บทที่ 5 พี่เลี้ยงเด็ก
เคล้งๆๆๆๆๆๆๆๆ! เคล้งงงง....!!
เสียงโลหะกระทบกันดังลั่นในห้องฝึกอาวุธ ไนท์นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ผ้าใบ นัยน์ตามองดูบรรดามาฟีออซีรุ่นเยาว์(และไม่ค่อยเยาว์)ทั้งหลายที่มาฝึกทักษะกันในห้องนี้ ถัดไปเป็นลูอิส ได และเจ้าชาย ที่ยกโขยงกันมาดูเพื่อเลือกไปเป็นการ์ดแทนคนที่ตายไป อีกอย่างก็ถือเป็นการพักผ่อนด้วย
"แค่เนี้ย?"
เสียงหวานของไนท์เอ่ยถามแบบเซ็งๆ ครูฝึกทำหน้าไม่สู้ดีนัก เขาเหลือบมองเจ้าชายเป็นระยะ เจ้าชายสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงท่าทีใดๆ ไม่ได้โกรธหรือดีใจ นั่นทำให้ครูฝึกยิ่งเหงื่อตก
"ก็สมควรแล้วล่ะที่คนของเราโดนเก็บบ่อย" ลูอิสออกความเห็น ก่อนจะลุกขึ้นยืน "ทำไมมันห่วยอย่างงี้ฟะ! สอนประสาอะไรของแก!!"
เสียงตวาดทำให้ทุกคนในห้องเงียบและหยุดการกระทำ ไนท์ค่อยๆลุกขึ้นยืนและยืดเส้นยืดสายอย่างเบื่อหน่าย ห้องฝึกมีผนังสี่ด้านเป็นกระจกจึงทำให้ดูเหมือนห้องใหญ่กว่าความเป็นจริง เจ้าชายยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ลูอิสหยุด เสียงเรียบเอ่ยช้าๆ
"ดูเหมือนว่า มาตราฐานมาฟีออซีของเราจะตกต่ำไปนะ" ร่างสูงลุกขึ้นยืนบ้าง นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคมกริบกวาดมองทุกคน "ทักษะที่ฉันต้องการจากมาฟีออซี มีแค่สามอย่าง.."
!
พลันมีดสั้นคมปลาบก็พุ่งเข้าใส่ไนท์อย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันว่าเจ้าชายหยิบมีดขึ้นมาตอนไหน หญิงสาวที่กำลังบิดขี้เกียจเบี่ยงตัวหลบโดยสัญชาตญาณ
"ไว"
ยังไม่ทันที่ไนท์จะได้ตั้งตัว มีดสั้นอีกเล่มในมือเจ้าชายก็ฟาดลงมาตรงหน้าจนต้องถอยวูบ ร่างสูงตวัดมีดเป็นครึ่งวงกลมหมายจะฟันที่ลำคอจนคนตัวเล็กกว่าต้องชักมีดเล็กของตัวเองเข้าปะทะจนมีดของเจ้าชายกระเด็นไป กลุ่มเด็กๆที่มองดูอยู่พากันหลบแตกฮือเป็นวงกว้าง
"แรง"
เจ้าชายชักปืนพกออกมาจ่อที่หน้าผากของไนท์ขณะที่เธอก็จ่อมีดที่ลำคอของเขาด้วยความเร็วแทบจะพร้อมกัน
"..และรู้จักเอาตัวรอด"
เสียงเรียบเอ่ย ไนท์มองเขา นัยน์ตาคู่สวยมีแววรู้ทันว่าเขาจะให้เธอสาธิตอะไร
ร่างเพรียวบางก้าวเข้าไปหาเจ้าชายทั้งที่มือของทั้งสองยังอยู่ที่เดิมจนใบหน้าอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ยกปืนออกเท่านั้น มืออีกข้างของเจ้าหล่อนที่ไม่ได้ถือมีดไล้แผ่นอกแกร่งผ่านเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท เรื่อยขึ้นมาที่คอและหยุดบนใบหน้าคมคายหล่อเหลา
"ทำไมล่ะ" เสียงแผ่วพร่า เร่าร้อนและดิบเถื่อนอย่างเหลือเชื่อ "มีอะไรน่าสนุกกว่านี้ทำตั้งเยอะ"
เสี้ยววินาทีที่เจ้าชายมัวตะลึงกับพฤติกรรมเกินคาดสาวน้อยตรงหน้า เจ้าหล่อนก็ตวัดมีดฉับจนเขาถอยหลบแทบไม่ทัน เสียงปรบมือดังขึ้นประปรายด้วยความชื่นชม
ไดดันแว่น ไม่ค่อยแน่ใจว่าไอ้ทักษะสุดท้ายมันเกินเรตเยาวชนรึเปล่า เจ้าชายขยับปกเสื้อเชิ้ตสีดำก่อนจะเหยียดยิ้ม"อ้อ ฉันลืมไป แต่ก็คงรู้กันอยู่แล้ว ต้องทำตามสั่งฉันทุกอย่างด้วย" เจ้าชายหันมองครูฝึกด้วยแววตาเฉยชา "ถ้ามาคราวหน้ายังเป็นแบบนี้..." ครูฝึกโค้งต่ำทั้งที่ตัวสั่นงันงก
ฉึบบ!!
เสียงอุทานหลายเสียงด้วยความตกใจเมื่อมีดสั้นวิ่งผ่านชายแขนเสื้อของครูฝึกไปจนขาดเป็นรอย มันไม่ได้มาจากเจ้าชายอย่างที่หลายคนคาด แต่กลับมาจากมือเล็กของหญิงสาว ไนท์มองแล้วถอนใจ
"ขู่ไปก็ไร้ความหมายน่า ตัวครูฝึกทำได้ซะที่ไหนล่ะ" เจ้าหล่อนว่า "เด็กที่มีแววในนี้ฉันว่ามีตั้งเยอะ"
"ทุกอย่างมันแย่เพราะริวไปสินะ"
ลูอิสเอ่ยเบาๆ ทุกคนเงียบลงทันที ริว มาฟีออโซ่ที่เป็นครูฝึกที่เก่งที่สุดของฐานปาแลร์โม หายตัวไปจากวงการมาเฟียตั้งแต่ประมาณห้าปีก่อนแล้ว นอกจากคนวงในก็ไม่มีใครรู้สาเหตุชัดเจน ได้แต่เดาไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าเขาไปทำธุรกิจใต้ดิน บ้างก็ว่าเขาทรยศ ตั้งแต่นั้นมาฟีออซีฝึกหัดก็ดูจะไม่เก่งกาจเท่าแต่ก่อน
ไนท์เม้มปากแน่น
"เอางี้! ฉันจะสอนเอง ไหนๆนายสองคนก็ไม่ให้ยุ่งเรื่องเงินกับบริหารคาสิโนอยู่แล้ว" ถ้อยคำข้างท้ายเหมือนจะแอบงอนนิดๆ "แต่ฉันจะคัดนักเรียนเองโอเคไหม นายต้องมาช่วยเลยได!"
"ผมเหรอครับ!?" ไดเงยหน้ายืดตัวขึ้นจากเก้าอี้ "ผมไม่ได้เก่งเรื่องบู๊นะ"
"ฉันหมายถึงนายต้องคุมเด็กให้นอนตอนกลางคืนต่างหากเล่า -- ยังไงนายก็ต้องทำงานจนดึกทุกวันไม่ใช่เหรอ"
"อ่อ ครับ" ชะตาพี่เลี้ยงเด็กไม่พ้นเขาแล้วเป็นแน่แท้ แม่คุณหาเรื่องเหนื่อยได้ไม่เว้นแต่ละวัน
ไนท์ยิ้มอย่างพึงพอใจ "ดี! เอาล่ะ ฉันจะคัดนักเรียนละนะ ทุกคนสู้กันใหม่ให้เต็มที่ซิ!!"
***
ฐานปาแลร์โม คฤหาสน์คอสเตลลาโน
คฤหาสน์หลังงามของเจ้าชายมีเสียงเอะอะอึกทึกครึกโครมอย่างมากมาย ตั้งแต่มีเด็กสี่คนเข้ามาร่วมอยู่ชายคาเดียวกัน บวกครูผู้ใหญ่ที่ชอบทำนิสัยเด็กเข้าไปอีกหนึ่ง
"1 2 3 4..."
ไดชะโงกหน้าออกมาจากห้องคอม เด็กอายุราวเจ็ดแปดขวบชายสองหญิงสองต้องโดนมาฟีออโซ่สาวใจโฉดทำทารุณกรรมทุกวันในระยะเกือบอาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมา ไม่รู้เรียกว่าโชคดีหรือร้ายกันแน่ ไดดันแว่นขณะลุกขึ้นไปที่กระจกเพื่อมองหาที่มาของเสียง ฟังเหมือนจะมาจากสระว่ายน้ำ..
"13 14 15 16..."
แว้กกกกกก..!!!
เสียงกู่ร้องลั่นดังขึ้นในใจ ไดแทบตาถลน ภาพที่เห็นคือไนท์ในชุดว่ายน้ำสีฟ้าที่ทำเป็นลายเหมือนคลื่นดูน่ารัก แต่มือกลับกำลังจับเด็กกดน้ำอยู่กลางสระอย่างอำมหิต! นั่นแม่คุณสติแตกไปแล้วรึไง!! ชายหนุ่มรีบเซฟข้อมูลอันสำคัญยิ่งชีพแล้ววิ่งจี๋ออกมาจากห้องคอมทันที
"หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะครับ!!"
ไดวิ่งไปตะโกนไป อ้อมมาจนถึงสระว่ายน้ำ เจ้าหล่อนยังจับเด็กนั่นกดน้ำอยู่เลย บ้าเอ๊ย! ยังมีหน้ามาส่งยิ้มหวานให้เขาอีก เสียงเด็กที่เหลืออีกสามคนนับเลขต่อไปจะถึงหลักสามสิบอยู่แล้ว
"ทำบ้าอะไรอยู่ไนท์!! ปล่อยเขานะครับ.."
"ถ่างตาดูซะได แล้วนายจะรู้ว่าเด็กพวกนี้โชคดีแค่ไหนที่มีครูอย่างฉัน!!"
ครูโรคจิตน่ะสิ.. ไดตอบตัวเองได้เลยในใจ มือของเจ้าหล่อนจับเด็กชายผมแดงที่เขาจำได้ว่าชื่อราฟาเอลกดให้จมลึกลงในสระ ราฟาเอลดิ้นรนและพยายามหลุดจากกรงเล็บยมทูต ไนท์ปัดป้องมือน้อยที่ต่อสู้กับเธอ
ตูม.............!
ไดตัดสินใจกระโดดลงน้ำ และเมื่อเขาว่ายเข้าไปประชิดหญิงสาว
ผัวะ!!
จากที่ได้ต่อสู้อย่างไร้ผลมานาน เด็กชายก็เริ่มได้เรียนรู้ เขาง้างหมัดซัดไนท์แต่เธอก็กันไว้ได้ทัน เสี้ยววินาทีที่มือทั้งสองของไนท์ไม่ว่าง มืออีกข้างของราฟาเอลก็จับข้อมือที่กดเขาแล้วบิดเต็มแรง พลิกให้ร่างเพรียวต้องหันหลังไปได้และตัวเขาโผล่ขึ้นจากน้ำมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ
"แฮ่ก... แฮ่ก... ผม..ชนะ..." ราฟาเอลหอบหายใจ สูดออกซิเจนเข้าไปเต็มปอดทั้งที่มือยังล็อคไนท์อยู่ หญิงสาวประจันหน้ากับไดที่เปียกไปหมดทั้งเสื้อผ้า
"หวัดดีได" ไนท์ยิ้มขำ หัวเราะออกมาเต็มที่เมื่อเห็นชายหนุ่มใบหน้าแดงก่ำและจัดแว่นที่เอียงเบี้ยวเพราะแรงกระแทกกับน้ำ ราฟาเอลปล่อยเธอ "เห็นรึยัง ฝีมือลูกศิษย์ฉัน อะ..ฮะๆๆ แฮ่ม... ขอโทษที"
"ไนท์ละก็..! ยังมีหน้าจะหัวเราะอีก ทีหลังอย่าฝึกอะไรโหดเหี้ยมแบบนี้สิครับ"
"โอ๊ย แค่นี้ยังชิลๆ สมัยฉัน ลูอิส ริว กับเจ้าชายเป็นเด็กยิ่งกว่านี้อีก" เสียงหวานแผ่วค่อยลงไปเมื่อเอ่ยชื่อริว ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้ราฟาเอล "ทำดีแล้วล่ะ เยี่ยมๆ"
"...จะฝึกต่อรึเปล่าฮะ"
"แหม พูดอย่างกับฝึกต่อไหวนะราฟ ไปพักไป๊ ทุกคนนั่นแหละ.. วันนี้ทำได้ดีมาก!"
***
เสียงหัวเราะชอบใจดังมาจากเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งบนพรมหนานุ่ม บนโต๊ะเล็กตรงหน้าเธอคือไพ่ที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างลื่นไหลราวกับควบคุมด้วยเวทมนตร์ โดยพ่อมดหนุ่มที่ยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าเธอชอบ ลูอิส คาโปเน่
"คุณทำได้ยังไงคะ" แคลร์ร้อง ดวงตาสีม่วงอเมทิสต์สดใสเป็นประกาย "สอนแคลร์หน่อยสิคะ ลูอิส นะคะ.." ลูอิสรวบไพ่และยิ้ม
"มือแคลร์ยังเล็กเกินไป จับไพ่ไม่หมดหรอก รอให้แคลร์โตกว่านี้หน่อย แล้วลูอิสจะสอน โอเคไหมครับ"
"จริงๆนะคะ สัญญานะ"
"ครับ สัญญา" ชายหนุ่มโน้มตัวไปจูบหน้าผากแคลร์
เจ้าชายมองดูภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ เขาเอนตัวพิงโซฟาในท่าที่สบายขึ้น บรรยากาศในห้องนั่งเล่นมีชีวิตชีวากว่าทุกที เสียอย่างเดียว เหล้าถูกไนท์และมาดามมิมส์เก็บไปหมด ยิ่งลูอิสยิ่งแทบคลั่งเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้สูบบุหรี่ โชคดีที่เจ้าชายเพลาๆมาช่วงหนึ่งแล้ว ไนท์อ้างว่าพวกเด็กๆจะเห็นตัวอย่างที่ผิดๆ เขาขยับมุมปาก เดี๋ยวโตขึ้นก็เจอเองอยู่ดีนั่นแหละ
นัยน์ตาสีฟ้าเข้มตวัดมองร่างเล็กที่ขดอยู่บนโซฟาเล็กตัวข้างๆ ไอรีน เด็กหญิงตัวเล็กยิ่งกว่าแคลร์นอนอยู่ราวกับลูกแมว เรือนผมสีน้ำตาลเข้มประบ่าเป็นเงากับแสงไฟไหวน้อยๆเพราะเป็นจุดที่แอร์ตกใส่ เจ้าชายเอื้อมมือดึงผ้าขนสัตว์รองโซฟามาห่มให้อย่างระมัดระวัง ทุกคนในบ้านนี้กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยปริยาย แต่จะว่าไป ใครหลายคนก็มักพูดเตือนอยู่บ่อยๆว่าการมีเด็กๆในบ้านเป็นเรื่องวุ่นวาย โดยเฉพาะเด็กของมาฟีออซี พวกเขาคงพูดถูก
"นายทำอะไรน่ะลูอิส!"
ไนท์พูดทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมเด็กชายอีกสองคน ราฟาเอลผมแดงเพลิง และวิลเลียมผมน้ำตาลทอง เจ้าหล่อนจ้องลูอิสอย่างเอาเรื่อง ลูอิสยิ้มแห้งๆ
"ก็ไม่ได้พนันซะหน่อย"
"แต่มันก็คือไพ่" ไนท์พูดเสียงดุ
"ฉันไม่ได้สอนสิ่งเลวร้ายอะไรหรอกน่า"
"ใช่ค่ะ ลูอิสเล่นกลให้แคลร์ดู มันเยี่ยมมากเลย" เสียงแหลมเล็กของแคลร์สนับสนุน เออ เข้าข้างกันเข้าไป ไนท์คิดขณะปรับอารมณ์ให้เข้าที่อย่างเงียบๆ วิลเลียมกับราฟาเอลเริ่มมารบเร้าหญิงสาวให้เปิดเกมให้เล่น
"วันนี้ขอนอนดึกนะฮะ" วิลเลียมเอ่ย สายตาจ้องจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ไม่กะพริบ "ผมเห็นในห้องคอมมีแผ่นเกมด้วย"
"ตามใจอยากเล่นอะไรก็เล่น -- สายต่อยังอยู่รึเปล่านะ" ไนท์ถามลูอิส เขาพยักหน้า
"เดี๋ยวไปเอามาให้.. ฉันจะขอตัวไปทำงานหน่อยนะ มีคนส่งข้อความมา คนในคาสิโนหาเรื่องกันอีกแล้ว" ลูอิสบอกไนท์เบาๆ
"อื้ม" หญิงสาวพยักหน้า ก้มลงมองวิลเลียมและราฟาเอล "ว่าแต่..แผ่นเกมห้องคอมอะไรหรือ"
"ของไดไงฮะไนท์" ราฟาเอลตอบก่อนจะวิ่งไปเอาแผ่น ไนท์นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเกาหัวตัวเอง นี่เจ้าทะโมนพวกนี้มาอยู่แค่ไม่ถึงเดือนรู้ที่ซ่อนเกมของไดแล้วเหรอเนี่ย แม้แต่เจ้าชายก็ยังไม่รู้เลยนะ
หญิงสาวนั่งตรงโต๊ะและปล่อยให้แคลร์เล่นผม ถักเปียตะขาบ เชื่อได้ว่าโตขึ้นแคลร์ต้องเป็นสาวสวยช่างแต่งตัวที่หนุ่มๆรุมจีบแน่นอน ไม่นานราฟาเอลกับวิลเลียมก็นั่งเล่นเกมสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
มือน้อยเอื้อมมาสะกิดชายข้อมือเสื้อเบาๆ เจ้าชายหันไปมอง ไอรีนที่กำลังตาปรืองัวเงียมาจับมือเขาก่อนจะปล่อยทันทีเมื่อเห็นชัดๆว่าไม่ใช่คนที่คาด นัยน์ตาสีน้ำตาลใสมีแววหวาดเกรง
"ลูอิส" เสียงเล็กแผ่วเบาราวกับกระซิบ
"ลูอิสไม่อยู่"
"ไนท์" ไอรีนเอ่ยอีกที
"ทำไม" เจ้าชายพูดอย่างนุ่มนวล "มีอะไรก็บอกมาสิ"
ไอรีนเงียบ ทำท่าจะลงจากโซฟาไปหาไนท์ เจ้าชายดึงผ้าขนสัตว์ไปคลุมโซฟาไว้อย่างเดิมและยื่นมือให้เธอจับ มือเล็กจับมือเขาอย่างไม่แน่ใจนัก
"หนาว?"
เจ้าชายเอ่ยเมื่อรู้สึกว่ามือเล็กเย็นเฉียบ เขาจับมือไอรีนขึ้นมาทั้งสองข้างก่อนจะเป่าเบาๆจนมันอุ่นขึ้น ไอรีนนิ่งไป ก่อนจะยิ้มให้เขานิดหนึ่งอย่างน่ารัก เป็นรอยยิ้มหายากที่นานๆจะได้เห็นสักที มันทำให้เจ้าชายยิ้มตอบอย่างเอ็นดูโดยอัตโนมัติ
"เมื่อกี้มีอะไรจะพูด" เขาถาม เด็กหญิงไม่ตอบแต่ขึ้นไปนั่งข้างเขา ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตมีแววแปลกใจนิดหน่อยเมื่อเจ้าชายยอมขยับที่ให้เธอนั่งสบายๆและนอนพิงเขาเหมือนที่ทำกับลูอิสอยู่เสมอ
"ขอบคุณค่ะ" เสียงเบาพูดก่อนจะปิดเปลือกตาลง เจ้าชายขยับรอยยิ้มบาง
อืม.. ใครกันนะที่บอกว่าการมีเด็กอยู่ในบ้านเป็นเรื่องวุ่นวาย
***
สองสัปดาห์ผ่านไปไวเหมือนโกหก คนของฌองปิแอร์ส่งเงินเข้าบัญชีตรงตามเวลาเป๊ะเชะ ลูอิสก็จัดการเปิดเส้นทางค้าปืนให้ทันเวลาอย่างหวุดหวิด เจ้าชายเดินทางไปยังธนาคารในวันรุ่งขึ้น เขาต้องจัดการโอนเงินเข้าสหรัฐฯให้ได้
"ลูอิส" เจ้าชายเอ่ยขณะก้าวเข้าสู่ห้องโถงธนาคาร เงาของตัวเขาและลูอิสสะท้อนบนพื้นหินอ่อนสีกุหลาบเงาวับข้างๆกัน
"อะไร"
"รู้สึกไหมว่ามีคนจับตามองเรา"
"เหอะๆ..." ลูอิสหัวเราะในลำคอแต่ยังทำหน้าตาย "นึกว่าจะไม่ถามซะแล้วนะเนี่ย"
ลูอิสหยิบมือถือออกมาสไลด์โทร เสียงเรียกดังไปถึงปลายสายที่ห้างสรรพสินค้าริมถนนใหญ่ใกล้กับธนาคารที่เขาอยู่
~~ฉันน่ารักล่ะซี่ เลยโทรเข้ามา~~
หญิงสาวที่กำลังดูดสตรอว์เบอร์รี่มิลค์เชคชะงัก หยิบมือถือออกมา ชื่อ 'Escort L' กะพริบวาบๆ สงสัยจะมีปัญหา ไนท์มองรอบตัวให้แน่ใจว่าผู้คนที่จับจ่ายซื้อของไม่มีใครอยู่ในรัศมีที่ใกล้เกินไปแล้วจึงกดรับสาย
"ฮาหลิว~ วันนี้ฉันว่าฉันประกาศไปแล้วนะว่าไม่รับงาน"
["ไนท์ เรามีปัญหา"]
เสียงเคร่งเครียดไม่เล่นตามที่เธอพูด ไนท์นั่งตัวตรง
"หือ ทำไม มีอะไรลูอิส"
["ตำรวจมาเฝ้าเต็มแบงค์ มันเดาออกว่าต้องมีใครสักคนโอนเงิน"]
"แล้วไงอะ ก็เปลี่ยนแบงค์ดิ" คิดง่ายพูดง่ายตามใจนึกทุกอย่าง ลูอิสถอนหายใจพรืด
["ตำรวจคงไม่โง่ขนาดนั้นละมั้ง เธอมาเอาเงินเดี๋ยวนี้แล้วแยกกันโอน"]
ไนท์กลอกตาทำเสียงจิ๊จ๊ะ "เซ็งเลย.. ที่ไหนล่ะ"
["เดี๋ยวฉันจะออกไปหาเธอที่หน้าห้าง -- ตรงประตูใหญ่ เธอกับเด็กๆอยู่ตรงไหน"]
"ปราสาทเด้งดึ๋ง" ไนท์ตอบตามความจริง มองแคลร์ที่กำลังกระโดดขึ้นๆลงๆไล่จับวิลเลียมบนปราสาทเป่าลมเด็กเล่นที่มีคนมากมายอย่างสนุกสนาน
["เออ ดี ออกมาหน้าห้างเลย"]
"ขี้เกียจอ่ะ นายมาหาฉันดีกว่า เมื่อวานฉันนอนดึกด้วย เหนื่อยนะรู้ไหม ออกมาเที่ยวก็ยังมาทำลายเวลาดีๆซะได้ นายน่ะไม่เห็นเคยทำอะไรเลย มีอะไรฉุกละหุกก็ฉันๆๆๆๆๆๆ" ว่าแล้วก็บ่นเสียยืดยาว ถ้าให้เดาลูอิสคงต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูเพื่อหนีเสียงแว้ดๆของเจ้าหล่อนแน่นอน
["โฮ่ย บ่นอะไรนักหนายัยเตี้ย! นี่เป็นคำสั่งเจ้าชายนะ"]
ไนท์เบรกการโวยอย่างฉับพลัน ราวกับถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์เดียวเท่านั้นที่จะสั่งเธอได้ มือเล็กควานหาอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมและขว้างแก้วมิลค์เชคลงถังขยะ
"เออ.. นั่งรอเฉยๆสบายเหลือเกินนะ คอยดูเย็นนี้นายต้องเป็นเป้าให้เด็กๆซ้อม!" ไนท์แยกเขี้ยว
["เอ๊า มันเกี่ยวกันตรงไหน"] ลูอิสว่า แต่น้ำเสียงร่าเริงขึ้นเมื่อรู้ว่าเจ้าหล่อนยอมช่วยแล้ว
"เด็กๆ!" ไนท์ร้องเรียก วิลเลียม ราฟาเอล แคลร์ และไอรีนโผล่หน้าจากปราสาทเด้งดึ๋ง "เล่นอยู่ที่นี่กันไปก่อนนะ หิวก็ซื้อของกินในคาเฟ่ทีเรีย เดี๋ยวไนท์จะกลับมารับ"
"ไปไหนเหรอคะ แคลร์ไปด้วย" ทั้งสี่หน่อทำหน้าตาสงสัยใคร่รู้เต็มที่
"ไม่ได้ๆ อยู่ที่นี่แหละ อาจจะนานหน่อย อย่าไปไหนนะ" ไนท์สั่งเรียบร้อยก็วิ่งหายไปทันที แคลร์หันมา ยิ้มให้เพื่อนอีกสามคนพร้อมกับล้วงเข้าไปในกระเป๋า
"ไปกินทาโกะยากิกันเถอะ"
***
ไนท์วิ่งออกมาถึงหน้าห้างตรงถนนใหญ่ นัยน์ตามองรอบตัว ไม่มีตำรวจแต่มียามอยู่คนหนึ่ง เธอดึงเอามือถือในเสื้อกันหนาวออกมากดโทร ลืมรายงานฐานไปได้ยังไงเนี่ย
["ว่าไงครับ"]
"ได! ลูอิสจะให้ฉันเอาเงินส่วนหนึ่งไปแบ่งกันโอน"
["ผมได้ยินแล้วครับ"]
"แล้วจะให้ฉันไปธนาคารไหน หรือจะผ่านตู้ATM?"
["อย่าเสี่ยงใช้บัตรเลยครับ เดี๋ยวสืบแล้วมันจะสาวมาถึงได้ ผมว่าไปพวกธนาคารสวิสดีไหมครับ พวกนั้นให้เปิดบัญชีส่วนตัวไม่แสดงชื่อผู้ฝากได้"] ไดว่า
["ใช่ๆ ฉันเห็นด้วย”] ลูอิสรีบพูดแทรกเข้ามา นี่ไดกำลังชุมสายอยู่แน่เลย [“รู้สึกแถวๆปาร์คมีอยู่แบงค์หนึ่งนะ -- รึเปล่าหว่า"] น้ำเสียงเขาไม่ค่อยแน่ใจ ไนท์พยักหน้าหงึกๆ เธอจำได้ว่าเคยเห็นธนาคารหลายแห่งเลยจากเขตเมืองไปไม่เท่าไร
"ก็ฟังดูดีนี่ ฉันพอจะจำได้นะ นั่งรถไปปาร์คก็ไม่กี่ป้ายเอง -- นายน่ะรีบมาเลยลูอิส ฉันว่าฉันคุยกับไดอยู่นะ"
["คร้าบ~~ กระผมยุ่งเอง"]
["ก็ดีครับ ผมจะเตรียมดูทางให้"]
สั่งตบท้ายไดก็ขาดการติดต่อไป ส่วนไนท์ได้แต่ยืนเฝ้ารอลูอิสอย่างอดทน แม้จะรู้ว่าการเอาเงินมาให้ถึงนี่คงไม่ใช่เรื่องที่สะดวกรวดเร็วนัก แต่ฝ่ามือเริ่มชื้นหน่อยๆเพราะอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านซะแล้ว มันเกิดขึ้นทุกทีที่ทำงานโดยมีเรื่องผิดแผน กระนั้นไนท์ก็ยังรักษาท่าทางสงบไว้ได้อย่างแนบเนียนสมเป็นมืออาชีพ (เหรอ?)
แต่สิ่งที่มาฟีออโซ่มืออาชีพไม่รู้ตัวอยู่ในตอนนี้ก็คือ มีนัยน์ตาสีเขียวรียาวคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธอ.. มองไม่แบบไม่วางตา
"เอสิบห้า" สเตฟรายงานกับนาฬิกาข้อมือเบาๆ "เจอผู้ต้องสงสัย"
ผู้ต้องสงสัยอย่างแน่นอน เพราะเขาจำหน้าเจ้าหล่อนได้แม่นเลยทีเดียว คิดแล้วแอบเจ็บใจนิดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะโหนตัวข้ามแม่น้ำตามเจ้าหล่อนก็คงไม่ต้องตกน้ำถึงขนาดจับไข้ นี่แหละนะ..ผลของการไล่ตามสาวๆ
อีกครู่ต่อมา หญิงสาวที่ถูกจับตามองก็เดินเลี้ยวออกไปพ้นหน้าห้าง สเตฟรีบตามไป ถ้าเขาปล่อยให้หลุดมือไปอีกทีคงเสียชื่อแย่ เจ้าหล่อนเดินสวนกับผู้ชายคนหนึ่งในชุดดำ แวบนั้นเองที่สเตฟเห็นว่ากระเป๋าแบบเจมส์ บอนด์ สีเทาเงินถูกเปลี่ยนมือ ผู้ชายคนนั้นเดินข้ามถนนไปอีกทาง แว่นกันแดดที่สวมอยู่ปิดบังใบหน้าที่แท้จริง แต่หญิงสาวยังคงเดินตรงไป
มาอีหรอบนี้ก็ใช่แน่ๆแล้ว
สเตฟตัดสินใจเดินตามหญิงสาวแล้วเจ้าหล่อนก็เลี้ยวมุมถนน เข้าไปปะปนกับกลุ่มนักท่องเที่ยว สเตฟพยายามวิ่งตาม แต่เมื่อแหวกทางผู้คนออกมา เจ้าหล่อนก็หายตัวไป
"บ้าเอ๊ย"
สเตฟสบถพึมพำ หญิงชราที่นั่งรอรถประจำทางมองด้วยสายตาตำหนิเหยียดหยามสุดๆจนเขาต้องก้มหัวเป็นเชิงขอโทษขอโพย รถประจำทางสายน้ำเงินปิดประตูพร้อมเสียงปล่อยลมดังฟู่ และวิ่งออกจากไปอย่างช้าๆ สเตฟเงยหน้ามองก่อนจะสังเกตเห็นหญิงสาวที่เขาติดตามกำลังส่งเงินให้คนขับรถตรงเครื่องออกตั๋ว ขาสองข้างของเขาจึงพลันออกวิ่งตามไปรถทันทีอย่างรู้หน้าที่
"หยุด! รอด้วยๆๆๆ" สเตฟตะโกนเรียก เกิดมาเป็นตำรวจสากล ไม่มีคำว่าอาย!
สายตาประชาชีเริ่มหันมามองดูเขา หญิงชราที่นั่งตรงป้ายรถส่ายหน้า คนหนุ่มๆใจร้อนก็เงี้ย รอคันต่อไปอีกห้านาทีก็ไม่ได้
เสียงโหวกเหวกดังเข้ามาในตัวรถประจำทาง คนในรถเริ่มหันหลังไปมองรวมทั้งไนท์ ดูเหมือนจะเป็นคนบ้าที่ไหนไม่รู้วิ่งตามรถเหมือนเป็นสิ่งสุดยอดในชีวิต เกิดมาไม่เคยขึ้นรถเมล์ ไนท์หันมองคนขับ เขาผิวปากเป็นเพลงสบายๆ เหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะๆและฮัมเพลงเป็นสโลแกนภาษาอิตาเลียน
"ไม่รับ ไม่รับ ไม่รับ เราไม่รับคนนอกป้าย ไม่รับ ไม่รับ ไม่รับ แค่รออีกห้านาที~ ตะลิ้งตะลิงติงแหน่ว~ ตะแหน่วตะลิงติงติง~"
ว่าแล้วก็เร่งเครื่องอีกหน่อยให้คนวิ่งตามไม่ทันเล่นอย่างอารมณ์ดี
ไนท์ทิ้งตัวพิงพนักและสูดหายใจเข้าออกยาวๆเพื่อตั้งสมาธิ มือข้างที่ไม่ได้ถือกระเป๋าใส่เงินรีบปัดชุดแสคสีเทาควันไฟและเสื้อกันหนาวสีดำของตัวเอง จัดเผ้าผมให้เรียบร้อยดูเป็นคนของนักธุรกิจที่จะมาฝากเงินข้ามชาติ -- อาจจะไม่เหมือนเท่าไรก็ช่วยไม่ได้แฮะ
รถเมล์จอดที่ป้ายถัดมา สเตฟวิ่งมาขึ้นทันจนได้ทั้งที่หอบแฮ่กและแทบจะขาลากอยู่แล้ว ส่งเงินให้คนขับรถไปก็แอบมองหญิงสาวไป เขาไปนั่งเก้าอี้แถวๆหลังรถเพื่อจะได้จับตามองเจ้าหล่อนได้ตลอด
สเตฟขยับเนคไทเล็กน้อย รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ เหมือนจะผสมกันระหว่างเหนื่อยและกลัว เขาควรจะเรียกกำลังเสริมไหม ถ้าเกิดเจ้าหล่อนไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าแพททริก เวย์น และเขากำลังไล่ตามผู้หญิงธรรมดาๆก็เสียหน้า แต่การส่งต่อกระเป๋านั่นเขามั่นใจว่าเหมือนวิธีการส่งต่อของพวกมาเฟียไม่มีผิด
หรือว่าทั้งสองเรื่องจะเกี่ยวข้องกันจริงๆอย่างที่มีตำรวจตั้งข้อสันนิษฐาน?
ไม่ทันได้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านั้นเจ้าหล่อนก็ลงจากรถ สเตฟรีบลงตาม เจ้าหล่อนก้าวฉับๆมุ่งไปที่ธนาคารสาขาเครือสวิสทันที แสดงว่าในกระเป๋าเจมส์ บอนด์ ต้องมีเงินอยู่แน่ๆ! สเตฟค่อยยิ้มออก เขาวางกำลังไว้ทุกธนาคารอยู่แล้วเพราะมีสายข่าวรายงานว่าจะมีการโอนเงินผิดกฎหมายเข้าสหรัฐฯในสัปดาห์นี้
แต่ที่ทำให้รอยยิ้มจางไปก็คือ นั่นแสดงว่าตอนนี้เขาและตำรวจทุกคนในธนาคารกำลังเผชิญหน้ากับมาฟีออโซ่ตัวจริงเสียงจริง
ไนท์เดินเข้าไปธนาคารด้วยท่าทางมั่นใจ ดวงหน้าสวยเชิดสูงและเรียบเฉยอย่างที่การ์ดของนักธุรกิจมักจะทำ ห้องโถงเล็กๆที่สะอาดและหรูหรามีคนนั่งอยู่เยอะ สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เธอ ไนท์ยังคงวางสีหน้านิ่งตีขรึม บางทีพวกนี้อาจเป็นตำรวจก็ได้
"ยินดีต้อนรับครับ" พนักงานต้อนรับกล่าวด้วยคำเดียวกันเป็นภาษาอิตาเลียน ฝรั่งเศส และอังกฤษ เพื่อให้ลูกค้าเลือกตอบได้ตามต้องการ สมเป็นบริการชั้นเลิศอย่างสวิส ไนท์ยิ้มและกล่าวตอบด้วยภาษาอิตาเลียน
"ดิฉันขอพบผู้จัดการ" บอกไปก็แอบตื่นเต้น การฝากเงินไม่แสดงชื่อเจ้าของบัญชีถ้าเป็นจำนวนมากๆต้องมีลายเซ็นของผู้จัดการ แต่พนักงานกลับยิ้มราวกับเรื่องธรรมดาสามัญเช่นนี้เกิดขึ้นทุกวัน ทำให้ไนท์สบายใจขึ้นบ้าง
"เรื่องธุรกรรมทางการเงิน หรือเรื่องส่วนตัวครับ" พนักงานถามด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม มือหยิบปาล์มออกมาเพื่อจะรายงานการขอพบ
"เรื่องเงิน"
"เชิญทางนี้ครับคุณผู้หญิง" เขาผายมือไปทางบันได พนักงานอีกคนที่ริมบันไดกล่าวทักทายเธอและเดินนำไปยังห้องผู้จัดการสาขา
ด้านล่าง สเตฟเข้ามาในห้องโถง ตำรวจสากลนอกเครื่องแบบเช่นเดียวกับเขาลุกขึ้น พนักงานของธนาคารเข้ามาทักทายเป็นสามภาษา สเตฟโชว์บัตรตำรวจสากลให้พนักงานดู ตุลที่นั่งอยู่ยกมือทักทายเขา
"ตำรวจสากล" สเตฟพูด ตำรวจคนอื่นๆโชว์บัตรประจำตัวเช่นกัน พนักงานธนาคารค้อมศีรษะเล็กน้อย
"มีธุระอะไรที่นี่ครับ"
"ผู้หญิงคนเมื่อกี้ไปไหน -- ผู้หญิงผมดำที่คุยกับคุณน่ะ"
"เสียใจครับ คุณผู้ชาย เราไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าของเรา" พนักงานเอ่ยอย่างสุภาพ
"แต่เธอเป็นผู้ต้องสงสัย" คราวนี้เป็นตุลที่พูดขึ้น เขามองสเตฟด้วยสายตาประมาณว่า ไปวิ่งการกุศลที่ไหนมาเนี่ยดูไม่จืดเลย
"เสียใจจริงๆครับ แต่มันเป็นกฎที่สำคัญที่สุดของธนาคาร เว้นเสียแต่ว่าทางตำรวจสากลจะมีหมายประทับตรามา เราก็จะพิจารณาเปิดเผยข้อมูลตามกรณี" คำตอบยาวเรียบง่ายเหมือนท่องจำมาอย่างดีจากระเบียบธนาคาร สเตฟผ่อนลมหายใจอย่างขัดใจ
"กว่าจะเอาหมายมา ผู้ต้องสงสัยก็หนีออกนอกธนาคารไปแล้วแหละ"
"เช่นนั้นก็จับกุมภายนอกธนาคารเถอะครับ"
"โธ่ว้อย! เอสิบห้า!" สเตฟพูดใส่นาฬิกาอย่างหงุดหงิด มันไม่สนใจอะไรนอกจากกฎระเบียบเล้ย "เอาหมายประทับตรามาที่ธนาคารด้วย"
"อย่างไรคุณผู้หญิงท่านนั้นก็ต้องกลับลงมาอยู่ดี คุณผู้ชาย กรุณาอย่ารบกวนลูกค้าท่านอื่นครับ" พนักงานผายมือเป็นเชิงให้ทุกคนนั่ง "รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ"
ตุลตบไหล่สเตฟเบาๆเมื่อเขานั่งลง น้ำชากลิ่นมินท์ควันกรุ่นถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมขนมแฮมซาเลตามที่สั่ง "เขาก็พูดถูก ธนาคารสวิสยึดความลับของลูกค้ากับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เรารอจนผู้ต้องสงสัยลงมาก็ได้"
สเตฟพยักหน้า "อืม.. นายเห็นหน้าผู้ต้องสงสัยแล้วใช่ไหม"
"ครับ เหมือนในรูปที่เคยมีคนถ่ายไว้ในคดีใต้ดินเลย"
ตุลตอบเรียบๆ แต่นัยน์ตาสีเข้มเลื่อนไปทางอื่น จะบอกได้ยังไงว่าเขายืนตะลึงเพราะเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ในร้านไอศกรีม แถมพูดภาษาไทยจ๋อยๆจนเขาคิดจะขอเบอร์
ไม่นานไนท์ก็เดินลงมา สเตฟส่งสัญญาณให้ตำรวจทุกคนอยู่นิ่งๆ ไนท์ปรายตามองพวกเขาเพียงแวบเดียว นัยน์ตาสีดำสนิทหันไปยังประตูทางออก
ตำรวจแน่ๆ...
ไนท์ตระหนักได้ในใจ พวกคนหน้าเดิมๆที่นั่งอยู่ตรงนี้เหมือนว่างงานกันสุดๆจะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง มุขเดิมๆของตำรวจสากล เธอคิด สัญชาตญาณมาฟีออโซ่เริ่มพลุ่งพล่าน นัยน์ตาสีดำสวยสดใสกลับทอประกายปลาบเช่นเดียวกับใบมีดใต้เสื้อคลุมกันหนาว
"ขอบคุณที่ใช้บริการครับ คุณผู้หญิง หวังว่าจะได้รับใช้อีกครั้งในเร็ววันนะครับ"
พอพนักงานปิดประตู ไนท์ก็เดินเลี้ยวมุมให้พ้นจากกล้องวงจรปิดหน้าธนาคารตำรวจนอกเครื่องแบบที่มุมตึกขยับตัวแต่ไม่ทัน ปลายมีดตวัดเข้าที่คอตัดหลอดลมให้ขาดสะบั้นในเสี้ยววินาทีด้วยความชำนาญ ไนท์ถีบร่างตำรวจคนนั้นเข้าไปในซอกตึกและออกวิ่งอย่างรวดเร็ว บางสิ่งบางอย่างบอกให้รู้ว่าพวกตำรวจกำลังไล่ตามมาอีกแน่ แถวนี้ก็เป็นซอยลึกไกลจากถนนใหญ่ ไม่มีแท็กซี่เลยสักคัน เธอจะวิ่งไปถึงป้ายรถเมล์ทันไหมนะ
"ไปไหนแล้ว"
สเตฟพูดอย่างร้อนใจเมื่อรู้ว่าเจ้าหล่อนไม่ถูกสกัดไว้ พวกตำรวจออกมาจากธนาคารก็ไม่เห็นเจ้าหล่อนเลยราวกับหายตัวได้จึงพากันหาตำรวจเคราะห์ร้ายที่ดักรออยู่หน้าประตู
ตุลมองรอบๆตัว "ผมเห็นแค่ว่าเลี้ยวซ้าย -- แยกกันหาไหม"
"ได้"
พวกตำรวจกระจายไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆมากมาย ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่าที่เรียกกันว่า โอลด์ทาวน์ ซึ่งไม่ได้ถูกสร้างเป็นตึกสูงอย่างย่านธุรกิจ แต่อนุรักษ์พวกตึกแบบโบราณและถนนเก่าแก่ที่ปูด้วยหินเอาไว้ ถือเป็นข้อบังคับที่ทุกเมืองจะต้องมีโอลด์ทาวน์เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปะ ธนาคารหรือบริษัทใหญ่ๆมักจะมาเช่าตึกโบราณสวยๆราคาแพงในโอลด์ทาวน์เป็นสำนักงานหรือสาขา
ตุลมุ่งหน้าไปทางถนนใหญ่ คนร้ายทุกคนยังไงก็ต้องหาทางหนีออกไปที่ๆมีรถวิ่งผ่าน แต่ซอยที่ตัดผ่านไปถึงถนนใหญ่มีมากมายเชื่อมต่อกันราวกับใยแมงมุม สงสัยต้องตรวจทีละซอย
"เอฟเก้า" เขาพูดใส่นาฬิกาขณะเดินผ่านซอยแคบๆที่มีร้านขายของเก่าเล็กๆที่ดูเงียบเหงาไม่มีลูกค้า เงยหน้ามองป้ายสีซีด "ตรอกลอธาริโอ ไม่พบผู้ต้องสงสัย.."
พรึ่บ!
พลันที่เอาข้อมือห่างจากปาก เสียงบางสิ่งทิ้งตัวลงจากระเบียงตึกเก่าก็ดังขึ้นประชิดด้านหลัง พร้อมวัตถุบางอย่างที่คมกริบและเย็นเฉียบมาจ่อตรงท้ายทอย
ลมหายใจกระตุกเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับใคร แต่ก็สมองก็ยังสั่งการให้หาทางรอด ตุลยกมือทั้งสองขึ้นอย่างช้าๆเป็นเชิงยอม แต่เสียงขู่ฟอดกลับดังขึ้นเสียก่อน
"อย่าได้บังอาจเอามือของแกขึ้นมาในระยะใกล้ปากเกินหนึ่งฟุต"
เสียงหวานที่เขาเคยได้ยินแข็งกร้าวขึ้นต่างจากตอนนั้นจนน่ากลัว เตือนให้รู้ว่าเจ้าหล่อนสามารถตวัดมีดตัดเส้นเสียงเขาได้ในเสี้ยววินาที ตุลรีบเอามือลงไปอย่างเดิมแบบไม่ต้องคิดมาก
"ถอดนาฬิกา"
ไนท์สั่ง หัวใจเต้นรัวเร็ว เธอไม่เคยคิดว่าจะต้องเผชิญหน้าปะทะกับตำรวจโดยไม่ได้ฆ่าทันที แถมยังออกคำสั่งราวกับเล่นละคร แต่ในสถานการณ์นี้ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่านี้แล้ว ตำรวจหนุ่มคนนี้ติดกับเธอทุกอย่าง ถึงเขาจะตัวสูงไปหน่อยจนจ่อมีดไม่ค่อยถนัดแต่ถ้าเธอตวัดมีดมันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาล้มลงได้แม้จะไม่ตายสนิท
"มือเธอสั่นนะ"
ตุลพูดเป็นภาษาอังกฤษ เขารู้สึกได้เลยว่ามันสั่น แต่ก็รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าหล่อนเกร็งมือเตรียมพร้อมจะฆ่าเขาตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะกลัว เขาค่อยๆถอดนาฬิกา เสียงรายงานจากใครสักคนดังแผ่วๆในหูฟัง
"อยากให้มันเลิกสั่นไหมล่ะ ฉันจะได้จัดการให้มันจบๆไม่ต้องมาเมื่อยมือ" ความเจ็บแปลบเกิดขึ้นตรงท้ายทอย ปลายมีดจรดผ่านผิวหนังเขามาเล็กน้อยเรียกเลือดซิบๆ "ถอดนาฬิกาเร็วๆ ไม่งั้นฉันจะแทงให้มิดแล้วถอดเอง" ตุลหัวเราะ ความกลัวเริ่มแปรเป็นท้าทายอย่างบ้าบิ่น
"งั้นทำไมไม่ฆ่าล่ะ หรือว่า...หลงเสน่ห์ฉันซะแล้วสาวน้อย"
เสียงหัวเราะเยียบเย็นของเจ้าหล่อนดังขึ้นตอบรับ เป็นเสียงยมทูตอย่างแท้จริงไม่ต้องสงสัย ตุลเสียววาบขึ้นมาทันที ทำไมเขาพูดออกไปแบบนั้นเนี่ย รนหาที่แล้วไง ตายทั้งทีต้องมาตายเพราะปากหมาแซวหญิง กรรม.... หญิงสาวที่หัวเราะอยู่ด้านหลังฉวยนาฬิกาไปจากเขาทันทีที่มันหลุดจากข้อมือ
"ไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับฉันมาก่อนเลยจริงๆนะเนี่ย" เสียงหวานหัวเราะคิก ก้มหน้าลงดูนาฬิกาของตุลและกดปุ่มเพื่อดูตำแหน่งของตำรวจคนอื่นๆดังปี๊บๆ ระบบ GPSแสดงตำแหน่งคนที่ติดเครื่องบนหน้าจอเหมือนที่ไดเคยให้เธอดูเป๊ะ
!
ตุลอาศัยช่วงเวลาที่เธอสนใจนาฬิกาก้มลงจากมือยมทูตและดึงปืนตรงเข็มขัดออกมาหมายจะจ่อยิงให้มอบตัว แต่ไนท์ไวกว่า เธอกระแทกมือเขาอย่างแรงจนปืนกระเด็นไป มือขาวจ่อมีดที่คอเขาอย่างรวดเร็วพอๆกับที่ตุลชักมีดจ่อที่คอเธอ
ดวงหน้าขาวออกเหลืองเด่นอยู่เหนือมีดพกสวิสอาร์มีของตุล ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีดำขลับยาวเคลียไหล่ นัยน์ตาสีดำคู่สวยจ้องมองอย่างท้าทาย ริมฝีปากสีชมพูส้มคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบางและเอียงคอเล็กน้อย
"ว่าไง ทำหน้าเหมือนเป็นฝ่ายหลงเสน่ห์ฉันเองมากกว่าละมั้ง"
ว่าแล้วรองเท้าชาร์ลส์ จูด็อง ส้นเตี้ยทรงเหลี่ยมคมก็ยันประเคนเข้าให้เต็มๆ ปลุกคนหลงเสน่ห์ให้ตื่นจากภวังค์ ตุลล้มกลิ้งไปบนพื้น ไม่ทันจะตั้งตัวเจ้าหล่อนก็โดดลงมาคร่อมพร้อมมีดที่คอหอย
"ไม่ต้องห่วง ฆ่าแบบไม่ได้ค่าจ้างน่ะไม่ใช่รสนิยมฉัน" มือซ้ายของไนท์ที่ไม่ได้ถือมีดไล้ขึ้นไปใต้ชายชุดแสคสีควันไฟ สายหนังสีดำรัดรอบต้นขาขาวมีทั้งมีด กระสุนสำรอง และเข็มฉีดยาอันเล็กๆเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เธอหยิบไซริงก์อันเล็กที่บรรจุน้ำยาสีใสไว้เต็ม "หวังว่าคงไม่กลัวเข็มนะคะ คุณตำรวจ"
"ยาอะไร!?"
หัวไหล่เจ็บจี๊ดเมื่อเจ้าหล่อนปักเข็มฉีดยาอย่างแรง ไม่ได้เจ็บมดกัดอย่างที่นางพยาบาลตามโรงพยาบาลฉีดให้แบบช้าๆ แต่เจ้าหล่อนเล่นกดพรวดเดียวหมดไซริงก์จนน่ากลัวจะเส้นเลือดแตกตาย เสร็จแล้วกระชากออกไปเก็บไว้ที่สายรัดต้นขาตามเดิมอย่างชำนาญ
"ยาคลายกล้ามเนื้อ -- นอนเป็นง่อยไปสักสองสามชั่วโมงละกันนะ" ไนท์ยิ้มให้อย่างน่ารัก ขณะที่ตุลเริ่มรู้สึกหนักๆชาๆเหมือนจะขยับไม่ได้ "บาย ขอนาฬิกาไปด้วยนะ จุ๊บๆ"
พริบตาเดียวร่างเล็กก็หายวับไป ทิ้งให้ตุลนอนอยู่บนพื้นปูหินแข็งๆ มันเหมือนกับเป็นเหน็บไปทั้งตัว ขยับไม่ได้แม้แต่ริมฝีปากจะขอความช่วยเหลือ ร้านขายของที่ระลึกเล็กๆจะมีคนอยู่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือ เขาคงต้องเป็นง่อยไปอีกนานอย่างที่เจ้าหล่อนบอกจริงๆ
ผู้หญิงสวยอาจทำให้ผู้ชายพ่ายแพ้
เมื่อก่อนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ตอนนี้คงต้องเริ่มเชื่อๆบ้างซะแล้ว
ตุลคิด ใช้ความพยายามสุดท้ายปิดเปลือกตาลงให้ได้ก่อนที่มันจะชาจนเขาต้องทนนอนลืมตาไปอีกสามชั่วโมง