บทย่อ
ข้ามมิติ ข้ามห้วงเวลา ย้อนเวลา ไม่!! ข้าแค่ขอเวลาเพื่อกลับมาใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม กลับมาครานี้ข้าจะฟาดคนตอแหลให้ราบเลยคอยดู รวมทั้งท่านด้วย ท่านอ๋อง!! นางเอกที่ชอบเที่ยวเล่นเอาแต่ใจและเป็นนางร้ายในสายตาคนทั้งเมือง กับพระเอกที่เย็นชา ปากร้ายและไม่สนใจสตรีโดยเฉพาะสตรีเช่นนางเขายิ่งอยากหนีห่าง แต่ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อยามที่ทั้งคู่พบภัยประชิดตัว นางกลับเผยอีกด้านหนึ่งออกมาจนเขาประทับใจและเปลี่ยนความคิดที่มีกับนางแต่เดิมไป ....ยิ่งรู้จัก ยิ่งตกหลุมรักไปเรื่อย ๆ จนไม่อาจเสียนางไป “ลู่หลิงเฟย” บุตรสาวคนเล็กของหมอหลวงในสำนักหมอหลวงในราชสำนัก มีความรู้มากแต่ไม่ชอบร่ำเรียนเอาแต่เที่ยวเล่นและมักตกหลุมรักคนง่าย ร่าเริง มีน้ำใจ เอาแต่ใจ ชอบบุรุษหน้าตาดี “ข้าอยากแต่งงานกับบุรุษผู้นั้น ข้าจะโยนลูกบอลแพรนี้ให้กับเขา” “หยางหลินอี้” ท่านอ๋องแม่ทัพแห่งแดนประจิม ปม้จะรูปงามดุจหยกประดับแต่ก็โหดเหี้ยมไร้ปรานี พูดจาขวานผ่าซากแม้แต่ฮ่องเต้ยังทรงเกรงพระทัย เงียบขรึม ดุดันรักสงบ เกลียดที่สุดคือ “สตรีไร้แก่นสาร” “สตรีผู้นั้นเป็นบุตรสกุลใด เหตุใดจึงหน้าไม่อายเช่นนี้ เที่ยวเล่นไร้สาระไปวันๆ น่ารำคาญยิ่งนัก!!” “จางชิงชิง” เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ แท้จริงอิจฉาในความงามของ “ลู่หลิงเฟย” ขี้อิจฉาแต่ไม่แสดงออก ต่อหน้าเป็นสหายผู้แสนดีคอยห่วงใยและหวังดี ลับหลังถือมีดคือยฟาดฟัน แย่งชิงทุกสิ่งแม้กระทั่งคนรักและบุรุษที่นางรัก “หลิงเฟย โยนไปเลย ท่านอ๋องผู้นั้นเขาส่งสายตาให้เจ้า เขาต้องชอบเจ้าอย่างแน่นอน” “หลี่ฟางอิ่ง” บุตรเสนาบดีฝ่ายขวา สาวงามแห่งต้าซ่ง เรียบร้อย อ่อนหวานชำนาญในกวี คีตา กลอนหมากอักษร เป็นที่หมายปองของบุรุษทั่วแคว้น “ไม่มีผู้ใดในต้าซ่งนี้จะเหมาะสมกับท่านอ๋องหยางผู้นั้นเท่ากับข้าคนนี้อีกแล้ว” เมื่อหลายเหตุการณ์ ทำให้พวกเขาและนางมาพบกัน ก่อนที่เคยไม่ชอบหน้า ไม่พึงใจ เมื่อเริ่มทำความเข้าใจพร้อมกับประสบภัยไปพร้อมกัน “ความรู้สึก” ที่มีอยู่เริ่มหลอมละลายทั้งคู่เข้ามาพบกัน แต่…… “ลู่หลิงเฟย ให้ข้าไปส่ง…” “ไม่รบกวนท่านอ๋อง ข้าจะพานางกลับเองถือว่าเรามิได้พบกัน อย่าเอ่ยเรื่องที่พบข้าในคืนนี้กับผู้ใดก็พอ” สิ่งใดที่เริ่มเปลี่ยนไป จากสตรีที่ไร้แก่นสาร เอาแต่เที่ยวเล่น กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน “อย่าเอามือสกปรกนั่นมาจับข้า คนที่ท่านต้องห่วงนอนอยู่ข้างในหากจะดูแลก็ไปดูแลนาง เรื่องของข้า ท่านไม่ต้องยุ่ง” “หลิงเฟยเจ้ามีเหตุผลหน่อย ข้าแค่ช่วยบิดาของเจ้าอุ้มนางมาที่ห้อง” “พอเถอะท่านอ๋อง ข้าไม่อยากรับฟังแล้วจริง ๆ ท่านพอแค่นี้เถอะ” “ไม่ เจ้าต้องฟังข้าก่อน” “อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก จากนี้เราอย่าพบเจอกันอีกเลย” “หลิงเฟย ข้า…” “ข้าพูดชัดเจนแล้ว และจะไม่พูดซ้ำอีก” ท่านอ๋องผู้เย็นชา สุขุมและเคยพร่ำบอกว่าเกลียดนางหนักหนา บัดนี้ได้แต่ติดตามมองนางจากทุกหนแห่งและพยายามเข้าหานางทุกทางเพื่อให้นางยอมรับ “การหมั้นหมาย” จากเขาแต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อรอบกายนาง มีบุรุษอีกหลายคนที่เข้ามาพัวพันใกล้ ๆ ตัว ไหน้ำส้มท่านอ๋องแตกรายวัน ทั้งหึงหวง ทั้งกำจัดตัวเกะกะ ทั้งพยายามทำคะแนน ครั้งนี้เขาจะกู้ศักดิ์ศรีและทำให้นางยอมรับได้หรือไม่ ไปติดตามกันได้เลยค่า……
ตอนที่ 1 ข้าชอบเขา
แคว้นต้าซ่ง รัชสมัยฮ่องเต้ จวินอวี้หลาง
“คุณหนู มาแล้วเจ้าค่ะ ๆ”
“เร็วเข้าอาลี่จะไม่ทันแล้ว ขบวนกองทัพแห่งแดนประจิมจะเข้ามาถึงในเมืองแล้วข้าได้ยินเสียงกลองดังแล้ว”
“คุณหนูเจ้าคะ ทางนั้นเจ้าค่ะ คุณหนูจางรออยู่ชั้นสองเจ้าค่ะ”
“ลู่หลิงเฟย” บุตรีคนเล็กของท่านหมอหลวงในราชสำนักเดินกึ่งวิ่งขึ้นบันไดในโรงน้ำชาชื่อดังเพื่อไปยังห้องส่วนตัวชั้นสองของโรงน้ำชาแห่งนี้ซึ่งนางสั่งให้สาวใช้มาจับจองเอาไว้ วันนี้คือวันที่กองทัพแดนประจิม ได้รับชัยชนะกลับมาจากทำศึกใหญ่นอกชายแดนตะวันตก
“หลิงเฟย ทางนี้”
“ชิงชิง ข้ามาแล้ว”
ลู่หลิงเฟยวิ่งไปยังห้องนั้นทันที สตรีวัยเดียวกับนางอีกสองสามคนรออยู่ในนั้น ล้วนแต่เป็นสหายที่เติบโตมาพร้อมกัน “จางชิงชิง” เป็นบุตรของขุนนางขั้นสี่ในราชสำนักในกรมคลัง
ตำแหน่งของบิดานางนับว่าไม่ได้สูงมากแต่เพราะลู่หลิงเฟยมิได้เลือกคบคนที่ฐานะ นางเป็นมิตรกับทุกคนที่เป็นมิตรกับนาง
“มาแล้ว ๆ พวกเขามาแล้ว หลิงเฟยเจ้าเตรียมลูกบอลแพรนั่นมาด้วยงั้นหรือ”
“เจ้าไม่รู้อะไร ปีนี้ข้าก็สิบแปดแล้วนะย่อมอยากหาบุรุษที่เหมาะสมท่านพ่อบอกเองว่าข้าโตแล้ว”
“เจ้าคงไม่คิดที่จะ….โยนให้พวกเขาที่นี่ในวันนี้หรอกนะ”
“ก็ไม่แน่หากว่าพวกเขาน่าสนใจ”
“แต่ว่าเจ้ากับคุณชายหลานผู้นั้นพึ่งถอนหมั้น…”
“ใครสนใจเจ้า “หลานจางหยวน” นั่น ช่างเขาสิเขาเป็นผู้ทำผิดต่อข้าเอง แม้ว่าจะไม่รู้ว่าสตรีที่เขาลุ่มหลงผู้นั้นเป็นใครแต่ถอนหมั้นแล้วก็คือคืนอิสรภาพให้กับข้า เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่สนใจเรื่องนี้มานานแล้ว”
“เช่น..เช่นนั้นหรอกหรือ”
จางชิงชิง ยิ้มพร้อมกับทำสีหน้าแปลก ๆ แต่หลิงเฟยที่ตื่นเต้นกับขบวนกองทัพนั้นมิได้สนใจนาง ในตอนนี้ขบวนทหารราบเริ่มเดินผ่านตรงที่พวกนางอยู่แล้ว
มวลดอกไม้ที่โปรยลงมามาจากที่ต่าง ๆเพื่อต้อนรับขบวนกองทัพที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้คนทั้งเมืองต่างมาร่วมยินดี
“นั่นอย่างไร ๆ ท่านอ๋องมีชื่อผู้นั้น”
“เข้าคือผู้ใดงั้นหรือ”
ลู่หลิงเฟยตะโกนถามสตรีอีกห้องหนึ่งถัดจากห้องของนางอย่างนึกสนใจ บุรุษหนุ่มในชุดเกราะสีเงินด้านล่าง สวมกวานสีเงินประดับทับทิม ผมของเขารวมตึงทิ้งปลายราวหางม้าไว้ด้านหลังดูสง่างามยิ่งนัก แต่นางมองเห็นเขาไกล ๆ เพราะยังมาไม่ถึง
“แม่นาง ท่านผู้นั้นคือท่านอ๋องแม่ทัพแดนประจิม ท่านอ๋อง "หยางหลินอี้" ผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรไปทั้งใต้หล้าท่านไม่เคยได้ยินชื่อของเขางั้นหรือ"
“หยางหลินอี้ ใบหน้าดุจหยกประดับ ดวงตาดุจพยัคฆ์ดุดันราวราชสีห์ผู้นั้นน่ะหรือ”
“มาแล้ว ๆ ท่านอ๋อง ทางนี้เพคะ”
เสียงตะโกนร้องเรียกให้ท่านอ๋องหันไปดังขึ้นรอบทิศเมื่อบุรุษหนุ่มในชุดเกราะสีเงินควบอาชาสีน้ำตาลเข้มที่ดุดันทรงอำนาจไม่ต่างจากผู้ที่กำบังเหียนมันอยู่ “หยางหลินอี้” มองไปรอบ ๆ ตัวแต่ส่วนใหญ่เขาเห็นเพียงสตรีที่ยืนตะโกนเรียกทำให้เขาเริ่มหงุดหงิด
“จื่อรุ่ย เหตุใดเจ้ามิได้บอกข้าว่าในขบวนต้อนรับจะมีพวกสตรีวิกลจริตเหล่านี้มากมาย หากเป็นเช่นนี้ข้าคงเข้าเมืองมาก่อนโดยไม่ต้องร่วมในขบวนกองทัพ”
“ท่านอ๋องจะทำเช่นนั้นหาได้ไม่นะพ่ะย่ะค่ะ ครั้งนี้ราษฎรต่างเฝ้ารอให้การต้อนรับพระองค์ จะทำลายความตั้งใจและน้ำใจของชาวบ้านหรือพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างเป็นพระบัญชาของฝ่าบาทที่ให้จัดการต้อนรับพระองค์ตั้งแต่หน้าเมืองจนเข้าประตูวังหลวง นาน ๆ ต้าซ่งจะมีเรื่องน่ายินดีเหตุใดพระองค์จึงไม่ชอบ ที่นี่มีแต่สตรีชนชั้นสูงทั้งนั้น หากว่าพระองค์ประสงค์จะ…”
“หุบปาก ข้าเพียงแค่ถามเล็กน้อยเจ้าก็ตอบเสียยืดยาว ข้าเวียนหัว”
“หลิงเฟย ท่านอ๋องมาแล้วนั่นอย่างไร”
ลู่หลิงเฟยมองไปยังอาชาสีน้ำตาลเข้มนั้นก่อนที่จางชิงชิง จะบอกแล้ว นางเพ่งมองไปยังบุรุษหนุ่มที่ควบอาชาอยู่อย่างเหม่อลอย แม้บุรุษที่นางพบเจอมาก่อนหน้านี้จะมีผู้ที่หน้าตาหล่อเหลาเพียงใดแต่กลับสู้ความองอาจรูปงามของท่านอ๋องที่อยู่ตรงหน้านี้ไปได้เลย
“ขะ…ข้า…ข้าชอบเขา”
จางชิงชิงรู้ดีว่าลู่หลิงเฟยต้องถูกใจท่านอ๋องผู้นี่แน่แต่หลิงเฟยไม่เคยทราบสมญานามท่านอ๋องผู้นี้ แม้ว่าจะรูปงามแต่ปากร้ายและขวานผ่าซาก
ครั้งหนึ่งเขาปฏิเสธองค์หญิงแคว้นเสวียนต่อหน้าพระพักตร์อย่างไร้ซึ่งเยื่อใยจนองค์หญิงผู้นั้นต้องรีบกลับแคว้นเพราะความอับอาย ครั้งนี้ลู่หลิงเฟยก็ต้องพบเหตุการณ์เช่นเดียวกัน
จางชิงชิงลอบยิ้มเยาะในใจ นางแทบจะไม่ต้องออกแรงเพื่อให้ลู่หลิงเฟยสนใจท่านอ๋องเลยเพราะเดิมทีลู่หลิงเฟยผู้นี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องชอบบุรุษหน้าตาดีอยู่แล้ว
“ข้าอยากแต่งงานกับบุรุษผู้นั้น ข้าจะโยนลูกบอลแพรปักนี้ให้กับเขา”
ลู่หลิงเฟยหันมาหยิบลูกบอลแพรปักสีแดงสดที่ประดับด้วยพู่เอาไว้ รอเพียงท่านอ๋องเข้าใกล้จุดที่นางอยู่นางจะโยนให้เขา จางชิงชิงหันไปจับแขนลู่หลิงเฟยเอาไว้
“หลิงเฟยจะดีหรือต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้หากเขาปฏิเสธจะทำเช่นไร”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย หากไม่รับก็จะได้รู้ว่าไม่รับก็จบมิใช่หรือ เหตุใดต้องคิดมากด้วยเล่า”
“แต่ลูกบอลแพรปักมีไว้เพื่อเลือกคู่ หากเจ้าโยนลงไปแล้วเช่นนี้มันจะไม่เป็นการ…ข้าหมายถึงหลังจากนี้เจ้าจะหาคู่ยากน่ะสิ”
“เอาน่าไม่ลองก็ไม่รู้นี่จริงหรือไม่”
หลิงเฟยยิ้มและหันไปมองท่านอ๋องผู้สง่างามบนหลังอาชาผู้นั้นราวต้องมนต์ สตรีหลายคนเริ่มขานเรียกนามของเขาทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมามองพวกนาง
“เขามองมาแล้ว ๆ รูปงามเสียยิ่งนัก”
“รูปงามมาก ๆจริง ๆ”
หลิงเฟยเฝ้าชื่นชมบุรุษหนุ่มผู้นั้น ชั่วพริบตานั้นเองราวกับเขาและนางได้สบตากันชั่วครู่ ชิงชิงกระทุ้งสีข้างให้นางรู้สึกตัวเมื่อท่านอ๋องเริ่มขี่ม้าเข้ามาใกล้ ๆ
“หลิงเฟยโยนไปเลย ท่านอ๋องผู้นั้นเขาส่งสายตาให้เจ้า เขาต้องชอบเจ้าอย่างแน่นอน”
“รออีกนิด ให้เขาเข้ามาใกล้อีกหน่อย”
“เจ้าดูสิ ห้องถัดไปจากนี้อีกสองห้องคือ “หลี่ฟางอิ่ง” ดูเหมือนว่านางจะเตรียมโยนลูกบอลแพรปักให้ท่านอ๋องเช่นกัน หากว่าเจ้าไม่รีบละก็”
“งั้นหรือนางช่างกล้านัก ไม่ได้ ๆ ข้าจะแพ้ไม่ได้”
“ใจเย็น ๆ เขามาแล้ว”
“ท่านอ๋องเพคะ โปรดรับไว้ด้วย!!”
ลู่หลิงเฟยตะโกนไปยังด้านล่างด้วยเสียงที่ดังพอที่จะทำให้บุรุษหนุ่มตรงหน้าหันมามองนางได้ เมื่อเขาหันมามองนางครั้งนี้สองสายตาสบตากันทันที
แม้ว่าจะไกลแต่หลิงเฟยรู้สึกราวกับว่านางไม่อยากทำสิ่งใดนอกจากจะยืนอยู่ตรงนี้และมองใบหน้าดุจหยกประดับนั้นไปนาน ๆ
“หลิงเฟย!! บอลของเจ้า!!”
ท่านอ๋องเองก็หันไปถามองครักษ์ประจำตัวของเขาทันที ด้วยตัวเขาที่ออกศึกอยู่นอกเมืองมาร่วมครึ่งปีไม่คุ้นชินกับสายตาคนมากมายเช่นนี้
มองไปที่ใดก็เหมือนกันหมด มีเพียงนางที่ยืนอยู่ชั้นสองของโรงน้ำชาหรือโรงเตี๊ยมเขาก็ไม่แน่ใจและเรียกเขา รอยยิ้มนั้นเขาเห็นไม่ชัดเพราะกลีบดอกไม้ที่โปรยมาตลอดทำให้เขาเริ่มเวียนหัว
“สตรีผู้นั้นเป็นบุตรสกุลใด เหตุใดจึงหน้าไม่อายเช่นนี้ เที่ยวเล่นไร้สาระไปวัน ๆ น่ารำคาญยิ่งนัก!!”
“กระหม่อมเองก็ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าดูเหมือนว่านาง….ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ นั่นนางจะ…จะโยนสิ่งนั้นมาให้พระองค์”
“อะไร เจ้าหมายถึงสิ่งใดกัน”
“รับด้วยเพคะ!!”
ลูกบอลแพรปักสีแดงของลู่หลิงเฟยถูกโยนลงไปจากชั้นสองของโรงน้ำชา ท่านอ๋องที่หันไปพอดีด้วยสัญชาตญาณเมื่อมีสิ่งใดถูกโยนมาเขาก็จะรับเอาไว้ รวมถึง….
“กรี๊ด!! ท่านอ๋องรับลูกบอลแพรของแม่นางผู้นั้นแล้ว!!”
โอ๊ะ…โอ รับแล้วก็ต้องแต่งสินะท่านอ๋อง เอาแล้ววว……