ตัวร้าย - 12 ยะ อย่าทำอะไรหนูเลย
ใบหน้าคมคายค่อยๆ โน้มลงมาใกล้ จู่ๆ หัวใจดวงน้อยมันก็เต้นรัวอย่างไม่มีเหตุผล และไม่สามารถสั่งให้มันหยุดเต้นได้
“ฉันยังไม่ได้หมั้นกับใคร”
คำตอบที่ได้ยินทำให้ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จะไม่มีได้ยังไงในเมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดให้ได้ยินเต็มสองหู
“แต่ผู้หญิงคนนั้น….”
“อย่าพูดถึงคนอื่น”
“……..” เพราะอีกฝ่ายโน้มมาใกล้เกินไปฉันจึงหยุดพูด
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น จึงรีบกดรับสายและใช้จังหวะหนีเดินหนีออกมาจากคุณต้าโดยไม่ได้สนใจว่าคนที่โทรมาคือใคร
“ฮัลโหลค่ะ”
( มีนอยู่ไหนครับ )
“พี่เจ…”
หมับ!! พอพูดชื่อพี่เจโทรศัพท์ในมือของฉันก็ถูกแย่งไป แถมคุณต้ายังกดวางสายอีกต่างหาก
“เอาโทรศัพท์หนูคืนมานะ”
“เลิกติดต่อกับมันซะ ไอ้ผู้ชายคนนั้น”
“จะติดต่อหรือไม่มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยนะ!!”
“ได้!! ฉันจะทำให้มันเกี่ยวเอง!!”
“จะทำอะไรคะ กรี๊ดดดด!”
ฉันหวีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ คุณต้าก็ลากฉันแล้วเหวี่ยงร่างลงบนเตียงอย่างแรง ทำเอารู้สึกจุกจนแทบขยับตัวไม่ไหว
หัวใจดวงน้อยมันเต้นสั่นเมื่อเห็นคุณต้ากำลังปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ด แววตาแดงก่ำคู่นั้นดูโกรธเกรี้ยว แต่ขณะเดียวกันก็แฝงความหิวกระหาย
“อยากรู้นักว่าถ้าโดนฉันกระแทกแรงๆ แล้วจะยังปากดีแบบนี้อยู่มั้ย”
พอได้ยินแบบนั้นหัวใจฉันมันก็กระตุกวูบอย่างรุนแรง ก่อนจะเต้นถี่ระรัว สัมผัสได้ถึงเม็ดเหงื่อที่ผุดซึมตามกรอบหน้า
“ยะ อย่าทำอะไรหนูเลยนะ อึก~” ฉันพนมมือที่สั่นเทาขึ้นมาไหว้ขอร้องร่างสูงตรงหน้า
ฉันกลัวเขามากจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ฉันแค่อยากทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน มันผิดอะไรขนาดนั้นหรอ
“กลัวหรอ ถ้ากลัวฉันก็ไม่น่าจะปากดีแบบนั้นแต่แรกสิ” เขาคลานขึ้นมาคร่อมตัวฉันพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเชยคางขึ้น จากนั้นก็แสยะยิ้ม
การที่ฉันกลัวและตกใจขนาดนี้มันดูทำให้เขามีความสุขเอามากๆ
“นะ หนูขอโทษ ปล่อยหนูไป…อื้อ!” เสียงฉันอู้อี้หายเข้าไปในลำคอเพราะถูกเขาจู่โจมบดขยี้ริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรง
ฉันพยายามดิ้นขัดขืน ใช้กำปั้นเล็กๆ ทุบตีไปที่แผงอกแกร่ง แต่ก็ถูกคุณต้าจับรวมไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว
ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบฉันถูกคนตัวโตกว่าควบคุมร่างกายอย่างไร้ทางต่อสู้
คุณต้าไม่เพียงแค่บดขยี้ริมฝีปากของฉัน แต่ยังกัดมันอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บและได้กลิ่นคาวของเลือดคลุ้งไปทั่ว
มือหนาเริ่มปัดป่ายไปทั่วร่างกายของฉัน ทั้งเรียวขาอ่อนด้านใน ต้นแขน ก่อนจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของฉันออกจนขาดวิ่น
“อื้อ!” เรี่ยวแรงของฉันใกล้จะหมดลงทุกที เขาไม่ได้สะทกสะท้านต่อการขัดขืนเลยสักนิด หนำซ้ำยังสอดลิ้นร้อนเข้ามาแลกน้ำลาย รุกไล่ลิ้นฉันจนยอมแพ้
สติของฉันมันพร่าเบลออย่างไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเหมือนร่างกายค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ภาพในหัวกลายเป็นสีขาวโพลน ทุกอย่างกำลังจะถูกรสจูบเ็ดร้อนกลืนกินไปจนหมด
คุณต้าถอนริมฝีปากออก แล้วก็ขยับตัวลงมาใช้ริมฝีปากงับเนินอกอวบ ก่อนจะกระชากบราเซียลงแล้วละเลงลิ้นเลียยอดปทุมถันสลับกันไปมา
“อ๊ะ ยะ อย่านะคะ อื้อ~”
ปากร้องท้วงแต่ร่างกายกลับตอบสนองด้วยการแอ่นอกรับสัมผัส มือนึงของเขากำลังบี้บดเม็ดไตอีกข้าง ส่วนอีกมือล้วงเข้ามาในแพนตี้แล้วคลึงปุ่มเกสรของฉัน
ในตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกถึงความเปียกแฉะที่ตรงจุดอ่อนไหวของตัวเอง ถึงจะไม่ยินดียังไง แต่ร่างกายก็ขับมันออกมาเป็นการตอบสนอง
นิ้วเรียวของคุณต้าค่อยๆ แตะมาที่ช่องทางคับแคบ กรีดกรายไปมาตามรอยแยกกลีบกุหลาบ ท้องน้อยของฉันปั่นป่วนและเกิดอาการเสียววาบ
“อื้ออ!! จะ เจ็บ อึก~ หนูเจ็บ เอาออกไปนะ!” ฉันดิ้นด้วยความทรมานเมื่อเขาสอดนิ้วเรียวเข้ามาแล้วขยับมันเข้าออก
หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ ฉันเจ็บจนเหมือนตรงนั้นจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พยายามใช้เท้าถีบคุณต้าแต่ก็ถูกรวบไว้ได้หมด
“แค่นิ้วยังเจ็บขนาดนี้ถ้าโดนของฉันจริงๆ เธอไม่ขาดใจตายเลยหรือไง” คำพูดนั้นไม่ได้แฝงความเห็นใจเลยสักนิด ตรงกันข้ามดูเขาจะสะใจซะด้วยซ้ำ
“อึก นะ หนูเจ็บ พอเถอะนะคะ” ฉันสะอึกสะอื้นจนตัวโยนแต่คุณต้าก็ไม่ยอมหยุด เขาดันตัวลุกอย่างรวดเร็วแล้วปลดกางเกงของตัวเองออก
หัวใจฉันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นความเป็นชายที่ใหญ่โตจนเกือบจะเท่าแขนตัวเอง ความกลัวถาโถมเข้ามาในใจ แค่นิ้วเล็กๆ ฉันยังเจ็บขนาดนี้
“ครั้งแรกมันเจ็บกันทุกคนแหละ แต่ครั้งต่อไปเธอจะเสียวจนลืมไม่ลง” มุมปากหนาแสยะยิ้มก่อนที่เขาจะจับแก่นกายมาจ่อที่ปากทางเข้า เอวหนาค่อยๆ พยายามดันมันเข้ามา แค่ปลายหัวเสียดสีฉันก็เจ็บจนระบมไปหมด
“หนูไหว้นะคะ อึก มะ มันเจ็บไม่ไหวแล้ว หนูเจ็บ ปล่อยหนูไปเถอะ ฮือ~” ฉันปล่อยโฮพร้อมกับพนมมือขึ้น ราวกับชีวิตนี้จะจบลงหากเขาสอดใส่มันเข้ามา
อาจจะดูเวอร์แต่มันก็ได้ผล คุณต้ายอมชะงักการกระทำของตัวเอง ส่วนฉันก็หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไรแล้วปล่อยให้หยดน้ำใสๆ ไหลรินออกมา
ทุกอย่างนิ่งวันไปครู่ใหญ่ ก่อนที่จะได้ยินเสียงพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ พร้อมกับการยวบยาบของเตียง หรี่ตาขึ้นมองก็เห็นคุณต้าเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
นี่ฉันรอดตัวไปได้อีกวันแล้วใช่มั้ย