บทที่ 6 วิธีเอาใจ
หลังจากเข้าหอเพียงลำพังมาได้หลายวัน หยางจื่อเหยียนก็ไม่ได้พบหน้าพระสวามีอีก นางรู้สึกเป็นอิสระอย่างยิ่ง พ่อบ้านหาวเองจัดเรือนท้ายจวนให้นางอยู่ เรือนนี้เป็นเรือนหลังใหญ่โตไม่น้อยแยกเป็นสัดส่วนและมีสวนเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง
ที่สำคัญอยู่ไกลกับตาอ๋องแปดขี้เก๊กคนนั้นคนละฟากฝั่ง สมใจนางแล้ว จะกินจะนอนยังไงก็ไม่มีใครว่า แต่ความสุขของนางดูเหมือนจะพังทลายลง เมื่อนางได้รับสารลับจากไทเฮา
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ให้เจ้าสืบข่าวเรื่องอ๋องแปดมาให้ได้มากที่สุด อย่าลืมว่าชีวิตของเจ้าอยู่ในกำมือของข้า"
หยางจื่อเหยียนถอนหายใจ ชูกำปั้นขึ้นมาแล้วทุบที่กระดาษจดหมายหลายครั้ง
"คุณยายอำมหิตคนนี้เอะอะก็จะฆ่าแกงกัน ทำไมต้องบังคับกันด้วยฉันอยู่ของฉันดี ๆ แท้ ๆ แล้วจะให้ฉันสืบอะไรล่ะ อ๋องแปดไม่ต่างจากนินจาเหมือนเขาจะหายตัวได้ด้วย"
หยางจื่อเหยียนถอนหายใจบ่าวรับใช้คนสนิทนามว่าอาหลัวที่ติดตามนางมาจากจวนกั๋วกงฟังนางพร่ำเพ้อแล้วก็ส่ายหน้า คำพูดของคุณหนูแปลกประหลาดมานาน อาหลัวเคยชินแล้วแต่ก็ยังอยากรู้
"นินจาคือสิ่งใดเจ้าคะ"
หยางจื่อเหยียนทำเสียงจิ๊จ๊ะ
"ก็พวกที่หายตัวได้ ไปมาเร็วยังกะผีประมาณนั้น"
อาหลัวเข้าใจ เพราะนางอ่านหนังสือไม่ออกคุณหนูมีความรู้กว้างขวางอาหลัวจึงเชื่อคุณหนูทุกคำพูด
"อาหลัวข้าจะทำยังไงดีถึงจะเข้าใกล้ท่านอ๋องได้ หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยนะ กระทั่งกลับไปเยี่ยมท่านพ่อเมื่อแต่งครบสามวันเขายังไม่ไปกับข้าเลย เจ้าจะให้ข้าทำยังไง"
อาหลัวเองก็คิดไม่ออก นางจึงเอ่ยอย่างซื่อ ๆ
"สามีภรรยาทั่วไปมักจะต้องรับประทานอาหารร่วมกัน แต่คุณหนูกับท่านอ๋องก็มิเคยร่วมรับประทานอาหารด้วยกันสักมื้อ"
หยางจื่อเหยียนดีดตัวขึ้นมาจากเตียงทันใด
"ใช่ กินข้าวกัน ข้าทำกับข้าวให้เขากินดีกว่า อย่างน้อยข้าก็มีความสามารถด้านนี้รับรองเขาต้องติดใจแน่นอน จากนั้นค่อยสานสัมพันธ์เพิ่มขึ้นหากเขากับข้าสนิทกันแล้วเรื่องหย่าก็คงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ"
หยางจื่อเหยียนกระหยิ่มในใจ โลกเดิมของนางคือแม่ครัวแห่งบ้านเด็กกำพร้า เธอเข้าครัวช่วยแม่ครัวตั้งแต่เด็กจนโต กระทั่งย้ายออกมาก็ยังทำอาหารไปกินเองเพื่อประหยัด หลายคนได้ชิมฝีมือของเธอยังยุให้เธอเปิดร้านอาหารเลย
เอาล่ะ ได้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์แล้ว
หยางจื่อเหยียนอ่านสารลับของไทเฮาแล้วเก็บเอาไว้ นางไม่ได้เผาทิ้งตามรับสั่งเพราะหากจวนตัวและถูกจับได้ อย่างน้อยจดหมายพวกนี้ก็ยังพอให้นางได้แก้ตัวว่าถูกไทเฮาบังคับไม่อย่างนั้นจะถูกฆ่าตาย
นางไม่ได้โง่ต้องหาทางหลบหนีให้ดี โบราณท่านว่ารู้หลบเป็นหลีกรู้ปีกเป็นหาง อะไรประมาณนี้แหละ
เป็นครั้งแรกที่หยางจื่อเหยียนเดินมาถึงโรงครัว ในวันที่สองที่นางมาอยู่ที่นี่พ่อบ้านหาวก็พาคนทั้งหมดมาพบนางแล้ว และยังอธิบายว่าผู้ใดทำหน้าที่ใดบ้าง หยางจื่อเหยียนอดชื่นชมพ่อบ้านไม่ได้ จวนอ๋องแปดดูแลเข้มงวด บ่าวอยู่อย่างเจียมตนไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินนางแม้แต่คนเดียว
หยางจื่อเหยียนกลับโบกมือพูดด้วยรอยยิ้ม นางไม่คิดหาเรื่องใส่ตัวเพราะไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่นานอยู่แล้ว
"ให้พ่อบ้านหาวจัดการเช่นเดิมเถิด ข้าเพิ่งเข้าจวนมายังต้องพึ่งพาพ่อบ้านเช่นเดิม"
เมื่อรู้ว่าพระชายาไม่ก้าวก่ายเรื่องในจวนพ่อบ้านหาวดีใจเป็นอย่างยิ่ง อำนาจจึงยังอยู่ในมือของเขา พระชายาผู้นี้งดงามท่าทางเฉลียวฉลาดและดูคล้ายจะขี้เกียจไม่ต้องการหยิบจับสิ่งใดเลย เช่นนั้นก็ดียิ่ง