บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ฉันจะประมูลทุกอย่างบนตัวเธอ

สปอตไลท์สีนวลราวกับแสงจันทร์ฉายเชื่องช้ากระทบโลโก้รูปหงส์ของชวารอฟสกี้ ขณะที่ผู้เข้าร่วมงานต่างรอคอยแฟชั่นโชว์ชุดสุดท้าย -- พรีเซนเตอร์จากห้องเสื้อรัสเซีย ช่างถ่ายภาพพากันตั้งกล้องให้พร้อมอย่างใจจดใจจ่อ

"มาถึงชุดสุดท้ายครับ" พิธีกรกล่าวประกาศยิ้มๆ "ได้ยินว่าเป็นชุดที่หลายคนตั้งตารอคอยทีเดียวเพราะนางแบบของเราเป็นแขกรับเชิญพิเศษจากรัสเซีย.. เอเดรียนา เฟโดโรฟครับ ในชื่อชุด Bridal Goddess คริสตัลชวารอฟสกี้"

เสียงปรบมือคลอไปกับเสียงเพลง ไนท์ยืดตัวขึ้นเพื่อมองดูเอเดรียนาชัดๆ

หญิงสาวในชุดขาวบริสุทธิ์ก้าวเดินบนเวทีอย่างสง่างาม เยื้องกรายดุจเทพธิดาแห่งสายน้ำ ชุดสีขาวยาวกรอมเท้าและผ้าขาวบางคลุมเรือนผมสีทองเหมือนชุดแต่งงาน เนื้อผ้าชั้นดีตัดเย็บด้วยฝีมือประณีตเปิดไหล่บอบบางราวกับกลีบดอกไม้ ผิวสีน้ำนมเนียนละเอียดผุดผ่องขับให้คริสตัลน้ำงามบนลำคอโดดเด่นส่องประกายวูบวาบ

ใบหน้ารูปไข่ที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางงดงามจนน่าพิศวง นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตใสกระจ่างมีแววอ่อนโยนแม้จะตื่นเต้นอยู่บ้างรอยยิ้มอ่อนหวานคลี่ออกบนริมฝีปากของเธอ

แชะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กล้องทุกตัวแข่งกันกดชัตเตอร์รัวราวกับเธอเป็นนางฟ้าที่เพียงแค่พริบตาก็อาจหายวับไป ความงามเจิดจรัสไร้ที่ติแม้เจ้าตัวจะไม่ตระหนัก ตรงกับคอนเซ็ปต์ของชวารอฟสกี้ บนหน้าผากนวลของเธอมีเครื่องประดับคริสตัลเส้นบางคาดเหมือนรัดเกล้าซึ่งจะเป็นคริสตัลที่ทรงค่าที่สุดในงานประมูลหลังจากนี้

ไนท์ลอบมองซาร์คอฟซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้แถวหน้าพร้อมการ์ดหนึ่งคน ไม่แปลกใจเลยที่เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจขนาดนั้น ไนท์เหยียดยิ้มมุมปาก เฮอะ..จะได้ยิ้มอีกไม่นานหรอก

การประมูลเริ่มขึ้นเมื่อนางแบบทุกคนออกมาที่หน้าเวที เครื่องประดับทุกชิ้นเปล่งแสงระยับเหมือนจะแข่งรัศมีกัน ราคาประมูลเพิ่มขึ้นเพียงครั้งละห้าร้อยดอลลาร์ทำให้ยิ่งยืดเยื้อสนุกสนาน คริสตัลทุกชิ้นที่ถูกประมูลมีประวัติ บ้างเป็นคริสตัลที่เคยใช้มาแล้วในภาพยนตร์ซึ่งนางเอกของภาพยนตร์นั้นก็มาเป็นนางแบบ บ้างก็เป็นคริสตัลที่ถูกทำขึ้นในโอกาสสำคัญซึ่งมีเพียงชิ้นเดียวในโลก

ไนท์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้เพื่อเตรียมตัวทำงานต่อไป ตอนนี้เป็นเหมือนช่วงพักเวลาให้เธอกับทุกคนในทีมเอ

"คุณหนูไม่สนใจชิ้นไหนบ้างหรือครับ" คนของเจ้าชายถามเธอ หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ

"มันก็สวยดีอะ แต่ขี้เกียจ ถ้าจะใส่แล้วค่อยซื้อ... อีกอย่างใช้เงินไม่บอกกล่าวมีหวังเจ้าชายโกรธแน่"

"เจ้าชายบอกว่าถ้าคุณหนูชอบชิ้นไหนก็ประมูลได้ครับ"

"ฮื้อ?..เหรอ ใจดีจังนะคราวนี้" ไนท์พูดแล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ "จริงสิ.. งั้นฉันจะประมูล"

"ชิ้นไหนครับ" อีกฝ่ายถามอย่างสนใจ นัยน์ตาสีดำของไนท์มองไปยังเป้าหมายก่อนเอ่ยชัดเจน

"ทุกอย่างบนตัวเฟโดโรฟ"

***

22:10 น.

ลูกตุ้มนาฬิกาเรือนโบราณแกว่งไปมาอย่างสม่ำเสมอ ลวดลายสวยงามของมันมีใยแมงมุมและฝุ่นจับอยู่บางเบา คงเป็นชีวิตที่เวียนหัวน่าดูสำหรับแมงมุมที่เลือกสร้างบ้านบนลูกตุ้มนาฬิกาที่แกว่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเรือไวกิ้งที่ไม่มีวันหยุด เจ้าชายแกว่งแก้วไวน์ในมือช้าๆเพื่อสัมผัสกลิ่นของมันก่อนจะค่อยๆจิบ เขามองนาฬิกาอีกครั้งอย่างใจเย็นเหมือนทุกคราวที่ผ่านมา

มีคนบอกว่า เมื่อเราทำอะไรอยู่เพลินๆ เวลามักจะทะยานไปรวดเร็วจนไม่อาจไขว่คว้าไว้ทัน แต่การรอคอยกลับยาวนานยืดเยื้อจนแม้จะเอาเวลามาให้ เราก็คร้านที่จะรับ

นึกได้ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทร

ตรู๊ด.... ตรู๊ด....

"หวัดดีค่า~"

เสียงใสๆนั่นเป็นแคลร์อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย เจ้าชายขยับรอยยิ้มเล็กน้อย

"แคลร์หรือ"

"เจ้าชายโทรมา!" เด็กหญิงพูดเสียงดัง คาดว่าคงประกาศกับอีกสามหน่อที่เหลือ "ใช่แล้วค่ะ คิดถึงจังเลย ขอคุยกับลูอิสได้รึเปล่าคะ"

"ไนท์ด้วยๆ" เสียงวิลเลียมแว่วเข้ามาในโทรศัพท์

"สองคนนั้นไม่อยู่หรอก ไปทำงาน" เจ้าชายตอบอย่างนุ่มนวล "มีใครอยากได้อะไรบ้างหรือเปล่า พรุ่งนี้งานเสร็จแล้วจะซื้อให้"

"ขนมค่ะ!" แคลร์ตอบ เจ้าชายเห็นภาพเธอยิ้มแก้มยุ้ยมาเลยทีเดียว "แคลร์อยากกินช็อกโกแลตอัลมอนด์ที่สุดเลย ขนมปังขิงด้วยค่ะ"

"อย่าลืมโดนัทบัตเตอร์สก็อตช์ครับ" วิลเลียมร่วมเสนอด้วยอีกเสียง ตามด้วยราฟาเอล

"Paint Ball!"

"หืม?" เจ้าชายขมวดคิ้วเล็กน้อย "เมื่อกี้ใครว่าอะไรนะ"

"อ๋อ ราฟกับวิลอยากได้เพ้นท์บอลน่ะค่ะ พวกเขาจะเอาไปเล่นกันในสนาม เจ้าชายรู้จักไหมคะ มันเป็นกระสุนสีแดงๆแบบที่พวกผู้ใหญ่ในโรงฝึกเอามาใช้ซ้อม.. เหมือนเลือดมากเลย แคลร์ไม่เห็นชอบ เสื้อผ้าสวยๆเลอะหมด" เสียงอธิบายจ๋อยๆเหมือนเห็นเขาเป็นเด็กไม่มีผิด และแอบค้อนราฟาเอลกับวิลเลียมตรงท้ายประโยค

"อื้ม.." เจ้าชายรับคำยิ้มๆ ทำสัญญาณมือให้การ์ดที่มุมห้องเดินมาหาและดึงปากกาจากกระเป๋าสูทมาส่งให้ เขาเขียนรายการของฝากลงบนกระดาษเช็ดปาก "แล้วมีปืนเพ้นท์บอลรึยัง"

"ไม่มีหรอกค่ะ..แต่แคลร์ว่าไปขอที่โรงฝึกก็ได้"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะซื้อให้หมดทุกคน" เจ้าชายตอบ "แล้วไอรีนล่ะ ไม่อยากได้อะไรหรือ ขอคุยกับไอรีนหน่อย"

"ค่ะๆ"

ปลายสายเงียบไปแป๊บหนึ่งก่อนที่จะได้ยินเสียงกุกกักเมื่อไอรีนยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เสียงลมหายใจแผ่วเบาโดยไม่มีคำพูด เจ้าชายยิ้มบางเบา ใครๆก็บอกว่าเขาพูดน้อย แต่กับไอรีนแล้ว ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นคนช่างคุยไปเลย

"เป็นยังไงบ้าง"

"..สบายดีค่ะ"

"อยากได้อะไรหรือเปล่า"

"..." ไม่มีคำตอบถูกส่งกลับมาตามที่เจ้าชายคิดไม่มีผิด เขาเอนตัวพิงโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย เสียงเรียบเจือกระแสอ่อนโยน

"รู้ไหม.. ตอนนั่งเครื่องบินมา ไนท์เล่าให้ฟังว่าไอรีนยิงปืนเก่ง ไอรีนถือปืนไหวหรือ"

"ค่ะ"

"จริง?"

"..ถ้าเป็นปืนผู้หญิง"

"งั้นพอกลับไปยิงให้ดูหน่อยได้ไหม"

"..." (ไม่มีคำตอบจากสวรรค์)

"มีปืนสมิธแอนด์เวสสันอยู่กระบอกหนึ่ง..ปืนเบา เป็นของไนท์ตอนเด็กๆ เหมาะกับไอรีนนะ"

"...เหรอคะ"

"ปืนนั้นเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวการ์ดเจ้าชาย ถ้าจับแล้ว ต้องติดตามเจ้าชายตลอดเวลา ...ทำได้หรือเปล่า หืม?"

"...การ์ด" เสียงเล็กเบาพูดแทบไม่ได้ยิน

"..." กลายเป็นเจ้าชายที่เงียบแทน ขณะที่รอยยิ้มบางฉาบบนริมฝีปากของเด็กหญิง

"ได้ค่ะ"

เจ้าชายขยับยิ้ม ปลายปากกาปลอกสีเงินหยุดนิดหนึ่งบนกระดาษเช็ดปากจนหมึกซึมลงไปเป็นจุดสีน้ำเงิน ปากกายกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตวัดเขียนบรรทัดล่างต่อจากเพ้นท์บอล

'ฝึกการ์ดคนใหม่'

***

เอเดรียนาลืมตาขึ้นหลังจากแปรงปัดอายชาโดว์ของช่างแต่งหน้ายกออกไป เธอต้องมาเติมเครื่องสำอางอีกหลังเดินแฟชั่นโชว์และเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรีสีโอลโรสที่จับระบายน้อยๆในตัว จี้คริสตัลสีโอลโรสเม็ดเล็กจิ๋วทอแสงวิบวับเรียงกันบนตัวเรือนรูปร่างคล้ายกับดอกไม้ หรือจะมองว่าเป็นดวงดาวก็แล้วแต่ เอเดรียนาขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

ผู้หญิงในชุดสีแดงเข้มจนเกือบดำที่มาขอลายเซ็นเธอคนนั้น ไนท์ คาโปเน่ ประมูลคริสตัลทุกชิ้นที่เธอสวมใส่ แปลกจัง.. คนเราอย่างนี้ก็มีด้วย แต่นั่นก็ต้องแสดงว่าผู้หญิงคนนั้นมีฐานะการเงินสูงไม่ใช่น้อยเลย บางทีซาร์คอฟอาจจะอยากให้เธอเข้าไปทำความรู้จักก็ได้

"ตายจริงคุณเฟโดโรฟอย่าขมวดคิ้วสิคะไม่สวยเลย" ช่างทำผมร้องเสียงแจ๊ดแจ๋อยู่เหนือหัว "ไม่ไหวๆ เดี๋ยวก็หน้าย่นหมดพอดี เครียดเรื่องอะไรกันคะเดี๋ยวแก่เร็วไม่รู้นะ"

"ออ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"

แต่งหน้าทำผมเสร็จสรรพเอเดรียนาก็รีบออกมาจากห้อง พวกนางแบบหลายคนจับกลุ่มคุยกันหัวเราะคิกคักเหมือนนกกระจอกแตกรัง เธอได้แต่ส่งยิ้ม ภาษาอังกฤษของเธอไม่แข็งขนาดตอบใครได้เร็วๆเหมือนภาษารัสเซีย และสำนวนบางสำนวนเธอก็ไม่แน่ใจนักว่าเข้าใจความหมายของมันถูก ซาร์คอฟบอกเสมอว่า ยิ้มและพูดให้น้อยเข้าไว้

งานเลี้ยงค็อกเทลดูรื่นเริงอย่างที่เอเดรียนาคาดไว้ คนหลายคนหันมาทักทายเธอซึ่งเธอก็ได้แต่คุยตอบอย่างสุภาพเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้หิวจะแย่อยู่แล้ว แต่มุมค็อกเทลไหนๆก็มีแต่คนยืนจับกลุ่มคุยกันทั้งนั้น

"ขอโทษนะคะ"

เสียงเอ่ยอย่างเป็นมิตรดังขึ้นข้างหลัง เอเดรียนาหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"คุณคาโปเน่"

"ฉันเห็นคุณคุยกับใครตั้งหลายคน ไม่สนใจคาเวียร์บ้างหรือคะ" ไนท์พูดยิ้มๆพลางส่งจานเล็กๆที่มีค็อกเทลคาเวียร์ กุ้ง และอีกสารพัดหน้าราวๆสิบชิ้นให้ "ทานเยอะๆสิคะ ฉันเห็นคุณบนเวที ขนาดใส่สีขาวยังผอมสวยอย่างนั้น"

"ขอบคุณจริงๆค่ะ" เอเดรียนากล่าวและยิ้มดีใจ นัยน์ตาสีฟ้าใสเป็นประกาย "ฉันชอบกุ้งมาก"

"เหรอคะ ฉันดีใจที่คุณชอบ อ้อ..จริงสิคะ ฉันสนใจชุดที่ใส่ตอนเดินแฟชั่นโชว์มากค่ะ มันสวยจนไม่น่าเชื่อเลย สวยเหมือนในภาพวาดที่ฉันชอบ.. มันเป็นของห้องเสื้อคุณรึเปล่าคะ"

"..ใช่ค่ะ" เอเดรียนายิ้มอย่างแปลกใจ "ออ..อย่าบอกนะคะว่าคุณจะซื้อมันด้วย ฉันเห็นคุณประมูลทุกอย่างที่ฉันใส่เลย"

"ค่ะ ก็มันสวยมากนี่คะ" ไนท์หัวเราะเบาๆ "คุณขายให้ฉันได้หรือเปล่า"

"ได้ค่ะ"

"ยอดเยี่ยมเลยค่ะ.. คุณมีนามบัตรใช่ไหมคะ ฉันขอจะได้เก็บไว้"

เอเดรียนาเปิดประเป๋าถือปักคริสตัลออกและค้นหานามบัตร ไนท์ยิ้มมุมปาก ตกหลุมจนได้ เอเดรียนาส่งนามบัตรกระดาษหอมๆให้เธอ

"อุ๊ย!" ไนท์ร้องเสียงสูงขณะอ่านนามบัตร "แหม...ฉันก็เคยได้ยินว่าสาขาห้องเสื้อของคุณอยู่ใกล้ร้าน Le Rivage ตรงถนน 48 แต่ไม่คิดว่าจะใกล้ขนาดนี้ ฉันเคยไปทานอาหารที่นั่นตั้งหลายครั้ง อร่อยมากๆ"

นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยและยิ้มอย่างกระตือรือร้น เอเดรียนาเคยได้ยินใครหลายคนพูดถึงร้านอาหารชื่อดังนั้นเหมือนกันแต่ไม่เคยทานสักที "จริงเหรอคะ"

"จริงสิคะ อาหารฝรั่งเศสชั้นหนึ่งแท้ๆ อร่อยสุดๆเลยค่ะโดยเฉพาะกราแต็งค์"

คุยกันต่อไปอีกสักพักไนท์ก็ยิ้มได้อย่างจริงใจ เอเดรียนาเป็นคนน่ารักและใส่ใจคนอื่น น่าเศร้าที่หญิงสาวต้องถูกดึงมาเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด คนแบบนี้ไม่น่าเป็นญาติกับซาร์คอฟเลย.. ประกายความสงสารวูบขึ้นมาในดวงตาของไนท์เพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกลับเป็นนิ่งสนิทเมื่อเอเดรียนาจะขอตัวกลับ

"ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ ต้องเอาชุดไปที่ห้องเสื้อ" เอเดรียนาค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงลา ยิ้มจนนัยน์ตาเป็นประกายสวย "ดีใจจังเลยค่ะที่ได้รู้จักคุณ คุณคาโปเน่"

"เรียกไนท์เถอะค่ะ -- ฉันไปส่งคุณด้วยดีกว่า"

หญิงสาวทั้งสองเดินออกมาจากบริเวณงาน จนมาถึงประตูที่เชื่อมกับอาคารจอดรถ เอเดรียนามองซ้ายขวา คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นการ์ดของตัวเอง

"ไม่มีคนขับรถมารับหรือคะ นี่ก็ดึกแล้วนะ" ไนท์ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย (เหรอ?)

"เอ่อ...มีค่ะ จริงๆแล้วบอดี้การ์ดของฉันจะรอที่นี่ แต่ว่า..."

..แต่ว่าหายไปไหนก็ไม่รู้ ไนท์ต่อให้ได้เลย

"เอางี้ไหมคะ ให้ฉันไปส่งคุณเอง คนขับรถฉันไปที่ Le Rivage ตั้งหลายรอบแล้ว ไม่หลงแน่นอนค่ะ"

"แต่ลุงของฉันบอกว่า.."

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เถอะนะคะ..ให้ฉันไปส่งคุณ เผื่อเราจะได้คุยกันเรื่องเสื้อไปเลย"

คนของเจ้าชายคนหนึ่งเดินมาหาไนท์ด้วยท่าทีนอบน้อม ยกถุงใส่กล่องกำมะหยี่บรรจุคริสตัลที่ประมูลมา "คุณหนูจะกลับแล้วหรือครับ"

"อื้ม.. นี่คือคุณเฟโดโรฟ ไปส่งเธอที่ห้องเสื้อด้วยนะ.. คุณเฟโดโรฟคะ นี่บอดี้การ์ดของฉัน"

"เอ่อ..คือ..." เอเดรียนาอึกๆอักๆเมื่อไนท์พูดเป็นเชิงมัดมือชกเช่นนี้ ไนท์แย้มรอยยิ้มพร้อมกับคล้องแขนเอเดรียนาอย่างหลวมๆเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าถูกบีบบังคับมากเกินไปจนต่อต้าน

"มาเถอะค่ะ"

"เชิญครับคุณหนู คุณผู้หญิง"

เอเดรียนาเดินตามไปช้าๆอย่างเสียไม่ได้ พยายามมองหาวี่แววของบอดี้การ์ด ทันทีที่ก้าวข้ามประตูสู่อาคารจอดรถในมุมซึ่งเป็นจุดบอดของกล้องวงจรปิด ไนท์ก็มองเธอและขมวดคิ้ว

"เอ๊ะ! นั่นอะไรติดอยู่ที่ผมคุณคะ"

"คะ?"

เอเดรียนายกมือขึ้นจับผมตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าไนท์หมายถึงอะไร รอยสกปรก หรือสิ่งอื่น.. ไนท์เอื้อมมือไปที่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก่อนจะกดตรงรอยบุ๋มตรงศีรษะอย่างแรง

!

เสียงหวานร้องอุทานออกมาสั้นๆไม่เป็นภาษาก่อนที่ร่างแบบบางจะล้มวูบลงไปทันที คนของเจ้าชายคอยรับเอเดรียนาไว้ได้พอดิบพอดีอย่างชำนาญ รอยบุ๋มใต้กะโหลกที่เหล่ามาฟีออซีรู้จักกันดีในนาม จุดกลางกระหม่อม เป็นเหมือนจุดจักระรวมที่เป็นสวิตช์ของร่างกายซึ่งเมื่อกดด้วยแรงที่พอเหมาะแล้ว ก็จะสลบไปประมาณยี่สิบนาทีโดยไม่มีเงื่อนไข

ไนท์ก้าวไปที่ขอบฟุตปาธ ก่อนที่รถลิมูซีนคันงามของลูอิสจะมาจอดตรงหน้าและปลดล็อค คนของเจ้าชายในรถเปิดประตูออกมานำตัวเอเดรียนาที่สลบไสลเข้าไปทันทีพร้อมๆกับที่ไนท์ก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ รอยยิ้มหวานส่งให้ลูอิส

"เรียบร้อยดี"

ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วกระชากรถออก

***

ซาร์คอฟมุ่นคิ้วเมื่อฟังคำรายงานจากการ์ดว่าเอเดรียนาหายและพบฟาราห์ถูกวางยาสลบ เขาเหลียวซ้ายแลขวา ไม่มีแม้เงาของหลานสาวคนเดียวที่เหลืออยู่ การ์ดของเธอก็เช่นกัน.. เขารู้ว่าเจ้าชายต้องทำอะไรกับเอเดรียนาสักอย่างแน่ แถมยังส่งสัญญาณเตือนมาให้เสียด้วย

ไนท์แมร์ ฝันร้ายแห่งมาฟีออซีอิตาลี... ซาร์คอฟคิดในใจ ไม่เคยมีใครที่หลุดรอดจากยมทูตคนนี้ได้หากเธอต้องการ ฌองปิแอร์เก็บเด็กคนนี้มาเลี้ยงเพราะเห็นสิ่งที่แฝงเร้นใต้รูปกายเพรียวบางของหญิงสาว รอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่แฝงแววเย้ยหยันนั่น นัยน์ตาสีดำเย็นชาที่แสนลึกลับคู่นั้น เป็นยมทูตที่งดงามเสียจนไม่อาจต้านทาน เหมือนยาพิษร้ายที่หวานหอมยั่วยวนเสียจนอดไม่ได้ที่จะดื่ม ใครกันจะต่อกรกับเจ้าหล่อนได้..

นั่นยิ่งทำให้น่ากลุ้มใจหนักเมื่อหลานสาวเขาน่าจะถูกเธอเอาตัวไปแล้ว บ้าบอที่สุด..ทั้งที่ส่งการ์ดฝีมือดีไปคอยรับมือแล้วแท้ๆ

"โทรหาเจ้าชายซิ"

ซาร์คอฟสั่งด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า การ์ดอีกคนวิ่งมารายงานว่าพบร่างการ์ดของเอเดรียนานอนเป็นศพอยู่คนหนึ่งตรงร่องระเบียงอาคารจอดรถ โดนยิงด้วยปืนหลายนัดติดต่อกัน ทำให้เดาได้ว่าไม่ใช่ฝีมือของไนท์แมร์ เจ้าหล่อนไม่ค่อยใช้ปืนเป็นอาวุธสังหาร โดยมากมักเป็นมีดพกกรีดแทงที่คอมากกว่า -- เรียกได้ว่าเรื่องของไนท์แมร์ค่อนข้างกระฉ่อนทีเดียวในหมู่มาฟีออซี

ฌองปิแอร์ช่างตาถึงจริงๆที่รับเด็กคนนี้มา

ซาร์คอฟนึกอิจฉาอีกที ก่อนจะรับเครื่องสมอลทอล์คที่การ์ดต่อสายถึงเจ้าชายให้มาและกรอกเสียงลงไป

"เจ้าชาย"

["ดึกดื่นป่านนี้แล้วมีธุระอะไร"] เสียงเจ้าชายเอ่ยราบเรียบเจือไม่พอใจหน่อยๆเหมือนถูกปลุกมารับสาย

"เธอก็รู้ว่าเรื่องอะไร"

["ถ้าคุณพูดไม่รู้เรื่องก็วางหูซะ ผมจะนอน"]

"เธอไม่ได้ถ่างตารอไนท์แมร์เอาหลานสาวฉันไปให้หรอกหรือ"

["ไร้สาระ"] เสียงตอกกลับเฉยชาอย่างที่สุด แต่ซาร์คอฟกลับสัมผัสได้ถึงกระแสความร้ายกาจลึกๆ คล้ายกับฌองปิแอร์เสียนี่กระไร

"อะไรที่ว่าไร้สาระ"

["หึ... ทำไมผมต้องอดนอนด้วยล่ะ ในเมื่อพรุ่งนี้เช้าเอเดรียนาก็ไม่มีทางหนีไปไหน"]

คำกล่าวนั้นไม่ได้เกินจริงไปสักเท่าไหร่ เจ้าชายรอแค่เที่ยงคืนก็ไปนอนแล้ว เขาค่อยเจอหน้าเอเดรียนา เฟโดโรฟ ตอนพรุ่งนี้เช้าก็ได้ และจะได้เจอแบบที่อีกฝ่ายไม่สลบด้วย ซาร์คอฟกัดฟันกรอด

"เอาคืนมาเถอะ เอเดรียนาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย"

["ผมก็ไม่ได้อยากเอาหลานสาวคุณมาเลี้ยงหรอก เปลืองค่าน้ำค่าไฟ"]

"เธอทำแบบนี้กับคนบริสุทธิ์ได้ลงคอเชียวหรือ ไม่สมกับฉายาเจ้าชายเลยนะ"

เจ้าชายเงียบไปนิดหนึ่ง คำที่ทุกคนเรียกเขา เจ้าชาย สะท้อนอะไรหลายๆอย่างที่ผู้คนมองมา มาฟีออซีทั้งหลายมองว่าเขาเป็นทายาทมาเฟียที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือโสเภณี อันเป็นสองสิ่งที่มาเฟียผู้ร่ำรวยมักสนใจทำธุรกิจ และไม่นิยมการฆ่าล้างตระกูล -- ดูจะเป็นเรื่องแปลกหากใครพูดว่าเขาจะทำร้ายคนบริสุทธิ์

ชายหนุ่มเอ่ยอย่างสงบ

["เอาเงินส่วนของผมมา แล้วผมจะคืน"]

ซาร์คอฟหลับตาลงเพื่อข่มใจ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาบางก่อนวางสาย

"ไม่"

***

บ้านคูเสค 1:24 น.

ลูอิสหิ้วร่างบางของหญิงสาวผมทองพาดไหล่ลงจากรถ ขณะที่ไนท์ไปสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตูเล็ก บ้านเงียบสงบและไร้แสงไฟลอดมาจากหน้าต่างทำให้รู้ว่าเจ้าชายและไดเข้านอนแล้ว การ์ดที่เป็นคนของเจ้าชายสามคนขอตัวไปยังเรือนพักคนใช้ทันที ไนท์เดินนำลูอิสมาที่ประตูบ้าน

"ไนท์แมร์ โค้ดเนมเอสคอร์ท"

"ลูอิส โค้ดเนมเอสคอร์ท"

เครื่องส่งเสียงปี๊บอย่างที่คุ้นหู ประตูแง้มออกช้าๆ ไนท์เปิดไฟเป็นสิ่งแรก โค้มระย้าตรงกลางเพดานโถงเปล่งแสงสลัว ลูอิสวางเอเดรียนาลงที่โซฟาทันที

"ตัวเบาเป็นบ้า.. เหมือนเธอเลย ยัยเตี้ย" เขาพูดเบาๆและมองร่างแบบบางที่ทอดกายบนโซฟาหนัง เรือนผมสีทองเข้มสุกปลั่งราวกับเป็นทองคำจริงๆก็ไม่ปาน แพขนตาสีทองงอนยาวที่ถูกปัดด้วยมาสคาราขยับเล็กน้อยเหมือนเจ้าของกำลังอยู่ในความฝันที่ไม่ดีนัก ซึ่งก็ไม่แปลก ระหว่างเดินทางในรถเธอถูกไนท์กดจุดครั้งแล้วครั้งเล่า ลูอิสเคยโดนเข้าทีหนึ่งซึ่งมันทำเอาเขาเข็ดไปนานที่จะแกล้งใครด้วยวิธีนี้

"เอ้า จ้องเข้าไป.. คิดอะไรอยู่รึเปล่าน่ะ เดี๋ยวฟ้องฟาราห์เลย"

ไนท์เอ่ยแซวก่อนจะเดินไปห้องครัวเพื่อหาอะไรทานก่อนนอน ในตู้เย็นมีลูกพรุนเหลืออยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง นอกนั้นมาดามมิมส์คงเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้วตอนมาที่นี้ครั้งล่าสุด ไนท์ไหวไหล่น้อยๆ มีกินก็ยังดีกว่าไม่มีล่ะนะ

หญิงสาวสืบเท้าออกมาจากห้องครัว คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงในเสื้อคลุมนอนผ้าไหมสีดำ "อ้าว เจ้าชาย.. ขอโทษนะ เราทำให้ตื่นเหรอ" เจ้าชายส่ายหน้า

"ซาร์คอฟโทรมาปลุกฉัน"

เสียงเรียบเอ่ย มือใหญ่ช้อนใบหน้าที่นอนตะแคงของเอเดรียนาขึ้นมาดูชัดๆ ริมฝีปากอิ่มเต็มเคลือบด้วยลิปสติกสีโอลโรสเผยอน้อยๆ ผิวเนียนละเอียดสีขาวราวกับน้ำนม ทั้งอ่อนเยาว์และงดงามแม้ขณะหลับใหล

"เขารู้ตัวเร็วเนอะ" ไนท์พูดขณะเคี้ยวลูกพรุนไปด้วย ยื่นถุงแบ่งให้ลูอิส

"หึ.." เจ้าชายปล่อยเอเดรียนาด้วยท่าทีเฉยชา "ขนาดหลานสาวกับเงิน มันยังเลือกเงิน"

"จริงน่ะ!?" ไนท์พูดอย่างออกจะตกใจ มองเอเดรียนา ผู้หญิงน่ารักๆทำไมถึงมีลุงแบบนี้นะ "ไหนนายว่าเฟโดโรฟเป็นหลานสาวคนเดียวไง แล้วไหงเป็นเงี้ย"

"ก็ไม่รู้นี่" ลูอิสงึมงำ มองเจ้าชายและบุ้ยใบ้ไปทางเอเดรียนา "แล้วจะทำยังไง"

"แล้วแต่" เจ้าชายพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อยากได้ไหมล่ะ เอาไปสิ"

"เฮ้ๆๆ! อย่าดีกว่ามั้ง" ไนท์เอ่ยขัด ก่อนที่ชะตาของหลานสาวซาร์คอฟจะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกฮาเร็มของลูอิส "ถ้าเกิดซาร์คอฟเปลี่ยนใจเอาเงินมาให้ล่ะ เอาไปเป็นสาวๆแล้วเดี๋ยวก็คืนไม่ได้หรอก ห้องนอนปีกขวาที่นี่ก็ยังว่างอยู่เยอะแยะ มาดามมิมส์ไม่ได้มาด้วยซะหน่อยห้องก็ไม่มีใครนอนแต่จัดเตียงไว้แล้ว"

"ก็ได้" ลูอิสยักไหล่ "งั้นก็แบกขึ้นไปสิ -- นายแบกมั่งนะ ฉันยิ่งปวดหลังอยู่"

เจ้าชายหันขวับไปมองเมื่อโดนโบ้ยมาเสียอย่างนั้น อยากจะถามว่าใครกันแน่ที่เป็นเอสคอร์ท แต่ไอ้คนพูดมันก็ชิ่งออกไปจากบ้านแล้ว ลูอิสชอบนอนที่เรือนพักคนใช้มากกว่า เขาว่ามันเป็นห้องนอนรวมเลยเล่นไพ่ก๊งเหล้ากันได้จนดึกดื่น

ไนท์สั่นหัวดิก "เหอะ... อย่าบอกนะว่าจะใช้ฉัน"

เจ้าชายอยากจะกุมขมับ นี่เขาดูเป็นคนประเภทเอาเปรียบทั้งเพื่อน เด็ก สตรี และคนชราหรือไงเนี่ย

"ไปนอนเลยไป" เขาสั่ง ไนท์ยิ้มร่า

"อ่าจ้า~ งั้นขอเอาลูกพรุนไปกินด้วยนะ เหลือติดก้นถุงต้องรีบกินเดี๋ยวหมดอายุ" ข้ออ้างอมตะที่งัดเอามาใช้ได้ทุกที ร่างเล็กวิ่งขึ้นบันไดไป เจ้าชายส่ายหน้าน้อยๆก่อนเอ่ยตามหลัง

"ปิดไฟทางเดินด้วย"

***

เจ้าชายใช้หลังดันประตูห้องนอนปีกขวาที่ใกล้ที่สุดให้เปิดออก ก่อนจะวางร่างเอเดรียนาลงบนเตียงสี่เสากลางห้อง มือใหญ่เอื้อมขึ้นดึงผ้าม่านขาวบางรอบเตียงปิดให้เรียบร้อย ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นนัยน์ตากลมโตปรือขึ้นช้าๆ

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนใสกระจ่าง เหมือนนัยน์ตาของใครคนหนึ่งไม่มีผิด

"คุณ.." เสียงหวานเอ่ยอย่างง่วงงุน รู้สึกชาเหมือนเป็นตะคริวไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะที่ท้ายทอย ภาพพร่าเลือนรอบตัวค่อยๆแจ่มชัดขึ้นเมื่อกะพริบตาหลายๆครั้ง

รอบตัวมืดไปหมดทำให้รู้ว่ายังเป็นเวลากลางคืน แสงจันทร์สลัวจากหน้าต่างลอดผ่านผ้าบางๆเข้ามากระทบใบหน้า คงเป็นผ้าม่าน และนี่เธอก็อยู่บนเตียง กับ...ผู้ชาย!

ร่างสูงเลื่อนผ่านผ้าม่านเข้ามาชันเข่าบนเตียง แสงจันทร์สาดกระทบเรือนผมสีแพลทินัมบลอนด์ที่ปัดไปมาเหมือนไม่ได้หวีจัดทรง สีอ่อนมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นไวท์บลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคมกริบใต้เส้นผมที่ปรกหน้าจ้องมองเธอแน่วนิ่ง ทั้งเย็นชา และไร้ความรู้สึกอย่างที่สุด ใบหน้าคมคายหล่อเหลาขาวจัดพอๆกับเธอทั้งที่เป็นผู้ชาย

ที่นี่มันที่ไหนกัน!?

เจ้าชายไม่รอให้เอเดรียนาได้สติไปมากกว่านี้ เขาดึงตัวเธอขึ้นมาใกล้และคลำหาจุดกลางกระหม่อม เอเดรียนารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเพราะเธอเคยโดนไนท์กดจุดมาแล้ว ร่างแบบบางเกร็งวูบหนึ่งและหมดสติไปอีกครั้ง เจ้าชายมองดวงหน้าสวยน่ารักที่ซบลงกับเขา กลิ่นน้ำหอมจางๆจากหลังใบหูของหญิงสาวลอยมาเตะจมูก.. คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นกลิ่นของ Christian Dior ไม่ก็ Hypnos

หน้าตาไม่มีเค้าของซาร์คอฟเลย..

มือใหญ่จับร่างบางพลิกลงนอนคว่ำ กระชากสายไฟโคมที่พังแล้วมามัดเอเดรียนาไพล่หลัง มาดามมิมส์บอกให้ซ่อมหลายที ตอนนี้คงได้ฤกษ์ซื้อโคมไฟใหม่ อันที่จริงไม่มัดก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงรั้วของบ้านคูเสคก็เปิดไม่ได้อยู่แล้วในเมื่อต้องผ่านเครื่องตรวจลายนิ้วมือ กระนั้นก็ป้องกันไว้ก่อนเผื่อเจ้าหล่อนจะอาละวาดทำลายข้าวของโบราณในห้องนี้จนย่อยยับ

เจ้าชายลุกขึ้นขยับเสื้อคลุม นาฬิกาเรือนเล็กติดผนังบอกเวลาตีหนึ่งสี่สิบ เขากดปุ่มโทรศัพท์บนโต๊ะเครื่องแป้งไปยังเรือนพักคนใช้

"พรุ่งนี้ฉันจะตื่นสาย ห้ามรบกวน"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel