4
ทั้งสามคนเดินผ่านเข้าประตูมาแล้ว เจ้าสองแฝดพลันมองร้านค้าข้างทางที่เต็มไปด้วยผลไม้อาหารหลากหลายอย่าง
"เจ้าอยากกินน้ำตาลปั้นรึ" ถังเฟยเฟยมองตาลูกรักก็รู้ว่าเขาอยากกินน้ำตาลปั้น คนเป็นมารดาไม่ขัดใจบุตรทั้งสองนางซื้อน้ำตาลปั้นให้สองแฝด
"ขอบคุณท่านแม่" สองแฝดพลันเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
รอยยิ้มของสองแฝดทำให้นางมีความสุขมาก กระนั้นไม่ว่าสองแฝดอยากจะกินอันใดนางไม่เคยห้ามสองแฝดเลยแม้แต่น้อย
"ท่านแม่ข้าหิวข้าว" เปยเปยเอ่ยขึ้น ประกอบกับเสียงท้องร้องของเปาเปา วันนี้ทั้งวันพวกนางสามคนแม่ลูกเอาแต่เร่งออกเดินทางยังไม่ได้กินอะไรเลย
ถังเฟยเฟยเลยตัดสินใจพาสองแฝดมาที่ร้านอาหารอันดับหนึ่งของเมืองหลวงต้าโจว สามคนเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์
นางสั่งอาหารสามอย่างข้าวต้มปลากับน้ำแกงไก่ หมูตุ๋นน้ำผึ้ง สองแฝดนั่งลงมองวิวด้านบน เมืองหลวงใหญ่กว่าหมู่บ้านของพวกนางเสียอีก
ถังเฟยเฟยคาดไม่ถึงจริงๆ ระยะเวลาห้าปีนางจะเลี้ยงสองแฝดจนเติบโต ยามนี้นางยังหาเนื้อคู่ยังไม่เจอเลยอุตส่าห์สหัสวรรษมาก็ยังไม่เจอ หญิงสาวพลันมองได้ด้ายแดง สงสัยนางจะอยู่คนเดียวไปจนแก่กระมัง
ไม่นานนักอาหารทั้งสามอย่างก็ถูกวางบนโต๊ะ สองแฝดกินข้าวต้มอย่างอร่อย ถังเฟยเฟยชิมรสชาติอาหารนับว่าดียิ่งนัก
"หานจิ่งเจ้าคนเหลือขอติดหนี้ไม่ใช้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้า" เสียงดังลั่นบนชั้นสองต่างทำให้ผู้คนเริ่มทยอยลุกออกไปเพราะไม่อยากมีเรื่องกับซื่อจื่อน้อย อู่เจิงเป็นบุตรของเจาอ๋อง เจาอ๋องเป็นพระอนุชาฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
เจาอ๋องเป็นบุรุษเจ้าสำราญมีภรรยาสามอนุสี่ จึงเลี้ยงดูซื่อจื่อด้วยเงินทองกระนั้นทำให้ซื่อจื่อปล่อยเงินกู้นอกระบบ
หานจิ่งผู้นี้เป็นบุตรชายขุนนางตกอับ แต่ก่อนบิดาเป็นขุนนางตำแหน่งเล็กๆ ในราชสำนัก แต่ทว่ายามนี้บิดาได้ถูกสั่งพักงานไม่มีกำหนด
ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน หานจิ่งจึงยืมเงินซื่อจื่อน้อยมาเพื่อจุนเจือครอบครัว
ผู้ใดจะคิดเล่าว่าซื่อจื่อผู้นี้จะคิดดอกเบี้ยมหาโหดเช่นนี้เล่า
"หากเจ้าไม่มีเงินจ่าย เจ้าก็ตายเสียเถอะ" ซื่อจื่อน้อยใช้มีดสั้นกรีดใบหน้าหานจิ่ง ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์ต่างตกใจ
ปิ้ว !!!
แต่ทว่ามีจานปัดมีดสั้นของซื่อจื่อตก ทุกสายตาหันไปมองแขกอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งเป็นสตรีในชุดขาวผมยาวสลวยงดงาม อีกทั้งเด็กฝาแฝดชายหญิง
นางงดงามราวกับนางฟ้า ผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้างามดุจดวงจันทร์กระจ่าง ซื่อจื่อน้อยได้สบตากับนางใบหน้าของเขาเป็นสีแดง
"แม่นางคนงาม เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้ ข้าเพียงหวังทวงเงินเท่านั้น"
หวังทวงเงินอะไรเล่าจะฆ่าคนให้ตายต่างหากเล่า สองแฝดกับมารดาต่างคิดเหมือนกัน
"เขาเป็นหนี้เจ้าเท่าไร" นางถามชายผู้นั้น
"สามสิบตำลึง"
"สามสิบตำลึงอะไรกัน ข้าเป็นหนี้เจ้ายี่สิบตำลึง" หานจิ่งตะโกนออกไป
"นี่เงินสามสิบตำลึงเจ้ารีบไปเสีย" ถังเฟยเฟยรีบยื่นเงินให้เขาทันที ได้เงินเช่นนี้ผู้ใดจะไม่รับเล่า ซื่อจื่อน้อยได้เงินแล้วกำลังจะสาวเท้าออกไป
"ช้าก่อน" ถังเฟยเฟยมิอาจให้เขาก้าวออกไปได้ ซื่อจื่อน้อยพลันหันมา
"สัญญาเงินกู้เล่า" ทุกคนไม่คิดว่าแม่นางน้อยจะฉลาด
"นี่ข้าลืมไป" ซื่อจื่อน้อยรีบคืนสัญญาเงินกู้ให้แม่นางน้อยทันที ทุกคนต่างมองแม่น้อยนางที่มีจิตใจดีทำให้ทุกคนเลื่อมใสยิ่งนัก
"ข้าขอบคุณท่านมาก ข้าจะรีบหาเงินมาคืนให้ขอรับ ที่จริงข้าติดเขาแค่ยี่สิบตำลึง เหตุใดเขาจึงหน้าเลือดเช่นนี้คิดดอกโหด" หานจิ่งเอ่ยทั้งน้ำตา
"คุณชายท่านจงจำเอาไว้ ในเมื่อท่านยืมเงินเขาแล้ว เขาคิดดอกเบี้ยเท่าไร ท่านก็ต้องชดใช้ ให้ท่านนึกถึงตอนที่ท่านไปยืมเขา เขาก็ให้ยืมง่าย ยามทวงก็ทวงยาก" ถังเฟยเฟยพูดในนามเห็นใจเจ้าหนี้
หานจิ่งเข้าใจแล้ว แต่เขาหาเงินไม่ทันจริงๆ "ข้าจะรีบหาเงินมาคืนแม่นาง"
"ข้าถือเสียว่าทำบุญแล้วกันวันนี้วันเกิดลูกของข้า" นางเอ่ยเช่นนี้ทุกสายตามองเจ้าแฝด นางมีลูกแล้ว ทุกคนต่างตกใจ ถังเฟยเฟยจ่ายเงินแล้วพาสองแฝดออกมาจากร้านอาหาร หานจิ่งมองตามหลังสามคนมีเรื่องดีๆ เช่นนี้ด้วยใช้หนี้ให้เขาฟรี
"ท่านแม่เหตุใดต้องช่วยเขา" เปาเปาเป็นคนถามมารดา
"ใช่ ๆ ท่านแม่ช่วยเขาทำไม" เปยเปย
"แม่แค่สงสารเขาเท่านั้นอีกอย่างพวกเราสามคนก็ไม่เดือดร้อนอันใด การช่วยคนถือว่าเป็นบุญกุศล" ถังเฟยเฟยยิ้มให้บุตรทั้งสอง ถึงเวลาแล้วที่จะเข้าจวนถังเพื่อไปหาบิดาอันเป็นที่รัก
"หลีกไป หลบไป" เสียงนายทหารตะโกนลั่นท้องถนน
ถังเฟยเฟยมองเห็นสองยายหลานที่หลบไม่ทัน หากสองคนนั้นหลบไม่ทันจะโดนรถม้าเหยียบเอาได้
ปิ้ว !!!
ม้าหยุดกะทันหันทำให้คนในรถม้าหัวกระแทกกับผนังรถม้าเข้าอย่างแรง
"ผู้ใดขัดขวางรถม้าของข้า" สตรีผู้หนึ่งลงจากรถม้าใบหน้าของบูดบึ้งยิ่งนัก สายตามองชาวบ้านที่มองนาง
ถังเฟยเฟยรีบไปช่วยสองยายหลานทันที สตรีนางนั้นมองถังเฟยเฟยอย่างไม่พอใจ
นางจ้องถังเฟยเฟยอย่างไม่กะพริบ มองถังเฟยเฟยราวกับเห็นผีเป็นไปได้อย่างไร นางหายไปตั้งหกปี
นางกลับมาแล้ว!!!