บท
ตั้งค่า

The Follow Love 5. พบเจอ

The Follow Love 5.

พบเจอ

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…

พราวมุกลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้ามาด้านในบริษัทด้วยชุดนักศึกษาเต็มยศ

“สวัสดีค่ะ” เธอเดินไปหาพนักงานคนเดิมที่เดินไปส่งเธอในวันนั้น เพื่อที่จะขอบัตรพนักงานที่ทางเกษมณีบอกให้เธอมาแวะรับก่อนขึ้นไปที่ห้องทำงาน

“อ้าว? น้องนั่นเอง คุณเกดสั่งงานกับพี่ไว้แล้ว รอเดี๋ยวนะ” พนักงานคนนั้นจำพราวมุกได้ก็ทักขึ้น และพูดถึงเกษมณีที่สั่งงานเธอไว้เมื่อเช้านี้ เธอบอกกับพราวมุกแล้วก็เดินไปที่ด้านหลังเพื่อหยิบของมาให้พราวมุก

“นี่จ้ะ บัตรพนักงาน ใช้ได้กับทุกลิฟต์ ยกเว้นของลิฟต์ผู้บริหารนะ”

เธอยื่นบัตรพนักงานให้กับพราวมุกและบอกกฎของบริษัท แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการใช้บัตรพนักงานสแกนผ่านลิฟต์เพราะว่าพนักงานทุกคนรู้กฎดี แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แฟนสาวของท่านรองประธานมาอาละวาดเพราะโดนห้ามไม่ให้ใช้ลิฟต์ ท่านประธานจึงให้ช่างมาติดตั้งระบบนี้อย่างเร่งด่วน และออกกฎไม่ให้คนนอกเข้ามาด้านในบริษัท โดยเฉพาะโซนของผู้บริหาร เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง

“ขอบคุณค่ะ” พราวมุกรับบัตรมาแล้วเอ่ยขอบคุณพี่พนักงาน

“จ้ะ ขอให้โชคดีกับการฝึกงานวันแรกนะจ๊ะ” พนักงานยิ้มเอ็นดูเด็ก¬สาวตรงหน้าและอวยพรให้การทำงานผ่านไปได้ด้วยดี

พราวมุกก้มหัวขอบคุณ จากนั้นก็เดินไปเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่จะทำงาน เมื่อเดินมาที่ห้องทำงานของท่านรองประธาน ก็เห็นเกษมณีกำลังหัวหมุนกับเอกสารกองใหญ่อยู่

“พี่เกด สวัสดีค่ะ” พราวมุกเอ่ยทักทายรุ่นพี่สาวแล้วเดินเข้าไปหา ด้วยความที่มีช่องทางติดต่อกันแล้วจึงพูดคุยกันค่อนข้างบ่อย จึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันไม่น้อย

“จ้ะ มาแต่เช้าเชียว” เกษมณีเงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทายผู้ช่วยคนใหม่

“มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ?” พราวมุกอาสาช่วยงานเกษมณีอย่างกระตือรือร้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยพี่เรียงแฟ้มหน่อยสิ เรียงตามตัวอักษรนั่นแหละ “

เกษมณีสั่งงานง่าย ๆ ไปก่อน เพราะตอนนี้เธอยังไม่มีเวลาที่จะสอนงานพราวมุก เพราะงานตรงหน้านั้นเร่งด่วนมาก ๆ

“ได้ค่ะ” พราวมุกรับคำแล้วลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว

“วันนี้พี่กับคุณติณจะออกไปข้างนอกนะ คงไม่สะดวกที่จะพาเราไปด้วย แต่พี่จะทิ้งงานไว้ให้เราดูศึกษาก่อน พี่ค่อยกลับมาสอนนะ” เกษมณีมองผู้ช่วยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู เพราะเธอได้สืบถามประวัติของพราวมุกจากทางอาจารย์หญิงแล้วรู้ว่าพราวมุกเป็นเด็กทุนพิเศษที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า เป็นเด็กดีมาก ๆ จึงทำให้เธอรู้สึกนับถือจิตใจของเด็กสาวตรงหน้าและเอ็นดูเป็นอย่างมาก

“ค่ะ” พราวมุกพยักหน้ารับคำแล้วก้มทำงานต่อ

“อ้อ เดี๋ยวพี่พาไปแนะนำให้คุณติณรู้จัก ตามพี่มาสิ” แล้วเกษมณีก็นึกถึงเจ้านายที่นั่งทำงานอยู่ด้านในห้อง เธอต้องพาพราวมุกไปแนะนำตัวกับติณภัทรเสียก่อน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เข้ามา” สิ้นเสียงอนุญาตจากด้านในห้อง เกษมณีก็เปิดประตูห้องเข้าไปทันที

“มีอะไร?” ติณภัทรถามขึ้นแล้วมองคนที่เดินตามหลังเลขาของเขามาด้วยความแปลกใจ เพราะรู้สึกคุ้นหน้าเด็กสาวในชุดนักศึกษาคนนี้เหลือเกิน

“ฉันพาผู้ช่วยมาแนะนำกับคุณติณค่ะ”

เกษมณีแนะนำให้ติณภัทรรู้จักกับผู้ช่วยของเธอ ส่วนพราวมุกนั้นเธอได้บอกเด็กสาวไปแล้วว่าเจ้านายของพวกเธอชื่ออะไร และสอนสิ่งที่เลขาต้องรู้ไปคร่าว ๆ แล้ว เช่น การชงกาแฟ อาหารที่เจ้านายชอบ และการทำงานร่วมกับติณภัทรต้องทำอย่างไรบ้าง

“นี่น้องพราวมุก นักศึกษาฝึกงานที่จะมาเป็นผู้ช่วยของฉันค่ะ”

“สวัสดีค่ะ” พราวมุกยกมือขึ้นไหว้เจ้านายหนุ่มด้วยความนอบน้อม เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเจ้านายตรง ๆ ใจเจ้ากรรมก็รู้สึกเต้นแรงและหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา เพราะสายตาของติณภัทรที่มองมาที่เธอในตอนนี้

“ครับ สวัสดีครับน้องพราวมุก” ติณภัทรทักทายผู้ช่วยเลขาของเขาเสียงหวานแล้วมองสำรวจพราวมุกพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จนพราวมุกต้องหลบสายตาอย่างเขินอาย และพยายามเก็บอาการของตนเองให้ดีที่สุด

“อะแฮ่ม” เกษมณีเห็นสาวตาของเจ้านายก็กระแอมขึ้นเสียงดังแล้วมองติณภัทรอย่างดุ ๆ

“อื้ม มีอะไรอีกหรือเปล่า?” ทำให้ติณภัทรรู้ตัวและเก็บอาการ เขาเอ่ยถามเลขารุ่นพี่เสียงนิ่ง

“มีค่ะ พราวออกไปรอพี่ที่โต๊ะนะ เดี๋ยวพี่คุยงานกับคุณติณก่อน” เกษมณีพยักหน้าตอบแล้วหันไปบอกผู้ช่วยให้ออกไปรอด้านนอก

“ค่ะ” พราวมุกรับคำอย่างว่าง่ายแล้วหันหลังเดินออกไปทันที เพราะตอนนี้เธอเริ่มควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพียงแค่เห็นหน้าและสบสายตาของเจ้านายหนุ่ม ก็ทำให้เธอไม่เป็นตัวเองเสียอย่างนั้น พราวมุกเดินออกมาจากห้องทำงานของติณภัทร พอปิดประตูเธอก็ถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตนเองที่ตอนนี้เต้นแรงมาก ๆ

คล้อยหลังพราวมุกออกไปแล้ว เกษมณีก็หันมามองเจ้านายตนเองด้วยสายตาดุ ๆ แล้วพูดขึ้น “คนนี้ไม่ได้นะติณ”

“อะไรพี่เกด?” ติณภัทรละสายตาจากประตูแล้วหันมามองเลขาตนเองด้วยความงง

“เห็นสายตานายฉันก็รู้แล้ว”

แต่มีหรือที่เกษมณีจะไม่รู้ว่าเขาเสแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ แต่ที่จริงเขาเข้าใจในคำพูดของเธอทุกคำ

“ผมรู้น่า ปกติผมก็ไม่เคยกินพนักงานในบริษัทตัวเองอยู่แล้ว ผมไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัดให้เสียการปกครองหรอกน่า ที่ผมมองก็เพราะว่าน่าสนใจดีต่างหาก” ติณภัทรถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้น

ตอนนี้เขาแค่สนใจพราวมุกเพราะแปลกใหม่ก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจริงจังอะไรเสียหน่อย อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะคบหรือเล่น ๆ กับคนในบริษัทตนเองอยู่แล้ว เพราะมันจะเสียการปกครอง เพราะถ้าแม่เขารู้เข้า มีหวังได้มาเล่นงานเขาถึงที่นี่เป็นแน่ ๆ

“ก็แล้วไป ขอให้จำคำตัวเองไว้ให้ดีนะ คนนี้ฉันขอจริง ๆ น้องเขาเป็นเด็กดี” เกษมณีนั้นพอจะรู้อยู่แล้วว่าติณภัทรมีคติประจำใจว่าจะไม่กินคนในบริษัทแม้จะเจ้าชู้แค่ไหนก็ตาม เธอก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง แต่ก็ไม่วายบอกย้ำว่าคนนี้ไม่ได้จริง ๆ

“เป็นเด็กดีแล้วเกี่ยวอะไรกับผม?” ติณภัทรหันไปมองเลขารุ่นพี่ที่มีอีกฐานะคือพี่สาวแล้วถามขึ้นด้วยความแปลกใจ ว่าเด็กสาวที่เพิ่งเดินออกไปเป็นเด็กดีแล้วเกี่ยวอะไรกับเขา

“ก็คนดี ๆ ไม่ควรมาเจอคนอย่างนายไง อย่าแม้แต่จะคิด” เกษมณีชี้หน้าคาดโทษและไม่เหลือความเคารพในฐานะเจ้านาย บทบาทในตอนนี้เป็นการคุยกันในฐานะพี่น้อง ไม่ใช่เจ้านายและลูกน้อง

“มากไปละ นี่ผมเป็นเจ้านายพี่นะ” ติณภัทรมองพี่สาวด้วยความขุ่นเคือง

“ฉันไม่ได้เตือนแกในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง แต่เตือนในฐานะพี่สาวกับน้องชายต่างหาก แล้วถ้านายมาทำอะไรผู้ช่วยฉันนะ เรื่องนี้ถึงหูคุณป้าแน่” เกษมณีพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วไม่วายพูดข่มขู่เจ้านายหนุ่ม ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ

“ทำเป็นดุ ผมเป็นเจ้านายนะเว้ย ที่นี่ที่ทำงานไม่ใช่ที่บ้าน” ติณภัทรมองตามหลังเกษมณีไปแล้วบ่นขึ้นเบา ๆ เพราะครอบครัวของเกษมณีสนิทกับที่บ้านเขามากและมีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ตั้งแต่เขายังเด็ก จำความได้ก็มีพี่สาวอย่างเกษมณีแล้ว และแม่ของเขาก็เอ็นดูเธอมาก ที่เธอได้มาทำงานเป็นเลขาให้เขา ก็เพราะแม่ของเขานั่นแหละที่ส่งมาช่วยงานและจับตาดูพฤติกรรมของเขาไปด้วย จะเรียกว่าส่งมาคุมก็ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel