3
เถ้าแก่เนี้ยพลันขึ้นมาหลังได้รับข่าวว่าห้องของโรงเตี๊ยมพังลู่หวังจำต้องจ่ายค่าเสียหาย ส่วนถังเฟยเฟยกับเจ้าสองแฝดรีบออกจากโรงเตี๊ยมยามเช้าตรู่ทันที
"แม่นางท่านจะเดินทางไปที่ใดขอรับ ขอข้าร่วมเดินทางไปด้วย" สองแฝดมองชายผู้นั้นหน้าหนาไม่หยุด ตามตอแยท่านแม่
"ข้าจะไปเมืองต้าโจว" ถังเฟยเฟยตอบตามตรงอีกทั้งยามนี้เสี่ยวเอ้อร์นำรถเกวียนของนางมาให้นาง หญิงสาวไม่ลืมมอบเงินก้อนให้เขา เสี่ยวเอ้อร์รับมาด้วยความดีใจ
สองแฝดกระโดดขึ้นบนหลังเกวียนที่มีกองฟางคอยหนุนให้ความสบาย ถังเฟยเฟยควบคุมรถเกวียน
"แม่นางข้าไปด้วยขอรับ" ลู่หวังได้รับบาดเจ็บไม่น้อยบัดนี้ไม่มีเงินเหลือสักนิดเพราะจ่ายค่าโรงเตี๊ยมไปหมดแล้ว
สองแฝดสบตากับมารดาเพราะไม่ไว้ใจคนผู้นี้ด้วยสายตาที่มองมารดาของเจ้าสองแฝด ทำให้สองแฝดอยากจะควักลูกตาของเขาออกมาเสียจริงๆ
"เจ้าจะไปเมืองต้าโจวด้วยเหตุใด" ถังเฟยเฟอยากรู้จริงๆ เจ้าคนนี้จะตามพวกนางไปทำไม
"บ้านข้าอยู่ที่เมืองต้าโจว ที่จริงแล้วข้าเป็นบุตรชายของท่านแม่ทัพลู่จางแม่ทัพฝ่ายขวาของเมือง"
บุตรชายของท่านแม่ทัพฝ่ายขวาอย่างนั้นรึ ช่างน่าสนใจจริง สองแฝดพลันนึกขึ้นได้ว่าท่านตาของพวกเขาก็เป็นท่านแม่ทัพเช่นกัน หรือจะเป็นท่านแม่ทัพฝ่ายซ้าย มีฝ่ายขวาต้องมีฝ่ายซ้ายไม่ใช่แค่สองแฝดที่คิดถังเฟยเฟยก็คิดเช่นกัน
ในเมื่อบ้านชายแซ่ลู่อยู่ต้าโจวเช่นกันกระนั้นนางเป็นคนมีคุณธรรมก็ต้องให้เขาไปด้วย
"ได้แน่นอนขึ้นมาเถอะ" ทันทีที่ถังเฟยเฟยอนุญาต ชายแซ่ลู่กระโดดขึ้นรถเกวียนควบคุมรถเกวียนแทนถังเฟยเฟย
"ขอบคุณแม่นางขอรับ" หลังจากนั้นไม่นานชายแซ่ลู่ก็ไอเสียยกใหญ่จนน่าสงสาร
"นี่เม็ดยาตัวนี้ให้เจ้า" ถังเฟยเฟยพลันมีน้ำใจอย่างมากเพราะกลัวว่าชายแซ่ลู่จะตายเสียก่อน ก่อนจะถึงเมืองหลวง แน่นอนว่านางไม่ได้เป็นห่วงเขานะ แต่กลัวที่จะเก็บศพเขาเสียมากกว่า
ทันทีที่ลู่หวังเห็นเม็ดยาลูกกลอนก็พลันลังเลอยู่ไม่น้อย
"ยานี่"
"บำรุงร่างกายเจ้า" ลู่หวังพลันนึกถึงอมตะวิชาปราณขั้นที่หกของแม่นางผู้นี้ ทำให้เขารีบกินยาลูกกลอนทันทีไม่นานนักเขารู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นไม่น้อย
ชายแซ่ลู่พลันมองถังเฟยเฟยไม่คิดเลยว่านางจะมีลูกแฝดถึงสองคน
"แม่นางจะไม่บอกชื่อแซ่ของเจ้าให้ข้าได้รู้หน่อยรึ"
สองแฝดชักไม่พอใจเจ้าคนนี้ที่พยายามจะถามชื่อมารดาของพวกเขา
"ท่านลุงอย่าได้เอ่ยถามเรื่องอื่นเลย ท่านแม่ของพวกข้าช่วยท่านไว้ ท่านจะตอบแทนเช่นไรดีว่ามา เรื่องเงินนี่สำคัญมากนะ" เปาเปาแฝดพี่ตัวแสบเอ่ยขึ้นมองคนแซ่ลู่กำลังคิดว่าจะกลั่นแกล้งอย่างไรดี
"จริงด้วยข้าได้ยินท่านลุงบอกว่ายอมจ่ายเงินตอนที่อยู่โรงเตี๊ยมมารดาข้าช่วยท่านจากชายชั่วพวกนั้น" ถังเฟยเฟยอมยิ้มเล็กน้อยไม่คิดเลยว่า เจ้าแสบทั้งสองจะรีบทวงเงินเสียแล้ว
ใบหน้าของลู่หวังกระอักกระอวนนักจะให้เขาหาเงินมาจากที่ไหนเล่าในเมื่อจ่ายค่าเสียหายโรงเตี๊ยมไปหมดแล้ว
"เอาอย่างนี้ เมื่อถึงเมืองต้าโจว พวกเจ้าก็ไปเอากับข้าที่จวน"
สองแฝดขบคิด "ท่านลุงพวกข้ายังมีธุระต้องทำ เอาอย่างนี้ดีกว่า ท่านลงนามไว้ วันไหนว่างข้าจะไปเอาเงิน" เปาเปาเสนอความคิด
ถังเฟยเฟยมองความเจ้าเล่ห์ของสองแฝด ช่างคล้ายใครนะ คล้ายคนเลี้ยงเช่นนางไงเล่า
ลู่หวังไม่อาจปฏิเสธได้กระนั้นจึงหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนด้วยเลือดเพราะไม่มีพู่กันกับหมึก
"เงินเท่าไร" เขาถามสามคนแม่ลูก มูลค่าชีวิตของคนแซ่ลู่
"สองหมื่นตำลึงเป็นอย่างไรเล่า" เปาเปา
"บ้าไปแล้วปล้นกันชัดๆ" เจ้าเด็กบ้าจะปล้นเขาอย่างนั้นรึ เกินไปจริงๆ
"ชีวิตท่านมีค่าแค่สองหมื่นตำลึงทองถือว่าคุ้มแล้ว หรือท่านจะดูถูกชีวิตตัวเอง" ถังเฟยเฟยย่อมต้องช่วยบุตรชายรีดไถเงินในครั้งนี้
ใบหน้าของลู่หวังพลันเหงื่อแตกพรากๆ กระนั้นเขาจำใจต้องลงนามในสัญญาเนื่องจากเขารักษาของสำคัญของรัชทายาทไว้
"ตกลง" ชายหนุ่มพลันนั่งนิ่งหลังจากลงนามเสร็จ เปาเปากับเปยเปยยิ้มอย่างมีความสุข
"ถึงแล้ว" เดินทางมาทั้งวันมิได้พักผ่อนในที่สุก็ถึงประตูเมืองต้าโจวเสียที
ชายแซ่ลู่กระโดดลงอย่างไม่ร่ำลา ทำให้สามคนแม่ลูกหัวเราะอย่างมีความสุข
"เจ้าแฝดทำไมเก็บค่าหัวเขาแพงนัก" นางถามบุตรทั้งสอง
"ท่านแม่เขาไม่ใช่คนดี เขาขโมยผ้าเช็ดหน้าท่านพวกข้าเห็น" เป็นเช่นนี้นี่เองทำให้สองแฝดโกรธจึงคิดค่าหัวแพงเช่นนี้
"แม่เข้าใจแล้ว แม่ก็ขโมยของเขามาเหมือนกัน" ถังเฟยเฟยก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน นางรับรู้ว่าเขาขโมยผ้าเช็ดหน้าในย่ามนาง กระนั้นนางจึงขโมยของเขาคืน
ทั้งสามคนเปิดตลับออกพบว่า "ไข่มุก" ไข่มุกเม็ดเท่าไข่ห่าน ทำให้ทั้งสามคนรีบปิดตลับทันที
"งามมาก"
"ข้าได้ยินยายเฒ่าตี้บอกว่า ไข่มุกพันปีสามารถเป็นยาอายุวัฒนะได้" ถังเฟยเฟยพลันยิ้มอ่อน
"เอาล่ะ แม่จะปรุงให้พวกเจ้าทั้งสองได้กินหลังเราเข้าจวนท่านตา" ยามนี้ทั้งสามลงจากรถเกวียนแน่นอนว่ารถเกวียนนางขายต่อให้ชาวบ้าน จากนั้นเดินเข้าประตูเมืองไป ทั้งสามยื่นสำมะโนครัวให้ทหารดูพบว่าผ่าน
ถังเฟยเฟยกลัวคนต้องตาความงามของนาง กระนั้นนางจึงสวมหมวกเหวยเหมา