ตอนที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหาย
“มาทำอะไร?” พี่สาวม.6 เดินเข้ามาถาม เธอจำได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับเมื่อวานที่ตบกับแมรี่
“มาหาพี่สิงห์ค่ะ” เธอตอบกลับแล้วหันมองหาเขาอีกครั้ง แต่มีผู้หญิงอีกสองคนเดินเข้ามาหา
“กลับไปซะ! ถ้ายังมายุ่งกับสิงห์อีกเจอดีแน่!” นิ้วชี้ถูกจิ้มลงมากลางหน้าอกของปรีดา
“หนูแค่มาเอาของกับพี่สิงห์ค่ะ พี่เขาบอกให้หนูมาเอาของวันนี้” เด็กสาวยังไม่ยอมกลับห้องเรียน วันนี้เธอต้องสวมรองเท้าแตะมาเรียน ดีแค่ไหนแล้วที่คุณครูเข้าใจไม่เช่นนั้นคงถูกหักคะแนนความประพฤติไปแล้ว
“ใช่เพื่อนอิกะเทยไหม?” หนึ่งในผู้หญิงสามคนเอ่ยถาม “ใช่จริง ๆ กูจำได้”
“หนูไม่รู้ว่าพี่มีเรื่องอะไรกับแมรี่ แต่หนูแค่จะมาเอาของค่ะ” เธอกำลังมองหาผู้ชายที่อยู่ในสนามฟุตบอลด้วยกันกับสิงหราชเมื่อวาน “นั่นพี่คนนั้น” เธอชี้มือไปยังรุ่นพี่ผู้ชายที่คุ้นหน้า
“วิน!” รุ่นพี่เรียกชื่อของกวินเพื่อนสนิทของสิงหราชให้เธอ
“น้องกระต่ายขาเดียว!” เสียงเรียกขานปรีดาดังขึ้น กวินยิ้มกว้างเดินเข้ามาหา “ไอ้สิงห์ไม่มาเรียนวันนี้มันลาป่วย รองเท้าเธออยู่ที่บ้านของมัน มันฝากมาบอกว่าถ้าอยากได้ก็ไปเอาที่บ้าน”
“งั้นเหรอคะ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ” ปรีดาหันหลังกลับแต่ถูกกวินคว้าแขนเอาไว้ได้
“ฟังให้จบก่อน” เขาเดินเข้ามาใกล้กระซิบอะไรบางอย่างกับเด็กสาว “มันฝากบอกมาแบบนี้นะ เอาไลน์มาเดี๋ยวส่งที่อยู่มันให้”
เธอจำใจล้วงกระเป๋ากระโปรงนักเรียนนำโทรศัพท์ออกมาแอดไลน์ของกวิน แล้วรีบหันหลังกลับห้องเรียนของตัวเองในทันที ข้อความบอกที่อยู่ของสิงหราชถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์เป็นที่เรียบร้อย
เด็กสาวมองเส้นทางระยะสองกิโลเมตรห่างจากโรงเรียน เป็นคนละทิศทางจากหอพักที่เธอพักอาศัยอยู่ ปรีดาชั่งใจว่าจะไปหาสิงหราชดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจสีชมพูไปหาเขาจนถึงที่บ้าน
ปรีดาหยุดนิ่งที่รั้วเหล็กดัดรูปทรงสวยงาม ที่อยู่ของสิงหราชไม่ใช่บ้านต้องเรียกว่าคฤหาสน์แบบที่เคยเห็นในจอโทรทัศน์มากกว่า เธอชั่งใจแล้วกดกริ่งรอไม่นานผู้ชายวัยกลางคนก็ออกมาสอบถามถึงธุระที่เธอมา
ไม่นานประตูบานใหญ่ท่วมศีรษะก็ถูกเปิดออก เด็กสาวขับรถเข้ามาด้านในมองซ้ายแลขวาว่าต้องจอดรถคันเล็กเอาไว้ตรงส่วนไหนของคฤหาสน์หลังใหญ่ถึงจะเหมาะสม แต่ไม่ทันได้คิดมากผู้ชายคนเดิมที่เปิดประตูให้เธอ ถีบจักรยานตามหลังมาบอกสถานที่จอดรถให้
“เดินเข้าไปด้านในได้เลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอไม่ลืมที่จะขอบคุณผู้ใหญ่ที่ดูใจดี ปรีดาเดินเข้ามาด้านในพบกับหญิงสาวอีกคนที่กำลังทำความสะอาดบ้าน
“เชิญด้านนี้ค่ะ” เหมือนว่าเธอรู้ว่าแขกต้องการพบใครเดินนำมาที่ห้องหนึ่ง ก่อนเคาะประตูเพียงสามครั้งแล้วเปิดให้แขกเข้าไปด้านใน
ภายในห้องมืดสลัวมองเห็นหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่กำลังมีเกมเปิดเล่นอยู่ พอมองคนที่กำลังถือที่บังคับปรีดาถึงกลับถอนหายใจที่เห็นเขายังอยู่ดีมีความสุขไม่ได้ดูมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรงอะไร
“นั่งสิ” สายตาของสิงหราชยังคงมองอยู่ที่จอ เด็กสาวที่ได้รับคำเชิญให้นั่งจึงมองหาพื้นที่ว่างสำหรับหย่อนก้นของเธอ
“......” เธอมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาอยู่นานอีกฝ่ายก็เอาแต่สนใจเกมในมือ
“รีบเหรอ” เขาถามเมื่อมองด้วยหางตาจึงพบว่าเธอกำลังมองเวลาจากนาฬิกาบนข้อมือเล็ก สิงหราชวางของในมือลงที่โต๊ะเล็กด้านหน้าก่อนหยิบขนมขบเคี้ยวขึ้นมาแล้วโยนไปบนหน้าตักของเธอ
“ฉันกลับค่ำไม่ได้” เธอตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา ไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่จนมืดค่ำสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่ควรเดินทางค่ำมืดลำพัง
“ค่าหมอ ห้าพัน” เขาหันมามองหน้า
“ห้าพัน??” ปรีดามองผ้าผิดแผลบนศีรษะของอีกฝ่ายจึงได้รู้ว่าเขาได้ตัดทรงผมใหม่เป็นที่เรียบร้อย อดไม่ได้ที่เธอนั้นจะขำออกมายิ่งทำให้เขาไม่ชอบใจ
“ขำอะไร ก็เป็นเพราะเธอ ฉันถึงได้ตัดทรงผมบ้า ๆ แบบนี้” ทรงผมสกินเฮด ที่ไม่ใช่ใครตัดแล้วจะเหมาะกับหน้าตา แต่สิงหราชนั้นช่างหล่อเหลาไม่ว่าจะอยู่ในทรงผมใด
“ฉันขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะจ่ายเงินค่าหมอให้เอาบัญชีมาค่ะ” เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อสแกนจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเขา
“คิดว่าแค่จ่ายค่าหมอก็จบเหรอ” สิงหราชลุกขึ้นบิดขี้เกียจตัวเอง “ตามมา” เขาบอกให้เธอตามออกมายังด้านนอก
เด็กสาวเดินตามเขามาเงียบ ๆ พบเจอกับห้องห้องหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง พอเปิดประตูเข้าไปจึงพบเข้ากับสุนัขสีน้ำตาลตัวใหญ่ พร้อมกับลูกสุนัขอีกห้าตัวที่ยังไม่ลืมตา
“ต่อไปนี้เธอต้องมาดูแลเจ้าพวกนี้ ไม่ได้ให้มาดูแลทุกวันแค่มาทำความสะอาดให้หน่อยวันเว้นวัน”
“ทำไมฉันต้องทำด้วยคะ” ปรีดาต้องการเหตุผลว่าทำไมต้องมาทำงานแบบนี้ แค่จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้เขาเสร็จแล้วก็จบเรื่อง
“เพราะเธอ ฉันถึงทำงานนี้ไม่ได้”
“เป็นง่อยเหรอ?” ปรีดาก็ไม่เห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บส่วนไหนนอกจากศีรษะเพียงเท่านั้น นี่คงอยากแก้แค้นเธอที่ทำให้ขายหน้าสินะ โด่...หล่อแต่รูปกลับจูบไม่หอมนิหว่า...
“จะทำไม ถ้าไม่ทำพรุ่งนี้เธอเตรียมตัวเรียกผู้ปกครองมาที่โรงเรียนเลยแล้วกัน” เขายกยิ้มมุมปาก ทำให้เด็กสาวยืนนิ่งจ้องหน้าเขาเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรสักอย่าง เข้าทาง!! ยัยเตี้ยม่อต้อติดกับเข้าแล้ว
“นานแค่ไหน” ปรีดาอยากรู้ว่าตัวเองต้องทำงานนี้นานแค่ไหน
“จนกว่าฉันจะพอใจ” สิงหราชหันหลังไปสนใจลูกสุนัขที่ยังไม่ลืมตา เขาจับมันขึ้นมาอุ้มอย่างเอ็นดู หากคนที่เคยดูแลไม่ลากลับบ้านไปเขาคงไม่ขาดคนเข้ามาดูแลสุนัขสุดที่รักของตัวเอง
“ถ้าไม่มีกำหนดก็ไม่ทำ แค่หนึ่งอาทิตย์พอ” เธอต่อรองกับเขา
“หนึ่งเดือน” เขาหันมาสบตาอุ้มลูกสุนัขตัวน้อยน่ารักส่งให้กับปรีดา “ถ้าต่อรองอีกฉันจะเพิ่มเป็นสองเดือน” นี้คงเป็นคำตอบสุดท้ายของเขา เด็กสาวจะไม่สามารถต่อรองอะไรได้อีกแล้ว
“วันเว้นวันเหรอ งั้นฉันทำวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาสินะ” ถึงอยากกลับบ้านก่อนมืดคงเป็นไปไม่ได้ มาแล้วก็ไม่อยากเสียเวลาจึงทำความสะอาดห้องสุนัขให้เสร็จ
“ชื่ออะไร” สิงหราชไม่เคยเห็นเธอมาก่อน แต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
“ปริม” เด็กสาวตอบห้วน “อุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ที่ไหนเหรอ” เธอมองหาอุปกรณ์ทำความสะอาด สิงหราชจึงบอกวิธีทำความสะอาดให้แกเธอว่าต้องเริ่มจากสิ่งใด
ก็ไม่ได้อยากปรีดาคิดในใจ เพราะสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตรต่อทุกคน แม้เป็นหมาแม่ลูกอ่อนก็ไม่มีท่าทีหวงลูก ยังแกว่งหางไปมาเชื่องเหมือนพบกันมาแต่ชาติปางก่อน เวลาที่เขาทำสีหน้าเอ็นดูสุนัข ปรีดาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองจริง ๆ ว่าเขาก็ดูเหมือนพ่อเทพบุตรที่แสนอบอุ่นดั่งดวงตะวัน
“เสร็จแล้ว” เธอใช้มือเล็กปาดเหงื่อ ไม่คิดว่าตัวเองจะเหนื่อยมากขนาดนี้
“......” สิงหราชที่นั่งเล่นอยู่กับสุนัขบนพื้นลุกขึ้นเพื่อตรวจงาน เขาพอใจที่เห็นว่าห้องนี้สะอาดเหมือนเมื่อก่อน
“ฉันกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม” ปรีดายืนเท้าสะเอว ไอ้คนตรวจงานก็เอาแต่เงียบจนเธอชักหงุดหงิด “ยังไง เรียบร้อยใช่ไหมฉันจะได้กลับ”
“อืม” เขาขานรับแบบขอไปที “เอานี่” สิงหราชยื่นเงินสีเทาหนึ่งใบมาตรงหน้าของเธอ
“ให้ทำไม?” เด็กสาวขมวดคิ้วมองเงินในมือของอีกฝ่าย เธอกำลังทำงานชดใช้หนี้ที่ติดค้างแล้วเขาให้เงินเธอมาทำไม
“ก็ค่าแรงไง ไม่ดีเหรอ ทำงานก็ต้องได้ค่าจ้างฉันไม่ได้ให้ทำฟรี ๆ สักหน่อย” เขายัดเงินลงในมือของเธอแล้วไล่ให้กลับบ้าน
“แค่พันหนึ่งเองเหรอ?” เธอหันมาถามเขา อีกฝ่ายหัวเราะไม่คิดว่าเงินที่ให้จะน้อยเกินไปในความคิดของเด็กสาว
“จะเอาเท่าไหร่ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็ต้องทำงานเพิ่มแล้วนะ” สิงหราชยิ้มกวน เธอได้แต่มองหน้าของเขาแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้อง