้องการพบคุณราม ก่อนจะกลับอเมริกาเย็นนี้ครับ” ชานนเอ่ยบอกเมื่อเดินออกมานอกห้อง
“อืม งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยแล้วกัน ริสาพี่ฝากเราสัมภาษณ์เลขาแทนพี่ด้วย เอาดีๆนะพี่ไม่ชอบอะไรเราคงรู้ดีนะริสา” รามีนเอ่ยบอกน้องสาวที่เดินตามเขาออกมาเพราะเขาติดธุระด่วน
“แต่ริสาต้องไปพบลูกค้า” ริสาเอ่ยบอกออกไป
“งั้นก็ให้คุณโตมรสัมภาษณ์แทนแล้วกัน เพราะผมไม่มีคิวว่างแล้ว คุณเลือกแทนผมได้ใช่ไหมคุณโตมร” รามีนเอ่ยบอกเลขาของน้องสาวแทน เพราะยังไงโตมรก็ทำงานที่นี่มาหลายปี คงจะรู้ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร
“ได้ค่ะคุณราม เดี๋ยวตั้มจัดให้ค่ะรับรองโดนใจคุณรามแน่นอน” โตมรพูดออกไปแล้วอยากจะหัวเราะดังๆ เพราะช่างเป็นโชคของยัยเอยซะจริงที่เขาได้สัมภาษณ์แทน
“ผมฝากด้วยนะ หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ” รามีนเอ่ยออกไป ก็เดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวออกไปพบลูกค้าคนสำคัญ
“นี่สัญญาสามเดือนครับ คุณรามเซ็นต์รับรองแล้ว”ชานนเอ่ยบอกก็ยื่นสัญญาให้กับโตมร
“ขอบคุณค่ะ คุณนน” โตมรพูดแล้วยิ้มบิดตัวไปมา
“ให้มันน้อยๆหน่อยค่ะคุณตั้ม ต่อหน้าริสาเลยนะคะเนี่ย” มาริสาเอ่ยออกไปอย่างแกล้งๆ
“อุ้ยขอโทษค่ะ พอดีตั้มเพลินไปนิดนึง” โตมรพูดแล้วทำหน้าทำตาตลกๆออกไป
“มัวแต่เล่นอยู่นั่น ไปสัมภาษณ์งานได้แล้วไป เลือกดีๆล่ะถ้าเป็นผู้หญิงได้ก็ดี” มาริสาเอ่ยบอกก็เดินออกไป
“ค่าคุณริสา” โตมรเอ่ยออกไปอย่างเป็นกันเอง เพราะมาริสาก็อายุพอๆกับเขาแถมยังพูดง่ายใจดี ต่างจากพี่ชายลิบลับ โตมรคิดในใจ
ด้านสโรชาก็มานั่งเม้าท์ต่อที่ร้านของปัทมา ที่อยู่ข้างๆบริษัทเพราะเธอได้งานโดยไม่ต้องไปสัมภาษณ์แล้ว
“แกนี่มันโชคดีเกินไปเปล่าวะยัยเอย เจ้ตั้มเขาก็เริ่ดเนอะ เอาแกไปเป็นเลขาคุณรามีนจนได้” ปัทมาเอ่ยออกไปเมื่อรู้ข่าวจากเพื่อนสาว
“สวรรค์เป็นใจไง ถึงเวลาที่ฉันจะได้ลงจากคานสักที” สโรชาพูดออกไป เพราะวันนี้เธอไม่ต้องไปสัมภาษณ์งานแล้ว และพรุ่งนี้เธอก็จะได้เจอกับรามีนแบบพูดคุยกันสักที หลังจากที่ไปเจอเขาที่ร้านอาหารมาเมื่อวาน
“ลงทุนนะแกเนี่ย อกหักมาเถอะจะสมน้ำหน้าให้” ปัทมาพูดอย่างแซวๆ
“แกนี่นะ ชอบแช่งฉัน เดี๋ยวเถอะจะแช่งกลับให้ผัวแกอยู่จีนนานๆเลย” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วนั่งคิดว่าจะเริ่มแผนไหนก่อนดี
“อีกอาทิตย์เดียวก็กลับมาแล้วย่ะ แล้วนั่นแกคิดอะไรอีกนั่น” ปัทมาถามออกไปเมื่อเห็นเพื่อนสาวนั่งคิดทำหน้าเพ้อ
“เออน่า เดี๋ยวฉันกลับไปบำรุงตัวเองรอเจอพ่อของลูกฉันพรุ่งนี้ดีกว่า ไปละ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป ก็สะพายกระเป๋าออกไป
“เอ๊ะ นั่นนางฟ้าคนเมื่อวานนี่ครับนาย วันนี้เรียบร้อยเชียว” ชานนพูดขึ้นเมื่อจอดรถรอไฟแดงที่ข้างๆบริษัทแล้วเจอสาวสวยคนเมื่อวาน ที่มาพร้อมกับชุดที่มีความเรียบร้อย
รามีนก็มองตาม ก่อนจะมองพิจารณากับการแต่งตัวของเธอที่ดูจะมิดชิดกว่าเมื่อวาน
สโรชาเดินออกมาจากร้านอาหารของเพื่อนสาว ก็เห็นเด็กขายดอกไม้ กำลังถูกด่าไล่ให้ไปขายที่อื่น เธอก็เข้าไปห้ามและด่ากลับใส่แม่บ้านของบริษัทที่ไม่มีน้ำใจช่วยเด็กตาดำๆ จากนั้นเธอก็ช่วยซื้อดอกไม้ไว้จนหมด พร้อมกับแถมเงินให้เด็กไปอีก แล้วลูบผมเด็กอย่างเอ็นดู
“ทั้งสวยทั้งใจดี” ชานนพูดไปก็มองอย่างเพลินตา
“ชอบรึไง พูดเพ้ออยู่นั่นแหละ” รามีนพูดไปแต่สายตาก็มองการกระทำของเธอที่ไม่ได้สวยแพ้หน้าตาของเธอเลย
“ชอบครับนาย สเปคผมเลยนะเนี่ย” ชานนบอกออกไป ก่อนจะขับรถออกไปเมื่อไฟเขียวแล้ว
พอเช้าของอีกวันโตมรก็มารอสโรชาที่หน้าบริษัทแต่เช้า เพราะสโรชาต้องไปรายงานตัวกับรามีนแต่เช้า
“ยัยเอย นี่แกมาทำงานหรอยะ ฉันนึกว่าแกจะไปเต้นอาโกโก้” โตมรพูดออกไปเมื่อเห็นชุดที่สโรชาใส่มา แทบจะทำให้ลมจับเลยทีเดียว
“ทำไมอะเจ้ก็แค่เกาะอกเอง เอยก็ใส่เสื้อคลุมแล้วไง” สโรชาเอ่ยบอกออกไป
“ก็นมแกที่มันล้นออกมาน่ะ เก็บก่อนเถอะจ๊ะ แล้วค่อยไปเปิดโชว์สวยๆตอนเจอคุณรามีนนู้น” โตมรเอ่ยบอกออกไป
“อ่อ ลืมอะเจ้” สโรชาเอ่ยแล้วดึงเกาะอกให้มันสูงจนบังทุกอย่าง
“ไปได้แล้ว ป่านนี้คุณรามคงมาแล้ว ดีนะที่แกแต่งหน้าไม่จัดมาไม่งั้นแกอดงานนี้แน่” โตมรเอ่ยบอกออกไป เพราะรามีนไม่ชอบผู้หญิงแรงๆ จากนั้นก็รีบพาสโรชาเข้าไปในบริษัท
พอสโรชามาถึงใกล้ห้องประธานบริหารเธอก็ดึงเกาะอกลงมานิดหน่อยให้ดูเซ็กซี่
“รีบเลยครับเจ้ตั้ม คุณรามรอนานแล้ว” ชานนเอ่ยบอกแล้วมองเลขาคนใหม่อย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าจะเป็นนางฟ้าคนสวยสุดเซ็กซี่ของเขา
“อ่อเจ้ตั้ม คุณรามให้เธอเข้าไปคนเดียวครับ”ชานนเอ่ยบอกแล้วเปิดประตูให้กับสโรชาแล้วยิ้มให้อย่างหลงใหล
“ขอบคุณค่ะ” สโรชาบอกก็ยิ้มให้กับหนุ่มตรงหน้า
“ครับ” ชานนพูดไป แล้วมองสโรชาตาเยิ้มเลยทีเดียว
“อะฮึ้ม มองจนจะเจาะประตูแล้วค่ะคุณนน” โตมรเอ่ยแซว เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะชอบ สโรชาทั้งนั้น โดยเฉพาะรอยยิ้มและดวงตาที่สวยจนกระเทยแบบเธอยังยอม
สโรชาเดินเข้ามาในห้องที่มีกระจกใสอยู่ล้อมรอบด้านหลังโต๊ะทำงานของชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านเอกสาร
“สวัสดีค่ะ ดิฉันสโรชามารายงานตัวค่ะ” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วรู้สึกเกรงไปทันที ที่เจอสายตาพิฆาตที่เงยหน้าขึ้นมาราวกับไปโกธรใครมาจากไหน
“นั่งสิ” รามีนพูดออกไปก็มองสาวตรงหน้าอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ขอบคุณค่ะ” สโรชาเอ่ยขอบคุณแล้วเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับรามีน แล้วมองหนุ่มที่เธอหมายตาไว้ จนลืมดึงขอบเสื้อเกาะอกขึ้น เพราะมันร่นลงมาจนเห็นหน้าอกขาวของเธอ โดยไม่รู้ตัว
“ต่อไป คุณควรแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ หากอยากจะทำงานที่นี่ ครั้งนี้ผมจะให้โอกาสคุณก่อน” รามีนบอกออกไปเสียงเรียบ เมื่อเธอนั่งปุ้ปหน้าอกหน้าใจก็โชว์หราไปครึ่งเต้าแบบนั้น
“อ่อค่ะ ขอโทษค่ะพอดีฉันรีบน่ะค่ะ” สโรชาพูดบอกออกไปก็แกล้งดึงเกาะอกขึ้นต่อหน้าเขาอย่างจงใจ จนรามีนส่ายหัว
“พอได้แล้ว คุณเคยทำอะไรมาบ้าง” รามีนเอ่ยถามออกไปเสียงเข้ม เพราะไม่รู้จะสัมภาษณ์อะไร เพราะในหัวมีแต่หน้าอกขาวๆเต็มไปหมด ทำไมอยู่ๆเขาถึงลามกแบบนี้นะ ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับเขาเกินไปแล้ว รามีนคิดในใจ
“เคยหลายอย่างค่ะ อยากรู้แบบไหนก่อนดีล่ะคะ” สโรชาเอ่ยบอกแล้วเอาศอกไปเท้าวางบนโต๊ะทั้งสองข้าง แล้วเอามือมาเท้าครางของตัวเอง จนหน้าอกชิดกันเป็นร่อง
“ผมไม่ตลก คุณช่วยนั่งดีๆพูดดีๆ หน่อยได้ไหมคุณสโรชาถ้ายังอยากทำงานที่นี่
ผมเตือนครั้งสุดท้าย” รามีนเอ่ยบอกอย่างไม่พอใจออกไปเพราะสโรชาทำเหมือนจะยั่วเขา
“อ่อค่ะ ดิฉันก็ทำได้ทุกอย่างแหละค่ะ ขอแค่คุณสั่ง” สโรชาเอ่ยแล้วบอกแล้วทำเสียงเรียบออกไป ตามที่เขาต้องการ พร้อมกับนั่งหลังตรง
“คุณมีแฟนหรือครอบครัวรึเปล่า” รามีนถามออกไปเพราะเขาต้องเดินทางบ่อยจึงถามออกไป
“ยังโสดยังซิง ยังไม่เคยมีครอบครัวค่ะ” สโรชาเอ่ยออกไป แล้วยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่รามีนอย่างยั่วยวน
“ถ้าอยากทำงานกับผม อย่ามาพูดจาอ่อยผมแบบนี้อีกเด็ดขาด เพราะผมไม่ชอบเป็นสมภารกินไก่วัด แล้วคุณก็หยุดมองผมด้วยสายตาท่าทางแบบนี้สักทีคุณสโรชา ผมไม่ชอบ” รามีนบอกออกไปอย่างจริงจัง เพราะผู้หญิงก็เหมือนกันหมด
“ ฉันก็ยิ้มไปตามมารยาทค่ะ บางทีฉันก็ไม่ได้ชอบผู้ชายแบบคุณหรอกค่ะ คุณสบายใจได้” สโรชาพูดตอบออกไป โดนเขาว่ามาขนาดนี้ใครจะไปกล้ายั่วต่อ เธอจึงเปลี่ยนแผนมาทางนี้แทนเพราะกลัวเขาจะไม่รับเธอทำงานซะก่อน ไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัดงั้นหรอ เดี๋ยวฉันจะทำให้คุณกินเองคุณรามีน สโรชาคิดในใจอย่างมาด
“ก็ดี งั้นคุณก็เริ่มงานวันนี้เลยละกัน ก่อนอื่นติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยซะ” รามีนเอ่ยบอกออกไปแล้วเบนสายตาไม่มอง
“อ่อ คือมันติดไม่ได้อะค่ะ” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วแกล้งทำให้เขาเห็นว่า เสื้อคลุมที่เธอเอามามันติดตรงหน้าอกของเธอไม่ได้
รามีนมองอย่างอึ้งๆ เมื่อฟังที่เธอพูดแล้วหันมามองเจอมือบางที่พยายามติดกระดุมเสื้อ ที่มีหน้าอกใหญ่เกินตัว ผู้หญิงคนนี้ขยันยั่วได้ตลอดจริงๆ พึ่งบอกไปอยู่หยกๆ รามีนคิดในใจแล้วส่ายหัว
“เอานี่ไป แล้วก็พรุ่งนี้แต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ ออกไปได้แล้ว โต๊ะทำงานของคุณอยู่ข้างนอก ชานนเขารอสอนงานคุณอยู่” รามีนพูดไปก็ส่งเสื้อสูทของตัวเองให้กับสโรชา
“ไม่เป็นไรค่ะ มันตัวใหญ่เกินไป ฉันใส่แบบนี้ก็ได้” สโรชาเอ่ยบอกออกไปเพราะสูทเขาตัวใหญ่มาก ถ้าเธอใส่นี่คงยาวไปที่ขาเลยมั้งน่ะ สโรชาคิดในใจ แต่ก็แอบดีใจที่ชายตรงหน้าเอาเสื้อให้เธอ
“อืม ออกไปได้แล้ว ผมจะทำงานต่อ” รามีนเอ่ยบอกออกไปเสียงเหมือนไม่พอใจ เพราะเขาอุตส่าห์เอาเสื้อให้แต่เธอไม่รับก็ช่างเถอะ อยากโชว์นักก็ตามใจรามีนคิดในใจ
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะคุณรามีน” สโรชาเอ่ยบอกก็ลุกขึ้น แต่ก็มิวายโน้มตัวไปด้วยจนนมหกเต็มๆตาชายตรงหน้า ก่อนจะเดินออกไปยังด้านนอกห้องอย่างไม่ได้สนใจรามีนที่ทำหน้าอึ้งๆอยู่
รามีนก็มองตามร่างบาง เขาคิดถูกคิดผิดที่ให้เธอมาทำงานกับเขานะ รามีนคิดในใจอย่างสับสน เพราะถ้าเป็นคนอื่นอาจจะถูกเขาไล่กลับไปตั้งแต่ใส่ชุดแบบนั้นมาทำงาน
จากนั้นชานนที่รออยู่ด้านนอกก็ยิ้มหน้าบาน เมื่อเห็นนางฟ้าของเขาเดินออกมาจากห้องของเจ้านายตัวเอง
“คุณชานนใช่ไหมคะ ฉันชื่อสโรชาค่ะ เรียกเอยเฉยๆก็ได้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการค่ะ” สโรชาเอ่ยออกไปอย่างสดใส
“เรียกพี่ว่าพี่นนก็ได้ครับ เห็นน้องเอยอายุน้อยกว่าแค่ปีเดียวเอง อีกอย่างเราจะได้สนิทกันไวๆไงครับ” ชานนเอ่ยออกไปตามประสาคนเจ้าชู้
“อ่อค่ะ พี่นน” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วยิ้มให้ นี่คงไม่ได้ชอบเอยใช่ไหมคะพี่นน เอยชอบคุณรามีนนะ พี่นนจะมาชอบเอยไม่ได้ ห้ามเด็ดขาด สโรชาคิดในใจ เพราะเธอก็อายุ29ปีแล้ว แค่นี้ทำไมจะดูไม่ออกว่าชานนทำท่าเหมือนจะชอบเธอ แต่ทีกับรามีนทำไมเธอดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ยิ่งสีหน้าเย็นชานั่นยิ่งแล้วใหญ่ มองไม่ออกเลยสักอย่าง
เวลาผ่านไปจนใกล้จะเลิกงาน รามีนก็กดโทรศัพท์โทรหาชานน
“ชานน คืนนี้เรียกผู้หญิงมาให้ฉันคนหนึ่ง แล้วพาไปที่บ้านฉัน” รามีนเอ่ยออกไป เพราะเขารู้สึกอยากปลดปล่อย หลังจากที่แม่เลขาสาวคนใหม่มาทำนมหกใส่เขา จนทำงานแทบไม่รู้เรื่อง
“ครับคุณราม เอาแบบไหนดีครับคืนนี้”ชานนเอ่ยออกไปขณะสอนงานให้กับสโรชาอยู่
“เอาหน้าอกใหญ่ๆ แค่นี้ล่ะ” รามีนบอกไปก็กดวางสาย
“วันนี้นึกคึกอะไรกัน ยังไม่ถึงวันอาทิตย์เลยนี่หว่า” ชานนเอ่ยออกไปอย่างสงสัย เพราะปกติรามีนจะให้เขาหาผู้หญิงให้ทุกๆวันอาทิตย์ แต่นี่กำลังวันพุธทำไมเรียกแล้วนะ ชานนคิดในใจอย่างสงสัย
“อะไรหรอคะ บอกเอยบ้างสิคะ” สโรชาเอ่ยถามอย่างอยากรู้ เมื่อรู้ว่าเป็นรามีนโทรเข้ามา
“อ่อ คุณรามแค่ให้พี่เรียกสาวๆให้คืนนี้น่ะ ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่สงสัยเพราะปกติเห็นคุณรามจะเรียกสาวๆวันอาทิตย์น่ะ” ชานนเอ่ยบอกอย่างไม่คิดอะไร
“อ่อ ซื้อผู้หญิงว่างั้นเข้าใจแล้วค่ะ ฮ่าๆ” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน ไหนเจ้ตั้มบอกไม่สนผู้หญิงไง นี่ซื้อผู้หญิงทุกอาทิตย์ไม่ใช่แล้วมั้ง สโรชาคิดในใจอย่างอึ้งๆ