บทที่ 4 ท่านอ๋อง
น้ำเสียงนั้นทั้งดุดันและเย็นชา เขามิได้มองหน้าหยางจื่อเหยียนด้วยซ้ำเพียงแต่มองกระดาษในขณะที่ทุกคนเงียบกริบเขาก็ก้มลงหยิบพู่กันแล้วตวัดมือรวดเร็วลงนามในหนังสือสมรสก่อนจะโดนพู่กันทิ้งแล้วหันหลังจากไปทันที
เป็นครั้งแรกที่หยางจื่อเหยียนได้พบคนผู้นี้ แม้ว่าในใจจะอุทานซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
โอ้โห ผู้ชายคนนี้ทำไมหล่อวัวตายควายล้มได้ขนาดนี้ นางก็ยังคงยืนนิ่ง
โชคดีนักที่มีผ้าคลุมหน้าสีแดงนี่ จึงทำให้เขาไม่เห็นปากที่อ้าขึ้นด้วยความตกตะลึง และน้ำลายที่ไหลยืดจนแทบจะหยดลงพื้นของนาง
เอาล่ะ ได้สามีหล่อเหลานับว่าคุ้มแล้ว แต่ทว่าสามีผู้นี้กลับทำให้อากาศในตอนนี้คล้ายจะติดลบไปแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเขาช่างเย็นชาประดุจน้ำแข็งของจริง ผิวพรรณขาวเนียนประดุจกระเบื้องเคลือบ ดวงตาดำขลับที่มองเช่นไรก็ไม่ถึงก้นบึ้ง ลึกลับและน่าค้นหาในขณะเดียวกันก็ชวนให้ขนลุกยิ่งนัก
ริมฝีปากของเขาคล้ายจะซีดแต่กลับมีสีระเรื่อด้านใน ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน เหมือนว่าหยางจื่อเหยียนกำลังได้พบกับแวมไพร์ตัวเป็น ๆ แล้ว
หล่อเหลาเย็นชาและน่ากลัวที่สุด
หยางจื่อเหยียนมองชุดของเขาแล้วถอนหายใจเบา ๆ เอาเถิดเขาไม่ไว้หน้านางจริง ๆ กระทั่งงานมงคลยังใส่ชุดคลุมสีดำทั้งตัว
"ท่านอ๋องฉีไป่อวี้หรือ"
นางถามออกมาแผ่วเบา พ่อบ้านจึงพยักหน้าสีหน้าเขาเองก็มิสู้ดีนักที่พระชายาเอ่ยนามของท่านอ๋องออกมาตรง ๆ
"ขอรับพระชายา"
หยางจื่อเหยียนเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ
"ที่แท้การป่วยก็โกหกนี่เอง หาเรื่องไม่อยากแต่งจนออกนอกหน้า คนอะไรเย็นชาที่สุด"
ดูเหมือนว่าอ๋องแปดเขาไม่ทักทายนางไม่พอ หลังเขียนชื่อเสร็จก็สะบัดผ้าเหมือนจะเดินจากไป หยางจื่อเหยียนไม่ยอมแน่ ถึงเขาจะไม่เตะเกี้ยวเจ้าสาว ถึงเขาจะไม่ยอมเคารพฟ้าดินแต่เขาก็ควรจะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้นางสักหน่อย
ก่อนที่เขาจะเดินจากไปนางพลันคว้ามือของเขาเอาไว้
"ช้าก่อนท่านอ๋อง"
อ๋องแปดมองมือเรียวคู่นั้นที่โผล่ออกมาจากอาภรณ์สีแดง พบว่ากระทั่งเล็บของนางยังเคลือบด้วยสีแดงจนตัดกับสีผิวอย่างงดงาม
แต่เขามิใช่คนที่ชอบชื่นชมสตรี เขายกยิ้มหยันแล้วเตรียมสะบัดมือนางทิ้ง
"ท่านเข้าห้องกับข้าตอนนี้ เข้าหอกัน"
คำพูดของนางทำให้บ่าวรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าต่างหน้าแดง กระทั่งแม่สื่อยังอ้าปากค้าง หยางจื่อเหยียนมองไปรอบ ๆ
"พ่อบ้านเรือนหอของข้าอยู่ที่ใด"
พ่อบ้านปาดเหงื่อ แน่นอนว่าเขามิได้ตระเตรียมไว้แน่ด้วยไม่มีคำสั่งอันใดจากท่านอ๋อง หยางจื่อเหยียนมองไปรอบ ๆ
"ไม่มีห้องหอ เช่นนั้นเรือนพักท่านอ๋องอยู่ที่ใดข้าต้องเข้าหอแล้ว"
หยางจื่อเหยียนจำต้องให้อ๋องแปดผู้นี้เปิดผ้าคลุมหน้าของนางให้ได้ เพื่อที่การแต่งงานตามรับสั่งครานี้จะเสร็จสมบูรณ์ นางจับจูงมืออ๋องแปดแต่เขากลับยืนนิ่งไม่ไหวติง
หยางจื่อเหยียนกัดปาก
"ท่านไม่เตะประตูเกี้ยวก็ดี ไม่เข้าพิธีไหว้ฟ้าดินก็ช่าง แต่ท่านลงนามในหนังสือแต่งแล้ว ต่อไปก็ทำให้เสร็จสิ้นเถิด เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแล้วอยากไปที่ใดก็ไป"