EP.9 เก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้ (2)
NAM KHING’S PART
หลังจากที่ฉันพยายามติดต่อไอรีนอยู่นาน ในที่สุดยัยเพื่อนรักของฉันก็ยอมรับโทรศัพท์ของฉันสักที
ไอรีนบอกกับฉันว่าเธออยากอยู่คนเดียวสักพัก เพื่อทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ เงียบ ๆ
ฉันเองก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เธอจะได้ลองอยู่กับตัวเองดูสักพัก เผื่อไอรีนจะได้เข้าใจตัวเองได้มากขึ้นว่า ระหว่างตอนที่เธอมีวินด์เซอร์กับไม่มีวินด์เซอร์แบบไหนที่เธอมีความสุขมากกว่ากัน
เพราะสุดท้ายแล้วหน้าที่สำหรับเพื่อนอย่างฉัน คือการยืนอยู่เคียงข้างเพื่อนรักคนนี้ ไม่ว่าเธอจะเลือกหนทางไหนก็ตาม
และไม่ว่าเธอจะอกหักมากี่ครั้ง ฉันก็เต็มใจที่จะยืนอยู่ตรงนี้เสมอ
แต่ในเมื่อตอนนี้ยัยไอรีนต้องการอยู่คนเดียวสักพัก ฉันก็ขอรีบไปเคลียร์ปัญหาชีวิตของตัวเองก่อนเลยแล้วกัน
เพราะปัญหาแต่ละเรื่องที่ฉันเจอมันหนักหน่วง และสาหัสไม่น้อยเลยจริง ๆ
@ผับ XSO
หลังจากที่ฉันมายืนดักรออยู่ที่หน้าลานจอดรถประจำตัวของเจ้าของผับ XSO ในที่สุดฉันก็ได้เจอกับเขาจนได้
"คุณวายซีคะ" ฉันรีบพุ่งตัวเข้าไปขวางทางเขาเอาไว้ทันที
"เธอเป็นใคร?" เขาเหล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอีกครั้ง
"ถ้ามาสมัครงานเข้าไปสมัครกับฝ่ายบุคคลด้านใน ไม่ใช่ฉัน" เขาพูดพร้อมกับชี้ไปทางเข้าด้านหลังของผับหรู
"ดิฉันไม่ได้มาสมัครงานค่ะ แต่จะมาขอร้องเรื่องเจ๊ดาว" หลังจากที่ฉันอธิบายไป ทางคุณวายซีก็ขมวดคิ้วอย่างงุนงงเล็กน้อย
"พนักงานที่คุณไล่ออกไปเมื่อเช้า" ฉันเดินตามคุณวายซีเจ้าของผับ XSO พร้อมกับยกมือไหว้ขอร้องเขาทันที จนทำให้เขายอมหยุดเดินและหันมาคุยกับฉันในที่สุด
"อ๋อ" เขาพยักหน้ารับนิ่ง ๆ
"คือ ดิฉันทำให้ (ไอ้) ...คุณฟาเรนเขาไม่พอใจเพียงคนเดียว"
"คุณก็ควรไล่ดิฉันออกคนเดียวพอ"
"อย่าไล่พนักงานดี ๆ อย่างเจ๊ดาวออกเลยนะคะ" ฉันพยายามพูดให้เขาไม่ไล่เจ๊ดาวออก เพราะเรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่น้อย
"จริง ๆ ฉันก็เสียดายพนักงานดี ๆ เหมือนกันนะ" เขาถอนหายใจพร้อมกับเหลือบมองฉันด้วยแววตาตำหนิเล็กน้อย
"ถ้าเป็นคนอื่น ฉันก็กล้าขัดใจอยู่หรอก"
"แต่นี่เป็นคุณฟาเรน"
"ใคร ๆ ก็รู้ว่าคนอย่างเขา ธรรมดาซะที่ไหน ถ้าเขาไม่พอใจเผลอ ๆ ไล่ที่ ผับของฉันก็เจ๊งกันพอดี" คุณวายซีพูดออกมาด้วยท่าทีลำบากใจเล็กน้อย
"แต่ว่าเจ๊ดาวเธอลำบากมากจริง ๆ นะคะ และยังต้องมาตกงานในช่วงเวลาแบบนี้อีก" ฉันพยายามพูดเผื่อหวังว่าคุณวายซีจะเมตตาเธอบ้าง
"ไหนๆ เธอก็มาขอร้องเพื่อพนักงานคนนั้นแล้ว" เขาเอื้อมมือมาแตะที่ไหล่ของฉันเบา ๆ
"เอาอย่างงี้แล้วกันนะ ฉันจะฝากงานให้กับพนักงานคนนั้นเอง"
"ตำแหน่งเดิม เงินเดือนเท่าเดิม แค่เปลี่ยนไปทำงานอีกผับหนึ่ง" คุณวายซีมองหน้าฉันและเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
"จริง ๆ นะคะ" ฉันยังคงยกมือไหว้เขาอย่างวิงวอนอยู่สักพักใหญ่ ๆ
"อืมจริง" คุณวายซีพยักหน้ารับทันที
"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ " ฉันยกมือไหว้เขาท่วมหัวอย่างรู้สึกโล่งอก
อย่างน้อย ๆ เจ๊ดาวก็จะไม่ต้องตกงาน ไม่งั้นเรื่องนี้คงกลายเป็นตราบาปติดอยู่ในใจของฉันไปตลอดแน่ ๆ
"เธอนี่ก็ดีนะ"
"รู้ว่าทำผิดก็ยังพยายามหาทางแก้ไขและแสดงความรับผิดชอบ" เขาตบไหล่ของฉันเบา ๆ
ฉันทำได้เพียงแค่กัดฟันแน่น เพราะฉันรู้ว่ามันคงน่าละอายเกินไปถ้าจะเอ่ยปากของานเพิ่มให้ตัวเองด้วยอีกคน เพราะว่าตอนนี้ฉันเองก็เดือดร้อนเช่นกัน
"เธอหมดธุระกับฉันแล้วใช่ไหม?" เขาเลิกคิ้วถามขึ้นอีกครั้ง
"แฟนฉันรออยู่ตรงทางเข้านานแล้ว" เขาชี้ตรงไปที่ผู้ชายอีกคนที่ยืนใส่เสื้อสีม่วงแบบเดียวกับคุณวายซีเป๊ะ ๆ ซึ่งเขาก็กำลังมองตรงมาทางเราสองคนอยู่
"เอ่อ หมดแล้วค่ะ ๆ" ฉันพยักหน้ารับอย่างเกรงใจเขาขึ้นมาทันที
"ยังไงก็ขอให้เธอโชคดีในงานใหม่ครั้งหน้าแล้วกันนะ จะทำงานอะไรก็ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อน จะได้ไม่พลาดเหมือนคืนก่อน!"
คุณวายซีพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะรีบเดินไปหาแฟนหนุ่มของเขา ซึ่งดูจากท่าทางแล้วคุณวายซีน่าจะเป็นเกย์คิง ส่วนคนที่ยืนรออยู่น่าจะเป็นเกย์ควีน
@หอพักนักศึกษา (นอกมหาลัย)
ห้อง 269
ฉันนั่งมองเงินเก็บของตัวเองอย่างน้ำตาตกใน
"งานร้านไอศกรีมก็ต้องลาหยุดไปทั้งวันเลยเพราะต้องไปดักรอคุณวายซีเรื่องของเจ๊ดาว"
"รายได้วันนี้ก็หายไปวันหนึ่งแล้ว" ฉันขีดฆ่าปฏิทินรายเดือนของตัวเองไปอีกวันหนึ่ง
"งานเสริมเพิ่งได้มาหมาด ๆ ยังไม่ทันได้รับเงินก็โดนไล่ออกเพราะไอ้คนสารเลวนั่น" ฉันก้มหน้ากุมขมับตัวเองอย่างคิดไม่ตกเลยจริง ๆ ว่าควรจะเอายังไงต่อดี
ครืดดด ครืดดด ~ ~
(เสียงโทรศัพท์สั่น)
-พ่อ-
ฉันมองหน้าจอโทรศัพท์ทั้งน้ำตาคลอเบ้า และเลือกที่จะไม่รับสายโทรศัพท์ของพ่อ
ปล่อยให้โทรศัพท์ยังคงสั่นอยู่แบบนั้นสามถึงสี่ครั้งพ่อก็หยุดโทรไปเองในที่สุด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องในหอพักของฉันดังขึ้น ฉันก็รีบปาดน้ำตาทันทีและวิ่งไปเปิดประตูห้อง เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเพื่อน ๆ ในคณะมาชวนไปติวหนังสือ หรือไม่ก็ไอรีนมาตามให้ไปนอนเป็นเพื่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"มาแล้ว ๆ" ฉันตอบไปพร้อมกับวิ่งมาเปิดประตูห้องทันทีอย่างไม่ได้คิดอะไร
...แอ๊ด…
ทันทีที่ประตูหอพักค่อย ๆ เปิดออกช้า ๆ
แขกที่ยังไม่ทันได้รับเชิญก็เดินก้าวเข้ามาในห้องของฉันทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
"นาย?" ฉันก้าวถอยหลังอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าคนที่มายืนเคาะประตูห้องจะเป็นผู้ชายที่อันตรายมากที่สุดอย่างฟาเรนไฮต์
"มาทำไม?" ฉันพยายามจะผลักคนตัวสูงออกไปจากห้อง
ปัง!
ฟาเรนใช้เท้ายันประตูปิดเสียงดังสนั่นอย่างไม่มีความเกรงใจ
"ออกไปจากห้องฉันนะ!"
"ไม่งั้นจะร้องให้คนช่วย และจะร้องให้ลั่นไปทั้งตึก" ฉันพยายามทำใจดีสู้เสือและพยายามไม่แสดงท่าทีว่ากลัวคนตรงหน้า
"ทำไม?" ใบหน้าหล่อดิบเถื่อนค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ฉันทีละก้าว ทีละก้าว
ฉันก็ทำได้แค่ถอยหลังไปทีละก้าว ทีละก้าวเช่นกัน
"พออยู่ในห้องกับฉันสองต่อสอง"
ปั่ก! ฉันก้าวถอยหลังจนแนบชิดติดกำแพงห้องอย่างไม่อาจจะเลี่ยงไปทางอื่นได้เลย
"ไม่เห็นปากเก่งเหมือนตอนอยู่ข้างนอกเลยนะ" เขาพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ใส่ใบหน้าของฉัน
"ช่วยดะ (จุ๊บส์!!)"