บทที่ 7 ทำกับข้าว
หยางจื่อเหยียนต้องการสั่งวัตถุดิบปรุงอาหารจึงเอ่ยถาม
"ท่านพอจะให้คนจัดเตรียมของเหล่านี้ให้ข้าได้หรือไม่"
พ่อบ้านหาวก้มตัวลงเอ่ยอย่างนอบน้อม
"เชิญพระชายาสั่งได้เลยขอรับ บ่าวจะให้คนรีบจัดการให้"
"อ้อก่อนอื่น วันนี้ท่านอ๋องอยู่หรือไม่"
พ่อบ้านหาวพยักหน้า "ขอรับเพิ่งกลับมาจากเฝ้าฝ่าบาท"
หยางจื่อเหยียนพยักหน้า ต้องถามก่อนว่าคนกินอยู่หรือไม่ นางยิ้มงดงามท่าทางอ่อนหวาน
"เช่นนั้นเจ้าไปนำคำข้าไปแจ้งองครักษ์ของท่านอ๋อง ว่าเย็นนี้ข้าจะทำอาหารจานพิเศษโดยเฉพาะให้ท่านอ๋อง"
"ขอรับ ประเดี๋ยวข้าน้อยจะนำคำไปแจ้งด้วยตนเอง"
เมื่อกระดาษพูดกันพร้อม หยางจื่อเหยียนจึงเริ่มสั่งของ ส่วนผสมหลายอย่างถูกจดลงไป แต่ละอย่างล้วนไม่คุ้นเคยนักแต่พ่อบ้านก็จดทุกสิ่งลงบนกระดาษโดยไม่มีตกหล่น
"ซื้อทุกอย่างมาตามนี้"
"ขอรับ บ่าวจะให้คนรีบนำไปที่ร้านขายวัตถุดิบขอรับ"
หยางจื่อเหยียนอยู่ในร่างของเด็กนี่มาตั้งแต่อายุห้าขวบ ย่อมต้องเรียนรู้และคุ้นเคยว่าที่นี่มีสิ่งใดหรือไม่มีสิ่งใด และคืนนี้นางจะทำเมนูพิสดารที่รับรองว่าอ๋องแปดไม่เคยลิ้มรสมาจากที่ใด
"บะหมี่ผัดไข่ซีฟู้ด บะหมี่ซีฟู้ด และน้ำแตงโมปั่นที่ข้าได้สูตรมาจากเมืองไทย โชคดีที่ยามนี้ใกล้หน้าร้อนแล้วยังมีแตงโมให้ทำน้ำแตงโมปั่นอยู่บ้าง คอยดูเถอะ ท่านอ๋องแปดถ้าไม่อ้าปากค้างเพราะอร่อยก็ให้มันรู้ไป เมนูง่าย ๆ ที่ไม่มีใครทำเป็นนอกจากข้า"
อาหลัวยิ้มรับและพยักหน้า จริง ๆ นางก็เช่นเคยไม่เข้าใจคำพูดของคุณหนูแม้แต่คำเดียว แต่บัดนี้นางเองก็ขี้เกียจซักไซ้คุณหนูแล้ว
เดิมทีที่จวนของหยางกั๋วกง หยางจื่อเหยียนมักจะทำเมนูนี้กินในตอนที่เบื่อ ๆ เพราะตัวเองคิดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงได้คิดค้นวิธีการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา
ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนเป๊ะ แต่ว่าใกล้เคียงเป็นอย่างมาก กระทั่งวัตถุดิบมาถึงหยางจื่อเหยียนจึงลงมือทำอย่างคล่องแคล่ว
เพราะไม่มีแป้งสาลีนางจึงใช้แป้งหมี่ขาวแทนนับว่าพอถูไถไปได้ หลังจากนั้นก็ใช้ไข่ผสมแล้วนวดจนได้ที่ก่อนจะใช้ไม้กลมรีดจนเป็นแผ่น ค่อย ๆ ตัดเป็นแผ่นอย่างตั้งใจ เอามาวางเรียงกันในกล่องขนมจนได้ปริมาณแล้วนำไปนึ่ง
หลังจากนั้นจึงลงมือซอยต้นหอมด้วยความชำนาญ ทำน้ำซุปทะเลที่ใช้เนื้อกุ้งสดตัวโตปลาหมึกตัวใหญ่และเนื้อปลาชิ้นโต นางทำน้ำซุปเสร็จก็ราดน้ำซุปลงไปในเส้นบะหมี่ที่กำลังนึ่งจนมันชุ่มด้วยน้ำซุป เมื่อแป้งสุกนำลงจากเตาหลังจากนั้นรอให้แป้งเย็นได้ที่จึงนำลงไปทอดด้วยน้ำมันร้อน ๆ ก่อนจะกลายเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
กว่าบะหมี่จะได้ที่ก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี คนในห้องครัวต่างทึ่งกับฝีมือการทำอาหารอันแสนชำนาญของนาง เมื่อยามที่หยางจื่อเหยียนใช้บะหมี่ที่พึ่งทำสำเร็จลงมาผัดไข่และยังใส่กุ้งตัวโตลงไปกลิ่นก็หอมฟุ้งไปทั้งครัว
หลังจากนั้นนางก็เริ่มลงมือทำบะหมี่ซีฟู้ดให้อ๋องแปด เพียงแค่นำเส้นบะหมี่ที่ทอดเสร็จและเย็นตัวจนกรอบแล้วลงไปต้มให้เส้นเหนียวนุ่ม หลังจากนั้นราดน้ำซุปซีฟู้ดอันประกอบด้วยกุ้ง หอย เนื้อปูชิ้นโต และเนื้อปลาที่เลาะก้างออก แล้วนำหอมต้นใหญ่ซอยหยาบโรยหน้าใส่กระเทียมที่เจียวจนเหลืองหอมลงไปเท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้น
พ่อครัวของจวนถึงกับมองนางไม่วางตา ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเห็นอาหารที่แปลกใหม่และสีสันสวยงามน่ากินเพียงนี้ เขาถึงขั้นคุกเข่าขอสูตรนี้จากพระชายาและเขาเองก็หลั่งน้ำตาออกมาเมื่อพระชายาเอ่ยว่า
"เอาไว้ว่าง ๆ ข้าจะมาสอนให้เจ้าทำดีหรือไม่"
เพียงเท่านั้นคอของเขาที่โขกพื้นด้วยความรู้สึกซาบซึ้งก็แทบจะหักลงมาแล้ว
"น้ำแข็งอยู่ที่ใดข้าจะทำน้ำแตงโมปั่น"
บ่าวนำแตงโมที่ผ่าเปลือกและนำเมล็ดออกจนหมดแล้วให้นาง หยางจื่อเหยียนจึงสั่งให้บ่าวบดแตงโมจนละเอียดและทุบน้ำแข็งจนละเอียดเช่นกัน ก่อนที่นางจะนำสองอย่ามาผสมกันราดด้วยน้ำผึ้งหอมหวาน เดิมเนื้อแตงโมก็หวานฉ่ำอยู่แล้วเมื่อราดด้วยน้ำผึ้งผสมกับน้ำแข็งที่ทุบจนละเอียดจึงทำให้รสชาติหวานพอดีหอมและชุ่มคอเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อได้น้ำแตงโมปั่น นางเทใส่จอกทรงสูงเพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่มีเครื่องแก้วสีใส ไม่เช่นนั้นผลงานของนางคงจะประณีตกว่านี้
อาหารเรียบร้อยพร้อมยกขึ้นโต๊ะ หยางจื่อเหยียนก็ไม่มีเวลากลับไปอาบน้ำทำตัวหอมฟุ้งอย่างที่ตั้งใจแล้ว ที่ทำได้คือล้างหน้าล้างตาเอาคราบเหงื่อไคลออกเสียและผัดแป้งเติมชาดเล็กน้อยเดินนำบ่าวไปที่เรือนของอ๋องแปด
ใจของนางตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย นี่นับเป็นครั้งที่สองที่นางได้พบหน้าเขาหลังจากวันแรกที่เหยียบเข้ามาในจวนที่อ้างว้างแห่งนี้
เขาไม่มีอนุ เขาไม่มีสตรีข้างห้อง เขาไร้บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ นางอยู่อย่างอิสระ ผิวเผินคือดีแท้แต่เหตุใดในใจของนางนับวันจึงรู้สึกอ้างว้างเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สู้ต่างคนต่างอยู่ปล่อยนางไปเป็นอิสระจะดีหรือไม่
การทำอาหารของนางครานี้ความจริงเพื่อที่จะแลกกับอิสระของตนเองและข้อมูลเล็กน้อยที่เขาพอจะช่วยนางได้เพราะนางรู้ตัวเองดีว่านางไม่มีปัญญาจะไปสืบข่าวของเขาเป็นแน่