บท
ตั้งค่า

6.อยากได้

“ทำอะไรอยู่หรือขอรับคุณหนู”

เธอหันไปตามเสียงก็พบว่าบุรุษรูปงามผู้นั้นลืมตามามองที่ใบหน้าของเธอ นี่เขาตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!

เขาจะเห็นสายตาหื่นกระหายของเธอรึเปล่าเนี่ย!!!

“อะ..เอ่อ..คือ...ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง”

ถ้าตอบคำถามไม่ได้จงเปลี่ยนเรื่องซะ นี่คือความสามารถพิเศษของเธอเลยก็ว่าได้

เขายกยิ้มก่อนจะจ้องมองสบตาของจื่อเหว่ย แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบนตัวเขา

‘น่าเสียดายยังมองไม่พอเลย’

“ที่นี่คือจวนอู๋”

"จวยอู๋ คือที่ไหนกัน”

เขาส่งเสียงหึแล้วยิ้มโชว์ฟันขาว

“ช่างเถอะ...เอาเป็นว่าเมื่อคืนข้าซื้อตัวเจ้ามาแล้วพี่สาวจะพาเจ้ากลับจวนตระกูลจื่อเอง”

“เมื่อคืนคุณหนูยังมิได้ซื้อตัวข้าเลย...”

“ยังไม่เรียบร้อยอีกงั้นหรือ...เช่นนั้นข้าจะไปไถ่ตัวเจ้าเดี๋ยวนี้เลย”

เขายกมือขึ้นมาจับมือของเธอเอาไว้

“คุณหนูถูกใจสิ่งใดในตัวข้างั้นหรือ...”

เธอมองไปที่ใบหน้าเขาอีกครั้ง

นั่นนะสิ...เพราะอะไรกันนะเธอถึงรู้สึกอยากได้เขามาไว้ข้างกาย รู้สึกชอบ รู้สึกหลง รู้สึกถูกชะตา หรือเพราะเธอเป็นพวกคลั่งคนหล่ออย่างนั้นเรอะ!!!

“เพราะดวงตาเจ้างดงาม ทุกคราที่จ้องมองทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของข้ารู้สึกสงบ”

“คำว่างดงามไม่นิยมใช้กับบุรุษหรอกคุณหนู..”

เขาลุกขึ้นคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวจื่อเหว่ยไว้ แล้วยกมือหยิบปอยผมที่ยุ่งเหยิงของเธฮขึ้นมาทัดบนใบหูอย่างแผ่วเบา

"คำว่างดงามเอาไว้ใช้กับคุณหนูดีกว่า”

ตาย...ตายไปเลยจ้า

เขารุกแรงมาก ดาเมจจากสายตาที่มองมาทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ใจมันสั่นไหว ผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้.....ต้องเป็นของฉันเท่านั้น!!!ของฉันคนเดียว!!!

“เจ้ายินดี..ที่จะไปอยู่กับข้าหรือไม่"

"ในฐานะบุรุษอุ่นเตียงงั้นหรือ?"

นี่เรียกได้ว่าเป็นความหลงใช่ไหมนะ

อยากได้อ่ะ!!!!

"ในฐานะที่เจ้าต้องการ...”

“ข้ามิกล้าร้องขอ”

เขาจะเอายังไงกันแน่เพราะคำกล่าวของเขามันกึ่งยินยอมและกึ่งปฏิเสธ หรือว่าเธอยื่นข้อเสนอเรื่องเงินทองน้อยไปนะ

“ข้าจะนำเกี้ยวแดงมารับเจ้าเอง เจ้าเป็นคนของท่านอ๋องอู๋งั้นหรือ”

เขายิ้มกับคำถามของเธอ ก่อนจะยื่นหน้ามาหอมแก้มสีแดงระเรื่อของเธอเบาๆ

“คุณหนูควรจะใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดี๋ยวผู้อื่นมาพบเข้าคุณหนูจะดูไม่ดี”

เธอยกมือขึ้นมาคล้องคอเขา ช่างคนอื่นไปสิ ตอนนี้เธออยากอยู่กับเขาเท่านั้น

"ข้ายังไม่อยากใส่เสื้อผ้านี่นา...”

“คุณหนู...ได้เวลาที่คุณหนูจะต้องกลับเรือแล้ว มิเช่นนั้นชื่อเสียงของคุณหนูอาจจะถูกครหาเอาได้

"ช่างสิ...ข้าไม่สนใจคำกล่าวลอยลมพวกนั้นอยู่แล้ว เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าแล้วงั้นหรือ”

อีกเพียงนิดเดียว....นิดเดียวเท่านั้น เส้นความอดทนที่เขาทนมาตั้งแต่เมื่อคืนจะขาดสะบั้นลง เขาเพียงอยากแกล้งนางให้นางตกใจว่าตื่นมาตัวเองมิได้ใส่เสื้อผ้า อยากรู้ว่านางจะทำเช่นไรถ้ารู้ว่าเสียพรหมจรรย์ให้เขา แต่นางดันไม่มีแม้น้ำตาซักหยด หรือคำโวยวายอย่างที่ควรจะเป็น

นางกลับตื่นมาลูบๆ คลำๆ ตัวเขา จนเขาต้องรีบตื่นมาห้ามนาง ไม่ให้นางเลยเถิดไปมากกว่านั้น

ไหนจะลุกขึ้นนั่งโดยที่ตัวเองมิได้ใส่อาภรณ์ใดๆ อีก

นางลืมไปหรือไรว่าเขาก็เป็นบุรุษ หรือว่านางกำลังดูถูกเขาอยู่กันแน่นะ สตรีหน้าตาย!!!!

แขนเล็กๆ ที่กำลังคล้องคอเขา พร้อมกับใบหน้าแสนยั่วยวนนั่นอีก เขาเพียงตั้งใจจะแกล้งนาง กลับเป็นเขาที่ต้องมานั่งเดินลมปราณสะกดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเอง ไหนเลยความยุติธรรม

กรรมช่างคืนสนองแก่เขาไวยิ่งนัก!!

“เจ้าต้องการ...สิ่งใดงั้นหรือ?”

นางดึงมือที่คล้องคอเขาลงแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง

“คฤหาสน์สักหลัง เงินกี่พันตำลึง ทองกี่เกวียน เจ้าว่ามาได้เลย”

นาง!!! นางถึงกับจะซื้อตัวเขาอย่างนั้นหรือ!

ตระกูลจื่อร่ำรวยเรื่องนั้นเขาไม่เถียง แต่จวนอู๋ของเขาก็มิได้น้อยหน้า กิจการงานที่เขามี กินใช้ชาตินี้ก็ไม่หมด

ต้องเป็นเขาสิ ที่ต้องเสนอสินสอดให้นาง

“คุณหนูจื่อ...ตัวข้านั้นเป็นบุรุษ..มิกล้ารับสิ่งใดจากท่านหรอก”

“เหตุใดเจ้าช่างเอาใจยากเสียจริง บุรุษเมืองนี้เป็นเช่นเจ้าทุกคนรึเปล่านะ”

อยู่ๆ เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มในอกแปลกๆ เวลาที่นางเอาเขาไปเปรียบเทียบกับบุรุษผู้อื่น นี่นางคิดจะไปหาบุรุษอื่นเช่นนั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก

จากนี้ไปจะมิมีผู้ใดได้เข้าใกล้ ใครกล้าเข้าใกล้นางเขานี่แหละจะจัดการมันผู้นั้นเอง

“ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรเหรอ?"

ยามที่เราเริงรักกันเธอจะได้เรียกชื่อเขาถูก

หึ!นึกว่านางจะไม่ถามเสียแล้ว

“ข้ามีนามว่า...อู๋เหลียง”

อู๋เหลียง...ชื่อนี้มันคุ้นๆ เหมือนได้ยินที่ไหนนะ...

อู๋เหลียง...อ๋องอู๋เหลียง บุรุษปิดหน้าที่งานแข่งเรือ!!!

"!!!!"

จื่อเหว่ยรีบมองที่ดวงตาหงส์ของเขา จ้องมองดูชัดๆ ไม่ผิดแน่....บุรุษชุดแดงบนเรือสำเภา

เขายกยิ้มขึ้นมาทันทีที่เห็นแววตาตื่นตระหนกของสตรีตรงหน้า

แล้วทำไมท่านอ๋องผู้สูงส่งถึงไปอยู่ในหอวสันต์ได้เล่า!!! เขาไม่ใช่คณิกาชายแต่เป็นถึงท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์

เธอยังคงจ้องมองดวงตาหงส์ของเขา ในแววตาเขามีความชอบใจอยู่หลายส่วน มุมปากนั้นยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีคล้ายเขากำลังอยู่เหนือกว่า

ไม่รู้ตอนนี้ควรจะตกใจอะไรก่อน

เมื่อคืนฉันได้เสียกับท่านอ๋อง แถมยังจะขอซื้อตัวเขา เมื่อครู่อีกพึ่งจะใช้เงินฟาดหัวเขาอีก

กฎหมายในตอนนี้....หมิ่นเบื้องสูงนี่ถือกับประหารชีวิตรึเปล่านะ

ไม่นะ! เธอพึ่งจะได้กลับชาติมาเกิดเป็นผู้หญิงหน้าตาดีและร่ำรวย ต้องมาตายอีกแล้วเหรอ!!!

แถมตอนได้เสียกันยังไม่รู้สึกตัวอีก ขาดทุน ขาดทุนชัดๆ ชีวิตฉัน

“อะ..เอ่อ...หากว่าข้าล่วงเกินท่านแล้วต้องโทษประหารท่านช่วย....ช่วยเอ่อ...”

จื่อเหว่ยเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา แล้วขยับเบียดเข้าไปหาเขาช้าๆ

“ช่วยทำแบบเมื่อคืนอีกครั้งได้ไหม...เมื่อคืนข้าไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย...”

สตรีหน้าตาย!!!!!!!

หลังจากที่เธอกล่าวขอร้องเขาออกไป เขาก็เรียกสาวใช้เข้ามาแต่งตัวให้

นี่เขาใจร้ายขนาดจะส่งฉันไปตายโดยไม่ฟังคำขอร้องเลยหรือ หลังจากแต่งตัวเสร็จไม่นานนัก สำรับกับข้าวมากมายก็ถูกยกมาตั้งบนโต๊ะ

มีสตรีวัยกลางคนเดินเข้ามายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยกตะเกียบและจานข้าวมาให้เธอ

“งดงามยิ่งเพคะ...ท่านอ๋องช่างตาถึง”

เธอยิ้มน้อยๆ ให้ท่านป้าที่อยู่ตรงหน้า

“มิทราบว่าท่านหญิงมีชื่อว่าอันใดหรือเพคะ”

“เอ่อ...ท่านป้ามิต้องเรียกข้าถึงขั้นท่านหญิงหรอก ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น เรียกข้าว่าจื่อเหว่ยก็พอเจ้าค่ะ”

“ตายจริง!! ท่านคือคุณหนูจื่อหรือเพคะ”

“ท่านป้า พูดกันธรรมดาก็พอเจ้าค่ะ”

“หามิได้ อีกหน่อยท่านต้องมาเป็นหวังเฟยของท่านอ๋อง ทำตัวให้ชินกับคำพูดของบ่าวเถิดเพคะ”

เอ่อ....หวังเฟยอย่างนั้นเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก สิ่งที่ยุ่งยากที่สุดคือการเอาชีวิตไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์

ฉันอยากหาคนธรรมดาๆ ครองรักกันไปตราบชั่วอายุ

เป็นอ๋องก็ต้องมีอนุชายานับไม่ถ้วน ความรักที่ต้องแบ่งกับคนอื่นฉันไม่ขอรับไว้ดีกว่า

“ไม่หรอกเจ้าค่ะป้า..ตำแหน่งหวังเฟยของท่านอ๋องช่างสูงส่ง ข้ามิกล้าอาจเอื้อม”

“ตำแหน่งหวังเฟยของข้า...มิได้สูงส่งเช่นนั้นหรอก”

จื่อเหว่ยเงยหน้ามองไปที่ประตูก็เห็นท่านอ๋องอู๋เดินเข้ามา วันนี้เขาสวมอาภรณ์สีน้ำเงินเข้ม ช่วยขับผิวสีขาวได้ดียิ่งนัก ใบหน้างดงามนั้นอีก หากได้จ้องทุกวันคงจะดีไม่น้อย...

อ่า...หยุดคิดเดี๋ยวนี้นะ

"ท่านอ๋องจะเสวยเลยไหมเพคะ"

ท่านป้าที่ยืนอยู่รีบเตรียมจานและตะเกียบอีกชุด

“อืม”

เขานั่งลงตรงข้ามกับฉัน

สาวใช้ค่อยๆ ทยอยเดินออกไป จังหวะนี้แหละฉันต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง!!

“ท่านอ๋องเพคะ..เรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน หม่อมฉันขออภัยที่ล่วงเกิน"

เธอกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อแสดงความขอโทษอย่างสุดซึ้ง

“อืม...เช่นนั้นรึ”

"ระ...เรื่องเมื่อคืน..ท่านอ๋องช่วยทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นได้ไหมเพคะ”

มือที่กำลังจะยกน้ำชาขึ้นดื่มชะงักลง เมื่อได้ยินคำกล่าวของสตรีเบื้องหน้า

สตรีนางนี้จะเอาเช่นไรกันแน่!!!

เมื่อเช้ายังออดอ้อนร้องขอให้เขามาอยู่ด้วย ตอนนี้กลับทำท่าทีเหินห่างผลักไสเขา

หึ..ไฉนเลยเขาจะยินยอม!!!

“เมื่อครู่คุณหนูยังจะนำเกี้ยวแดงมาสู่ขอข้า เหตุใดตอนนี้คุณหนูถึงกลับคำเช่นนี้เล่า”

“เอ่อ..เมื่อครู่ข้ากระทำการโดยขาดการยั้งคิด ขอท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”

“ถึงอย่างไรเมื่อคืนเราก็.....”

"ท่านลืมไปเถิดเพคะ...ลืมๆ ไปเลย”

เขาวางถ้วยชาลงแล้วหรี่ตาจ้องมองดวงหน้าที่งดงามของนาง

“จะให้ข้าลืม..?”

“เพคะ เอ่อ...อันที่จริงเรื่องเมื่อคืนพอมาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่ได้มีใครเสียหายอะไร เราต่างก็เอ่อ...ก็สมยอมพร้อมใจทั้งคู่ ข้ามิคิดเรียกร้องสิ่งใดจากท่าน ท่านเองก็คงคิดเช่นเดียวกันกับข้า เรื่องมันเกิดเพราะความขาดสติของข้าเอง จะให้ท่านมารับผิดชอบก็คงจะไม่ถูก เอาเป็นว่าหลังจากนี้เราต่างคนก็ต่างไปเถอะนะเพคะ”

พอพูดจบนางก็รีบวิ่งหนีออกไป

เขายกถ้วยชาขึ้นมาดื่มพร้อมยกยิ้ม

หนีไปก็เสียแรงเปล่าคุณหนูจื่อ ไม่ว่าเจ้าจะหนีเช่นไรก็ไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของอ๋องอู๋เหลียงหรอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel