บทที่ 4
โอภาสกัดริมฝีปาก เขาจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรกันดีนะ ในการปัดเด็กนี่ว่างานไม่ผ่าน เพราะว่าเกรงใจพลอยพิมพ์ที่เป็นนักเขียนค่อนข้างขายดีเลยทีเดียว เขากลัวว่าพลอยพิมพ์จะงอนและไม่ส่งเรื่องมาให้เขาต่อ หมายถึงรายได้ของเขาจะหดหายไปด้วย เขายังไม่อยากเสี่ยงกับนักเขียนหน้าใหม่อย่างอลิสา แถมเนื้อเรื่องของเจ้าตัวก็ไม่ใช่แนวตลาดมากนัก คงจะขายยาก รักสามเส้าเสียด้วย เขายังไม่ได้อ่านละเอียด เพียงแค่อ่านเรื่องย่อคร่าวๆ ก็บอกกับตัวเองเลยว่า เป็นนิยายที่ดีนะ แต่คงจะไม่ขายเท่าไหร่ พลอยพิมพ์ฝากมาเองเสียด้วย น้อยครั้งนักที่พลอยพิมพ์จะฝากฝังเพื่อนนักเขียนกับเขา ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนักจะพิมพ์งานพร่ำเพรื่อ เขาคงโดนผู้ใหญ่เพ่งเล็งเอาแน่ๆ ถ้าเกิดขายไม่ออก โอภาสลังเลนิดหน่อย ก่อนจะพูดเสียงทุ้ม
“พี่บอกตรงๆ นะ งานน้องน่ะดี แต่ว่ามันไม่ขาย”
“เอ่อ...”
อลิสาถึงกับมือสั่น ความหวังของเธอพังลงแล้วสินะ งานดีแต่ไม่ขาย ก็แปลว่าขายไม่ได้ ขายไม่ได้ก็แปลว่า สำนักพิมพ์คงจะไม่รับพิมพ์ให้
“แต่ว่า”
โอภาสกระแอม อย่างน้อยๆ เขาลองหลอกให้ความหวังเด็กนี่ดูให้มีหวังต่อ แล้วอลิสาจะได้ไม่เครียดมาก จะได้ไม่ไปฟ้องพลอยพิมพ์ พลอยพิมพ์จะได้ไม่พานโกรธเขาว่าไม่ยอมรับงานของเพื่อนเธอ
“คะ”
“พี่ว่าน้องลองเขียนนิยายแนววายมาให้พี่ได้ไหม เอาพล็อตประมาณนี้ที่เราเขียนมานี่ก็ได้ แต่เปลี่ยนตัวละครนิดหน่อยจากชายหญิงเป็นชาย ชาย เคยอ่านไหม? นิยายวาย”
“เอ๋?”
อลิสาถึงกับคิ้วชนกันเลยทีเดียว เธอไม่เคยได้ยินสักทีเลยสิน่า ไอ้นิยายวายอะไรนี่ ทางโน้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเฉลยว่า
“น้องลองไปหาข้อมูลมา ถ้าน้องทำได้พี่จะรับ เพราะสนพ.ของพี่เองมีเปิดอยู่ กำลังอยากได้ต้นฉบับ สนใจส่งมานะ แต่ค่าต้นฉบับไม่เยอะมากเท่านิยายธรรมดา สนใจไหม ส่งมาร้อยห้าสิบหน้า พี่ให้หมื่นห้าจ่ายเงินก่อนพิมพ์ด้วย”
โอภาสว่า เขาคิดว่าถ้าอลิสาเขียนมาให้ได้จริงๆ เขาก็จะลองพิมพ์ดูให้ นิยายแนวนี้มีแฟนเฉพาะกลุ่ม เกือบจะเรียกได้ว่านิยายใต้ดิน เขามีสำนักพิมพ์ที่ร่วมกับเพื่อนทำอยู่ หมื่นห้าจ่ายไปเขาก็ได้กำไรมากโข ไม่เสี่ยงกับการถูกเจ้านายด่าด้วย แถมรักษาน้ำใจพลอยพิมพ์ไว้ได้ด้วย
“จริงๆ นะคะพี่”
อลิสาตาโต หมื่นห้า เขาจ่ายเธอเลยหมื่นห้า ปลดหนี้หมดเลยในพริบตา เอาละ...นิยายวายมันคืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ว่ามีโอกาสแบบนี้เธอก็จะฉวยไว้เต็มที่ล่ะคราวนี้
“พี่ไม่ได้ล้อเล่น สนใจก็ส่งมา ร้อยห้าสิบหน้าหมื่นห้านะ ไม่ได้กดราคา จ่ายเลยถ้าพี่อ่านต้นฉบับแล้วพอใจ”
โอภาสว่า หมื่นห้านี่ กดราคากันสุดๆ ร้อยห้าสิบหน้า ทำปรู๊ฟทำอะไรเสร็จหมดแล้ว ก็คงขายได้ราคาสองร้อยบาทนิดๆ เขาพูดประโยคต่อมาเสียงอ่อนลงนิดหนึ่งเหมือนจะขอร้องเธอกลายๆ
“แต่อย่าบอกกับพลอยเขานะ ว่าพี่เสนอราคาเท่าไหร่ ไม่อยากให้นักเขียนตัดราคากันเอง พี่กลัวว่าพลอยจะงอนว่าทำไมให้น้องมากกว่า เพื่อนของพลอยเองก็ส่งเหมือนกัน พี่ให้แค่หมื่นเดียว เห็นน้องตั้งใจดีพี่เลยให้เยอะหน่อย ถ้าน้องเขียนแล้วดี เขียนแล้วดัง เรื่องหน้าเอาไปเลยสองหมื่น”
“ขอบคุณมากนะคะ”
อลิสากัดริมฝีปากเมื่อวางสาย ก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง
“นิยายวายมันนิยายอะไรนะ แล้วเราจะเขียนยังไง อีท่าไหนกันละเนี่ย เคยอ่านกับเขาที่ไหนกัน จะถามใครดูดีนะ ว่าไอ้นิยายแบบนี้น่ะมันเป็นยังไง”
.................................................................................................................................................................
และแล้วอลิสาก็ตัดสินใจถามเรื่องนี้กับพลอยพิมพ์ ด้วยการโทรศัพท์ไปถามหญิงสาวในตอนเย็น ทางโน้นงงมากเหมือนกันว่าเธอถามเรื่องนิยายวายไปทำไม
“คือว่า...เราอยากลองเขียนดูน่ะ”
“หา นึกยังไงน่ะแป้ง จะเขียนนิยายวาย ลองเปลี่ยนแนวเหรอ” พลอยพิมพ์อุทานพลางหัวเราะ อลิสาจึงหัวเราะตาม
“อืม...อยากลองดูน่ะ พอดีมีคนเสนอว่า ถ้าเราเขียนแนวนี้ได้ พี่เขาจะพิมพ์งานให้”
“ใคร พี่โอหรือเปล่า พี่เขามีสำนักพิมพ์ต่างหากที่ทำนิยายแนวนี้อยู่”
คำถามของพลอยพิมพ์ทำเอาอลิสาสะดุ้ง โอภาสกำชับมาว่าไม่ให้เธอบอกเรื่องค่าต้นฉบับ เธอกลัวมากว่าจะหลุดพูดออกมา ยิ่งโกหกคนเขาไม่ค่อยเก่งอยู่ด้วย
“ใช่”
“แล้วตกลงเรื่องของแป้งไม่ผ่านที่สำนักพิมพ์เราเหรอ พี่โอถึงเสนอให้ลองเขียนแนววาย ว้า...อย่าเสียใจนะแป้ง เราว่าถ้าแป้งไม่คิดมากอะไรก็ลองดูก็ได้นะ ไม่เสียหายหรอก เพื่อนเราบางคนก็เขียนนิยายแนวนี้ด้วย แนวปรกติด้วย บางทีมีชื่อมากจากนิยายวายก่อนนิยายแนวปรกติก็มี” พลอยพิมพ์กล่าวอย่างให้กำลังใจ
“พี่เขาบอกว่าแนวเราไม่ขาย” อลิสาว่าเสียงอ่อยๆ พลอยพิมพ์ถอนใจ ก่อนจะบ่นพึมพำ
“ไม่ขาย เฮ้อ เราล่ะเบื่อคำนี้จริงๆ งานแนวตลาดถึงเกลื่อนแผงแบบนี้ แบบเปิดมาหน้าแรกรู้แล้วว่าหน้าสุดท้ายจะเป็นยังไง แบบนี้ละน้า อะไรๆ ก็ไม่ขาย เฮ้อ...เอาเถอะแป้งสู้กันต่อไป ยังไงก็ลองดู เราจะเอาใจช่วยอยากได้ข้อมูลหรือเปล่า เรามีต้นฉบับของเพื่อนที่เป็นแนววายอยู่ จะลองส่งไปให้แป้งอ่านนะ มีอะไรบอกเราได้”
“ขอบใจมากนะพลอย ไม่ได้พลอยเราก็ไม่รู้จะทำยังไง” อลิสาว่า ปลายสายหัวเราะกิ๊ก
“อย่าร้องไห้ด้วยความซึ้งนะ เสียงเครือเชียว เอาน่าช่วยๆ กันน่ะแป้ง บอกแล้วไงว่าคนเรามีฝันเหมือนกัน เราทำความฝันได้ก่อน ส่วนแป้งกำลังพยายามอยู่ เราจะเอาใจช่วยอีกแรง มีอะไรบอก เราจะช่วย”
“จ้ะ เราจะไม่ลืมพลอยเลย พลอยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราคนหนึ่งเลยนะ”
อลิสาพยายามกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาจริงๆ
“อ่านแล้วลองทำพล็อตดูนะแป้ง มีอะไรก็ถามเราได้ แต่เราว่าสำนวนแป้งดีมากเลย คงจะไม่ยากหรอก เรื่องพล็อตเราก็จะช่วยนะ”
“จ้ะ”
อลิสาตอบแล้วบอกลาปลายสาย หญิงสาวกำมือเข้าหากันแน่น ใจปลุกตัวเองให้สู้ เธอรักงานเขียนนี่นา แม้จะผิดแนวจากที่วางไว้ตอนแรกไปบ้าง แต่มันก็เป็นงานเขียน เป็นสิ่งที่เธอรักเหมือนกัน เอาล่ะ เธอจะลองศึกษามันดูสักที ไอ้นิยายวายนี่ ถ้าอย่างไรลองดูก็ไม่เห็นจะเสียหาย หมื่นห้า แป้ง...หญิงสาวร้องบอกกับตัวเอง งานนี้ถ้าเธอทำสำเร็จ เหมือนเธอได้ทั้งสองทาง คือหนึ่งได้ปลดหนี้ แถมสองได้ทำตามฝัน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม