บทที่ 2 ตระกูลมาเฟีย
ในดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ต่อสู้ยาวนานและอบอวลด้วยกลิ่นอายอิทธิพลมืดเช่นอิตาลี กลุ่มอำนาจนอกกฎหมายซึ่งถูกขนานนามว่า มาเฟีย ได้ก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่เริ่มต้นยุคสมัยแห่งทุนนิยมในโลกปัจจุบัน ‘มาฟีออซี’ หรือเหล่าสมาชิกมาเฟียจากหลากหลายสายตระกูลร่วมมือกันตั้งหลักแหล่งที่เกาะซิซิลีเมื่อใกล้จะสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 คำว่ามาฟีออโซ่ที่ใช้เรียกกันจนติดปากเป็นรูปเอกพจน์ในภาษาอิตาเลียน
สิ่งที่พวกเขาทำ ได้แก่ทุกสิ่งที่โลกเบื้องบนไม่ยอมรับ... เมื่อรัฐอ่อนแอ กฎหมายมีช่องว่าง ลู่ทางของพวกเขาก็เปิดออก -- ตลาดใต้ดินที่สามารถหาซื้อได้ทุกสิ่ง ตั้งแต่อาวุธ ยาเสพติด ชีวิตคน ไปจนถึงตัวตนใหม่สำหรับคนที่ต้องการและมีเงินเพียงพอ มันสร้างความร่ำรวยแก่มาฟีออซี ทำให้พวกเขาสามารถแทรกเข้าไปในองค์กรต่างๆ และเริ่มควบคุมความเป็นไปของสังคมอย่างเงียบๆอยู่เบื้องหลัง
ซิซิลี อาณาจักรมาเฟียที่เป็นจุดเริ่มต้นของโลกมืด แทบทุกสิ่งตั้งแต่ระบบสาธารณูปโภคไปจนถึงการสร้างชาติจะไม่อาจสมบูรณ์ได้เลยหากปราศจากการสนับสนุนของมาฟีออซี
แสงอำนาจอันรุ่งเรืองแห่งมาเฟียลุกโชนขึ้นถึงขีดสุดพร้อมกับการเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา จากซิซิลีแพร่ไปทุกหนแห่งในโลกตะวันตก... รวดเร็วเกินจะคาดเดา และเพียบพร้อมด้วยมาฟีออซีฝีมือดีทั่วทุกสารทิศกว่าร้อยตระกูล เพียงแค่เฉพาะสหรัฐฯประเทศเดียวประกอบด้วยมาเฟียถึง 26 ตระกูลหลัก-- ทั้งเป็นมิตรและศัตรูผสมปนเปกันด้วยเงื่อนไขอันซับซ้อน ไม่ว่ารัฐจะเพียรกวาดล้างเท่าไรก็ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ฆ่าไม่ตาย
หนึ่งในยี่สิบหกตระกูลที่มีอิทธิพลสูงสุดในสหรัฐฯ คือสกุลผู้นำมาเฟียอิตาลีปัจจุบัน‘คอสเตลลาโน’ จากสวิตเซอร์แลนด์
และไนท์แมร์ก็เป็นหนึ่งในสังกัดสกุลนั้น
***
["เร็วหน่อยน้องสาว มีคนเข้ามาในสวน"]
เสียงเตือนจากหูฟังทำให้ไนท์รีบเก็บมีด ร่างเพรียววิ่งเข้าไปในเขตเขาวงกตทันทีก่อนจะสบถเบาๆเมื่อรองเท้าส้นเข็มเล่นงานเธอให้สะดุดเสียแล้ว จะถอดทิ้งก็ไม่ได้เดี๋ยวตำรวจตามเจอ แล้วยังไอ้ผ้าคลุมไหล่ยาวรุ่มร่ามนี่อีก!
["ให้ว่องๆ ตรงไปตามทางนั้นเลยมันจะมีหอสูงอยู่ตรงกลาง"]
"นายไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง!" ไนท์พยายามกดเสียงให้เบาที่สุด เสียงร้องเรียกมาจากทางน้ำพุทำให้รู้ว่ามีใครบางคนพบร่างแพททริกเข้าแล้ว ร่างเล็กยิ่งเร่งฝีเท้า
สุดเขตที่เขาวงกตมาบรรจบกันตรงกลางสวนก็มีหอสูงอยู่จริงๆ เป็นเหมือนหอเล็กๆที่สร้างเป็นระเบียงชมวิวมากกว่า บันไดวนสี่ชั้นเล่นเอาหอบแฮ่ก จุดสูงสุดของหอมองเห็นทั้งหมดของสวน และแน่นอน -- สูงเกินกำแพงที่ล้อมรอบคฤหาสน์ แม่น้ำสายเล็กๆเงียบสงบข้างๆทำให้ทำเลแถวนี้ราคาแพงลิบลิ่วยิ่งกว่าทอง
"ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าบันไดมันแคบขนาดนี้" สาวน้อยบ่นกระปอดกระแปดขณะควานหาของในกระเป๋าถือ เรียกเสียงหัวเราะหึๆจากหูฟัง
["ฉันก็ไม่ได้บอกว่ามันเป็นโรงแรมห้าดาวนะไนท์"]
"แล้วเครื่องยิงเชือกอยู่ไหนเนี่ย"
["สักแห่งแหละ"]
"ถ้าคิดจะกวนประสาทฉันล่ะก็หุบปากซะ.. อ้อ! นี่ไงเจอแล้ว"
เสียงลั่นไกดังกริ๊กเมื่อเจ้าหล่อนชูมันออกไปยังอาคารบ้านเช่าฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ เล็งจุดเหมาะๆ ก่อนจะยิงตะขอที่มีเชือกผูกปลายออกไป
เกร๊ง!
ตะขอกางออกเหมือนกรงเล็บ ก่อนจะจับเข้ากับราวสะแตนเลสตรงหน้าต่าง ไนท์รีบกดกางตะขอให้จับติดกับราวระเบียงของหอสูง
"เฮ้! หยุด!!"
เสียงตะโกนเรียกให้ไนท์หันกลับไปมอง ชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดสูทงานเลี้ยงเล็งปืนมาที่เธอ ตำรวจนอกเครื่องแบบแหงมๆ
"อยู่เฉยๆ ไม่งั้นผมยิงแน่"
"เหรอคะ น่ากลัวจัง" ไนท์ว่าเสียงหวาน ผ้าคลุมไหล่ยาวมันระยับคล้องรอบเชือกสามรอบอย่างแข็งแรง "แต่ขอโทษที คนที่จะพูดอย่างนั้นน่ะ คือฉัน!"
ปืนพกเก็บเสียงลั่นกระสุนใส่สองครั้งติดต่อกันอย่างเงียบกริบ จากนางฟ้าแสนสวยที่บัดนี้กลายร่างเป็นยมทูต ชายหนุ่มกลิ้งตัวหลบพร้อมกับสบถ เงยหน้าลุกขึ้นมาอีกทีร่างเล็กก็โหนตัวไปตามเชือกตึงเปรี๊ยะข้ามไปอย่างรวดเร็วในความมืดจนถึงอีกฝั่ง กว่าเขาจะวิ่งขึ้นมาถึงจุดที่เจ้าหล่อนเคยยืนอยู่ก็ไกลเกินวิถีกระสุนไปแล้ว เสียงทุ้มตะโกนใส่นาฬิกา
"เอสิบห้า! ส่งกำลังสกัดถนนสายหลักไว้"
ไนท์โหนตัวมาชนโครมเข้ากับราวสแตนเลสพอดี สาวน้อยถูหน้าผากขณะพยายามตั้งตัว อยากจะบ้าตายกับชุดราตรีนี้จริงๆ ตำรวจนอกเครื่องแบบคนนั้นคงขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของหอแล้ว ถ้ากล้าโหนตามมาก็บ้าบิ่นเต็มทน แต่กันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย ไนท์คิดขณะใช้มีดตัดเชือกให้ขาดอย่างยากลำบาก มันจะเหนียวไปถึงไหนเนี่ย
["ไนท์! มีคนโหนมา"]
ไนท์สะบัดหน้ากลับไปมอง พระเจ้า..ตำรวจคนนั้นใจถึงตามมาจริงๆแฮะ เสียงหวานที่ติดจะโหดสักหน่อยสบถเป็นชุดอย่างขัดใจเมื่อเชือกไม่ยอมขาด
"เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ" เจ้าของห้องเช่าที่อยู่ถัดไปโผล่หน้ามาอย่างตื่นตกใจ บุหรี่ที่คาบอยู่ร่วงลงไปเมื่อเขาอ้าปากค้าง สาวสวยในชุดราตรีสุดเซ็กซี่มาเกาะข้างห้องเขา "เธอเป็นใคร"
"ยืมไฟแช็กหน่อยค่ะ" ไม่รอคำอนุญาตเจ้าหล่อนก็ฉวยไฟแช็กไปจากมือและจุดมันลนเชือกไนล่อนเหนียว กลิ่นเหม็นไหม้ฉุนจมูกโชยมาทันที เชือกหย่อนและยืดออกเหมือนยางเหลวๆก่อนจะขาดในที่สุด "ขอบคุณนะคะ จุ๊บๆ" สาวน้อยยัดไฟแช็กกลับใส่มือเขาและส่งจูบ โดยมีเสียงร้องลั่นของชายหนุ่มที่ตกลงกลางแม่น้ำเป็นซาวนด์แทรคประกอบ ยังไม่ทันตั้งตัวหรือถามอะไรต่อ เจ้าหล่อนก็ไถลตัวลงข้างล่างและหายไปแล้ว
"ด้วยความยินดีจ้ะแม่คนสวย" เสียงร้องบอกตามมา ไนท์หัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะร่าเริงที่ไม่ได้ทำบ่อยนัก สาวน้อยแตะหูฟัง
"ลูอิส นายอยู่ส่วนไหนของโลก"
["ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ราชรถจะไปถึงในสิบวินาที"]
เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากหัวมุมถนน รถคันใหญ่สีดำเลี้ยวมาจอดให้ประตูหลังตรงกับเธอพอดิบพอดีและปลดล็อค ไนท์เข้าไปนั่งก่อนจะถอดรองเท้าส้นเข็มออก แล้วรถก็แล่นฉิวไปในความมืด
"เธอเล่นซะเจ้าหนุ่มนั่นตกน้ำเลยนะ ไม่สงสารหน่อยเหรอ ดึกๆแบบนี้หนาวจนแข็งตายแน่"
ชายหนุ่มผมดำซึ่งกำลังขับรถเอ่ย หน้าปัดด้านหน้ารถซึ่งถูกต่อเติมออกแบบมาอย่างดีแสดงตำแหน่งของรถบนถนนด้วยระบบGPS บนหน้าจอข้างๆยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของคฤหาสน์ที่ไนท์เพิ่งออกมาเมื่อกี้ เขาเลื่อนมือไปกดปุ่มสองสามทีหน้าจอก็ดับไปและหน้าปัดบอกขีดความเร็วกับน้ำมันก็เลื่อนลงมาแทนเหมือนเป็นรถธรรมดา ไนท์เงยหน้า ดวงตาคู่สวยบ่งบอกความไม่สบอารมณ์ขณะบีบนวดเท้าตัวเอง
"มันเห็นหน้าฉันชัดแจ๋วเลย จะเก็บก็ไม่ทัน" เสียงเอ่ยที่ไม่ได้ดัดให้หวานจ๋อยเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่นมีรอยความหงุดหงิด "เจ้าชายต้องฆ่าฉันแน่" ประโยคข้างท้ายอ่อนลงไป ชายหนุ่มนามลูอิสอดยิ้มไม่ได้
"แหมๆ เจ้าชายเขาไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นร้อก ยิ่งเป็นไนท์แมร์ผู้ไม่เคยพลาดสักสเต็ป เขาโปรดปรานเธออย่างกับอะไร" ลูอิสพูดเป็นเชิงปลอบ ไนท์ถอนหายใจ
"นอกจากนายกับเจ้าชาย ฉันก็ไม่มีใครแล้วลูอิส"
รถคันใหญ่ยังแล่นฉิวไปตามถนนสายเล็กๆที่มีไฟข้างทางไม่กี่ดวง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปสู่ถนนใหญ่ ไนท์ถอดเครื่องประดับทั้งหลายแหล่ออกเทใส่รวมกันในกระเป๋าถือ
"แปลก ดึกขนาดนี้รถยังแอบติดอีก" ลูอิสว่าก่อนจะหมุนพวงมาลัยด้วยมือเดียว แซงขึ้นไปให้ถึงด้านหน้า "โอ๊ะโอ..."
"อะไร" ไนท์ถาม ยื่นหน้าจากด้านหลังมาตรงกระจกรถชัดๆ ก่อนจะเห็นสาเหตุการชะลอตัวของรถบนถนน
"ด่านตรวจมาเร็วแฮะ"
หลอดไฟยาวสีแดงที่ตำรวจสองนายถือโบกอยู่กะพริบแวบๆ บอกสัญญาณอันตรายให้ทั้งสองตื่นตัว ลูอิสชะลอรถและค่อยๆจอดข้างทางเข้าแถวรอตรวจตามที่ตำรวจโบกมือ เขาเปิดลิ้นชักด้านข้างคนขับและดึงเสื้อหนาวสีดำออกมาโยนให้ไนท์ สาวน้อยรีบสวมมันทันทีและรูดซิบปิดถึงคอ ดูเผินๆเธอก็เหมือนคนใส่ชุดดำธรรมดา
"เธอมานั่งข้างฉัน"
"หา?"
"ปีนข้ามมานั่งข้างฉัน"
เสียงเข้มขึ้นเล็กน้อยทำให้ไนท์ต้องยอมทำตามอย่างเสียไม่ได้ "บ้าเอ๊ย!! ทำไมกระโปรงสมัยนี้มันต้องยาวเป็นทางรถไฟด้วยฟะ!" ร่างเล็กปีนข้ามมานั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างยากลำบาก "หลบหน่อยสิลูอิส"
"โอ๊ย!! ยัยเตี้ย! เธอเหยียบมือฉัน!!"
"โทษทีๆ ก็คนมันไม่ถนัดเรื่องกระโปรงยาวๆอย่างงี้นี่นา" ไนท์หัวเราะแหะๆ ข้ามมานั่งข้างเขาจนได้ ลูอิสเลื่อนรถไปถึงจุดตรวจและไขกระจกลง ไนท์เอียงหน้าแกล้งทำเป็นหลับทันที
"ขอตรวจด้วยคร้าบ~" เสียงตำรวจพูดยานๆเหมือนหุ่นยนต์ ลูอิสยิ้มให้อย่างเป็นมิตร สมกับเป็นพลเมืองดีที่ให้ความร่วมมือกับทางการ
"เชิญครับ ตรวจแอลกอฮอล์?"
"ครับผม แล้วช่วยเปิดกระจกให้หมดด้วยคร้าบ"
กระจกรถสี่บานเลื่อนลงอย่างเงียบกริบ ลูอิสมองไปรอบๆรถขณะที่ตำรวจส่องไฟฉายเข้ามา โชคดีที่รถคันนี้ออกแบบเพิ่มเติมให้ใต้เบาะหลังเป็นที่เก็บของได้ไนท์เลยเอากระเป๋าถือใส่ลงไปไม่เหลือร่องรอยแล้ว
พวกเขาเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์เสมอ รอบคอบ มีแผนสำรอง ตามอัตลักษณ์ของมาเฟียที่ทั้งชีวิตถูกฝึกฝนกันมาพื่อสิ่งนี้ นัยน์ตาสีดำคมของลูอิสหรี่ลงเพียงเล็กน้อยเมื่อแสงไฟฉายกราดไปตามเบาะที่นั่ง ฟังเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังฟี้เบาๆอย่างสมจริงของไนท์
"ไปไหนกันครับเนี่ย" ตำรวจถามเมื่อเก็บเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ไปแล้ว ลูอิสขยับยิ้ม
"กำลังจะกลับบ้านแล้วล่ะครับ เพิ่งไปปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนกันมา"
"โห.. ไปปาร์ตี้มาคุณไม่ดื่มเลยนะครับเนี่ย"
"ครับ วันที่ผมต้องขับรถกลับผมไม่ดื่ม แต่อย่างที่คุณตำรวจเห็นแหละครับ แฟนผมเล่นซะต้องหิ้วเลย" ไม่พูดเปล่าชี้มาที่ไนท์ ตำรวจตะเบ๊ะให้เขา
"ดีจริงๆครับ ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม" ท่องสโลแกนเสร็จสรรพก็เปิดแผงกั้น "เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคร้าบ~"
"ขอบคุณครับ"
ลูอิสไขกระจกขึ้น พอรถพ้นด่านตรวจปุ๊บ ยัยคนที่แกล้งหลับอยู่ข้างเขาก็สปริงตัวขึ้นมาอย่างสวยงาม
"มีวันไหนที่ฉันไม่ต้องตกเป็นแฟนนายหรือเจ้าชายมั่งไหม" ไนท์ถามลอยๆ ขยี้หัวตัวเองแกรกๆ "เริ่มคันแล้วอ่ะลูอิส ไหนบอกแชมพูยี่ห้อนี้ไม่คันไง"
"ที่ฉันเปลี่ยนให้ใหม่มันเป็น Shiseido ของญี่ปุ่นนะ! ของยุโรปกับอเมริกาก็ลองจนครบทุกยี่ห้อแล้ว เธอจะแพ้ยาสระผมทุกยี่ห้อเลยเรอะ!"
"ก็มันคันบรรลัยเลยอ้ะ ทั้งที่รังคงรังแคอะไรก็ไม่มี แกล้งหลับไปอยากเกาหัวไปนี่ทรมานใจนะ"
"ฮะๆ ยัยตัวเล็กเอ๊ย.. วันหลังฉันจะลองซื้อ Segreta มาให้ละกัน เห็นไดบอกว่าแฟนมันชอบซื้อ"
ไนท์ทำตาโต "ได!? หมอนั่นมีแฟนแล้วเหรอ! เห็นวันๆไม่เคยลุกจากหน้าจอคอม"
ทั้งสองคุยกันไปเล่นกันไป รถแล่นเรื่อยจนมาจอดที่ใต้ถุนอาคารการเคหะย่านช้อปปิ้ง ก้าวลงจากรถ ทันทีที่เท้าแตะถึงพื้น รถสีเงินข้างๆก็เปิดประตู ร่างสูงโปร่งในชุดรัดรูปคอวีก้าวลงมาหา
"เรียบร้อยไหมคะคุณน้องไนท์" เสียงยานคางที่ลูอิสฟังแล้วขนลุกซู่ทุกครั้งเพราะมันขัดกับภาพที่เห็นเหลือหลาย สาวผมทองอวบอึ๋มปากนิดจมูกหน่อยที่แต่งหน้าเต็มสตรีมอย่างเลิศ แต่กลับมีกล่องเสียง...แมนเกินร้อย
"แน่นอนสิคะเจ๊พิ้งค์กี้~" ไนท์ตอบกลับด้วยกระแสเสียงคล้ายๆกัน "แล้วฝ่ายรัสเซียจะจ่ายเท่าไหร่คะเนี่ย"
"อู๊ยยย! อย่าห่วงค่ะคุณน้องขา ซาร์คอฟทุ่มสุดฤทธิ์อยู่แล้วกับค่าหัวคุณชายเวย์น เดี๋ยวเจ๊จะจัดการส่งเงินเข้าบัญชีเจ้าชายสุดหล่อให้นะค้า~ ส่วนนี่เป็นสินน้ำใจที่ซาร์คอฟฝากมาให้ค่ะ -- เก็บดีๆนะคะคุณน้อง ได้ยินว่าสองแสนแน่ะค่า!" ผู้พูดป้องปากอย่างมีจริตจนลูอิสต้องหันไปอีกทาง(ประมาณว่ารับไม่ได้) ไนท์รับซองขาวผอมๆมาฉีกออก ก่อนจะเหลือบตาอ่านตัวเลขบนเช็คแล้วแลบลิ้นเลียปากแผล็บ ยิ้มร่าให้อีกฝ่าย
"แหม เจ๊รู้ดีที่สุดจริงๆด้วยค่ะ"
"กรี๊ด~!! จริงเหรอคะคุณน้องขา ตายแล้วเจ๊ก็นึกว่าซาร์คอฟท่านหยอกเล่นๆ อ๋ายๆ อิจฉาคุณน้องอ่าค่า~"
ก่อนที่สองสาว(?)จะส่งเสียงเป็นจุดเด่นไปมากกว่านี้ ลูอิสก็รีบขัดตาทัพ
"นี่ก็ดึกแล้ว กลับกันก่อนดีกว่า ขอบคุณที่มาส่งเงินให้นะครับ" เขาจับมือไนท์ลากให้กลับมาขึ้นรถ ไม่วายเจ้าหล่อนยังโบกมือให้อีกฝ่ายอีก
"ไปก่อนนะคะเจ๊ อย่าลืมโอนน้า"
"ล้านเปอร์เซนต์ค่ะคุณน้อง ไว้เจอกันใหม่นะค้า...คุณชายสุดเท่ห์ด้วยค่ะ จู๊บๆ~"
บรึ๋ย...ยังมาส่งจูบให้เขาอีก ลูอิสอยากจะตะโกนบอกแต่ก็ไม่กล้าพอ(กลัวโดนจุ๊บจริง) นี่ผู้ชายทั้งแท่งโว้ย! เขาคิดอย่างหงุดหงิด เสียงหัวเราะคิกๆดังมาจากเบาะข้างๆ
"หัวเราะอะไร"
"ทำไมต้องทำหน้าอย่างงั้นด้วยล่ะ เจ๊พิ้งค์กี้น่ารักจะตาย ขาว สวย ไม่หมวย แต่มหาอึ๋ม! ตรงสเป็คนายเลยนี่" ไนท์ทำหน้าบ้องแบ๊วสุดๆ เออ ได้เงินแล้วมีความสุขเหลือเกินนะ
"อย่ายั่วโมโหฉันยัยเตี้ย ถ้าไม่ใช่เพราะนังกะเทยนั่นเป็นตัวกลางระหว่างเรากับรัสเซียละก็ ฉันเก็บมันไปตั้งนานแล้ว รกหูรกตา"
"คิกๆ อย่าเพิ่งเข้าโหมดโฉดน่า เจ๊เขายังรอนายเสมอนะลูอิส ประหยัดทรัพยากรโลก มาบริโภคกะเทยเถอะพี่น้อง!!"
คำประกาศร่าเริงสุดๆทำให้ลูอิสใจอ่อนโมโหไม่ขึ้น เขาดุไนท์ไม่ลงเลยจริงๆ สำหรับเขาและคนอื่นๆ ไนท์เป็นน้องสาวตัวจ้อยที่มีหลายมุม และเป็นคนเดียวที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ
อาจเป็นเพราะในสายตาพวกเขา...เธอพบกับสิ่งเลวร้ายมามากพอแล้วก็เป็นได้...
รถเร่งความเร็วเมื่อออกมายังเขตชานเมืองที่ถนนโล่ง ย่านนี้ไม่ค่อยมีใครผ่านมาเท่าไรนัก หรือถ้าต้องผ่าน ก็มักจะพยายามเลี่ยงไปยังถนนเส้นอื่นแทนเส้นนี้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่ามีเสียงปืนลั่นขึ้นบ่อยๆตั้งแต่บ้านใหญ่บนเนินเขาที่ร้างมานานมีเจ้าของเข้ามาอยู่อาศัย หลังจากปล่อยทิ้งไว้เฉยๆเป็นเวลาหลายสิบปี
บ้านตระกูลคูเสค ตระกูลมาเฟียจากเดนมาร์กที่มีชื่อเข้าบัญชีดำของตำรวจสากล
ลูอิสจอดรถตรงลานกว้างด้านหน้าที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้แห้งกระจัดกระจาย ประตูรั้วเหล็กแข็งแกร่งมีโซ่เส้นหนาหนักคล้องไว้ มองลอดเข้าไปเห็นบ้านหลังใหญ่โบราณยืนทะมึนใต้แสงจันทร์เสี้ยว แทบทุกส่วนของรั้วเป็นสนิมไปหมดแล้ว เช่นเดียวกับกำแพงที่มีตะไคร่จับบ่งบอกความเก่าแก่ไม่มีคนใส่ใจของสถานที่แห่งนี้ สิ่งเดียวที่ดูใหม่เอี่ยมอ่อง คือเครื่องตรวจคนเข้าที่มีช่องสแกนลายนิ้วมือตรงริมประตูซึ่งเห็นได้ชัดว่าเพิ่งติดตั้งเมื่อไม่นาน
"ดูกี่ทีก็แอบสงสารแฮะ ตอนใหม่ๆบ้านนี้คงสวยมาก" ไนท์เอ่ยเหมือนเปรยลอยๆ วางนิ้วให้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ
ประตูเล็กเปิดออกช้าๆ ต้อนรับลูอิสและไนท์ มันปิดลงทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้าไป ไนท์ก้าวฉับๆขึ้นบันไดหินอ่อนที่เก่าเป็นสีออกเหลืองและหันหน้ากลับมา ลูอิสยืนรอนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน เขาโค้งให้เธอเล็กน้อย
"เจ้าชายคงรอเธออยู่ข้างในแหละ เจอกันที่ห้องไดนะ" เขาพูด ไนท์พยักหน้ารับกดปุ่มบนเครื่องตรวจบนประตู
"ไนท์แมร์ โค้ดเนมเอสคอร์ท" เสียงหวานรายงานด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเรียบ เครื่องส่งเสียงปี๊บ และค่อยๆแง้มออกให้เธอ แสงไฟสลัวลอดออกมา หญิงสาวก้าวเข้าไปด้านใน
"ไนท์"
เสียงเอ่ยเรียกอย่างสงบก้องไปมาน้อยๆ ร่างผู้พูดนั่งกึ่งนอนอยู่เหนือโซฟาบุหนัง ภายในบ้านถูกทำความสะอาดเป็นอย่างดีต่างกับภายนอกโดยสิ้นเชิง โคมระย้าส่องแสงเรืองสลัวเหมือนกำลังอยู่ในคฤหาสน์สมัยโบราณ ไนท์ก้มหน้าเล็กน้อย นัยน์ตาคู่สวยทอดมองร่างสูง
"เจ้าชาย"
เธอเอ่ยเหมือนจะให้เขาเริ่มบทสนทนาก่อน ชายหนุ่มหันหน้ามามอง นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคมปลาบเหมือนมองทะลุปรุโปร่ง สะกดทุกคนที่มองให้สยบต่อเขา ผู้เป็นเจ้าของฉายา เจ้าชายมาเฟีย
"เธอพลาด" น้ำคำเรียบง่ายเหมือนผิวน้ำนิ่งสงบ แต่ไนท์สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบภายใต้อารมณ์ที่เชี่ยวกรากลึกลงไป
"ฉันพยายามแล้ว" เสียงหวานอ่อนลงกว่าที่ใช้กับคนอื่น "ฉันไม่คิดว่าตำรวจบ้านั่นจะกล้าตามมา ฉ..ฉันเก็บเขาไม่ทัน"
"ฉันรู้" เจ้าชายเอ่ยต่อคำพูดเธอ ก่อนจะหันหน้าไปทางเดิมและผ่อนลมหายใจ "ช่างเถอะ มันก็ไม่ใช่ความผิดเธอซะทีเดียว" มือขาวจัดโบกไปที่โซฟาตัวเล็กข้างๆ "เอาของว่างอะไรหน่อยไหม เธอไม่ได้กินอะไรในงานเลี้ยงเลยนี่ มีไอศกรีมนิดหน่อย เดี๋ยวมาดามมิมส์คงเอามาให้"
"ขอบคุณนะ"
ไนท์ก้าวไปนั่งตรงที่ๆเขาเชิญ ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า 'เจ้าชาย'เอียงคอนิดหนึ่งขณะเพ่งมองเธอเหมือนประเมินค่า เขาเป็นบอสมาเฟียอิตาลีที่อายุน้อยที่สุดในรอบห้าสิบกว่าปี ร่างสูงสง่าในชุดสีดำล้วนและบุคลิกไว้ตัวทำให้เขาเหมือนเป็นเจ้าชายจริงๆ ผิวขาวซีดขับให้ดวงตาสีฟ้าเข้มยิ่งเด่นขึ้น ดวงตาที่ทำให้แม้แต่เหล่าตำรวจสากลก็ต้องหวาดเกรง ใบหน้าคมคายหล่อเหลาล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีบลอนด์อ่อนจนเกือบขาว ไม่มีตำหนิใดบนหน้าเขาเลยนอกจากรอยแผลสีจางเหนือหางคิ้วซ้าย
ไนท์จดจำทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าชายได้อย่างแม่นยำ เธอเป็นคนที่รู้ใจเขามากที่สุด และเคียงข้างเขาเสมอเหมือนเงาตามตัว จนบ่อยครั้งที่เธออยากจะออกไป 'ทำงาน'อะไรบ้าง สำหรับเจ้าชายแล้ว ไนท์สำคัญเกินกว่าจะเอาไปเสี่ยงกับเรื่องเล็กน้อยไร้สาระ เธอถูกสงวนไว้สำหรับงานที่ยาก และอันตรายมากกว่านั้น
"มาแล้วค่ะคุณหนู"
แม่บ้านร่างเล็กท้วมที่ทุกคนเรียกว่ามาดามมิมส์เดินเอาไอศกรีมช็อคโกแลตกับทรัฟเฟิลมาให้ไนท์ หญิงสาวพึมพำขอบคุณและยิ้มหวาน ช็อคโกแลตเป็นของโปรดอันดับหนึ่งของเธอ แม้ว่าหลายครั้งเจ้าชายจะบอกว่าคนที่ชอบช็อคโกแลตเป็นคนอ่อนไหวคิดมากก็ตาม ไนท์ก็ยังไม่เคยแสดงความอ่อนแออะไรให้เห็นเด่นชัด นัยน์ตาสีดำยังคงแน่วนิ่งและแฝงไว้ด้วยแววความร้ายกาจ แม้ท่าทางละเลียดไอศกรีมตอนนี้จะดูน่ารักชวนให้ร่างสูงขยับรอยยิ้มบางก็ตาม แต่ตัวตนของมาฟีออโซ่ที่ถูกฝึกฝนมาก็ฝังลึกยากที่จะเปลี่ยนแปลง
"ยิ้มอะไร" ไนท์ถาม เจ้าชายส่ายหัวเบาๆ
"เปล่า.. ทานเสร็จแล้วก็ขึ้นไปนอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอ"
"นายจะทำอะไรล่ะ"
"เช็คเรื่องกับซาร์คอฟนิดหน่อย ไม่รู้ว่าตกลงจะเอายังไงแน่" ร่างสูงลุกขึ้นยืน ยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง "ถ้าเรื่องมากโยกโย้นักจะได้ ‘เก็บ’ ให้เรียบร้อย"
ไนท์รับฟังและพยักหน้า เก็บก็คือฆ่า งานประจำของเธอนั่นเอง ร่างเล็กเพรียวลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูงและหมุนไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสาย ใส่ส้นสูงและปีนหน้าต่างบ้านคนนี่ตัดกำลังจนล้าเลยจริงๆ หญิงสาวถอดเสื้อหนาวสีดำออก พลันคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันเมื่อปลายนิ้วแตะถูกอะไรบางอย่างที่เอวด้านหลังของชุดราตรี มันไม่ใช่ตะขอ และชุดนี้ก็ไม่มีกระดุมนัยน์ตาสีดำสนิทเบิกกว้างเมื่อนึกขึ้นได้
ไอ้คนที่เดินมาชนเธอในงาน...
เวรเอ๊ย!!
ร่างเล็กกัดฟันกรอดขณะที่มือกำแน่นอย่างเจ็บใจนัก หมุนตัวกลับไปหาเจ้าชายที่มองเธอและเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
"เป็นอะไรไป"
คนตัวเล็กกว่าก้าวฉับๆเข้ามาประชิดเขาและหันหลังให้อย่างข่มอารมณ์สุดขีด ดวงตาสีฟ้าเข้มฉายแววงุนงงในตอนแรกก่อนจะค่อยๆเลื่อนต่ำลงมาปะทะกับสิ่งที่ทำให้ไนท์ทำสีหน้าอย่างนั้น รังสีความโกรธแผ่ออกมาทันทีอย่างน่ากลัวขณะกล่าวเสียงเย็นเยียบ
"เห็บหมาตำรวจ!"
มือใหญ่ตวัดลงมา กระชากเครื่องติดตามของตำรวจจากเอวบางและโยนขึ้นไปในอากาศ ปืนพกถูกดึงออกมาและเล็งไปอย่างแม่นยำ กระสุนจากปืนเก็บเสียงทำลายเครื่องจนไม่มีชิ้นดี ไนท์หันหน้ามาหาเขา ริมฝีปากบางพึมพำอย่างขัดใจ
"บ้าที่สุด มันได้ยินอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ ป่านนี้คงตามมาแล้วแน่ๆ"
"รีบไปเก็บของซะ -- แล้วสำรวจด้วยว่าเธอไม่มีไอ้เห็บแบบนี้ติดมาอีก" เจ้าชายพูดเย็นๆ ส่งสัญญาณมือให้พวกการ์ดซึ่งยืนอยู่ตามมุมมืดออกมารับคำสั่ง "บอกทุกคนให้เก็บของเดี๋ยวนี้ เราจะไปฐานที่ปาแลร์โม"
"ปาแลร์โม? ซิซิลีน่ะนะ" ไนท์ถามเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ คนเพิ่งไปทำงานเหนื่อยๆมาจะให้ขึ้นเครื่องบินอีกแล้วเรอะ ใช้กันเถลือกไถลชะมัด เจ้าชายหันมามองเธอ
"ถ้าอยากเสี่ยงอยู่เป็นผีเฝ้าบ้านที่นี่ให้ฉันก็ตามใจเธอ ตัวเล็ก"