บทที่ 3 เส้นทางฟอกเงิน
เครื่องบิน TG-317 ไปซิซิลี
"น้ำส้มไหมคะ หรือไวน์ก็มี แต่ห้ามเกินปริมาณกำหนด.."
"อย่าดีกว่าครับ ขอบคุณ"
ลูอิสเอ่ยอย่างสุภาพ หันมองเจ้าชายที่นั่งประสานมือและดูวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเครื่องบินผ่านเลนส์แว่นกันแดดสีดำ แอร์โฮสเตสหลายคนแวะโฉบเฉี่ยวมาในชั้นเฟิร์สคลาสตรงแถวที่พวกเขานั่งบ่อยๆ แววตาของพวกหล่อนฉายความหลงใหลชื่นชมเจ้าชายอย่างปิดไม่มิด เหมือนพวกสาวๆในสนามบินที่พยายามจะถ่ายรูปพวกเขา
นี่แหละน้า...ผู้หญิง
ชายหนุ่มคิดอย่างอ่อนใจ มองสำรวจคนในชั้นเฟิร์สต์คลาสที่เป็นคนของพวกเขาทั้งหมด ตั้งแต่มาดามมิมส์และแม่ครัวสองสามคนที่นั่งพึมพำสวดมนต์ด้วยความกลัวเครื่องบิน การ์ดหลายสิบคนที่นั่งเงียบเป็นหุ่นยนต์ ส่วนแถวหลังคือยัยเตี้ยไนท์แมร์ที่พิงไหล่ไดหลับไปแล้ว
"นายไม่เหนื่อยมั่งเหรอได"
ส่งคำถามไปอย่างนั้นโดยไม่หวังคำตอบ เซนซากิ ได เซียนคอมพิวเตอร์ผู้ควบคุมระบบทุกสิ่งทุกอย่างของมาเฟียอิตาลีเงยหน้าและดันแว่น นิ้วมือยังไม่หยุดพรมลงบนคีย์บอร์ดโน้ตบุ้ค ดวงตารีชั้นเดียวของไดมองเขาเหมือนงงๆกับคำถาม
"ทำไมต้องเหนื่อยล่ะครับ"
"ก็นั่งจ้องคอมทั้งวี่ทั้งวันจนจะแต่งงานกับมันอยู่แล้วเนี่ย"
"ไม่หรอกครับ" ไดยิ้ม ดันแว่นอีกครั้ง "ผมติดต่อศูนย์ที่ปาแลร์โมแล้ว รถจะคอยเราที่สนามบินครับ" น้ำเสียงสบายๆของไดเบาลงนิดหนึ่ง "ผมตัดสัญญาณ GPS ของพวกตำรวจได้แล้วครับ พวกเขาจะรู้แค่ว่าพวกคุณคุยอะไรกันบ้างตอนที่ยังไม่ได้ทำลายเครื่องติดตาม แต่พวกเขาไม่รู้หรอกครับว่าตำแหน่งของเราคือบ้านคูเสค"
"รอดไป" เจ้าชายเอ่ยเบาๆ ไดยิ้มรับ
"เดี๋ยวผมจะทำลายระบบของพวกตำรวจให้นะครับ คงจะนานสักหน่อย แต่ไวรัสตัวใหม่ของผมรับรองกินเรียบทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีเหลือ"
เจ้าชายพยักหน้ารับรู้ "ดี พอถึงสนามบินแล้วนายติดต่อพวกรัสเซียให้ด้วยนะ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับซาร์คอฟ"
"ได้ครับ"
***
แพขนตาสีดำขยับไหวเมื่อเจ้าของถูกสะกิด ไนท์กะพริบตาสองสามครั้ง กลิ่นหอมๆลอยมาเตะจมูกได้รูป กลิ่นแบบนี้มันอะไรนะ..
"สปาเก็ตตีไวท์ซอส ของโปรดเธอน่ะยัยเตี้ย" เสียงลูอิสดังอยู่ใกล้ๆ
สาวน้อยกระเด้งตัวขึ้นมาอย่างสวยงามทันทีจนไดที่นั่งข้างๆตกใจ เจ้าหล่อนแย้มรอยยิ้มหวานพร้อมดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ
"ไหนๆๆๆ สปาเก็ตตีอยู่ไหน" มือเล็กจับอาวุธได้ก็โซ้ยของตรงหน้าทันทีอย่างไม่เกรงใจใคร ไดทำสีหน้าแปลกๆคล้ายจะก้ำกึ่งระหว่างอึ้งกับกลุ้มใจ
มาฟีออโซ่สาวสวยสุดโหด บทจะกินก็กินได้หมดรูปทิ้งคราบยมทูตเลยจริงๆ
"ลูอิส" เจ้าชายเรียก "พอเครื่องลงแล้วมากับฉัน ไนท์ด้วย บอกการ์ดทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เราจะพบซาร์คอฟ"
"เห...ซาร์คอฟมาเฟียรัสเซีย ถ่อมาถึงปาแลร์โมเชียวเหรอ"
"เขารอที่สนามบิน" ลูอิสตอบคำถามของไนท์ ก่อนจะเล่าคร่าวๆเมื่อเห็นเจ้าหล่อนเอาแต่กินท่าเดียว "มีปัญหานิดหน่อย เงินที่ซาร์คอฟจะโอนข้ามประเทศถูกเวย์นสกัดไว้ไปไม่ได้เพราะไม่มีลายเซ็นกับตราประทับของเวย์น"
"อ้าว..." มือเล็กละจากช้อนส้อม
"เธอคงไม่คิดว่าจะปลอมลายเซ็นทันก่อนตำรวจเจอเอกสารหรอกใช่ไหม ซาร์คอฟก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเงินใต้ดินบัญชีสุดท้ายของเขากำลังจะโดนสอบสวนเพราะหาที่มาที่ไปไม่ได้ พวกตำรวจสากลสงสัยแล้วว่ามันจะเกี่ยวโยงกับการตายของเวย์น"
"ถ้าตำรวจสืบมาฉันก็โดนไปด้วยใช่ปะ" ไนท์ถามอย่างเฉยชา ลูอิสค่อยๆพยักหน้า
"ก็ใช่.. แต่ยังไม่ต้องกลัวหรอก ซาร์คอฟเป็นคนจ้างเธอไปเก็บเวย์น คนจ้างกับคนฆ่า ยังไงตำรวจก็ต้องพยายามหาคนจ้างมากกว่าอยู่แล้ว เสียอย่างเดียว..."
"พวกตำรวจคิดว่าเราจ้างล่ะสิ"
เสียงหวานเอ่ยดัก ใบหน้าสวยมีร่องรอยความไม่พอใจเต็มเปี่ยม กลายเป็นเธอที่ไปรับงานจากมาเฟียกลุ่มอื่นทำให้โดนหางเลขไปด้วย ซาร์คอฟปัดสวะไปหาทุกคนที่เกี่ยวข้องจริงๆในบรรดามาเฟียใหญ่ๆ ซาร์คอฟเป็นเหมือนเสือเฒ่านอนกินที่ชอบจ้างมาเฟียกลุ่มอื่นทำงานด้วยราคาสูงลิ่ว ส่วนตัวเองมือสะอาด ทำไมไนท์แมร์ถึงได้โง่เง่าอย่างนี้นะ แค่เห็นว่าซาร์คอฟแบ่งเงินส่วนที่โอนได้ให้ห้าเปอร์เซ็นต์ก็เลยรับงาน
ยัยโลภ! เธอพาความวิบัติอะไรมาให้ทุกคนกันเนี่ย
เจ้าชายขยับตัว หันมาขยี้หัวเธอเหมือนอ่านใจออก
"เครียดอะไรกัน ถึงอย่างนั้นคนซวยก็ยังเป็นฉัน ไม่ใช่เธอสักหน่อย ตัวเล็ก" เจ้าชายเอ่ยเบาๆ "ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่าจะไม่ให้ใครทำอะไรเธอ ลืมแล้วหรือไง"
"...ขอโทษนะ"
"อยากทานอะไรอีกก็รีบสั่ง อีกสิบนาทีเราจะถึงปาแลร์โม"
ไนท์ก้มหน้าก้มตาทานสปาเก็ตตีต่อไป ลูอิสผ่อนลมหายใจเบาๆ เดาไม่ออกเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าซาร์คอฟปัดความรับผิดชอบ แต่กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ ชายหนุ่มเก็บถาดพลาสติกที่เป็นเศษซากเหลือจากการกระซวกของไนท์ใส่ถุง เพียงแป๊บเดียวเจ้าหล่อนก็ไปคว้าของไดที่ยังเหลืออีกครึ่งมากินต่อ
"เฮ..เฮ้!" เป็นเสียงไดประท้วงก่อนที่โดนสาวเจ้าแย่งของกิน "นั่นมันของผมนะครับ"
"แหม ไดจ๋า ไดจะใจร้ายไม่ให้ไนท์เชียวเหรอ" เสียงหวานออดอ้อนพร้อมสายตาวิ้งๆ ไดอยากจะกุมขมับ "ไนท์หิวอ้ะ" ลูอิสหัวเราะ
"ความตะกละของเธอมันมีที่สิ้นสุดมั่งไหมฮะ ยัยเตี้ย!"
"เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะครากหรอกครับ" น้ำเสียงไดคล้ายจะเป็นห่วง (แค่คล้ายนะ)
"นายแช่งฉันเรอะ!!"
"แง้! เปล่านะครับไนท์"
"งั้นก็ให้ไนท์กินใช่ไหม..จ๊ะ" เสียงใบมีดอาบน้ำผึ้งสุดๆ ไดพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ยอมแล้วววว
"ตามสบายเถอะครับ"ใครจะรู้บ้างงง.. ว่าเบื้องหลังการทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์เงินเดือนสูงสุดมันต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุกวัน ลาออกมันซะดีไหม... เฮ้ย! ไม่ได้ๆ ขืนลาออกก็โดนเจ้าชายเก็บแหง–แค่คิดไดก็เสียวคอตัวเองวาบๆ
เครื่องบินลงจอดที่สนามบินในไม่นาน ลูอิสเดินนำทุกคนผ่านเทอร์มินอลเกต ตามด้วยเจ้าชายที่มีไนท์ประกบข้างๆ ไดกับพวกแม่บ้านตามหลังพร้อมกับการ์ดทั้งหมด สัมภาระทุกอย่างจากสายพานท้องเครื่องบินจะถูกพนักงานขนไปส่งถึงรถจากฐานปาแลร์โม ลูอิสแตะสมอลทอล์คและพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะหันหน้ามาหาเจ้าชาย
"ซาร์คอฟรออยู่ที่คาเฟ่ชั้นล่าง เขาบอกว่าไม่ต้องเอาการ์ดไปมากเดี๋ยวจะเป็นเป้าสายตา"
"ไม่ต้องเอาไปเลยก็ได้" เจ้าชายพูดอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจ "แค่นายกับไนท์ก็พอ คนอื่นไปรอที่รถ"
"ก็ดี สะดวก" ไนท์พูดลอยๆ ดวงหน้าสวยเรียบเฉย แววตาขี้เล่นร่าเริงอย่างตอนที่อยู่บนเครื่องบินหายไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงแววตาเย็นชาของมาฟีออโซ่ "ฉันอยากเอาสองแสนที่ซาร์คอฟให้มาไปคืน"
"เธอได้ทำแน่" เจ้าชายส่งสัญญาณมือให้พวกการ์ด "พาคนอื่นออกไปที่รถ อ้อ ติดต่อคนที่ฐานปาแลร์โมให้เตรียมห้องอาบน้ำด้วย ฉันอยากแช่น้ำอุ่นเต็มทนแล้ว"
***
คาเฟ่ 13:50 น.
พนักงานเสิร์ฟรินชาสตรอว์เบอร์รี่ให้ไนท์ ควันสีขาวลอยกรุ่นขึ้นมา กลิ่นของมันเหมือนสตรอว์เบอร์รี่จริงๆ บรรยากาศในคาเฟ่กำลังอำนวยต่อการพบปะของพวกเขา เช้านี้คนไม่เยอะเท่าไรนัก ไนท์นั่งลงข้างเจ้าชายที่ถอดแว่นกันแดดออกเมื่อพนักงานเสิร์ฟจากไป ส่วนลูอิสยืนคุ้มกัน
ที่นั่งตรงข้ามของพวกเขาคือชายวัยกลางคนอายุราวๆห้าสิบ ผมสีทองเข้มสุกปลั่งแซมด้วยสีดอกเลา นัยน์ตาสีเทาดูไม่ฝ้าฟางจากกาลเวลา แต่กลับดูคมเฉียบและซ่อนความนัยไว้มากมาย เสื้อผ้าเนื้อดีบ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่แม้จะไม่มีเครื่องประดับหรือนาฬิกาอะไรที่มีค่าเลยก็ตาม การ์ดเพียงคนเดียวของเขายืนอยู่ข้างหลังตรงกับลูอิส
ซาร์คอฟ เฟโดโรฟ มาเฟียที่มีอิทธิพลสูงสุดในรัสเซีย
"ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ ดูเธอเปลี่ยนไปเยอะนะ" ซาร์คอฟเอ่ยเหมือนจะทักทาย เจ้าชายมองเขาและเอ่ยห้วน
"จะเอายังไง"
"อย่าเพิ่งใจร้อนซี... ดื่มน้ำชาเสียก่อนมันจะเย็นชืด"
"ผมไม่ได้มีเวลามานั่งคุยกับคุณทั้งวัน"
เสียงเรียบๆเอ่ยขณะที่ผู้พูดก็สีหน้านิ่งไม่ต่างกัน ซาร์คอฟถอนหายใจ วางถ้วยชาเนื้อดีลงบนจานรองลายเถาไอวี่ ไนท์ขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหยิบซองเช็คค่าจ้างให้เขา นัยน์ตาสีเทาเลื่อนมาสบกับเธอ
"อะไรกัน นั่นมันสินน้ำใจจากฉัน พวกอิตาลีจะปฏิเสธไมตรีจากรัสเซียหรือ" ซาร์คอฟพูดเสียงนุ่มๆและยิ้ม ไนท์ทำเสียงเยาะในคอ
"เศษเงินแค่นี้แลกกับการผลักตำรวจมาหาเรา เรียกว่าไมตรีงั้นเหรอ ดิฉันว่าเรียกหักหลังยังเหมาะสมกว่า"
"เปล่า... เปล่าเลย คิดอะไรไปไกลขนาดนั้น" ซาร์คอฟเลื่อนซองเงินกลับมาตรงหน้าไนท์ เอ่ยกับเจ้าชายราวกับผู้ใหญ่เล่าเรื่องให้เด็กฟัง "ตั้งแต่สมัยพ่อของเธอ ฌองปิแอร์ แห่งสวิตเซอร์แลนด์ เราสองฝ่ายเป็นเพื่อนกันมาตลอด ทำไมพวกเธอต้องโกรธกับเรื่องแค่นี้ด้วยล่ะหือ"
"ก็ผมถามอยู่นี่ไงว่าคุณจะเอายังไง" เจ้าชายพูด เริ่มมีรังสีความไม่พอใจฉายชัดจนน่ากลัว "เงินนั่นยังไม่ถูกฟอก แพททริก เวย์นก็ตายไปแล้ว คุณจะโอนเงินเข้าไปฟอกในเยอรมันได้อีกหรือ"
"โอนได้สิ แต่ไม่ใช่เยอรมัน" ซาร์คอฟประสานมือและแย้มรอยยิ้ม เจ้าชายเลิกคิ้ว "ธนาคารสหรัฐฯน่ะโอนเงินง่ายกว่าเยอะ เธอก็รู้ดีนี่ บัญชีไม่แสดงนามผู้ฝากของเธอในสหรัฐฯมีอยู่ตั้งหลายสิบบัญชี"
"หึ... คิดจะจ้างเราช่วยอำพรางงั้นสิ"
"ใช่" ซาร์คอฟพูดอย่างสงบ ชายหนุ่มตรงหน้ารู้ทันความคิดของเขาแล้ว
"แล้วค่าตอบแทน?"
เจ้าชายหยั่งเสียงถาม ความเงียบทอดตัวอ้อยอิ่งครู่หนึ่ง ขณะที่ซาร์คอฟมองคนตรงหน้าอย่างประเมินค่า นัยน์ตาสีฟ้าเข้มเหมือนท้องทะเลลึกสุดหยั่งจ้องกลับมาแน่วนิ่ง มันเย็นชา อำมหิต และร้ายกาจเหมือนดวงตาของใครคนหนึ่งที่ซาร์คอฟเคยเห็นมาก่อน ชายสูงวัยขยับรอยยิ้ม
"เธอต้องการเท่าไรล่ะ" ซาร์คอฟถามอย่างจำยอมต่อผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
"ยี่สิบเปอร์เซ็นต์" เสียงเรียบเอ่ยราคา
"สิบ"
"ยี่สิบ"
"งั้นสิบห้าก็แล้วกัน --พบกันครึ่งทาง" ซาร์คอฟพยายามต่อรอง เจ้าชายยิ้มเย็นก่อนจะยื่นมือให้จับเป็นการผูกสัญญา เสียงราบเรียบเอ่ยต่อราวกับคำเตือนแสนอันตราย
"และอย่าได้คิดเบี้ยว"
***
สำนักงานตำรวจสากล
สเตฟนั่งเกาหัวเป็นรอบที่สิบสองของวัน เรือนผมสีน้ำตาลตัดกับดวงตาสีเขียวมรกตเริ่มยุ่งเหยิง เขาคลิกเล่นไฟล์เสียงที่ได้ยินไม่ชัดนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
'แพททริก เวย์น ครับ'
'ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ใครๆก็เรียกฉันว่าไนท์ แค่ไนท์เฉยๆ'
'ยินดีเช่นกันครับ'
เสียงพูดคุยต่อมาเริ่มมีเสียงลมพัดแทรกเพราะออกมานอกอาคาร แล้วยังเสียงจากน้ำพุอีก ฟังไม่ออกเลยว่าคุยอะไรกันเพียงแต่รู้ว่าเป็นภาษาอังกฤษ เสียงถัดมาที่ได้ยินชัด ก็คือเสียงของเขาเองที่เรียกให้ผู้หญิงคนนั้นหยุดก่อนจะโดนยิงสวนกลับมาแทบหลบไม่ทัน นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆสวยบอบบางอย่างนั้นจะทำอะไรแบบนี้ ดูยังไงเจ้าหล่อนก็เหมือนนางฟ้า
นางฟ้าแสนสวย.. สวยมากเสียจนลืมหายใจ แต่เป็นนางฟ้าในคราบซาตานที่จะทำให้ไม่ได้หายใจตลอดกาลจริงๆ
'เธอเล่นซะเจ้าหนุ่มนั่นตกน้ำเลยนะ ไม่สงสารหน่อยเหรอ ดึกๆแบบนี้หนาวจนแข็งตายแน่'
เสียงผู้ชายพูดเป็นภาษาอะไรบางอย่างที่เขาฟังไม่ออก มันไม่ใช่ภาษายุโรปแน่นอน ภาษาแบบนี้เหมือนพวกเอเชียแต่ก็ไม่ใกล้เคียงจีนหรือญี่ปุ่น บางทีอาจเป็นภาษาที่คิดขึ้นเองเป็นรหัสก็ได้ เสียงผู้หญิงคนนั้นตอบกลับไปด้วยภาษาเดียวกัน สเตฟถอนหายใจเฮือกใหญ่ โลกนี้มีตั้งกี่ร้อยกี่พันภาษา แบบนี้จะมีวันรู้ไหมนะ
อย่างน้อยหลังจากนั้นก็เป็นภาษาอิตาเลียน อีกไม่นานก็คงพอรู้เบาะแสอะไรบ้าง คนพูดอิตาเลียนในสหรัฐฯมีไม่เยอะเท่าไหร่ แม้ว่าพอหญิงสาวนั่งแล้วลุกอีกทีเครื่องจะโดนทับจนเสียงซ่าจับคำไม่ออกก็เถอะ จนสุดท้ายของไฟล์ที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวรู้ตัวได้ยังไงและเครื่องโดนทำลาย ถึงเป็นคนร้าย แต่สเตฟก็แอบชื่นชมในใจ เสียงกระสุนปืนที่ยิงโดนเครื่องติดตามแม่นยำภายในครั้งเดียว ฝีมือตำรวจสากลบางคนในนี้ยังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ตี๊ดๆ~ ตี๊ดๆ~
เสียงโทรศัพท์ร้องพร้อมกับไฟกะพริบวาบๆ สเตฟรับสาย คิ้วเข้มขมวดเป็นปมครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างดีใจ
"จริงน่ะ! หาคนแปลภาษานี่ได้แล้ว... เออๆๆๆ พามาเลย ฉันรอที่ออฟฟิศนะ"