บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 แก้ข่าว!!

ลู่หลิงฟางเดินออกมาเพราะนางได้ยินเสียงเอะอะพร้อมกับคนที่เริ่มซุบซิบกันอยู่ด้านนอกโดยที่พวกนางไม่ทันได้สังเกต

ลู่หลิงฟางหันไปสอบถามฟางชิงชิงที่ดูเป็นห่วงน้องสาวนางแต่กลับถามเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายจนนางนึกแปลกใจว่าแม่นางจางผู้นี้หวังดีกับน้องสาวนางจริงหรือไม่

“พระชายา หม่อมฉันเพียงแค่ เป็นห่วง…เรื่องข่าวลือในคืนนั้นทั้งเมืองหลวงต่างร่ำลือไปมากมายแต่ไม่มีผู้ใดออกมาแก้ต่างเลย”

“งั้นหรือ พวกเขาร่ำลือ พวกเขาของเจ้าน่ะ คือผู้ใด”

“คือว่า..เรื่องนี้ คนทั้งเมืองหลวงต่างเล่าลือกันไป หม่อมฉันชี้ตัวไม่ชัด ไปหานางก็ไม่มีคำตอบ หม่อมฉันก็จนปัญญาจะแก้ต่างให้เพคะ”

“ข้าถามว่าพวกเขาร่ำลือว่าอย่างไร”

“ว่า หลิงเฟยถูกคนร้ายย่ำยีจนสาวใช้นางตายเพคะ ข้าเองก็ฟังเขามาอีกที แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าในคืนนั้นมีผู้ใดเป็นพยานให้นางว่านางมิได้ถูกทำร้าย”

“เช่นนั้นข้าคงเป็นพยานให้นางได้ เพราะข้าเป็นผู้ที่อยู่กับนางในคืนนั้นเอง”

พวกนางหันไปมองบุรุษรูปงามในชุดลำลองสีขาวปักด้วยดิ้นสีเงินทั้งตัวที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับองครักษ์ข้างกาย เขาปราดตาไปมองจางชิงชิงทันที

เขาเห็นตั้งแต่นางลากลู่หลิงเฟยออกมาและสอบถามเสียงดังสายตาก็พลันมองไปรอบ ๆ ราวกับเรียกให้คนมาฟังเรื่องที่จะเล่า

“ทำไม ไม่พูดต่อแล้วงั้นหรือ”

“ทะ…ท่านอ๋องเพคะ คือว่า”

“ถวายบังคมท่านอ๋อง หม่อมฉันลู่หลิงฟาง บุตรคนที่สามของท่านหมอลู่เพคะ”

“ที่แท้ก็พระชายาท่านอ๋องแห่งเหลียงโจว ขออภัยที่ไม่ทันเห็นท่าน ว่าอย่างไรแม่นางจาง ข้าก็อยากรู้ว่าข่าวลือไร้สาระที่ว่านั่นมันออกมาจากปากผู้ใดเช่นกัน กล้าร่ำลือออกไปโดยมิคิดว่าผู้อื่นจะเสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้ ช่างกล้านัก”

“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์ตรัสว่าคืนนั้น พระองค์….”

“ใช่แล้ว คืนที่เกิดเรื่องมีคนร้ายบุกเข้ามาที่นั่นจริง ข้าตามมันมาจนพบว่าพวกมันวิ่งมาทางพวกนางและ….พวกข้าช่วยเอาไว้ แต่พวกมันฆ่าสาวใช้ของพวกเจ้าไป

เรื่องก็มีเพียงเท่านั้น นึกไม่ถึงว่า มีคน “ปากพล่อย” เอาไปลือมั่ว ๆ จนทำให้นางเสื่อมเสีย คืนนั้นหากไม่ได้ยาถอนพิษของแม่นางลู่ที่ช่วยข้าไว้ ข้าเองก็คงไม่รอดชีวิตมาได้ถึงตอนนี้ ได้ยินกันชัดหรือยัง"

ขาวบ้านโดยรอบได้ยินดังนั้นจึงได้เชื่อทันที

“ข่าวนี้ท่านอ๋องเป็นผู้ตรัสออกมาเองไม่มีทางผิด”

“พวกเขาอยู่ด้วยกันจริง ๆ”

“คืนนั้นทหารก็ออกมาเก็บศพไปมากมายข้าได้เห็นกับตาแค่ไม่นึกว่าจะมีสาวใช้ตายด้วย”

“เช่นนี้ข่าวนั่นก็ทำเรื่องเสื่อมเสียให้คุณหนูสกุลลู่แล้ว”

“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงออกหน้าช่วยเหลือเพคะ”

“ไม่เป็นไรแม่นางลู่ พระชายาข้าเองยังไม่มีโอกาสขอบคุณแม่นางลู่เลยสักครั้ง อย่างไรแล้วครั้งนี้ให้ข้าเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทน”

“ไม่ต้อง…”

ลู่หนิงฟางปัดมือน้องสาวนางเอาไว้ ท่านอ๋องแสร้งทำไม่ได้ยินเสียงของหลิงเฟยและมองไปที่หลิงฟางเท่านั้น

“ด้วยความยินดีเพคะท่านอ๋อง แล้ว…”

พวกเขาหันมามองที่จางชิงชิงที่เริ่มทำตัวไม่ถูกและกลัวว่าจะถูกสอบสวนที่มาที่ไปของข่าวลือ นางจึงหาทางเลี่ยงทันที

“เอ่อ หม่อมฉันมิบังอาจเพคะ วันนี้ไม่สะดวก หลิงเฟยเอาไว้พบกันที่งานเลี้ยงในวังนะ”

“เดี๋ยวก่อน พวกท่านทั้งหลายจงฟัง หากว่าผู้ใดสามารถชี้บอกตัวผู้ที่ “ปล่อยข่าวลือเท็จ” ของคุณหนูสกุลลู่จงรีบนำข่าวมาแจ้ง ข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงามเพื่อนำคนผิดมาลงโทษให้สาสมกับความ “ปากพล่อย” ในครั้งนี้”

คำประกาศจากท่านอ๋องทำเอาจางชิงชิงที่ก่อนหน้านี้ทำท่าราวกับสะใจเริ่มหน้าซีดปากสั่นและไม่กล้าสู้หน้าท่านอ๋องและลู่หลิงเฟยจนต้องรีบขอตัวลา

“เช่นนั้นหลิงเฟย เอาไว้ค่อยพบกันนะ ทูลลาเพคะท่านอ๋อง”

จางชิงชิงเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ท่านอ๋องหันมามองใบหน้าของลู่หลิงเฟย เขาไม่ได้พบนางร่วมสามเดือน นึกไม่ถึงว่านางจะผ่ายผอมลงไปมากกว่าเดิมและยังดูพูดน้อยลงมาก ไม่สิที่จริงแล้ว....นางแทบจะไม่พูดเลยมากกว่า

“เช่นนั้น เชิญ....”

“ไปเถอะน้องสี่”

“พี่สาม เหตุใด…”

ท่านอ๋องรู้ดีว่าพวกนางต้องการคุยกัน เขาจึงเดินนำหน้าพวกนางไปก่อน

“เจ้าอย่าโง่สิ หากว่าเราไม่ไปเรื่องที่ท่านอ๋องออกหน้าช่วยเจ้าจะไม่มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการที่เรารับเกียรติให้เขาเลี้ยงข้าวนั่นถือเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้าจากข่าวลือหลายเดือนมานี้ เจ้าต้องขอบพระทัยท่านอ๋องจึงจะถูก”

“ข้า….”

“เจ้าไม่ได้ชอบเขาแล้วงั้นหรือ แต่ข้าว่าไม่ใช่นะเพราะเจ้ายังหน้าแดงอยู่เลย”

“พี่สาม ท่านหยุดพูดเถอะเจ้าค่ะ”

“น้องพี่ ชอบก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่เหตุใดเจ้าต้องกลัวด้วยเล่า”

“แต่เขามิได้ชอบข้านี่เจ้าคะ ข้าเพียรตามเขาอยู่หลายเดือนแต่เขาไม่ได้สนใจข้าเลย ตอนนี้...ข้าตัดใจแล้วเจ้าค่ะ”

“แล้วผู้ใดที่ออกหน้าช่วยเจ้ารับข่าวลือนั่นเมื่อครู่ ไม่ใช่เขาหรืออย่างไร ของขวัญเต็มจวนที่เขาส่งไปให้เจ้านั่นอีกเล่า น้องสาม เปิดใจได้แล้ว อย่าให้อาลี่เป็นห่วงเจ้ามากกว่านี้เลย เจ้ารับปากพี่ว่าจะปล่อยให้นางจากไปอย่างเป็นสุข”

“ก็ได้เจ้าค่ะ”

หอหรงอี้

“เชิญทางนี้เถอะ”

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”

พวกนางเดินมานั่งในห้องส่วนตัวที่ท่านอ๋องสั่งให้คนจองเอาไว้ เมื่อท่านอ๋องนั่งลง หลิงเฟยก็หันออกมานั่งตรงข้ามแต่พี่สามของนางผลักให้นางไปนั่งข้าง ๆ เขา ท่านอ๋องสั่งอาหารมาหลายอย่างจนเต็มโต๊ะ

“แม่นางลู่ ไม่สิ ข้าขอเรียกเจ้าว่าหลิงเฟยได้หรือไม่”

“ตามพระทัยท่านอ๋องเลยเพคะ”

หลิงฟางมองดูใบหน้าที่แดงราวกับมะเขือเทศของน้องสาวและสายพระเนตรที่ท่านอ๋องมองนางก็เริ่มรู้สึกว่านางควรจะต้องหาเรื่องออกไปจากที่นี่สักหน่อย

“ตายจริง น้องสี่ข้าลืมไปว่าต้องไปรับเครื่องประดับ ท่านอ๋องเพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอรบกวนพระองค์ไปส่งนางที่สกุลลู่ได้หรือไม่เพคะ”

“พี่สาม เช่นนั้นให้ข้าไปกับท่านด้วย”

“ไม่ได้ ท่านอ๋องพึ่งจะสั่งอาหารมา กลับตอนนี้น่าเกลียด เจ้าอยู่นี่แหละ ข้าจะรีบไปรับของก่อน”

“เช่นนั้น จื่อรุ่ย เจ้าตามไปส่งพระชายาด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อทั้งคู่ออกจากห้องไป ความเงียบที่น่ากดดันนั้นก็เริ่มทำให้ลู่หลิงเฟยอึดอัดอยู่พอสมควร นางไม่รู้ว่าจะมองหน้าเขาอย่างไรดีหลังจากที่เกิดเรื่องเมื่อสามเดือนก่อน จากนั้นนางก็ไม่ไปพบและตามติดเขาอีกเลย

“ดูเจ้าผอมลงมากเลยนะ กินให้มากหน่อย เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แล้วข้ายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น”

“เรื่องนั้น…ไม่เกี่ยวกับพระองค์”

“อย่างไรเสียข้าก็มีส่วน หากว่าข้าจัดการพวกมันได้ก่อน…”

น้ำตาของหลิงเฟยเริ่มรื้นขึ้นอีกแล้วเมื่อเขาเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา หยางหลินอี้หันไปมองคนข้าง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจพูดเพื่อให้นางหวนกลับไปคิดเรื่องในคืนนั้นอีกครั้ง

“หลิงเฟยข้าขอโทษนะ ข้าเพียงแค่อยากขอบคุณเจ้าจริง ๆจึงได้…”

“ไม่เป็นไรเพคะ เรื่องในคืนนั้นหม่อมฉันผิดเอง ที่จริงคืนนั้น…หากว่าหม่อมฉันเชื่อนาง ไม่ออกมาดูงิ้วนั่น…นางคง…”

“อย่าร้องไห้เลย ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นหรอก เจ้าเองก็อย่าเอาแต่โทษตัวเอง”

“มีแต่คนพูดกับหม่อมฉันเช่นนี้ ทุกคนล้วนปลอบว่าอย่าคิดมาก ไม่ใช่ความผิดของหม่อมฉันแต่พระองค์ทราบหรือไม่ ทุกคืนเมื่อหลับตานอนหม่อมฉันก็มักจะได้ยินเสียงนาง ที่บ่นว่าเราไม่น่าออกมาเลยซ้ำไปซ้ำมาทุกคืน”

หลิงเฟยใช้มือโบกพัดเพื่อไม่ให้น้ำตานางไหลออกมาพร้อมกับหันหน้าหนีเขา นางไม่อยากอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น โดยเฉพาะกับเขา ที่เคยเห็นทั้งตอนที่น่าอับอายของนางมากที่สุดและในตอนที่นางอ่อนแอที่สุด แต่เขากลับเอื้อมมือมาจับมือนางเอาไว้และดึงนางเข้ามากอดอย่างรวดเร็วจนนางตั้งรับไม่ทัน

“เจ้าร้องออกมาเถอะ ร้องให้พอแล้วปล่อยนางไปได้แล้ว ข้า…จะดูแลเจ้าแทนนางเอง”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel