ตอนที่ 3 พบปะ
13 ปีต่อมา
ค่ำคืนลมหนาว ณ โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดเป็นเวลาช่วงค่ำด้านหน้าโรงเรียนมีรถติดเพราะวันนี้มีงานคืนสู่เหย้าของโรงเรียนที่จัดขึ้นให้ศิษย์เก่ากลับคืนสู้อ้อมกอดของโรงเรียนแห่งนี้อีกครั้ง บรรยากาศเก่า ๆ ยังคงอยู่เช่นเดิมเพิ่มเติมมีตึกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพราะนักเรียนมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
เด็กสาวและเด็กชายในวันนั้นกลายมาเป็นผู้ใหญ่ที่ต่างมีหน้าที่การงานแตกต่างกันออกไปในวันนี้ คุณครูคนเดิมเพิ่มเติมคืออายุที่เพิ่มมากขึ้นและใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นชัดเจนตามวันเวลา แต่ยังคงมีความรักให้กับลูกศิษย์ที่เคยพร่ำสอนมา
หญิงสาวมองหาที่จอดรถที่ใกล้สถานที่จัดงานมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะมาสายจึงได้ที่จอดไกลจากสถานที่เข้างาน แต่ไม่เป็นไรเพราะโรงเรียนมีแสงไฟสว่างไสวพร้อมยังมีคนอำนวยความสะดวกในการจอดรถให้
ปรีดาแต่งกายด้วยชุดเดรสสีสันสดใสเพราะตรีมงานในวันนี้คือสายรุ้ง เธอจึงเลือกชุดเดรสแขนทรงตุ๊กตากระโปรงชีฟองสั้นเลยหัวเข่ามาสวมใส่ พร้อมปล่อยผมยาวที่ม้วนเอาไว้เป็นลอน
รองเท้าส้นสูงเพียงสามนิ้วพอเสริมความมั่นใจ สีสันของมันเข้ากับชุดที่สวมใส่ บนใบหน้าแต่งแต้มอย่างสวยงามไร้แว่นกรอบหนาที่ทุกคนคุ้นเคย แต่จะมีเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้นที่จำปรีดาในปัจจุบันได้
“ปริมทางนี่!” เสียงเรียกของแมรี่ดังแข่งกับเสียงเพลงที่กำลังบรรเลง ทุกคนต่างให้ความสนใจหันมองไปยังปรีดายังจุดเดียว
“เริ่ดมากแม่ ไม่คิดว่าอิปริมมันจะจัดเต็มแบบนี้” นิดาเอ่ยปากชม มองเพื่อนที่กำลังเดินเข้ามายังโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม
“มองตัวเองก่อนค่ะสาว” แมรี่พูดกับนิดา ทั้งสองก็แต่งตัวจัดหนักจัดเต็มไม่ต่างกันนัก
“นี่ปริมเหรอ?” เพื่อนในโต๊ะต่างตกใจไม่คิดว่าปรีดาคนในอดีตจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากขนาดนี้ หากบอกว่านี่คือนางเอกในจอหนังก็คงเชื่อ แถมผู้ชายหลายคนยังให้ความสนใจกับปรีดาเป็นอย่างมาก
“ใช่ ก็อิปริมเท้าเปล่านั่นแหละ” แมรี่ตอกย้ำฉายาของเพื่อนสนิท ที่หลังจากวันนั้นเพื่อน ๆ ต่างให้ฉายากับปรีดา ‘ปริม เท้าเปล่า’
แทนที่จะได้ฉายาเป็นซินเดอเรลล่ากลับเป็นอิปริมเท้าเปล่าซะได้ แค่เนื้อเรื่องก็ต่างกันแล้วแมรี่แย้งให้เป็นอิปริมเท้าเปล่านั่นแหละดีจะได้จำกันไปยันชาติหน้า ล้อไปยันลูกบวช!
สายตาของเพื่อนร่วมห้องยังคงมีความเหลือจะเชื่อว่านี้คือปรีดา แต่มันคือความจริงที่ทุกคนต้องรู้ว่าอิปริมเท้าเปล่าสวยเป๊ะมากขนาดไหน ใบหน้าขาวที่ไร้สิวรูปคิ้วดั่งคันธนู ริมฝีปากบางยักได้รูปดวงตากลมโตพร้อมขนตางอนยาวที่ไม่ต้องปัดมาสคาร่า
ทุกอย่างรวมอยู่กับปรีดาทั้งสิ้น มีสายตาที่แอบอิจฉามาจากมุมหนึ่งของโต๊ะ มักจะมีเพื่อนแบบนี้อยู่ในทุกพื้นที่ ไม่ยินดีแถมยังพูดจาหมาไม่แดกแต่ปากดันเหมือนหมา
“ไม่เห็นสวยเลย ก็งั้น ๆ” คำพูดของส้มจี๊ดทำให้เพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่หันไปมอง
“ใครจะสวยเท่ามึงคะ” เสียงของแมรี่ประชดประชัน หากพูดออกไปแบบหยาบ ๆ ก็อยากพูดว่า...ใครจะสวยเท่าแม่มึงค๊ะสาว! ตามมาด้วยปากที่เคลือบลิปสติกสีแดงคว่ำลงเล็กน้อย
“ใช่ไงกูสวย” ส้มจี๊ดไม่หยุดเพียงเท่านั้นยังหมั่นหน้ามันโหนกเชิดใบหน้าสวยด้วยมีดหมอขึ้นใส่แมรี่
“ขอโทษนะ นี่สวยแล้วเหรอ หมอทำให้ไม่เสร็จหรือเปล่าคะหล่อน” แมรี่กัดไม่ปล่อยเช่นกัน ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำท่าทางหยิ่งผยองพองขนเหมือนเม่นยิ่งทำให้อยากถอนหนามทิ้ง อย่ามาแข่งกับตัวแม่นะเธอ เดี๋ยวซิลิโคนจมูกจะเบี้ยวเอาได้
“พอได้แล้วนาน ๆ จะเจอกันที” นิดาตบมือลงบนขาของแมรี่ ก่อนหันไปสนใจปรีดาที่นั่งลงด้านข้างตัวเอง “นึกว่าจะไม่มากูโทรหาเป็นสิบรอบ”
“ลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่บ้าน ต้องโทษมึงสองคนที่เร่งกูจนไม่รู้จะเอาอะไรมาบ้าง” ปรีดาเร่งรีบออกจากบ้านเพราะอยู่ต่างอำเภอ ขับรถมาเกือบหนึ่งชั่วโมงไม่เหมือนเพื่อนที่อยู่ในเขตอำเภอเมือง
“มาก็มาแล้วช่างหัวโทรศัพท์เถอะ เป็นปีแรกที่มึงมาเลยนะ แต่ต้องมาเจอแบบนี้” แมรี่ไม่ชอบใจส้มจี๊ดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“อย่าสนใจเลย มันพึ่งเคยเป็นแบบนี้หรือไง แต่ยังไงกูก็ไม่ชิน” นิดาพูดแล้วหัวเราะ มองดูส้มจี๊ดเล็กน้อย ยอมรับว่าเธอสวยขึ้นมาก
“กูนึกว่านิสัยจะเปลี่ยนดันเป็นมากกว่าเมื่อก่อน ว่าแต่...ชุดมึงให้กูนะหลังงานจบ” แมรี่ยิ้มกว้างขอชุดต่อจากปรีดาในทันที
“ได้” เจ้าของชุดตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยความเต็มใจ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับความรักที่มีต่อกัน ในตอนนี้แมรี่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นผู้หญิงเต็มตัวและยังสวยกว่าผู้หญิงด้วยกันซะอีก
“คืนนี้ไปนอนบ้านกูนะ กูบอกแม่เอาไว้แล้วว่าพวกมึงจะไปนอนบ้านกู” นิดาที่บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนจึงชวนให้เพื่อน ๆ ไปนอนที่บ้าน
“ก็ดีกูไม่อยากขับรถกลับด้วยคืนนี้ ว่าแต่...คนเยอะแบบนี้ทุกปีเหรอ” ปรีดาหันมองไปรอบงานศิษย์เก่านั้นมากมายจนลายตา
“ปีนี้เยอะกว่า เพราะเป็นวันหยุดด้วย อาหารก็อร่อยกว่าปีก่อนสมกับเป็นร้านที่อิแมรี่แนะนำอาจารย์ ร้านญาติมันเองแหละ” นิดาตอบกลับ มองอาหารบนโต๊ะที่พร่องลงไปกว่าครึ่งเพียงแค่นำมาเสิร์ฟไม่นาน
“มึงได้ค่านายหน้าหรือเปล่า” ปรีดาพูดแหย่แมรี่ สายตามองเลยไปยังโต๊ะของรุ่นพี่มอหก
“มองหาอะไร? พี่สิงห์ไม่มาหรอกมาแต่พี่เสือนั่งอยู่ตรงโต๊ะนั้นนะ” แมรี่เหมือนรู้ว่าเธอกำลังมองหาใครถึงได้ชี้นิ้วไปทางโต๊ะรุ่นพี่
“พูดถึงทำไมเดี๋ยวฝันร้าย” เขาคนนั้นที่เธอเกลียด ก็ยังเกลียดเข้ากระดูกเช่นเดิม
“เดี๋ยวกูฝันร้ายเอง แต่พอนึกย้อนก็ตลกเนอะเหมือนกับละครน้ำเน่าถ้ามึงกับเขาตกหลุมรักกันคงไม่ต่างจากหนังหลังสองทุ่ม” แมรี่หันไปตักอาหารทาน
“แล้วมึงโอเคไหมแมรี่” ปรีดาถามไถ่ถึงสภาพจิตใจของเพื่อนเพราะไม่ได้เจอกันเกือบหนึ่งเดือนหลังจากไปนั่งดื่มปรับทุกข์กัน
“โอเคมั้ง แต่เมื่อวานเขามาขอกูคืนดีนะสิ” สีหน้าไม่มีความดีใจหรือเสียใจ ในแววตามันว่างเปล่าต่างจากวันนั้นที่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนจะตายเอาให้ได้
“แล้วไงต่อ” นิดาเองก็อยากรู้ความคืบหน้าของเรื่องนี้
“ก็ไม่ไงต่อ กูก็ทำเชิด ๆ สวย ๆ ใส่มันไปเลย ถ้าอยากคืนดีก็ซื้อทองเท่าน้ำหนักตัวกูมาให้กูถึงจะคืนดีกูบอกไปแบบนั้น” แมรี่หันมาหัวเราะกับทั้งสองสาว
“มึงรักเขาหรือรักทองของเขา” ปรีดาส่ายหน้าไปมา เห็นแบบนี้ค่อยโล่งใจแมรี่คงทำใจได้แล้วบ้าง
“คนเราเจ็บแล้วมันจำ กูคนไม่ใช่ควายจะต้องคอยกินแต่หญ้า สวยขนาดนี้มีผัวกี่คนก็ได้ไหม” แมรี่ยิ้มแล้วถอนหายใจ คงปลงตกกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
“ส้มนั้นแฟนแกหรือเปล่า” เสียงเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างหันไปมองผู้ชายที่อุ้มช่อดอกกุหลาบสีแดงเดินตรงมาทางนี่
“ใช่แฟนฉันเอง มาได้ไงนะ” ส้มจี๊ดพูดแล้วลุกขึ้นเดินไปหาแฟนหนุ่ม
“อีตอแหล” แมรี่พูดเสียงเบาแต่เพื่อนสนิทกลับได้ยิน “ถ้าไม่บอกเขาจะรู้เหรอว่ามึงอยู่ที่นี่ อยากแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองสวยสินะ”
“มีของดีก็ต้องบอกต่อสิ” นิดายกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เธอรู้จักผู้ชายของส้มจี๊ดเป็นอย่างดีเพราะเป็นลูกชายของคนที่มีชื่อเสียงในจังหวัด
“ของดีเหรอ?” ปรีดาสีหน้ามีคำถาม แฟนก็คือของดีเหรอ แล้วมันดียังไงเพราะเธอนั้นห่างไกลกับคำว่ามีแฟน
“ของดีที่ผู้หญิงหลายคนอยากกินไง” แมรี่ยิ้มมุมปาก “ผีเห็นผีก็แบบนี้แหละ” ก็มันนึกขำกับท่าทางจริตจะก้านของส้มจี๊ด นี้คงเป็นอีกสิ่งที่ทำให้เธอจับผู้ชายอยู่หมัดทั้งที่ผู้ชายคนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง
“นี่บัตรเชิญงานแต่งฉันนะ เดือนหน้าเจอกันนะ” ส้มจี๊ดถือซองสีชมพูยื่นแจกให้กับเพื่อนภายในห้อง “ปริมแกมีแฟนหรือยัง วันงานแต่งฉัน พาแฟนไปด้วยนะ”
“ถามเขาก่อนไหมว่าอยากไปไหม” แมรี่เบือนหน้าหนีด้วยความเอือมระอากับคำพูดส้มจี๊ด
“ทำไมเหรอ ไม่อยากไปเหรอหรือเป็นเพราะเธออายที่ยังไม่มีแฟน ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันแนะนำเพื่อน ๆ ของแฟนฉันให้มีแต่คนหล่อ ๆ รวย ๆ ทั้งนั้นฉันรับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน” ส้มจี๊ดยิ้มอย่างผู้ชนะ
“วันงานแต่งได้เจอแฟนฉันแน่นอนไม่ต้องห่วง ยินดีด้วยนะ” ปรีดาส่งยิ้มกลับไปสวย ๆ