บทย่อ
-
1
ชลธาร ศิริวัฒนกุลทรุดนั่งลงตรงระเบียงหน้าบ้านเพื่อรับลมเย็นๆ จากต้นไม้มากมายในหมู่บ้านที่โชยมาปะทะกับเรือนร่างสูงสง่าของเขา
เขาเป็นหนุ่มวัยสามสิบเจ็ดที่หล่อเหลาคมเข้มและยังโสดสนิทเพราะยังไม่ถูกตาต้องใจสาวคนไหน นอกเสียจากสาวน้อยวัยใส นักศึกษาปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยชื่อดังนามว่าแก้มใส กันต์พิพัฒน์
เธอเป็นสาวน้อยข้างบ้านของเขา รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ด้วยว่ามารดาของเธอพาเธอย้ายมาอยู่หมู่บ้านหลังนี้ หลังจากได้รับมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้สองแม่ลูกไม่ลำบากมากนัก และอนงค์เองก็เป็นคนใช้จ่ายอย่างประหยัด ขยันทำงาน และเน้นดำรงชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งตนเอง ปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่เอาไว้บริโภคเอง
หมู่บ้านแห่งนี้วิวทิวทัศน์งดงาม ด้านหลังติดภูเขาและแหล่งน้ำ ขับรถไม่นานก็เข้าตัวเมืองใหญ่ของจังหวัด เขาย้ายมาดูแลบริษัทประจำสาขาที่จังหวัดแห่งนี้ก็นานหลายปีแล้ว และไม่คิดอยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่แต่อย่างใด ด้วยว่ารักความสงบเป็นอันมาก
คนที่กำลังดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติขณะนั่งจิบกาแฟไปด้วยถึงกับสำลัก ไอติดกันหลายครั้งจนต้องยกมือขึ้นตบอกเมื่อเห็นสาวน้อยวัยสะพรั่งผิวพรรณผุดผ่องกำลังนุ่งกระโจมอกออกมาอาบน้ำที่โอ่งข้างบ้าน
ให้ตายดิ้นสิ!!!
เขาคิดว่าอากาศค่อนข้างเย็น แต่เธอท้าลมหนาวด้วยการพาผิวกายผุดผ่อง ออกมาอาบน้ำเย้ยฟ้าท้าดินให้เขาได้เห็น
ชลธารหายใจหนักๆ ลมหายใจของเขาสะดุดเมื่อเธอราดรดน้ำไปบนเนื้อตัวแล้วผ้าถุงผืนบางก็เปียกน้ำแนบไปกับเรือนร่างของเธอ จนเขาได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนสาวอย่างชัดเจน
เธอกำลังฟอกสบู่ เลยถลกผ้าถุงขึ้นมาจนเขาได้เห็นขาอ่อนนวลเนียนที่น่าสัมผัสเป็นที่สุด
ชลธารรู้สึกเหมือนเลือดกำเดาของเขาจะไหล แล้วไอ้ความโป่งพองของกางเกงที่สวมใส่อยู่ก็ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความทรมาน
มือหนาเอื้อมมาสัมผัสกับแก่นกายที่กำลังตื่นตัวแข็งคึก เขารูดรัดและช่วยเหลือมันให้หายทรมาน
ในจังหวะที่เขากำลังจะเสร็จสม วิมานกลางอากาศของเขาก็หยุดลง
“โอ๊ย!” ชลธารร้องเสียงหลงยกมือขึ้นกุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้อย่างตกใจ เมื่อโดนกระสุนจากหนังสติ๊กยิงเข้าให้
ทำเอาเขาถึงกับหัวปูดโนไปเลย พอเหลือบไปมองสาวน้อยที่กำลังอาบน้ำอยู่ ก็เห็นว่าเธอกำลังง้างหนังสติ๊กค้าง และแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา
โอ้... แม่เจ้า เขาถูกเธอเห็นเข้าให้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลามไปถึงใบหู เขาทั้งอารมณ์ค้าง ทั้งเจ็บจากกระสุนหนังสติ๊กจนตอนนี้หน้าเขียวหน้าเหลืองไปหมด
แล้วสาวน้อยตัวแสบก็รีบวิ่งหนีเข้าบ้านไปโดยเร็ว
เขาผิดอะไร ใครก็ได้บอกเขาที เธอเองไม่ใช่เหรอมาอาบน้ำโชว์ขาอ่อนขาวๆ เนียนๆ ให้เขาดู
ชลธารพาตัวเองเดินเข้าบ้านพักอย่างหมายมาด คอยดูเอาเถอะ เจอกันแล้วจะแกล้งเสียให้เข็ด
เธอไปฝึกงานที่บริษัทที่เขาย้ายมาดูแลอยู่ที่นี่นานหลายปี
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร คิดเหรอว่าเขาจะปล่อยให้เธอลอยนวลไปได้ง่ายๆ
ชลธารต้องช่วยตัวเองอีกหน นึกจินตนาการไปถึงสาวน้อยวัยใสแล้วหยาดน้ำรักของเขาก็กระฉูดออกมาเต็มหน้าขา เขาหอบหายใจอย่างรุนแรง
ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน เขาขับรถไปจอดเทียบหน้าบ้านของหล่อน ก่อนจะลงไปยกมือไหว้มารดาของแก้มใสที่ตอนนี้กำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
พออนงค์เห็นชายหนุ่มอันเป็นเพื่อนบ้านเข้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะได้ฝากฝังบุตรสาวเอาไว้กับชลธาร
“แก้มใสแต่งตัวเสร็จหรือยังครับคุณน้า” ชลธารเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนน้อม
“แต่งตัวเสร็จแล้ว เห็นบ่นๆ กับน่าว่ามีพวกชีกอมาแอบดูเขาอาบน้ำแน่ะ ใครก็ไม่รู้สงสัยเด็กวัยรุ่นแถวนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เห็นบอกว่าเอาหนังสติ๊กยิงใส่แล้วล่ะ”
“แค่กๆๆ” ชลธารถึงกับสำลักเมื่อได้ยินประโยคนั้นของอนงค์
“เราเป็นอะไร จู่ๆ สำลักน้ำลายตัวเอง ดูสิหูตาแดง หน้าแดงไปหมดแล้ว”
“เปล่าครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครไปแอบมองแก้มใสน่ะครับ” เขาตบอกตัวเองไปมา สำลักน้ำลายตัวเองอย่างหนัก
เขานี่แหละมองเธอ ไม่ได้แอบมองเลย เขาสาบาน เขามองตรงๆ นี่แหละ ก็เธอมาอาบน้ำให้เขาดูเองนี่นา
“นั่นสิคะคุณแม่ สงสัยเป็นพวกตาแก่หัวงู หาเมียไม่ได้แถมยังเป็นโรคจิตชอบถ้ำมองอีกค่ะ” เสียงใสๆ ของแก้มใสดังขึ้น ชลธารหันไปมอง เธออยู่ในชุดนักศึกษาที่ดูยังไงก็ทำให้เขาอยากจับปล้ำเสียจริงๆ
“เราก็พูดไปเรื่อย”
“หนูไปก่อนนะคะคุณแม่” แก้มใสยกมือไหว้มารดา เธอไม่ได้อยากติดรถไปกับชลธารหรอก แต่มารดาเป็นคนค่อนข้างขี้เหนียว การติดรถชลธารไปทำงานทำให้ประหยัดค่าโดยสารไปได้มาก เธอไม่อยากขัดใจเพราะกลัวโดนบ่นเลยต้องไปทำงานกับเขาทุกวัน ตอนไปเรียนก็เหมือนกัน เขาก็ไปรับส่งทำตัวเป็นผู้ปกครองเธออยู่ตลอดหลายปีที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย