บทที่ 11 โดนสูบพลัง
เหวินซีแม้จะเจ็บปวดไม่น้อยแต่ยังสามารถบังคับร่างกายให้หลบหนีจากสิ่งชั่วร้ายได้ โชคดีที่นางมีหยกสีนิลของท่านใต้ซือไม่เช่นนั้นคงแย่ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
แต่ถึงกระนั้นเจ้าวิญญาณชั่วร้ายมันก็ยังไม่ยอมแพ้ แม้มันจะเจ็บปวดจากการถูกหยกเล่นงานก็ตาม มันตามร่างเล็กที่เป็นเป้าหมายหากมันได้พลังไอปีศาจในตัวเด็กหญิงผู้นั้นมันก็จะมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้น และมันก็จะได้เป็นปีศาจที่วิญญาณทั้งหลายต้องเกรงกลัว อย่าว่าแต่วิญญาณเลยแม้กระทั่งมนุษย์เองก็ยังต้องเกรงกลัวมัน
ไอปีศาจที่แข็งแกร่งสามารถทำให้พลังชีวิตแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นยังรวมถึงกายหยาบของมันที่จะสามารถปรากฏกายได้อย่างเฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป
“เจ้าเด็กน้อยเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกฮ่า ๆ ๆ” เสียงทุ้มเย็นฟังให้ชวนน่าขนลุกเอ่ย จากนั้นเพียงชั่วพริบตามันก็มาอยู่ตรงหน้าของเหวินซีแล้ว
บัดซบยิ่งนัก!! ขาเล็ก ๆ ของนางมันช่างวิ่งได้ไม่ถึงไหนเลย เหวินซีมีจุดมุ่งหมายที่วิ่งออกไปนั่นก็คือวิ่งไปหาใต้ซือหลุนนั่นเอง แต่นางลืมคิดไปว่าสองขาเล็ก ๆ ของนางจะไปสู้วิญญาณตนนี้ได้อย่างไร
“อย่าเข้ามา อย่าหาว่าข้าไม่เตือน” เหวินซีใจกล้าเอ่ยขู่วิญญาณร้ายตรงหน้า มือเล็กพลางจับสร้อยหยกที่ห้อยคออยู่ชูขึ้นเพื่อให้วิญญาณร้ายเกรงกลัว
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นวิญญาณร้ายมันเพียงสะบัดมือสายลมวูบหนึ่งก็พลัดอย่างรุนแรงมันทำให้สร้อยคอของเหวินซีขาดแล้วกระเด็นออกไปไกล เหวินซีมองตามสร้อยหยกที่ขาด พร้อมกับก้าวเท้าเพื่อหมายจะเข้าไปหยิบชิ้นหยกนิล แต่ร่างเล็ก ๆ ของนางก็ลอยหวืดขึ้นกลางอากาศ
“เสี่ยวซี!!”
อี้ปินวิ่งตามออกมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อมาถึงก็พบกับร่างของเสี่ยวซีลอยอยู่กลางอากาศ มือเท้าของนางตะเกียกตะกายอย่างทุลักทุเล อี้ปินถึงแม้จะตกใจกับภาพที่เห็น แต่เขาก็ยังสามารถรวบรวมสติได้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วทำไมเสี่ยวซีถึงได้ลอยตัวอยู่บนอากาศเช่นนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นวิญญาณก็ตาม
“พี่อี้ปินหยิบสร้อยหยกตรงนั้น...” เหวินซีเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายร่วมโลกก็เอ่ยสั่งเขาทันทีพลางชี้นิ้วมือบอกจุดที่สร้อยหยกตกอยู่อย่างยากลำบาก
อี้ปินมองไปตามมือเล็กที่ชี้บอกเขาเห็นสร้อยหยกของเสี่ยวซีตกอยู่ ไม่รอช้าจึงสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว วิญญาณร้ายรับรู้ทุกการกระทำของมนุษย์มีหรือที่มันจะยินยอมโดยง่าย ก่อนที่อี้ปินจะถึงจุดที่สร้อยหยกตกอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็เหมือนโดนกระแทกอย่างรุนแรงจนกระเด็นออกมาไกลจนกระอักเลือดออกมา
“มอบพลังชีวิตของเจ้ามาให้ข้าเสียโดยดี เจ้าจะได้ไม่ต้องทรมานอีก” ไม่พูดเปล่ามันใช้พลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของมัน บังคับให้เด็กน้อยอ้าปากและสูบพลังชีวิตที่มีไอปีศาจเข้าไปยังร่างกายของมัน
เหวินซีหมดแรงจะดิ้นหนี อี้ปินแม้ร่างกายจะบอบช้ำแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามยันตัวขึ้นแล้วค้นหาของขลังที่พกติดตัว ข้าวสารเสก...อี้ปินรวบรวมกำลังเดินปรี่เข้ามา เขาคาดคะเนได้ว่าวิญญาณร้ายมันอยู่ตรงไหนไม่รอช้ามือใหญ่กำข้าวสารเสกแล้วขว้างออกไปทันที
“อ๊ากกก” เสียงร้องโหยหวนดังลั่นแต่กระนั้นมันก็ยังไม่ยอมปล่อยร่างของเหวินซีลงมาง่าย ๆ อี้ปินหวังจะใช้ข้าวสารเสกอีกรอบเพราะเมื่อครู่เขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนชวนน่าขนลุก แสดงว่าข้าวสารเสกของอาจารย์หลุนได้ผล
“อั่กกก” ยังไม่ทันที่อี้ปินจะได้ลงมืออีก ครานี้ร่างของเขาก็กระเด็นไปอีกทิศทางหนึ่งและดูเหมือนว่าครานี้จะรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อครั้งก่อน อี้ปินกระอักเลือดออกมาคำโตจากนั้นก็สลบลงไปทันที
“พี่อี้ปิน อื้อ...” เหวินซีมีเวลาให้เรียกชื่อพี่ชายร่วมโลกเพียงเท่านั้น เพราะเวลาต่อมานางก็โดนวิญญาณร้ายดูดกลืนพลังชีวิตต่อไป
“หยุดมือเถิด อาตมาขอบินฑบาตร...” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“อย่า...มา...ยุ่ง” วิญญาณร้ายเอ่ยออกมาด้วยท่าทีหงุดหงิดที่มีคนเข้ามาขัดขวางไม่เลิกรา ไม่เอ่ยเปล่ามันอ้าปากกว้างแล้วเป่าลมใส่ใต้ซือหลุน เกิดลมหมุนอย่างรุนแรงพัดเข้าใส่ร่างของใต้ซือหลุนจนเซถอยหลังไปหลายก้าว
เมื่อเห็นว่าพูดเตือนแล้วไม่ฟังใต้ซือหลุนจึงต้องทำตามขั้นต่อไป ใต้ซือหลุนท่องคาถาพร้อมกับมือที่นับลูกประคำทีละลูก ๆ เมื่อวิญญาณร้ายได้ยินเสียงสวดคาถาที่กรีดลึกเข้าไปยังโสตประสาทของมันจนหัวแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ มันทิ้งร่างเล็กที่อยู่ในมือร่วงลงพื้นแล้วเอามืออุดหูทั้งสองข้างของมัน
“อ๊ากกกก”
เสียงกรีดร้องดังโหยหวนออกมาจากวิญญาณร้าย เสียงของมันดังก้องกังวานชวนน่าขนลุก เหวินซีรวบรวมกำลังอันน้อยนิดของตนขยับร่างกายมาใกล้ใต้ซือหลุนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากนางนัก
ใครจะอยากอยู่ใกล้เจ้าตัวอัปลักษณ์นี่กัน นางมีหนทางย่อมต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้
ใต้ซือหลุนหยิบลูกแก้วส่งวิญญาณขึ้นมา ปากก็ยังสวดคาถาไม่หยุด ลูกแก้วเรืองแสงสีขาวออกมาวิญญาณร้ายส่งเสียงกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างของมันจะถูกดูดเข้ามายังลูกแก้ว แสงของลูกแก้วดับลงตอนนี้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเหวินซี” ใต้ซือหลุนเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ข้าน้อยยังไหวเจ้าค่ะท่านใต้ซือ แต่พี่อี้ปิน...” เหวินซีเอ่ยพร้อมกับมองไปทางร่างของอี้ปินที่นอนสลบไสลไม่ได้สติ
“เจ้าพอลุกเดินเองไหวหรือไม่” ใต้ซือหลุนเอ่ยถาม
“พอไหวเจ้าค่ะ” เหวินซีเอ่ยตอบ
“เช่นนั้นเจ้าตามอาตมาไปยังหอสมาธิเถิด” เอ่ยจบใต้ซือหลุนก็เดินไปยังร่างของอี้ปินแล้วช่วยพยุงร่างขึ้นมา ทั้งสามเดินมายังหอฝึกสมาธิ คืนนี้คงต้องพักกันอยู่ที่นี่เพราะด้านนอกนั้นยังไม่อาจไว้วางใจได้ ไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณใจกล้าตนใดกล้าลองดีเข้ามาก่อกวนอีก
ใต้ซือหลุนตอนนี้เป็นทั้งผู้คุ้มกันและยังเป็นหมอรักษาคนป่วยถึงสองคน แต่เอาเถิดอะไรที่ช่วยได้ก็ย่อมต้องทำ เขาเป็นนักแสวงบุญและอีกไม่นานเขาจะต้องเดินทางไกลคงไม่แคล้วต้องนำทั้งสองคนตรงหน้าติดตามไปด้วย หากปล่อยเอาไว้อย่างนี้คงไม่อาจรอดชีวิตแน่
ใต้ซือหลุนเป็นนักบวชที่เดินทางแสวงบุญช่วยเหลือชาวบ้านไปทั่วและไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดมุ่งหมายค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่นโดยมีศิษย์ของเขาคอยติดตามไปด้วย และเมื่อครบแปดเดือนก็เดินทางกลับมายังอารามเส้าหมิงพำนักอยู่ที่นี่สี่เดือน จากนั้นก็เริ่มเดินทางต่อ
แต่ไม่นานมานี้มีเทพตัวน้อยที่มาอยู่ในความดูแลของตน จะปล่อยให้นางอยู่คนเดียวที่อารามก็อันตรายเกินไปถ้าหากเดินทางไปด้วยกันอันตรายมีมากเช่นกัน แต่ถึงจะอันตรายมากแค่ไหนก็ยังมีตนคอยดูแลปกป้องนางได้ จนกว่าพลังเทพของนางจะฟื้นคืนตนจะต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
“ต่อไปนี้เจ้าต้องมานอนที่นี่ทุกวันเข้าใจหรือไม่” ใต้ซือหลุนเอ่ยบอกเทพตัวน้อย
“ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านใต้ซือ เหวินซีขอบคุณท่านใต้ซือมากที่ช่วยเหลือ” เหวินซีเอ่ยอย่างรู้ความ นางสัมผัสได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมาจากตัวของใต้ซือหลุน นักบวชผู้นี้จิตใจเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมความดีงามอย่างหาที่สุดไม่
เหตุการณ์ในคืนนี้นับว่ายังโชคดีที่เหวินซีได้รับความช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นนางอาจโดนสูบวิญญาณไปจนหมดสิ้น นอกจากใต้ซือหลุน อี้ปินและเหวินซีแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนเดือนดับที่ผ่านมานั้นไม่มีชาวบ้านรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย เพราะอารามวัดเส้าหมิงอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร จะมีก็เพียงผู้ที่อาศัยอยู่ในอารามแต่ก็ไม่มากนักเพราะทุกคนต่างก็อยู่เรือนพักที่ค่อนข้างห่างไกลกันพอสมควร
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเหวินซีก็ตั้งใจฝึกสมาธิให้มากขึ้น ทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะนางอยากให้พลังเทพกลับมาโดยเร็ว อีกส่วนหนึ่งที่นางมุ่งมั่นเอาไว้ก็คือนางอยากต่อสู้กับวิญญาณร้ายทุกตัวที่ต้องการทำร้ายนางและตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนั่นก็คือปีศาจตงสิง และนางรับรู้เรื่องที่วิญญาณร้ายต้องการไอปีศาจในตัวของนางแล้วเช่นกัน