บทที่ 9 ค่าหัวร้อยล้านดอลลาร์
7:30 น.
"แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้นะ! ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ!"
เสียงร้องให้ปล่อยสลับกับตะโกนร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากห้องนอนปีกขวาของบ้านคูเสค ไนท์เปิดประตูห้องนอนและบิดขี้เกียจ ตื่นเช้ามาก็เจอมลพิษทางเสียงเลยหรือนี่
"เสียงดังอะไรน่ะ.. เฟโดโรฟเหรอ"
ไนท์ถามเมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอนที่เอเดรียนาอยู่ข้างใน ลูอิสยืนพิงประตูด้วยสีหน้าสบายๆ ชุดนอนถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงสแลคตั้งแต่ออกจากเรือนพักคนใช้
"ได้ยินเสียงร้อง 'ช่วยด้วยๆ' ตั้งแต่เช้ามืดเลยมาดู" ลูอิสตอบ ยกมือลูบที่ต้นคอ ผมดูยุ่งๆเหมือนไม่ได้หวี "ไม่ดูแลตัวประกันบ้างเลยนะ"
"ไม่อะ เดี๋ยวร้องจนคอแห้งก็เงียบเองแหละ" ไนท์ตอบ แต่ชักรู้สึกผิดนิดๆเมื่อได้ยินเสียงเหมือนเอเดรียนากำลังร้องไห้ "แล้วอีท่าไหนเฟโดโรฟถึงได้บอกให้แก้มัดล่ะ รู้สึกเราจะไม่ได้มัดนะ"
"เหอะๆ งั้นคงเป็นฝีมือเจ้าชาย" ลูอิสหัวเราะในคอ "มัดไพล่หลังซะแน่น"
"ปล่อย!!" เสียงร้องปนสะอื้นดังมาจากหลังประตู "ปล่อยเถอะ..นะ.."
"จริงเหรอ เจ้าชายใจดำจริงนะเดี๋ยวนี้"
"เออ.. ฉันก็แค่เข้าไปบอกให้เงียบ เกือบโดนผู้หญิงกรี๊ดใส่เลย" ลูอิสว่า ไนท์เลิกคิ้ว คนน่ารักเรียบร้อยอย่างเอเดรียนาเนี่ยนะจะกรี๊ด หรือว่าโดนจับตัวแล้วเลยนิสัยเปลี่ยน
"นายไปบอกอะไรเธอ"
"ก็... บอกว่าเราจับเธอมา และเราเป็นมาเฟีย" คำตอบน้ำเสียงสบายๆอย่างกับคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ไนท์เบิกตา
"ฮะ! บอกแล้วเหรอว่าเราเป็นมาเฟีย"
"อื้อ" ลูอิสพยักหน้า มองไนท์ "อะไร.. แล้วไงเหรอ"
"ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าเป็นแก๊งลักพาตัว"
"แล้วทำไมฉันต้องทำงั้น"
"นายไม่กลัวเหรอ เกิดปล่อยเฟโดโรฟกลับไปแล้วเธอไปแจ้งตำรวจล่ะ เธอเป็นพยานได้เลยนะเนี่ย"
"โฮ่ย! ไร้สาระน่ายัยเตี้ย เดี๋ยวนี้เธอกลัวตำรวจเรอะ"
ไนท์กับลูอิสเถียงกันไปเถียงกันมาอยู่พักหนึ่งเหมือนเด็กไม่ยอมโต ก่อนจะชวนกันลงไปที่ห้องอาหาร กลิ่นเบคอนลอยมายั่วน้ำลาย ลูอิสนั่งลงที่โต๊ะอาหารส่วนไนท์โผล่หน้าเข้าไปในครัว
"อรุณสวัสดิ์ครับ"
ไดในโหมดพ่อครัวทักทาย ผ้ากันเปื้อนสีเหลืองอ่อนลายเป็ดน้อยเป็นรอยน้ำมันกระเด็นจากเบคอนในกระทะ เขาใช้ตะหลิวช้อนไข่ดาวในอีกกระทะข้างๆขึ้นบนจานอย่างชำนิชำนาญ ไนท์ยิ้มกว้างก่อนลากเสียง
"หิว~"
"ยกไปทานก่อนสิครับเดี๋ยวเย็นหมด มีซอสอยู่ในตู้" ไดบุ้ยใบ้ไปทางตู้ครัวไม้ลายโบราณ (จะว่าไปทุกอย่างในบ้านนี้ก็โบราณเกือบหมดนั่นแหละ) ไนท์เดินไปหยิบจานไข่ดาวก่อนจะหอมแก้มขอบคุณไดหนึ่งที ชายหนุ่มหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยและเพิ่มเบคอนให้
"เจ้าชายกับลูอิสตื่นหรือยังครับ" เขาถาม ไม่วายเอามือที่ไม่ได้ถือตะหลิวมาดันแว่น
"ลูอิสนั่งอยู่ข้างนอกนี่แหละ แต่ไม่รู้เจ้าชายตื่นรึเปล่า"
"เมื่อคืนได้ยินเจ้าชายบอกว่าจะตื่นสายนะครับ"
"เหรอ ฉันไม่ได้สนใจฟังแฮะ" ไนท์ไหวไหล่ ยกจานอาหารเช้าออกไปพร้อมซอสมะเขือเทศและออริกาโน่
โต๊ะอาหารยังคงมีลูอิสนั่งอยู่คนเดียว ไนท์นั่งลงหยิบช้อนส้อมจากกระดาษเช็ดปากที่ไดพับไว้อย่างดี ไดนี่เป็นตั้งแต่โปรแกรมเมอร์ยันเชฟเลยทีเดียวเวลามาดามมิมส์ไม่ได้อยู่ด้วย นัยน์ตาสีดำคู่สวยของไนท์กวาดมอง ไดจัดที่นั่งไว้ห้าที่..
เจ้าชาย ไนท์ ลูอิส ได และเอเดรียนา
"ลูอิส" ไนท์เอ่ย เอาส้อมจิ้มไข่แดงให้ไหลมารวมกับแอ่งซอสมะเขือเทศแล้วเอาเบคอนจิ้ม โรยทับด้วยออริกาโน่ "นายไปเรียกเฟโดโรฟลงมากินด้วยสิ"
"หือ? คุณหนูนั่นน่ะนะ" ลูอิสมุ่นคิ้ว "อย่าเล้ย เดี๋ยวค่อยยกจานขึ้นไปให้ทานบนห้องดีกว่า -- เบรคฟาสต์อินเบดแบบโรงแรมห้าดาว"
"ก็ที่นี่มันไม่ใช่โรงแรมห้าดาว และถ้าจะทำอย่างงั้นนายก็ต้องเป็นคนยกขึ้นไป ไม่ใช่ฉัน" ไนท์ดักคอทันทีเพราะรู้ว่าเธอต้องโดยใช้แน่ถ้าลูอิสพูดแบบนี้ เขาเลิกคิ้วและยิ้ม
"เออ ก็ได้ แต่ถ้าเฟโดโรฟอาละวาด เธอรับผิดชอบนะยัยเตี้ย"
ใจอ่อนรับคำไปจนได้ ลูอิสคิดขณะเดินขึ้นบันไดไปห้องนอนปีกขวา เขาก็สงสารเอเดรียนาอยู่เหมือนกัน ตื่นขึ้นมาร้องและฟังเรื่องชั่วๆของลุงตัวเองตั้งแต่ตีสี่กว่า เขาเลี้ยวไปถึงหน้าประตูห้องนอนก่อนจะเคาะสองสามที
"มาปล่อยตัวนักโทษไปทานข้าวครับ" เขาเอ่ยอย่างยียวน ก่อนจะเอาหูแนบประตู "เฮ้! คุณหนู ทำไมเงียบเสียงไปล่ะ" เอ่ยอย่างสงสัยก่อนจะเบิกตากว้าง
หรือจะหนีไปแล้ว!?
ลูอิสไม่รอช้าเปิดประตูออกทันที ประตูแบบโบราณเป็นชนิดที่ล็อคจากข้างนอกได้ -- ไนท์เคยตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าคงเอาไว้ให้ท่านลอร์ดทั้งหลายขังลูกสาวไม่รักดีได้ถนัดๆ
"เฟโดโรฟ" ลูอิสเดินเข้าไป ใจหล่นวูบเมื่อเห็นว่าในห้องว่างเปล่า หายไปไหนแล้ว! หรือโดดจากหน้าต่าง? ความคิดต่อมาคือ ซวยแล้วตู..จะโดนเจ้าชายสั่งเก็บไหมเนี่ย
!
พลันเสียงเคลื่อนไหวก็เรียกให้ลูอิสหันไปมอง เอเดรียนาหลบอยู่หลังประตู! เจ้าหล่อนวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะใช้ตัวดันประตูให้ปิดเพื่อจะได้ขังเขาไว้ข้างใน แต่ลูอิสไวกว่า เขาโถมตัวดันประตูไว้ได้ทัน เอเดรียนาวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตทันที
ลูอิสนึกชมในใจ ความพยายามช่างเป็นเลิศ..
เอเดรียนาวิ่งหนีเพื่อจะลงบันได แต่ความเร็วของสตรีหรือจะสู้กับบุรุษ โดยเฉพาะบุรุษที่เป็นมาฟีออซี ลูอิสรวบตัวเธอไว้ได้จากด้านหลัง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัด
"ปล่อยฉัน!"
"ไม่ละ ฉันยังไม่อยากตาย" ลูอิสพูดตรงๆ โอบเอวบางในชุดราตรีสีโอลโรสมาประชิด "ฉันมาชวนไปทานอาหารเช้า หรือว่าเธอไม่หิว?"
"ปล่อย!" เสียงหวานร้อง ดวงหน้าสวยมีแววขัดใจอย่างมาก ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น "ฉันไม่เชื่อหรอกว่าลุงซาร์คอฟจะโกงพวกคุณ คุณหลอกฉันมากกว่า"
"ฉันจะหลอกหาเหวทำไมล่ะฮะ ลุงเธอมันชั่วจะตาย"
"หยุดพูดนะ คุณอย่ามาดูถูกลุงฉัน!"
หญิงสาวร้องโต้ แม้ในใจจะปั่นป่วนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เหมือนหัวใจกำลังถูกบีบรัด.. ลึกๆแล้วเธอก็รู้สึกอย่างนั้น รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล.. บางอย่างที่ซาร์คอฟปิดบังจากเธอ และเมื่อคืนชายหนุ่มที่กำลังจับเธออยู่ก็ร่ายออกมาตั้งมากมาย
แต่กระนั้น การปิดตาไม่รับรู้อะไรและดำเนินชีวิตในโลกของความฝัน ก็ยังดีกว่าการต้องยอมรับความจริงที่เลวร้ายไม่ใช่หรือ?
อย่างเช่นความจริงที่ว่า.. ซาร์คอฟฆ่าพ่อของเธอ
ไม่จริง! คนพวกนี้ต้องกำลังโกหกเธอ พยายามจะหลอกใช้เธอแน่ๆ
เอเดรียนากระแทกศอกใส่ลูอิส อ้อมแขนที่โอบรอบตัวเธอคลายลงจนดิ้นหนีออกไปได้ แต่แล้วก็ไปชนกับใครอีกคนตรงหน้าพอดิบพอดี
หนีเสื้อปะจระเข้แท้ๆ...
ท่อนแขนบางถูกเจ้าชายยึดไว้แน่นด้วยมือเดียว เอเดรียนาพยายามสะบัดให้หลุดก็ไม่มีทีท่าว่ามือใหญ่จะคลายออกเลยสักนิด แถมยังจับแน่นจนเจ็บ
"เสียงดังอะไรกัน"
คำเอ่ยถามราบเรียบเหมือนผืนน้ำที่ไร้คลื่นลม ทั้งที่เจ้าของเสียงหงุดหงิดเพราะโดนปลุกแต่เช้า เอเดรียนายกแขนขึ้นเพื่อดึงออกมาจากพันธนาการ หมอนี่แหละที่มัดเธอเมื่อคืน! ผู้ชายที่นี่นิสัยแบบนี้ทุกคนหรือไง
"คุณปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้! ฉันไปทำอะไรให้คุณ"
"คุณไม่ได้ทำ แต่ซาร์คอฟทำ"
"ลุงฉันเป็นคนดี!!"
ปากร้องออกไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับสั่นไหวขึ้นมาอีกคราว นัยน์ตาสีฟ้าเข้มมองดูเธอ คมปลาบเหมือนจะกรีดเข้าไปในหัวใจ เขาขยับยิ้มมุมปากและเอ่ยเสียงเย็นเป็นเชิงหยัน
"แน่ใจงั้นสิ"
เรี่ยวแรงที่จะสะบัดหนีกลับหายไป เหมือนถูกแทงตรงจุด นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนไหววูบก่อนจะหลบตาอย่างไม่อาจสู้ รู้สึกเหมือนคนตรงหน้ากำลังประเมินเธอ.. สมเพชเธอ เธอที่เป็นคนโง่ไม่รู้อะไรเลย
เจ้าชายเหลือบมองลูอิส "หึ... แค่อาหารเช้ายังวุ่นวายขนาดนี้เชียว"
"ฉันไม่อยากทานอะไรที่พวกคุณให้มาทั้งนั้น!"เอเดรียนาพูด เจ้าชายเลิกคิ้ว
"งั้นก็เชิญกลับห้องไป"
"คุณ.. ปล่อยนะ ฉันเจ็บ!"
ชายหนุ่มหันไปหาลูอิสและพูดในภาษาอิตาเลียน "อาหารเช้า?"
"ไดคงทำเสร็จแล้วล่ะ" ลูอิสตอบเป็นอิตาเลียนเช่นกัน เสยผมไม่ให้ปรกหน้าตา "ไนท์คงกินเสร็จไปแล้วด้วย ไม่ทันได้แย่งเลย...เพราะเธอทีเดียว คุณหนูเฟโดโรฟ" ข้างท้ายเขาเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ
"ลงไปเตรียมให้ด้วย"
"เออ.. ฮ้าว~ ง่วงชะมัด" คนง่วงนอนดึงตัวขึ้นโดดข้ามราวบันไดลงไปยังห้องอาหารอย่างรวดเร็ว เอเดรียนามองตามอย่างตกใจ คนหรือนินจา!?
"มองอะไรกัน ที่คฤหาสน์เฟโดโรฟไม่มีหรือ" เจ้าชายเอ่ยถาม เอเดรียนาเม้มปาก
"บ้านฉันไม่มีคนอย่างพวกคุณแน่ๆ"
"นั่นสิ ผมก็ว่าอย่างนั้น" สายตาเย็นชาที่ส่งมาตีความได้ว่า เลวขนาดบ้านเธอที่นี่คงไม่มี "กลับเข้าห้องไปซะ และเลิกส่งเสียงดังเสียที"
"ก็คุณไม่ได้ยินหรือไงว่าฉันจะกลับบ้าน"
"คุณได้กลับแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้"
เจ้าชายดึงเอเดรียนามาถึงหน้าประตูห้องนอน ผลักประตูเปิดและเหวี่ยงร่างบางเข้าไปข้างใน เอเดรียนาล้มลงไปกับพื้น โชคดีที่มีพรมนุ่มๆไม่งั้นเธอคงเจ็บยิ่งกว่านี้เพราะใช้แขนยันตัวไม่ได้
ปังง!!
ประตูกระแทกปิดล็อคทันที โดยไม่รอให้เธอได้ประท้วงอะไรอีกทั้งสิ้น
***
ไทม์สแควร์ 10:00 น.
ไนท์ลองกระชากสไลด์ปืน รอยยิ้มสวยฉาบริมฝีปากเมื่อรู้สึกได้ว่าน้ำหนักของมันเบามาก เบาขนาดที่ถือยิงพร้อมกันสองอันก็ได้(ถ้าเติมกระสุนเข้ารังเพลิงพร้อมๆกันได้น่ะนะ)
ปัง!
กระสุนสีเขียวมะนาวเปรอะกำแพงที่มีลายฉีดด้วยสเปรย์เป็นรูปหน้ามาริลิน มอนโร ตรงโหนกแก้ม ลูอิสส่ายหัวก่อนจะแย่งปืนไปจากไนท์
"ไหนบอกจะให้โดนลูกตาไง" ชายหนุ่มเอ่ย ไนท์อยากจะกระโดดชาร์จซะจริงด้วยความหมั่นไส้
"เออ.. ฉันรู้ว่าฉันยิงไม่เก่ง ไม่แม่น ไม่เทพเหมือนนาย พอใจไหม"
ลูอิสหัวเราะและขยี้ผมเธอ ยกกระบอกปืนขึ้นเล็ง
ปัง!
คราวนี้สีแดงสดเปรอะที่ตาดำของมอนโรพอดีเป๊ะ มันไหลย้อยลงมาเหมือนเลือดก็ไม่ปาน คล้ายกับว่ามีใครเอาเข็มไปจิ้มลูกตามอนโร
"แจ่ม! ซื้อเลยซื้อ" ไนท์พูด ลูอิสส่งปืนให้เธอถือก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์หนังจระเข้ออกมาควักธนบัตรจ่ายให้คนขายของ
"สี่กระบอก" เขาเอ่ย คนขายสาวยิ้มตาหวานเชื่อมใส่และนำปืนใส่ถุงให้อย่างดีพร้อมเพ้นท์บอลสิบสองสี หางตาแอบค้อนไนท์นิดๆอย่างริษยา
"ขอบคุณค่ะ เอ๊ะ!!"
เสียงอุทานจากคนขายเรียกให้ไนท์และลูอิสหันกลับไปมองอย่างฉงน ลูอิสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ส่วนไนท์มองตามสายตาของคนขายสาวไปยังจอภาพขนาดใหญ่ด้านหลังที่ติดอยู่กลางไทม์สแควร์ นัยน์ตาสีดำคู่สวยเบิกกว้าง
นั่นมันภาพ...เธอ!
***
"เฮ้ย!!?"
ภาพหญิงสาวแสนสวยในชุดสีแดงก่ำราวกับกุหลาบสีไวน์โชว์หราเต็มหน้าจอของเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ พร้อมอักษรโปรยใต้รูปพิมพ์ตัวหนาใหญ่เบ้อเริ่ม
'NYPDประกาศจับ อาชญากรสาวนิรนาม ลักพาตัวนางแบบรัสเซีย'
ไดดันแว่นรวดเดียวสามครั้งติดต่อกัน หัวใจเต้นกระหน่ำรัวเร็ว New York Police Department--ตำรวจนิวยอร์คงั้นเหรอ บ้าน่า... เขาเลื่อนแถบสกอร์บาร์ลงรวดเร็วเพื่ออ่านข่าวนั้นอย่างลวกๆ
'เมื่อเช้าวันนี้ ทางNYPDออกหมายจับอาชญากรหญิงข้ามชาติ ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งในคดีลักพาตัวนางแบบสาว เอเดรียนา เฟโดโรฟ ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเย็นวาน อาชญากรหญิงผู้นี้มีหมายจับในบัญชีดำของตำรวจสากลอีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง FBIได้ออกประกาศเป็นบุคคลอันตราย ทางตำรวจสากลเชื่อว่าผู้ต้องหามีส่วนพัวพันกับแก๊งมาเฟีย โดยคำให้การของซาร์คอฟ เฟโดโรฟ ประธานบริษัทเฟโดโรฟกรุ๊ปผู้เป็นลุงของเอเดรียนา เฟโดโรฟ...'
"เจ้าชาย!"
ไดร้องเสียงหลงทันที ซาร์คอฟแจ้งตำรวจหรือนี่! เขาคลิกเปิดบทสัมภาษณ์ซาร์คอฟ โอย..จะเป็นลม ยังดีที่ซาร์คอฟไม่ได้ระบุชื่อไปว่าไนท์แมร์ แต่ดูคำให้สัมภาษณ์สิ.. มันจะไม่พัวพันกับมาเฟียได้ไงล่ะในเมื่อคนโดนลักพาตัวน่ะหลานสาวมาเฟียชัดๆ!
"หืม? มีอะไร"
เจ้าชายแหวกม่านห้องนั่งเล่น ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าได เขารีบเดินอ้อมมาดูหน้าจอโน้ตบุ๊คทันที ไดเลื่อนตัวออกให้เจ้าชายเห็นชัดๆอย่างหมดแรง อักษรแรกที่เจ้าชายเห็นพิมพ์ด้วยสีแดงเหมือนไฟสัญญาณเตือนภัย
'รางวัลนำจับ เป็น-ตาย 100 ล้านดอลลาร์'
***
"แสดงว่า ค่าหัวฉันตอนนี้สูงสุดในสหรัฐฯแล้วใช่ไหม"
ไนท์พูดขณะที่ตัวเอนไปเบียดพนักเบาะรถด้วยแรงที่พุ่งไปข้างหน้า ลูอิสสบถออกมาเป็นชุดๆ ขาเหยียบคันเร่งขับออกมาแถบชานเมือง ขนาดวิทยุในรถก็ยังออกข่าวนี้เลย ให้ตาย! ดังระเบิดเถิดเทิงจริงๆยัยนี่ เขาเอื้อมมือไปกดปิด
"เอ...รึว่าสูงสุดในยุโรปด้วย มาเฟียปารีสคนนั้นที่ดังๆโดนจับไปแล้วรึยังนะ" หญิงสาวทำท่านึกอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน "โดนแล้วนี่นา งั้นฉันก็ค่าหัวสูงสุดน่ะสิ"
"เงียบเถอะยัยเตี้ย" ลูอิสพูดเสียงต่ำๆ เลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานหน้าบ้านคูเสค ไนท์ยิ้มบาง
"อะไรกัน ไหนว่าไม่กลัวตำรวจไง"
ลูอิสดึงตัวเธอเข้าไปกอดทันทีที่รถจอดสนิท ริมฝีปากอุ่นประทับบนหน้าผากนวลอย่างหวงแหน ไนท์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆกอดเขาตอบ เป็นความอบอุ่นที่เหมือนทั้งเพื่อนทั้งพี่ชาย และไนท์รู้ว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด
"ฉันน่ะไม่กลัวตำรวจหรอก..ยัยเตี้ย" ลูอิสพูดเบาๆ "ถ้าพวกมันมา ฉันก็จะฆ่าให้หมด มันจะเอาเธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น"
"อื้ม.." ไนท์พยักหน้า "ฉันก็ไม่อยากไปนอนในห้องขังนะ ในนั้นต้องมีตุ๊กแกแน่ๆเลย" ลูอิสหัวเราะ
"เออ พูดแบบนี้แล้วห้ามทำงานอะไรอีกนะ"
"..ก็ได้ แต่แค่ช่วงเดียวนะ รอเรื่องมันซาแล้วฉันค่อยทำ โอเคปะ"
ก๊อกๆ
เสียงเคาะกระจกหน้าต่างรถทำให้ลูอิสคลายอ้อมแขน เขาเปิดประตู เจ้าชายมารอที่ลานตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มมองสำรวจร่างไนท์เป็นอันดับแรกและถอนหายใจอย่างโล่งอกที่กลับมาได้โดยครบสามสิบสอง
"ลงมาจากรถซะที รู้ไหมว่าเธอ.."
ปัง!! ปัง!!
ไม่ทันขาดคำทุกคนก็ต้องก้มหัวหลบโดยพลัน กระสุนจากไหนไม่รู้ยิงมาตรงกระจกรถด้านที่ไนท์นั่ง โชคดีที่เป็นกระจกกันกระสุน ลูอิสกับเจ้าชายสบถคำเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย เจ้าชายกระชากประตูหลังเปิดออกและเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อหาที่กำบังได้จึงมองหาผู้โจมตี
"ระยำเอ๊ย ยังไม่ได้กินข้าวเลยจะเที่ยงแล้ว" ลูอิสดึงปืนพกที่คาดเอวออกมา เจ้าชายเปิดเบาะหลังออก ปืนสมิธแอนด์เวสสันนอนเรียงรายเป็นระเบียบสวยงามอยู่ในนั้น เขาเลื่อนชั้นบนออกและดึงบางอย่างที่อยู่ชั้นข้างใต้ลงไปออกมา
ปืนเล็งระยะไกล
"คิดจะฆ่าฉันเอาค่าหัวเรอะ! ไอ้คนลอบกัด!" ไนท์แสยะเขี้ยว หันมาหาลูอิสพร้อมปืนในมือเรียบร้อย "โทษทีนะลูอิส แต่ฉันคงไม่ทำงานไม่ได้หรอก"
"ยัยเตี้ย!"
มือเล็กกดปุ่มเปิดหน้าต่างเล็กน้อยเพียงแค่ให้ปลายปืนสอดออกไปได้ก่อนจะยิงสุ่ม ทางนั้นเป็นเนินรกๆน่ากลัวงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ซึ่งมาดามมิมส์ก็บอกทุกคนเสมอว่าห้ามเฉียดเข้าไปใกล้ (แต่เจ้าชายกับลูอิสก็เคยแอบออกไปยิงนกเป็ดน้ำเล่นในฤดูร้อนมาแล้ว) อีกฝ่ายยิงโต้กลับมา ลูอิสรีบดึงมือไนท์ออกและกดปุ่มปิดกระจกทันที
"บ้ารึไง! คนยิงห่วยอย่างเธอมันจะโดนเรอะ"
"มีคนจะฆ่าฉัน แล้วจะให้ฉันนั่งเฉยๆเหรอ!"
"เงียบ" เจ้าชายเอ่ยตัดบทไม่ให้ทั้งสองเถียงกัน ก่อนจะแนบดวงตาขวาเข้ากับกล้องส่องของปืน
เลนส์กลมมีเครื่องหมายกากบาทจางๆส่องไปยังพงไม้รกที่ตึดกันเป็นพืดหนาราวกับกำแพงธรรมชาติ เจ้าชายปรับเลนส์กล้องสองสามที ซูมภาพเข้าไปใกล้ขึ้น ใบไม้ไหวๆทำให้พอเดาตำแหน่งได้แต่ใบไม้ก็ทึบเสียเหลือเกิน วันหลังเขาคงต้องสั่งคนมาจัดการตัดให้โล่งโจ้งเสียหน่อย
"เหมือนมันจะหมอบอยู่ จากมุมนั้นคงยิงได้เฉพาะส่วนบนของรถเรา"
"เอามาซิ" ลูอิสคว้าปืนไปจากเจ้าชาย ไนท์เอนตัวแนบไปกับเบาะขณะที่ลูอิสส่องกล้องไปนอกหน้าต่างและปรับเลนส์อย่างชำนิชำนาญ "ทำไมมันไม่ยิงแล้วฟะ"
"เก็บกระสุนไว้สำหรับอย่างอื่นละมั้ง ไม่ก็รอให้เราเปิดเกม" ไนท์เสนอความเห็น แต่เธอกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆจนอยากจะกระชากปืนจากลูอิสไปกราดยิงใส่พงไม้นั่นเดี๋ยวนี้ "ลูอิส! ยิงมัน! ขอร้องเถอะ ยิงมันเลย!" ลูอิสขมวดคิ้ว
"อะไรของเธอ ฉันไม่ชอบยิงสุ่ม.."
"งั้นฉันจะทำเอง!" มือเล็กกดปุ่มกระจกลงและยิงออกไปไวดังใจนึก ความรู้สึกบางอย่างบอกให้เธอยิงเดี๋ยวนี้ นิ้วเรียวลั่นไกยิงต่อเนื่องจนกระสุนเกลี้ยงแมกกาซีน
แต่ไม่มีเสียงร้องอะไรเกิดขึ้น ไม่มีเสียงยิงโต้กลับมา แต่กลับได้ยินเหมือนยิงถูกวัตถุแข็งๆ
ลูอิสจับแขนเธอลง ทั้งสามเขม้นมองไปยังจุดเดียวกัน พงไม้นั้นไม่เขยื้อนแล้ว ไนท์หันมามองชายหนุ่มทั้งสอง
"คิดว่ามันตายไหม"
"มีทางเดียวที่จะรู้" ลูอิสพูดเป็นเชิงชวนให้ลงไปและปลดล็อครถ หากเจ้าชายกลับยังนั่งเฉย เขารู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
เสียงอะไรที่โดนยิงฟังดูแปลกๆ แปลกอย่างไม่น่าไว้วางใจ เจ้าชายนิ่งเงียบ ตอนแรกที่เขามาตามไนท์ก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้ เรื่องที่ว่าเธออาจถูกไล่ล่าโดยนักฆ่าที่ต้องการเงินเพราะค่าหัวเธอสูงใช่เล่นทีเดียว ปกติฆ่าคนจ้างแค่หลักแสนพวกนักฆ่าก็รับแล้ว
นักฆ่า...
เหมือนกับไนท์ที่แปรสภาพเป็นมือสังหารรับจ้างในยามว่าง พวกนี้มีทั้งดีและเลวคละเคล้ากันไป เจ้าชายคิด แต่บางอย่างก็ยังรบกวนจิตใจเขา เสียงประหลาดนั่นมันรู้สึกเหมือนเคยได้ยินใครเล่าให้ฟัง บางทีอาจเป็นพ่อ
นักฆ่าน่ะ ถ้าฝีมือดีและฉลาด เขาจะมีศิลปะ ไม่ใช่แค่ฆ่าแบบทื่อๆ เสียงฌองปิแอร์บอกกับเขาในมโนสำนึก อย่าได้ประมาทนักฆ่า เพราะพวกเขามีสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้อะไรๆไม่เป็นไปอย่างที่เห็นด้วยตา...
...กลลวง!
“อย่า!" เจ้าชายขึ้นเสียงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ทำเอาไนท์สะดุ้งขณะที่ชายหนุ่มเอื้อมมาดึงร่างเธอไว้แน่นก่อนที่หญิงสาวทันจะเปิดประตูออกไปตามนิสัยที่ไม่ชอบหดหัวอยู่เฉย "อย่าอยู่นอกที่กำบัง!"
"ทำไมเหรอ"
"มันรอให้เราลงไปดู..รอเธอออกไป" เจ้าชายพูดพร้อมดึงปืนเล็งมาจากลูอิส "ลูอิส ขับออกไปตรงทุกจุดที่มันจะซ่อนได้ ทำให้มันปรากฏตัวออกมา"
อีกฝ่ายกลอกตาเมื่อได้ยิน "นายพูดอย่างกับนี่เป็นรถกระบะ"
"เดี๋ยวนี้" เจ้าชายสั่งเสียงเรียบ รอยยิ้มเย็นแต้มมุมปาก "ฉันจะเก็บมันเอง"
"เหอะ.." ลูอิสทำเสียงไม่สบอารมณ์ ก่อนจับพวงมาลัยไว้มั่น "เออ! เอาเป็นว่านายจ่ายละกัน"
!
รถหักเลี้ยวอย่างเร็วชนิดที่เรียกได้ว่าไนท์แทบจะคายอาหารเช้าออกมาหมด ลูอิสกระชากรถลุยเข้าดงทันทีและปาดไปทั่วพื้นดิน บดพืชพันธุ์ธัญญาให้ราบเหมือนกรรมกรขับรถปรับพื้นดินก่อนก่อสร้าง เจ้าชายขยับยิ้มอย่างมีชัยเหมือนเห็นพงไม้ไหว คราวนี้เป็นตัวนักฆ่าจริงๆซึ่งเรียกได้ว่าอยู่คนละทิศกับพงไม้ที่ไนท์ยิงกราดใส่ไปเมื้อกี้
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
กระสุนหลายนัดจากนักฆ่ายิงสกัดมาที่ล้อรถทำให้ไนท์รู้สึกว่ารถกำลังเทไปข้างหน้า แต่นั่นยิ่งทำให้พวกเขาถลำลงเนินไปเร็วขึ้น รถส่ายซ้ายป่ายขวาราวกับลงเขาถนนลูกรังก็ไม่ปาน เสียงยิงปืนเงียบไปแล้ว พงไม้สูงไหวเป็นริ้วเส้นทำให้รู้ว่านักฆ่าตัดสินใจหนี
"ออก!"
โครมม!!
รถกระแทกหน้าลงจูบพื้นดินแข็งๆ สามชีวิตในรถเปิดประตูออกมาในจังหวะนั้น ลูอิสโหนตัวไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือปืนพกประจำกายเล็งตรงไปยังร่างที่เห็นวิ่งอยู่ในพงไม้
"หึ..."
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!
เจ้าชายลงมาจากรถโดยเปิดประตูกว้างไว้เป็นที่กำบัง ก่อนช่วยกระหน่ำยิงอีกแรงด้วยปืนเล็งระยะไกลนั้นเป็นชุด ถึงจะเป็นปืนแบบไลท์แต่ก็แรงน่าดู ปลอกกระสุนร่วงลงมาเต็มไปหมด เสียงร้องสั้นๆทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหยุด เสียงร้องแบบนี้ พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี -- เสียงคนขาดใจตาย
ไนท์โดดพรึ่บลงมาจากรถและวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหมายจะดูศพแต่เจ้าชายฉวยข้อมือไว้ทัน ดันเธอไปข้างหลังและเดินนำเพื่อความปลอดภัย ส่วนลูอิสก็โดดลงมาและโอดครวญกับสภาพรถที่อุตส่าห์ดูแลและดัดแปลงมาอย่างดี
"ตาย..ตาย..รถลูกพ่อ" เสียงลูอิสพึมพำและสบถด่าเป็นการใหญ่ เจ้าชายกับไนท์เดินเข้าไปในพงไม้ตรงบริเวณที่ยิงเข้าไป พื้นดินแข็งๆเย็นๆเปลี่ยนเป็นแอ่งแฉะๆคล้ายกับโคลนที่แข็งตัวจากอากาศหนาว ร่างใหญ่ของบุรุษผิวสีหมึกนอนคว่ำอยู่บนโคลน หลังเป็นรอยถูกยิงสามสี่นัด ตายสนิทแน่นอนไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่ไนท์สงสัยคือสายโซ่รอบคอที่โผล่ออกมาเหนือคอเสื้อของศพ
คุ้นๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นคนสวมแบบนี้มาก่อน โซ่ห่วงวงกลมสีเงินเท่ากันทุกวง... ดูเหมือนเจ้าชายจะอ่านใจเธอออกเพราะเขาก็คิดเช่นเดียวกัน เขาก้มลงกระชากศพให้พลิกหงาย
ใบหน้าศพเต็มไปด้วยโคลนเละๆจนชวนให้เบือนสายตาหลบ เจ้าชายดึงสร้อยสีเงินขึ้นมาเพื่ออ่านป้ายที่คล้องอยู่กับสร้อย อักษร SFสลักไว้เห็นได้ชัด เป็นอย่างที่เจ้าชายคิดไม่มีผิด
"แค่ของเด็กเล่น" ลูอิสเดินตามมาถามในที่สุดหลังไปสำรวจพงไม้ที่ขยับไหวตอนแรก เขาชูเครื่องไขลานที่โบกแขนไปมาให้ต้นไม้ไหวเหมือนมีคนอยู่ บัดนี้มันซี้แหงแก๋เนื่องจากกระสุนของไนท์ "ใครน่ะ"
"Slayer Federation -- สมาพันธ์นักฆ่า" เจ้าชายเงยหน้าตอบเรียบๆ เขาปล่อยศพลงอย่างไม่แยแส นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคมมองไนท์ "พวกนักฆ่าเริ่มออกมาหาเงิน เธอต้องกลับซิซิลีให้เร็วที่สุดก่อนมันจะเอาคนมาซุ่มดูรอบบ้านเรา"
"เร็วที่สุดของนายน่ะตอนไหน" ไนท์ถาม
"คืนนี้ ไดกำลังทำเรื่องอยู่" เจ้าชายเดินกลับไปทางบ้าน หญิงสาวขมวดคิ้ว
"ฉันคนเดียวเหรอ"
"ไม่มีทาง!" ลูอิสสวนขึ้นมาทันที "ฉันจะไปด้วย นายอยู่นี่กับได และก็คุณหนูเฟโดโรฟนั่นก็พอ"
เจ้าชายพยักหน้า "ฉันก็คิดว่านายต้องพูดอย่างนี้ ไม่ต้องห่วง ไดแจ้งคนของพ่อขอเครื่องบินส่วนตัวมาใช้ ฉันจะล่อพวกนักฆ่าไว้ที่นี่เอง"
ครืดด...
ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหลุด ทั้งสามมองไปยังรถที่ดูเหมือนจะหมดลมหายใจสุดท้ายแล้ว มันกระแทกด้านขวาลงโครมและแน่นิ่งไปทันที โดยมีไดเดินเปิดประตูรั้วเล็กออกมาจากบ้านเป็นฉากหลัง
ไดดันแว่นสองที "เอ่อ...ได้ยินเหมือนเสียงล่านกเป็ดน้ำ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ"
***
แท็กซี่คันเหลืองจอดนุ่มนวลที่ข้างอาคารการเคหะ ไนท์ที่รวบผมขึ้นเป็นมวยพยายามทำสีหน้านิ่งๆตลอดเวลาที่นั่งมาในรถ ลิปสติกเหลือบมุกสีเข้มออกดำทำให้หน้าเธอดูแปลก การเปลี่ยนทรงผมและแต่งหน้าทำให้คนจำเธอได้น้อยลงเพราะในภาพที่ประกาศจับมันต่างไปมาก ลูอิสจ่ายค่ารถบวกทิปอีกสิบดอลลาร์
"มายืนนี่" ลูอิสดึงร่างเล็กมาใกล้ตัว ไนท์กระชับเสื้อโค้ทและหันหน้าเข้าหาเขาเพื่อไม่ให้ใครเห็น ค่ำแล้วใต้ถุนอาคารเริ่มกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง และ..แหล่งนัดพบของพวกมาเฟีย
"เซ็งจัง" เสียงหวานเอ่ย ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ลูอิสเมื่อเห็นว่าอากาศค่อนข้างหนาวแต่เขายังใส่เชิ้ตแบบติดกระดุมไม่กี่เม็ด "คนอะไรไม่รู้เกิดมายังไม่เคยเห็นติดกระดุมเสื้อครบทุกเม็ดสักที"
"เคยสิทำไมจะไม่เคย เวลาออกงานไง"
"หัดเอาแบบเจ้าชายมั่งสิ"
"ทำไมฉันต้องเนี้ยบตลอดเป็นคุณชายอย่างงั้นด้วยล่ะหือ" ปากยังเถียงทั้งที่ตามองหารถที่จะมารับ ไม่นานไนท์ได้ยินเสียงรถมาจอดข้างหลังและแสงไฟหน้าสว่าง เธอหันไปมอง ชายในสูทดำปักตราคอสเตลลาโนลงมาโค้งให้พร้อมกับเปิดประตูรถรอเธอขึ้นไป
"มาช้านะ" ลูอิสเปรย เข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างคนขับ ไนท์ยิ้มหวานและเดินไปตรงที่คนขับรถเปิดประตูรอ
"ขอบคุณค่ะ" เธอหอมแก้มเขาตามมารยาท กับคนของฌองปิแอร์แล้วไนท์สุภาพด้วยเสมอ อีกฝ่ายโค้งอย่างนอบน้อมและปิดประตูให้ ก่อนจะเข้ามานั่งประจำที่คนขับ "ตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"ท่านฌองปิแอร์อยู่ที่ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ครับ คุณหนูไนท์แมร์" เขาเอ่ยตอบเรียบง่ายขณะออกรถ ไนท์ถอนหายใจ
"ฉันอยากเจอคุณพ่อ"
"ไว้รอคริสต์มาสสิ" ลูอิสพูด ไนท์เบ้ปากนิดๆ
"นี่มันเพิ่งจะพฤษภา แต่..ช่างมันเถอะ" หญิงสาวตัดบทตัวเองและเอนตัวพิงเบาะรถสีครีม เธอไม่อยากบ่นมากต่อหน้าคนของฌองปิแอร์ "ใกล้จะถึงแล้วบอกนะคะ ฉันจะได้เตรียมอาวุธให้เรียบร้อย" เธอไม่อยากโดนนักฆ่าหวังรวยเร็วคนไหนยิงทั้งนั้น
คนขับรถยิ้มเล็กน้อยเหมือนอ่านใจออก
"ไม่ต้องกังวลหรอกครับ" เขาตอบเสียงนุ่ม "เราเตรียมการ์ดไว้ยี่สิบนายพร้อมคนคุ้มกันเส้นทาง ปลอดภัยแน่นอนครับ"
***
หิว...
ความคิดที่บังเกิดขึ้นในใจเอเดรียนา ดวงหน้าสวยซบลงกับพื้นผ้าปูที่นอน ความมืดยามค่ำโรยตัวลงมาให้เห็นทางหน้าต่าง เธอปีนขึ้นบนเตียงและหลับไปทั้งวันเพื่อเวลาจะได้ผ่านไปเร็วขึ้น แต่ตอนนี้มันหิวมากจนต้องตื่น อยากจะตบปากตัวเองจริงๆเล้ย...พูดไปได้ยังไงว่าจะไม่กินอะไรทั้งนั้น
โอ๊ย!! ทนไม่ไหวแล้ว เรียกก็เรียก
ร่างบางกลืนศักดิ์ศรีลงคอก่อนจะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เดินไปถึงหน้าประตูแล้วเริ่มตะโกน
"เปิดประตูเดี๋ยวนี้!! ปล่อยฉันนะ!" เสียงหวานที่อ่อนแรงลงกว่าเมื่อเช้าร้องซ้ำไปซ้ำมา "ไนท์คะ! เปิดประตู.."
ผัวะ!
ประตูเหวี่ยงเปิดเข้ามาทันทีจนเอเดรียนาถอยหลังหลบแทบไม่ทัน แต่คนที่เห็นไม่ใช่ลูอิสหรือไนท์ กลับเป็นผู้ชายผมสีบลอนด์อ่อนที่ขังเธอไว้ในห้องนี้
คิดแล้วก็อยากกระโดดถีบใบหน้าหล่อๆนั่นสักสิบที
"ร้องหาอะไร" เจ้าชายถามเสียงราบเรียบเจือกระแสไม่พอใจ เอเดรียนาเม้มปาก
"ฉันเรียกไนท์ ไม่ได้เรียกคุณ"
"ไนท์กับลูอิสทั้งสองคนไปซิซิลีแล้ว เหลือแค่คุณ ผม และได"
"ฮะ?" เอเดรียนาถามเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ พระเจ้า...ลูกทำอะไรผิดบาปมากมายนักหรือคะถึงได้ทรงลงโทษอย่างนี้ แล้วคนที่ชื่อไดจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ จะนิสัยแย่เหมือนหมอนี่รึเปล่า "ไม่จริงอะ ลูอิสบอกว่าไนท์ต้องอยู่กับคุณตลอด"
"ก็ทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะซาร์คอฟ"
หญิงสาวขมวดคิ้ว "พูดอะไรของคุณ ลุงฉันเกี่ยวอะไรอีกล่ะ"
"คุณต้องการอะไร"
เจ้าชายตัดบทน้ำเสียงเย็นชา เท้าแขนขวางประตูไว้อย่างรู้ทันเมื่อเห็นนัยน์ตาสีฟ้าใสมองหาทางหนีทีไล่ เขาดึงมีดพกแบบลานซิทขึ้นมา เอเดรียนาเห็นใบหน้าหวาดกลัวของตัวเองฉายอยู่ในนั้น เธอก้าวถอยหลัง
"ย..อย่านะ..."
"ผมถามว่าต้องการอะไร" เขาเอ่ยซ้ำและลดมีดลง เอเดรียนามองเขา
"แก้มัดฉันหน่อย"
"คุณจะได้ข่วนหน้าผมอย่างนั้นหรือ"
"คุณจะบ้าเหรอ! ฉ..ฉันอยากเข้าห้องน้ำ.." เอเดรียนาพูดเสียงอ่อย ก้มหน้างุดเมื่อรู้สึกว่าสายตาเย็นชากำลังจ้องมองอย่างพินิจพิจารณา "แล้วถ้ามัดไว้ ฉันจะกินข้าวได้ยังไง"
"ไหนว่าจะไม่กินทุกอย่างที่ผมให้"
"ก็ฉัน..!"
"หิว?" เสียงเรียบต่อให้ เอเดรียนากัดฟันพยักหน้า เอาเถอะ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้นี่นา เจ้าชายจับตัวเธอพลิกหันหลัง ใช้มีดตัดเชือกที่มัดข้อมือบาง เอเดรียนาหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา
นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคมนั่นทำให้เอเดรียนาอยากจะหนีไปให้ไกลๆ มันเย็นชาเหลือเกิน.. เย็นชาและอำมหิตที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาในชีวิตนี้ เหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น นอกจากผลประโยชน์แลกเปลี่ยนตอบแทนตามหลักมาเฟีย และเธอก็รับรู้ได้ว่าเมื่อเขาแก้มัดให้เธอแล้ว เธอก็ไม่มีสิทธิจะทำตัวไม่ดีกับเขา
"..มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนไหม" เสียงหวานถามเบาๆ เจ้าชายเอียงคอมองเธอ แบบนี้สิค่อยพูดกันรู้เรื่อง
"ใส่ของไนท์ไปสิ" เขาหันหลังเดินไปอีกฟากของบ้าน เอเดรียนาเดินตามไปช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่แน่ใจว่าเขาให้ออกนอกห้องรึเปล่า มีดลานซิทยังอยู่ในมือเขาอยู่เลย "ของมาดามมิมส์คงจะหลวมไป"
"มาดามมิมส์?"
"แม่บ้านของเรา ตอนนี้เธออยู่ที่ซิซิลี" เจ้าชายเดินนำไปจนถึงห้องนอนปีกขวาห้องสุดท้ายซึ่งเป็นห้องนอนของไนท์ เขาเปิดประตู
การตกแต่งของห้องแทบไม่ต่างจากห้องนอนปีกซ้าย เพียงแต่โต๊ะเครื่องแป้งของไนท์มีกล่องใส่เครื่องสำอางและเครื่องประดับอยู่มากมาย มีตระกร้าผ้าที่ยังไม่ได้เอาไปซักและตู้บางใบเปิดค้างไว้ตั้งแต่ตอนจัดเสื้อผ้าแสดงให้เห็นว่าเจ้าหล่อนรีบไม่น้อย เจ้าชายเปิดตู้เสื้อผ้าไม้โอ๊ค เอเดรียนาเบิกตากว้างเมื่อเห็นเสื้อผ้าแขวนเรียงกันเต็มตู้เหมือนกับโคลเซตของห้องเสื้อรัสเซียก็ไม่ปาน
"เลือกเอาสิ" เจ้าชายเอ่ยขณะที่เอเดรียนาได้แต่ยืนมอง "อาหารเย็นจะเสิร์ฟในอีกยี่สิบนาที ผมจะรอที่โต๊ะอาหาร"
"แล้วผ้าเช็ดตัว.."
"ในลิ้นชัก"
เจ้าชายเดินไปที่ประตู ก่อนชะงักและหันกลับมา
"จริงสิ.. ผมยังไม่รู้ชื่อเต็มของคุณเลย" เขาพูด เอเดรียนาเงยหน้าหลังหาผ้าเช็ดตัวผืนนุ่มได้แล้ว นัยน์ตาสีฟ้าใสกระจ่างมองเขาครู่หนึ่งเหมือนชั่งใจ
"เอเดรียนา ซานเชส เฟโดโรฟ" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเหมือนจำยอม "แล้วคุณ?" เจ้าชายค้อมศีรษะเล็กน้อย
"ทุกคนเรียกผมว่าเจ้าชาย" เอเดรียนามุ่นคิ้วอย่างสงสัย
“แล้ว..ชื่อจริงๆของคุณล่ะ"
เจ้าชายขยับรอยยิ้มบางเบา และนั่นทำให้หญิงสาวเพิ่งสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกว่าใบหน้าคมคายหล่อเหลานั้นชวนมองจนไม่อาจถอนสายตา
"ผมต้องฆ่าคุณถ้าคุณรู้"