ตัวร้าย - 13 บีบบังคับ
ฉันค่อยๆ หันมองไปยังประตูห้องน้ำด้วยอาการสั่นกลัว ถึงแม้อีกฝ่ายจะยอมปล่อยแล้วแต่ก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี
ครั้งนี้เขาทำเกินไปแล้ว เกินกว่าที่ฉันจะรับได้ ต่อจากนี้เราสองคนอย่าได้เจอกันอีกเลย
ฉันค่อยๆ ประครองร่างกายที่สั่นเทาของตัวเองลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็มองไปยังประตูห้องน้ำแล้วกลั้นใจเดินออกมาจากห้อง มันค่อนข้างรู้สึกเจ็บนิดๆ ที่ตรงน้องสาวของตัวเองแต่ก็พอทนไหว
เมื่อลงมาถึงด้านล่างคอนโดก็เรียกแท็กซี่กลับมาที่หอพักของตัวเอง
ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นที่เกิดขึ้นมันติดตาของฉัน ไม่ว่าจะข่มตานอนยังไงก็ไม่สามารถหลับลงได้ สมองมันวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องบ้าๆ ที่ไม่น่าจดจำ
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองได้เสียความบริสุทธิ์ไปหรือยัง มันแค่เกือบแต่เขาก็ใช่นิ้วทำเรื่องบ้าๆ กับฉันไปแล้ว
“ไอ้คนเลว!!” ฉันสบถออกมาพร้อมกำมือแน่น พยายามคิดว่าต้องทำยังไงให้ตัวเองลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
ต่อจากนี้ฉันคงไม่กล้ากลับไปทำงานที่คลับอีกแล้ว ไม่อยากเจอหน้าคนใจร้าย
ฉันตัดสินใจส่งข้อความไปบอกดาบีว่าจะกลับบ้านสามวัน ฝากให้เธอลาอาจารย์ให้ด้วย และไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงได้กลับบ้านกะทันหันแบบนี้ ฉันแค่คิดอะไรไม่ออกและอยากจะกลับไปพักสมองอยู่ที่บ้าน
หลังจากนั้นฉันก็เก็บของใส่กระเป๋าแล้วเรียกรถให้มาส่งที่ บขส เพื่อจะกลับบ้านต่างจังหวัด ไม่รู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจถูกหรือเปล่าแต่รู้ตัวอีกทีฉันก็นั่งรถทัวร์มาถึงกลางทางแล้ว
หลายชั่วโมงผ่านไป
ในที่สุดฉันก็มาถึงที่บ้านซึ่งเป็นเวลาเกือบจะเช้าแล้ว พอมาถึงก็เห็นว่าไฟในบ้านเปิดอยู่ รู้ได้ทันทีว่าแม่ต้องตื่นแล้วแน่ๆ เพราะแม่ชอบตื่นแต่เช้าทุกวัน
“แม่” ฉันเรียกแม่ก่อนจะวิ่งไปสวมกอดแน่น กอดนี้มันช่างอบอุ่นทำให้ลืมเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นไปชั่วขณะ
“มีน มาได้ยังไงลูก”
“ก็นั่งรถมาสิคะ”
“ไม่ใช่แบบนั้น แม่หมายถึงไม่เรียนหรือไงถึงได้กลับมาที่บ้าน”
“ค่ะ หยุดสามวันหนูก็เลยกลับบ้าน” ฉันสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาเพราะไม่อยากให้แม่คิดมากไปด้วย
“มินยังไม่ตื่นหรอคะ”
“ยังหรอก คงใกล้จะไปโรงเรียนนู้นแหละถึงตื่นได้”
“เฮ้อ! อุตส่าห์บอกให้ช่วยงานบ้านแม่บ้าง นี่อย่าบอกนะคะว่าไม่ได้ช่วยเลย”
“อย่าไปว่าน้องเลยลูก ตอนนี้น้องกำลังยุ่งเรื่องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยคงยุ่งกับการอ่านหนังสือ”
“อ่านหนังสือแน่หรอคะ”
“มีน ไม่เอาไม่ว่าน้องสิ”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมส่ายหน้าไปมา มินคือน้องสาวของฉันเอง เรามีแม่คนเดียวกันแต่คนละพ่อ แต่ถึงอย่างนั้นหน้าตาเราสองคนก็คล้ายกันมากๆ แถมอายุก็ห่างกันแค่สองปี
เพราะพ่อเสียไปตั้งแต่ฉันยังเด็กแม่จึงหาที่พึ่งใหม่เพื่อให้ตัวเองและฉันอยู่รอด เรื่องนี้ฉันไม่ได้โกรธอะไรแม่เลย เพราะพ่อเลี้ยงของฉันก็ใจดีมากๆ แต่ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว
มินมีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก เธอเป็นคนดื้อ บอกไม่ฟัง ชอบทำให้แม่ปวดหัวอยู่เรื่อย เรื่องเรียนก็ไม่เอาไหน
“แม่ไปพักเถอะเดี๋ยววันนี้มีนทำกับข้าวให้กินเอง”
“นั่งรถมาเหนื่อยๆ ลูกไปพักดีกว่า”
“ไม่เอามีนอยากให้แม่พัก นะๆๆ”
“ลูกคนนี้ดื้อจริงๆ” แม่ส่ายหน้าไปมา แต่ก็ยอมให้ฉันเป็นคนทำกับข้าวให้กิน
ช่วงสายๆ หลังจากทำกับข้าวเสร็จ ยัยน้องสาวตัวดีก็เดินลงมาจากห้องด้วยชุดนักเรียน ม.ปลาย อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้วไม่รู้ว่าสอบติดมหาวิทยาลัยไหนบ้าง
“พี่มีน!!!” พอมินเห็นหน้าฉันเธอก็ทำหน้าตกใจเอามากๆ
“จะสายแล้วเพิ่งออกมาจากห้องได้หรือไง”
“กลับมาทำไมเนี่ย!! บ่นๆ หนวกหูชะมัดเลย” นี่แหละคือนิสัยของน้องสาวฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรกับคำพูดพวกนั้นหรอก
“กินข้าวก่อนสิ”
“ไม่เอา ไม่อยากกินกับข้าวฝีมือพี่มีน”
“มิน! ทำไมพูดกับพี่แบบนั้นล่ะลูก”
“ช่างเถอะแม่ ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน”
“มีน ใครโทรมาน่ะลูก” เสียงแม่บอกขณะที่ฉันกำลังตักอาหารใส่จาน
“รับให้หน่อยค่ะแม่” ฉันคิดว่าคงเป็นดาบีโทรมาก็เลยให้แม่รับให้ ก่อนจะชะงักรีบวางจานอาหารลงแล้ววิ่งมาแย่งโทรศัพท์มาจากแม่
“เสียงผู้ชาย นี่ลูกมีแฟนแล้วหรอเนี่ย” แม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างดีใจเพราะที่ผ่านมาฉันไม่เคยพูดเรื่องผู้ชายกับแม่เลย
“หนูเปล่ามีแฟนซะหน่อย”
ฉันรีบเดินแยกตัวออกมาจากแม่ แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเพื่อฟังเสียงปลายสาย
“นั่นใครหรอคะ” ขณะที่ถามในใจก็ภาวนาขอให้ไม่ใช่คนที่คิด
( คิดว่าใครล่ะ )
หัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเสียงที่พูดขึ้นมาผ่านปลายสาย คิดอยู่แล้วว่าอาจจะเป็นเขาแต่พอได้ยินเสียงมันก็ตกใจอยู่ดี
( ทำไมเธอไม่มาทำงาน ฮะ!!) เสียงตวาดถามทำให้ฉันรู้ว่าเขาโกรธแค่ไหน
ฉันหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วรวบรวมความกล้า ก่อนจะพูดออกไป “ฉันขอลาออกค่ะ”
( ลาออก ?) คุณต้าทวนคำถามของฉันจากนั้นเขาก็เงียบไป คิดว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อเขาพูดขึ้น
( ถ้าอยากจะออกก็มายื่นไปลาออกด้วยตัวเองสิแล้วฉันจะเซ็นอนุมัติให้ แต่ถ้าเธอไม่มายื่นด้วยตัวเองก็อย่าหวังว่าจะมีใครหน้าไหนกล้ารับเธอเข้าทำงาน )
คำขู่นั้นทำให้ฉันเป็นกังวล มันยากต่อการทำใจเพราะคิดว่าไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้วแต่สุดท้ายก็ถูกบีบบังคับอีกครั้ง