บทที่2
“อ้า!”
เสียงอัดอากาศดังขึ้น ชี่แท้สายหนึ่งเข้ามาทำลายในตันเถียนและชีพจรของจื่อเฉิน ทำให้ชีพจรของจื่อเฉินได้รับความเสียหาย ตันเถียนถูกทำลาย
เร็ว มันเร็วมาก
เร็วเสียจนทำให้จื่อเฉินตอบสนองไม่ทัน
หลังจากจ้าวช่านลอบโจมตีไปแล้ว ก็เข้ามาซ้ำอีกรอบ เพื่อจะจัดการจื่อเฉิน แต่ในระหว่างนั้น จื่อเฉินพูดออกมาแค่คำว่า เจ้า คำเดียว
จื่อเฉินเริ่มกระอักเลือด ดวงตาพร่ามัว ชี่แท้ที่ฝึกมาอย่างยากลำบากหลายปี ต้องมาสูญสิ้นไปสัยแล้ว....เขาถูกทำลายพลังหมดแล้ว
และคนที่ทำลายพลังของเขา ก็คือเพื่อนของเขาเอง พี่น้องของเขาเอง!
จ้าวช่านที่มีสีหน้าโหดร้ายก่อนหน้านี้ อยู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นรู้สึกผิด แล้วพูดเบาๆ ว่า “จื่อเฉิน เจ้าจะอย่าโทษข้าเลยนะ”
“เพราะ....เพราะอะไร?”
จื่อเฉินร่วงอยู่ที่พื้น สายตาเต็มไปความสิ้นหวังและไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เขาไม่เชื่อว่า จ้าวช่านที่ตนเองมองเป็นเหมือนพี่น้อง จะมาหักหลังแบบนี้
“เพราะว่าเขาอยากจะหาที่พึ่ง อยากจะเป็นใหญ่ในสำนักในไงล่ะ!”
ในตอนนี้เอง ที่กลางเขาก็มีเสียงดังขึ้น จากนั้น ก็มีสองคนปรากฏขึ้นออกมา เดินขึ้นลงไม่นานก็มาถึงบนยอดเขา
“พวกเจ้ามากันเร็วเหมือนกันนะ” พอเห็นทั้งสองคน เจ้าช่านกพูดขึ้นมา เหมือนรู้ว่าด้านหลังยังมีคนอีก
“ฮ่าๆ จะรอสัญญาณเสียหน่อย แค่เห็นเจ้าลงมือที่ด้านล่างแล้ว ดังนั้นก็เลยขึ้นมาเลย” มีหนึ่งคนหัวเราะพูด
“ที่....พึ่งอย่างนั้นหรือ? ได้เข้าสำนักในมันยังไม่พอหรือไง?” จื่อเฉินมีใบหน้าสิ้นหวัง แล้วก็เสียดาย เขาเสียดายที่เรียกเจ้าช่านมาด้วย เสียดายที่เป็นเพื่อนกับเจ้าช่าน แล้วก็มองเขาเป็นพี่น้องกัน
“ไม่พอแน่นอน ศิษย์สำนักในนอกจากจะมีทรัพยากรที่มากแล้ว ด้านอื่นๆ ก็เหมือนกับสำนักนอก มีการแข่งขัน มีการขัดแย้ง”
สายตาที่รู้สึกผิดของเจ้าช่าน ก็เปลี่ยนเป็นนิ่งๆ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “เดมทีนั้น จุดมุ่งหมายของข้าก็คือเข้าสำนักใน นี่คือจุดประสงค์ของข้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีก2ปีกว่าจะได้เข้าสำนักใน แต่โสมหิมะของเจ้า ทำให้ข้าถึงจุดมุ่งหมายเร็วขึ้น2ปี”
“สำนักในมีการแข่งแย่งชิงดีกันอย่างลับๆ มีศิษย์หลายคนต้องตายไปอย่างไร้สาเหตุ ถ้าข้าได้เข้าสำนักใจ บางทีอาจจะต้องระมัดระวังตัวอีกหลายปีกว่าจะได้ที่พึ่งดีๆ แต่โสมหิมะของเจ้ามีประโยชน์ต่อศิษย์พี่หวังสง เขาสามารถดูแลข้าได้ ดังนั้นก็เลยประหยัดระยะเวลาของข้าไปได้หลายปี”
“ประหยัดเวลาหลายปี แถมไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาทำร้าย แถมยังสามารถฝึกวิชาได้อย่างสบายใจ ข้อดีมากมายขนาดนี้ แลกกับแค่กาตายของเจ้า เจ้าว่าผลประโยชน์ที่ดีกับตัวเองแบบนี้ ข้าจะไม่รับปากอย่างนั้นหรือ?” สายตาของเจ้าช่าน เผยความร้ายๆ ออกมา
ในสายตาของจื่อเฉิน เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ข้าเป็นคนพบโสมหิมะ และก็เรียกเจ้ามา แต่เจ้ากลับมาทำร้ายข้า ข้ามองเจ้าผิดไป”
“ถูกต้อง!ดังนั้นในโลกนี้ ไม่ว่าใครก็เชื่อไม่ได้ทั้งนั้น บางครั้งญาติพี่น้องสายเลือดเดียวกันก็ยังทำร้ายเจ้า แล้วนับประสาอะไรกับเพื่อเล่า? เรื่องในวันนี้ถือว่าเป็นการสั่งสอน แต่น่าเสียดายเจ้าจะไม่ได้รับมันแล้ว!” เจ้าช่านพูดเสียงเย็น
จื่อเฉินไม่ได้พูดอะไร ชีวิตนี้ของเขาจบสิ้นแล้ว เพราะว่าไปเชื่อใจเพื่อนผิดคน
“พวกเรากลับ!” มองจื่อเฉินที่สิ้นหวัง บนใบหน้าของเจ้าช่านก็มีแต่รอยยิ้มอย่างเย็นชา
“กลับงั้นหรือ? เจ้าจะปล่อยมันไปแบบนี้น่ะหรือ แค่ทำลายตันเถียนของมันเท่านั้นหรือ ในโลกนี้มันมีปาฏิหาริย์นะ ถึงแม้ตันเถียนถูกทำลาย แต่ถ้าพบปาฏิหาริย์เข้า ก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้” ชายหนุ่มอีกคนพูดหยอกล้อขึ้นมา
“นั่นสิ ตัดหญ้าต้องถอนโคน!” เจ้าช่านกลับมาอีกครั้ง สายตาก็มีความอาฆาต
“เจ้า...ช่าน...พวกเราเป็นพี่น้องกัน” จื่อเฉินหนาวเหน็บในใจ หัวใจเย็นเหมือนหิมะ
“ถูกต้อง ข้าเห็นด้วยกับคำพูดเจ้า แต่พี่น้องกันก็หักหลังกันตอนมีผลประโยชน์นี่แหละ” สายตาของเจ้าช่าน ไม่มีความเมตตา มีแต่ใจที่คิดจะฆ่า
“สึบ!”
แสงพาดผ่าน มีดสั้นแทงเข้าที่หน้าอกของจื่อเฉิน ทะลุหัวใจ เลือดแดงสดไหลออกมาจากหัวใจ เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด
ดวงตาของจื่อเฉินก็เบิกโตขึ้นมา สายตาพร่ามัว ลมหายใจหยุดลง
สัญญาณชีวิตหายไป
เจ้าช่านก็ดึงมีดสั้นออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ใช้เท้าถีบจื่อเฉินลงเขาไป
“ไปกันเถอะ!”
ใช้หิมะมาเช็ดเลือดที่ติดอยู่บนมีดพก แล้วเจ้าช่านก็หันหัวเดินลงเขาไป
ความอำมหิตของเจ้าช่าน ทำให้สองคนนั้นขนลุกเหมือนกัน พอมองหน้ากันแล้ว ก็เห็นความหวั่นเกรงได้จากสายตาฝั่งตรงข้าม