บทนำ
“ปริม!” เสียงเรียกทำให้เด็กสาวเหลียวหลังหันมอง เพื่อนในห้องวิ่งหอบหายใจเหนื่อยเข้ามาในห้องเรียนชี้มือไปทางด้านหลังที่วิ่งมา
“มีอะไรเหรอ?” เด็กสาวมองหน้าเพื่อนขมวดคิ้วเข้าหากัน
“มีเรื่องแล้วอิแมรี่มันกำลังตีกับรุ่นพี่มอหก” นิดาหอบหายใจเหนื่อย คนฟังไม่รอช้ารีบลุกวิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อนสนิท
ระยะทางจากห้องเรียนชั้นสามลงมายังชั้นล่างเล่นเอาเด็กสาวทั้งสองหอบเหนื่อย ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวันจึงมีเด็กนักเรียนยืนห้อมล้อมมุงดูเหตุการณ์คงเพราะเรื่องยังไม่ไปถึงคุณครู มวยที่กำลังต่อสู้ถึงได้ไม่ยอมแยก
“อิแมรี่หยุด!!” เด็กสาวทั้งสองคนร้องห้ามพร้อมกัน ทั้งยังกระโดดเข้ามาห้ามแต่ก็มิวายโดนลูกหลงจากการต่อสู้
รุ่นพี่ม.6 คงไม่จบเรื่องง่าย ๆ ก่อนแยกจากยังมีคำพูดขู่เอาเรื่องให้ระวังตัวไว้ให้ดี แต่อิแมรี่ยังประกาศท้าให้ไปเจอกันนอกโรงเรียน!
“เป็นบ้าหรือไงไปตีกับพี่มอหก” เธอเอ่ยถามแมรี่ที่ใจเป็นหญิงร่างเป็นชาย
“ไม่ตีได้ไง ก็มันมาหาเรื่องอิแป้งไง” สายตาของสาวสองมองเลยไปยังเพื่อนร่วมห้องที่กำลังร้องไห้
“แล้วมันเรื่องอะไรพี่เขาถึงได้มาหาเรื่อง?” นิดาถามอย่างสงสัย
“ก็เดือนโรงเรียนนะสิ เมื่อวานอิแป้งเอากระเป๋าตังค์ไปคืนเขาก็เลยถูกเหมารวมว่าไปจีบเดือนโรงเรียน อธิบายไปแล้วก็ไม่เชื่อกูก็เลยเข้าไปคุยให้แต่ดันไปเจอกับคนคุยไม่รู้เรื่อง คนมันจะมีปัญหาพูดยังไงก็ไม่ฟังเลยได้วางมวยกัน”
“ไปทำแผลก่อนไหม” ปริม หรือ ปรีดา มองใบหน้าของแมรี่อย่างเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้ไม่ตายแต่กูยังตบอิพวกนั้นไม่สาแก่ใจเลย” แมรี่กัดฟันเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
“พอเถอะ ไปมีเรื่องกับรุ่นพี่อยู่ยากนะมึง เอานี่” นิดายื่นปลาสเตอร์ยาไปตรงหน้า “หน้าสวย ๆ เป็นรอยหมดแล้ว รู้ไหมว่าพี่มอห้าที่มึงชอบจะไม่ชอบหน้าขี้เหร่ของมึงเอา” เด็กสาวปิดปากหัวเราะชอบใจ
“จริงเหรอ? ไม่ได้ ๆ กูต้องสวยต้องเริ่ด อิปริมมึงเอากระจกมาหน่อย” แมรี่แบบมือขอกระจกเล็กแบบพกพากับปรีดา
“แค่เรื่องคืนกระเป๋าตังค์ยังต้องตบตีกันขนาดนี้ ถ้าเป็นเรื่องอื่นจะไม่จ้างมือปืนมาฆ่ากันเลยเหรอ” ปรีดาไม่ชอบใจนักเมื่อได้ยินเรื่องราวของเดือนโรงเรียนคนนี้
แต่อดทนอีกแค่เทอมนี้เท่านั้น ก็คงไม่ต้องได้ยินเรื่องของเขาคนนั้นแล้ว ไม่ใช่คนรู้จักมักจี่แต่เป็นคนที่พอได้ยินชื่อแล้วต้องถอนหายใจกลอกตามองบนเป็นล้านรอบสำหรับเธอ
“ก็คนมันหล่อช่วยไม่ได้ น้องชายเขาก็หล่อนะ” นิดายิ้มตาใส
“มีใครจะไม่ชอบคนหล่อ อีกอย่างนะ...เมื่อไหร่จะเลิกแต่งตัวเป็นป้าขายของข้างบ้านสักที เห็นแล้วขัดหูขัดตาคนสวยอย่างกูจริง ๆ อิปริม”
“อิแมน” ปรีดากดเสียงต่ำเอ่ยเรียกชื่อเล่นของเพื่อน
“อร๊ายยย แรงมากกกก” เมื่อเพื่อนเอ่ยชื่อเล่นที่ผู้ให้กำเนิดตั้งให้ถึงกลับเชิดใบหน้าทำเป็นงอน
“แกใส่แว่นมาเทอมหนึ่งแล้วนะทำไมไม่กลับไปใส่แบบเดิมไม่เข้าใจ” นิดาเองก็ไม่เข้าใจเหตุใดปรีดาถึงได้เปลี่ยนลุคการแต่งตัวของตัวเองแบบนี้ ทั้งที่เธอนั้นเป็นคนสวยหาตัวจับอยากกลับเก็บซ่อนมันเอาไว้ใต้กรอบแว่นหนาเชย ๆ
“ฉันเบื่อต้องคอยมานั่งใส่คอนแทกต์เลนส์ แบบนี้สบายมากกว่าเสื้อผ้าหลวม ๆ ก็ใส่สบาย” เธอพูดถึงข้อดีของการแต่งตัวเป็นป้าข้างบ้านแบบที่แมรี่พูด
“เอาตามสบายเถอะ กีฬาสีปีนี้คงหนีไม่พ้นได้นั่งตบมือ” แมรี่เปลี่ยนเรื่องพูด
“ถ้าไม่อยากนั่งตบมือก็ไปนักกีฬาไม่ก็เชียร์ลีดเดอร์สิยะ กูว่าจะไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์เหมือนกันเห็นเขาเปิดรับสมัครของแต่ละสีแล้วนะ” แมรี่ที่ไม่อยากขึ้นไปนั่งตบมือบนอัฒจันทร์แนะนำ
“ก็จริง งั้นกูไปบ้างแล้วกัน มึงละปริมจะทำอะไร” นิดาหันไปถามปรีดา
“ตบมือ” เธอตอบสั้น ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาไถโทรศัพท์เพราะใกล้ได้เวลาเข้าเรียนในคาบบ่าย
เวลาเลิกเรียนปรีดาเดินลงมาจากตึกพร้อมเพื่อนสนิททั้งสอง หากแต่แยกกันตรงใต้ตึกเรียนเพราะนิดาและแมรี่ต้องไปสมัครเป็นเชียร์ลีดเดอร์กีฬาสี ส่วนเธอที่ตั้งใจใช้ชีวิตสงบ ๆ จึงเดินมาที่สนามฟุตบอลเพื่อรอเพื่อนเพราะนัดกันเอาไว้ว่าจะไปร้านชาบูหลังเลิกเรียนพร้อมกัน
“น้อง ๆ” เสียงเรียกทำให้ปรีดาหันมอง “น้องส่งบอลให้พี่หน่อย!” เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง ปรีดาจึงหันมองไปรอบตัว “น้องนั่นแหละ! ส่งบอลมาให้พี่หน่อยครับ”
เด็กสาวเดินไปหาบอลลูกสีขาวก่อนใช้สายตาเล็งเพราะต้องการใช้แรงเท้าเตะส่งบอลคืนให้รุ่นพี่ที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ในสนาม ปรีดาเล็งทิศทางจนได้ที่ ขอเท้าเล็กตวัดอย่างเด็ดเดี่ยวหวังว่าจะเข้าเป้าตามที่ตัวเองคิดเอาไว้
ทันใดนั้น!! ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด!! รองเท้านักเรียนสีดำที่สวมใส่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกคนมีจุดสนใจเดียวคือลูกฟุตบอลที่เด็กสาวเตะออกไป โดยหารู้ไม่ว่ายังมีอีกสิ่งที่ลอยติดตามมา
ปลั๊ก!! ความแม่นในการเตะบอลนั้นเป็นศูนย์หากแต่...ความแม่นของรองเท้าที่ลอยออกไปให้เต็มร้อย ความเหมาะเจาะ หรืออาจเรียกว่าความพอดิบพอดี หรืออาจเรียกว่าความซวย! ของคนที่ถูกรองเท้านักเรียนสีดำตกลงกลางศีรษะ
“ไอ้สิงห์!!” นักเรียกชายต่างตื่นตกใจเพราะเลือดที่ไหลลงมาจากศีรษะ
เด็กสาวมองเห็นถึงกลับยืนตัวแข็งไม่คิดว่าตัวเองจะสร้างเรื่องร้ายแรงได้ขนาดนี้ ก็แค่อยากส่งบอลเริ่ด ๆ ให้กับพวกเขาเท่านั้นแต่ดันทำให้คนอื่นหัวแตกได้ด้วยรองเท้านักเรียนเชี่ย!
“กูไม่เป็นไร” เขามองรองเท้านักเรียนสีดำที่วางอยู่บนพื้น ก่อนก้มลงไปหยิบแล้วเดินเข้ามาหาเด็กสาว “ให้ช่วยเก็บบอลไม่ได้บอกให้แถมรองเท้ามาด้วย” เขายกรองเท้าขึ้นโชว์ให้อีกฝ่ายดู
“ขอโทษค่ะ” เธอก้มหน้ารับความผิดพร้อมยกมือไหว้
“จะรับผิดชอบยังไง” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ยกยิ้มมุมปากไม่สนใจเลือดที่ไหลอาบลงมาที่ใบหน้า
“จะรับผิดชอบทุกอย่างเลยค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา “แต่ขอรองเท้าคืนได้ไหมคะ” ปรีดามองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน นี้คือ...เดือนโรงเรียนที่ชังขี้หน้า!
“อันนี้คือของกลาง ให้คืนไปแล้วเธอปัดความรับผิดชอบทำไง” เขาหันหลังกลับถือรองเท้าของปรีดาติดมือมา
“เดี๋ยว! เอารองเท้าของฉันคือมานะ!” เธอวิ่งกระต่ายขาเดียวตามหลังของเขามา
“ถือเป็นการลงโทษ พรุ่งนี้ค่อยมาเอาแล้วกัน ฉันต้องไปทำแผลก่อน” เขาโยนรองเท้าไปให้เพื่อนอีกคน ทุกคนในสนามจึงเลิกเล่นฟุตบอลเพียงเท่านั้น
“สิงห์ มึงเล่นแรงไปไหม ดูน้องมันสิยืนกระต่ายขาเดียวน่าสงสารคืนรองเท้าเขาไปเถอะ” กวินมองไปด้านหลังยังเห็นเด็กสาวยืนด้วยขาข้างเดียวเช่นเคย
“มึงห่วงหัวกูก่อนดีไหม” เขาเอามือกดไปที่บาดแผลตัวเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะซวยขนาดนี้ แค่รองเท้านักเรียนข้างเดียวถึงกลับทำให้ศีรษะแตกมีเลือดได้ช่างน่าหัวเราะ!
ด้านปรีดาที่มองตามกลุ่มนักเรียกชายด้วยสายตาไม่พอใจ จำใจเดินกระต่ายขาเดียวมาที่ม้านั่งข้างสนามฟุตบอล ไม่เคยคิดเคยฝันชีวิตนี้จะได้ยุ่งเกี่ยวกับเดือนโรงเรียน
สิงหราช เป็นผู้ชายที่โดดเด่นทางด้านการเรียนและกีฬาจึงเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในโรงเรียน ในฐานะที่เป็นรุ่นน้องม.1 ปรีดาไม่เคยคิดอยากเข้าใกล้เพราะมองเห็นผู้หญิงรอบตัวเขาแล้วช่างเป็นกำแพงหนาที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้
มองดูภายนอกสิงหราชช่างเป็นผู้ชายที่น่ารักอบอุ่น เป็นที่รักของทุกคนเป็นเด็กที่ครูมักเรียกหาบ่อยมากที่สุด ไม่ว่ากิจกรรมใดในโรงเรียนล้วนต้องมีเขาเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนั้น ๆ
ปรีดาที่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องต้องพบกับเขาในห้องสภานักเรียนทุกสัปดาห์ แต่ไม่เคยพูดคุยกันเพราะสิงหราชทำเพียงเข้าไปนั่งร่วมในฐานะรองประธานนักเรียนเพียงเท่านั้น